เดินป่าหน้าฝนประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว ที่ราบสูงโบโลเวน | ทริป 4 วัน 3 คืน

การเดินทาง : สปป.ลาว | เมืองปากซอง | บ้านหนองหลวง | ตาดตาเก็ต | ตาดขมึด - ตาดเสือ | ด่านใหญ่


📆 ช่วงเวลาเดินทาง : 28-31 ก.ค. 2565

วันเดินทาง >> กรุงเทพฯ – จ.อุบลราชธานี : 27 กรกฎาคม 2565

วันที่หนึ่ง >> บ้านหนองหลวง - ห้วยตวย : 28 กรกฎาคม 2565

วันที่สอง >> ห้วยตวย – ตาดตาเก็ต : 29 กรกฎาคม 2565

วันที่สาม >> ห้วยตวย – ตาดขมึด – ตาดเสือ - ด่านใหญ่ : 30 กรกฎาคม 2565

วันที่สี่ >> ด่านใหญ่ - บ้านหนองหลวง : 31 กรกฎาคม 2565

ปล. การออกทริปครั้งนี้เป็นการเที่ยวแบบจอยทริปนะคะ ไม่ได้จัดไปกันเองซึ่งในกรุ๊ปมีเพื่อนร่วมทริปท่านอื่นๆ และสตาร์ฟคอยดูแล

สิ่งที่ต้องเตรียมไปเที่ยวด่านใหญ่ ตาดขมึด ตาดเสือ ตาดตาเก็ต
* (เสื้อผ้าชุดใส่กลับกรุงเทพฯ นำฝากไว้โฮมสเตย์)

- พาสปอร์ต (เหลือระยะเวลาเกิน 6 เดือน)
- ชุดเดินป่า เสื้อแขนยาว/แขนสั้น กางเกงขายาว/ขาสั้น เสื้อคลุม เน้นเบาสบายแห้งง่าย (ไม่เน้นเอาไปเยอะหนักใส่ซ้ำเอา กางเกงยีนส์ไม่ควร)
- รองเท้าเดินป่า (จะเป็นแบบแตะรัดส้นหรือผ้าใบก็ได้ แต่ดอกยางหนาและลึกๆ สำหรับกันลื่น)
- รองเท้าสวมสบาย (ใส่เดินรอบๆ แค้มป์)
- เต้นท์หรือเปลพร้อมฟลายชีทและถุงนอน (พวกเราแบกกันเอง)
- จาน ช้อน แก้วน้ำ ส่วนตัว
- หมวก, ถุงมือกันหนาว, เสื้อกันหนาว, เสื้อคลุม, เสื้อกันฝน
- ถุงกันทาก (มีช่วงแรกเจออยู่)
- ไฟฉาย (จำเป็นมาก เพราะข้างบนไม่มีไฟฟ้า)
- ของใช้ส่วนตัว เสื้อผ้า ชุดลำลอง
- ยาประจำตัว พลาสเตอร์ยา
- กล้องถ่ายรูป/แบตสำรอง/เมนโมรีการ์ด
- เพาเวอร์แบงค์
- ขนมคบเคี้ยว ของกินเล่น


สิ่งที่ควรรู้ก่อนไป

- ควรระวังหินลื่นและสายน้ำที่ค่อนข้างเชี่ยวช่วงฤดูฝน
- ควรตรวจเช็คสภาพเต้นท์และเปลว่ากันฝนกันน้ำได้ (ฝนตกหนักทำน้ำท่วมเต็นท์มากันแล้ว)
- ควรเตรียมชุดกันฝนไปด้วย อากาศเย็นๆ ไม่ถึงขั้นหนาว (เตรียมชุดกันหนาวไปเพื่อถ้าใครขี้หนาว)
- ควรออกกำลังกายก่อนออกเดินทาง
- แต่ละจุดพักแค้มป์ไม่มีห้องน้ำ แต่มีลำธารให้สามารถอาบน้ำได้
- ควรรักษาความสะอาดให้กับป่าไว้เหมือนเดิม ไม่ควรทิ้งขยะส่วนตัวใดๆ ไว้ที่ป่า
- ด่านช่องเม็กปิด 20.00 น. บริหารเวลาในการเดินทางกลับให้ทัน

ลักษณะทริปเดินป่า >> ตาดตาเก็ต - ตาดขมึด - ตาดเสือ- ด่านใหญ่

เป็นการเดินเท้าเข้าป่าของ สปป. ลาว เพื่อไปสัมผัสความสวยงามอลังการของน้ำตกยักษ์บนผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ของประเทศเพื่อนบ้านเรานั้นเอง โดยจุดเริ่มต้นเส้นทางการเดินเท้าของแต่ละวันของแต่ละกรุ๊ปอาจไม่เหมือนกัน ซึ่งแต่ละทริปสามารถวางแผนเส้นทางการเดินเท้าได้ว่าจะไปที่ไหนกันบ้าง สำหรับใครที่ออกทริป 4 วัน เส้นทางถือว่าโหดใช้ได้เลยเพราะต้องเดินเท้าทุกวัน แต่สำหรับทริป 3 วัน แล้วแต่เส้นทางที่เลือกเดินและสถานที่ที่เลือกไป

เป็นการวัดเส้นทางด้วยนาฬิกาจาก ห้วยตวน ไป ตาดขมึด-ตาดเสือ

ที่ราบสูงโบลาเวน สปป.ลาว | Bolaven Plateau, Laos

เป็นพื้นที่ราบสูงทางตอนใต้ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในแขวงจำปาศักดิ์ ซึ่งสุดเขตประเทศไทย ด่านช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี ความสูงของที่ราบสูงโบลาเวนอยู่ในช่วงประมาณ 1,000–1,350 เมตร (3,280–4,430 ฟุต) เหนือระดับน้ำทะเล ที่ราบสูงนี้เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำหลายสายและมีน้ำตกที่สวยงามหลายแห่ง และเป็นที่รู้จักกันดีของคนไทยนั้นก็คือ ตาดตาเก็ต ตาดขมึด ตาดเสือ ตาดฟาน เป็นต้น และชื่อที่ราบสูงโบลาเวน ได้มีการอ้างอิงมาจากชื่อกลุ่มชาติพันธุ์ Laven ซึ่งท่านวิกิได้กล่าวไว้

ณ บริเวณนี้คือ "ด่านใหญ่" วัดเส้นทางจาก ตาดขมึด-ตาดเสือ ไป ด่านใหญ่



วันที่หนึ่ง >> บ้านหนองหลวง - ห้วยตวย : 28 กรกฎาคม 2565

-----------------------------------------------

เช้าๆ ที่ด่านช่องเม็ก กับการเริ่มออกเดินทางผ่าน "ด่านไทย-ลาว" ตามขั้นตอนการเข้าเมือง ซึ่งการผ่านแดนเข้าไปเที่ยวลาว ใช้หนังสือเดินทาง (Passport) (แต่ต้องเหลือระยะเวลาอายุพาสปอร์ตเกิน 6 เดือน ขึ้นไป) หรือ บัตรผ่านแดน (Border Pass) กลุ่มพวกเรามีประมาณ 30 คน มีเรื่องให้ตื่นเต้นตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มเดินทาง คือสมาชิกในกลุ่ม 1 คน เหลืออายุพาสปอร์ต ประมาณ 5 เดือน อีก 20 กว่าวัน พี่ลาวก็ไม่ให้เข้าประเทศนะ งานเข้ากันเลยทีเดียว ถ้าจะถามว่าเข้าประเทศได้ไหมเข้าได้นะ แต่ต้องเสียเวลาหน่อยไปเดินกลับไปทำเรื่องขอ บัตรผ่านแดนชั่วคราว (Temporary Border Pass) ตอนไปขอทำเรื่องถ้าคนเยอะคือรอคิวนานหน่อย แต่ถ้าคนไม่เยอะก็โชคดีไป พอดีไปช่วงเทศกาลคนค่อนข้างเยอะ และที่สำคัญบัตรผ่านแดนชั่วคราวสามารถอยู่ในลาวได้ครั้งละ 3 วัน 2 คืนเท่านั้น พวกเราไปกัน 4 วัน วันกลับก็โดนปรับไป 500 บาทจ๊ะ พี่ลาวเขาก็จะถามละว่าทำไมถึงกลับไม่ตรงเวลา ก็ตอบไปแบบสวยๆ เที่ยวลาวอยู่จร้า

ต่อแถวจ่ายค่าธรรมเนียมเข้าประเทศคนละ 100 บาท (ไปกลับรวม 200 บาท)


เดินข้ามแดนลาวไปยังท่ารถสองแถว ทุกคนรอเราอยู่!

พวกเราเหมา "รถสองแถว" นั่งไปที่ "บ้านหนองหลวง เมืองปากซอง" ถึงหมู่บ้านประมาณบ่าย 2 โมง ออกมาเลทเพราะติดปัญหาตรงด้านตรวจคนเข้าเมืองนานไปหน่อย จนเวลาผ่านไปถึงเที่ยงเราก็ยังนั่งกันอยู่บนรถ เลยนั่งกินข้าวกลางวันกันบนรถให้เสร็จๆ ไปเลยจร้า เป็นการลดปริมาณน้ำหนักเป้ไปในตัว

รถสองแถวที่เราเหมาในการเดินทางไปหมู่บ้าน

ผู้ชายคนนี้ "หัวหน้าแก๊งสายหวาน" #ใบสน2ใบ

ณ หมู่บ้านหนองหลวง แต่ละกรุ๊ปผู้จัดทริปจะติดต่อกับทางโฮมสเตย์ของหมู่บ้านไว้ให้เรียบร้อยแล้ว กรุ๊ปใครกรุ๊ปมันแล้วแต่ว่าติดต่อไว้กับโฮมสเตย์ไหน ถึงโฮมสเตย์ก็เตรียมสัมภาระจัดแจงทุกสิ่งอย่าง... ที่นี่มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำหลายห้อง สามารถเปลี่ยนเสื้อและวันกลับกลับมาอาบน้ำกันที่โฮมสเตย์ได้ ส่วนเสื้อผ้าที่ไว้ใส่วันกลับสามารถฝากไว้กับทางโฮมสเตย์ได้เช่น พวกเราเตรียมตัวกันเสร็จประมาณบ่าย 2 ครึ่งได้ 

ขาพร้อมเดินม๊ากกกก!

ระยะทางการเดินเท้า : วันแรกเดินเท้าประมาณไม่เกิน 4 กิโล เดินเท้าลงเขาอย่างเดียวไม่เหนื่อย ไม่โหดมาก สบายๆ แต่ไม่ถึงกับชิล...

พวกเราออกเดินเท้ามุ่งหน้าเข้าป่ากัน เป้าหมายคือมุ่งหน้าไปที่แค้มป์ริม "ห้วยตวย"  ซึ่งเส้นทางที่ใช้เดินเท้าช่วงแรกเป็นทางถนนของหมู่ เดินเท้าออกจากหมู่บ้านไปถึงปากทางเข้าป่าน่าจะประมาณเกือบ 2 กิโลได้ บรรยากาศครึมๆ เย็นสบาย หมอกมาๆ ไปๆ ทำให้การเดินช่วงแรกชิลๆ

จุดนี้ต้องถ่ายเส้นทางผ่านก่อนถึงเส้นแยกเข้าป่า

รถขนสัมภาระของสต๊าฟกรุ๊ปพวกเรา

ความสวยงามระหว่างเส้นทางเดินป่า

ก่อนถึงแค้มป์ ทริปนี้เดินเท้าวันแรกก็ตัวเปียกเลยจ๊ะ ถึงไม่อยากเปียกก็ต้องเปียกเพราะต้องเดินลุยลำธารข้ามห้วยไปยังจุดตั้งแค้มป์ เราถึงแค้มป์ประมาณ 4 โมงกว่า เพื่อนๆ ในกลุ่มบางคนก็ถึงเกือบทุ่ม แล้วแต่กำลังขาของแต่ละคน ซึ่งพวกเราจะพักกันที่ห้วยตวย 2 คืน

ณ จุดพักแค้มป์ "ห้วยตวย" มีหลายจุดที่สามารถตั้งแค้มป์ได้ วันที่ไปมีไปพร้อมกัน 3 กรุ๊ป ซึ่งกรุ๊ปใครไปถึงเร็วได้เลือกจุดตั้งแค้มป์ก่อน  กรุ๊ปเราตั้งแค้มป์ไกลสุดจากริมลำธาร แต่ร่นระยะมาหน่อยในเส้นที่จะได้ไปยัง "ตาดตาเก็ต" แต่แถวแค้มป์ก็มีลำธารเล็กๆ พอให้ล้างหน้าแปรงฟัน ล้างจานล้างแก้วได้

บรรยากาศของวันแรกแค้มป์ริม "ห้วยตวย"


วันที่สอง >> ห้วยตวย – ตาดตาเก็ต : 29 กรกฎาคม 2565

-----------------------------------------------

บรรยากาศของวันที่สอง เช้าๆ กับบรรยากาศฝนตกปอยๆ ตลอดทั้งคืน ป่าลาวกับป่าไทยจริงๆ ไม่ต่างกันเลย ใช้ชีวิตที่นี่ 2 คืน ความรู้สึกก็เหมือนอยู่ในบ้านเรา ความสมบูรณ์ของป่า สภาพอากาศ บรรยากาศ ทุกอย่างเหมือนกันหมด แถมสตาร์ฟลาวทุกคนพูดไทยได้ทำให้เหมือนเดินป่าในบ้านเรา

บรรยากาศยามเช้าในป่าใหญ่ซึ่งหาไม่ได้ในเมือง

เช้านี้ต้องข้าม "ห้วยตวย" ขึ้นไปที่ตัวน้ำตก "ตาดตาเก็ต" เพื่อไปชมความยิ่งใหญ่อลังการของตาดยักษ์แห่งดงหัวสาว เป็นวันที่เดินตัวเปล่าไม่ต้องแบกเป้ แบกแค่สัมภาระส่วนตัวของตัวเองเท่านั้นเช่นพวก น้ำ ขนม ถ้วย ช้อน และอื่น ๆ เพราะพวกเราต้องกินข้าวกลางวันกันที่นั้น

ระยะทางการเดินเท้า : วันที่สองเดินเท้าประมาณ 3 กิโล เดินเท้าไปน้ำตกขึ้นเขาอย่างเดียวแต่เดินตัวเปล่านะจ๊ะ รวมไปกลับ 6 กิโลเองจ๊ะ สบายๆ ชิลๆ

ป๊ะ! ไปข้ามน้ำกัน ช่วงแรกของการเดินเท้าไปตาดตาเก็ต ระยะทางน่าจะถึง 1 กิโลได้ ต้องข้ามลำธาร ก่อนที่จะมุ่งหน้าเดินขึ้นเขาอย่างเดียวเลย

ความสวยงามระหว่างเดินเท้า

ระหว่างเดินเท้าได้ลองถามพี่ๆ สตาร์ฟ คำว่า “ตาด” หมายถึงอะไร ซึ่งหมายถึง “น้ำตก” นั้นเอง "ตาดตาเก็ต" ความสวยงามอลังการจริงๆ เห็นครั้งแรกคือ ว้าวม๊าก! 

บังเอิญโลกมันกลมเจอน้องที่เคยร่วมทริป #เจอกันแต่ทริปตปท.

พวกเรามีเวลาได้พักผ่อนอยู่กับน้ำตกหลายชั่วโมงเลย กินข้าวกลางวันที่นี่ก่อนจะแยกย้ายไปอยู่มุมใครมุมมัน แต่มื้อกลางฟินนะคะ ส้มตำหมูทอด! กรุ๊ปเราพกมือสับ มือตำมาด้วย

ได้เวลามุมใครมุมมัน ในวันนั้นเป็นวันที่น้ำตกแตก ประชากรในวันนั้นค้อนข้างหนาแน่น 555++ ครึกครื้นดีไม่เงียบเหงา แต่กรุ๊ปพวกเราเป็นพวกมาหลังกลับท้าย.... 

น่าจะประมาณบ่าย 3 โมง ที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับน้ำตก ก่อนออกเดินเท้ากลับเพื่อมาเล่นน้ำตกที่ “ตาดหินแรง” อยู่ไม่ไกลที่พักแค้มป์เท่าไร เป็นน้ำตกที่พวกเราเดินข้ามตอนขามา แต่ถ้าถามว่าจะเดินกลับมาอาบน้ำอีกไหมคงไม่มาแน่นอน เส้นทางอาจไม่โหดแต่เล่นเอาเหนื่อยเลยนะถึงจะไม่ชันเท่าไรแต่ก็เดินขึ้นๆ ลงๆ น่าจะประมาณเกือบ 1 กิโลได้ อาบน้ำในห้วยเล็กๆ ข้างแค้มป์ก็พอละ

หัวหน้าแก๊งสายหวาน "พี่ปอง"

รองหัวหน้าแก๊งสายหวาน "พี่ต้าร์"

ทริปนี้เล่นน้ำคุ้มค่า เสื้อผ้าไม่ต้องพกไปเยอะ ใส่ชุดซ้ำๆ วนไป 3 วันติด #คนรักสะอาด



วันที่สาม >> ห้วยตวย – ตาดขมึด – ตาดเสือ - ด่านใหญ่ : 30 กรกฎาคม 2565

-----------------------------------------------

เช้าวันที่ 3  กับอากาศเย็นๆ เพราะฝนตกตลอดเวย์ เปียกกันทุกวัน ทุกคืน วันนี้พวกเราต้องย้ายถิ่นเก็บเต็ทน์เก็บสัมภาระทั้งหมด เพื่อออกเดินเท้าจาก “ห้วยตวย” ไป "ด่านใหญ่" ออกเดินเท้าประมาณ 9 โมง ไปถึง ตาดขมึด-ตาดเสือ ก็ประมาณเกือบ 11 โมงได้ 

ระยะทางการเดินเท้า : วันที่สามเดินเท้าประมาณ 5 กิโล จากแค้มป์ห้วยตวยไปตาดขมึดและตาดเสือ เส้นทางเดินไม่โหดมากและก็ไม่ถึงขั้นเดินสบาย แต่จากตาดขมึดและตาดเสือ เดินขึ้นด่านใหญ่ ประมาณ 3 กิโล เดินขึ้นเขาอย่างเดียว อย่างโหดละจ๊ะ บันเทิงม๊ากก!

วางเป้กินข้าวแพร็บ!

ป่ะ! ตามไปชมความอลังการของน้ำตก “ตาดขมึด” และ “ตาดเสือ” กันจ๊ะ ที่นี่พลาดไม่ได้นะต้องถ่ายรูปเก็บบรรยากาศความสวยของน้ำตกยักษ์ให้หนำใจ ถึงฝนจะตกหนักขนาดไหนก็ไม่หวั่น กว่าจะเดินเท้ามาถึงก็เกือบครึ่งทางได้ อย่างเหนื่อยเลยนะ 


น้ำตกอลังการจริงๆ ถึงฝนที่ตกอยู่ตลอดเวลา หมอกไปๆ มาๆ ความสวยของน้ำตกก็ยังเด่นเป็นสง่าเหมือนเดิม ได้ฟิลลิ่งบรรยากาศไปอีกแบบหนึ่ง

บังเอิญโลกกลมอีกครั้ง เดินสวนทางกันตลอด

หลังจากพบเจอกับความสวยงามอลังการของน้ำตกกันแล้ว ก็ถึงเวลาต้องออกเดินเท้ากันต่อเพื่อไปเจอกับความลำบาก ความโหดที่รออยู่ก่อนจะไปถึง "ด่านใหญ่" (ทุ่งเปาะภู) เส้นทางที่เดินผ่านมาก่อนหน้าว่าโหดแล้ว เส้นทางที่ต้องเดินเท้าต่อไปโหดยิ่งกว่า ลุย!!

ถึงแว้วว! ด่านใหญ่ บ่าย 2 โมงพอดี กับบรรยากาศลานทุ่งกว้างๆ โล่งๆ ที่สามารถหมุนตัวได้ 360 องศา แต่ดอกเปราะภู ไม่ค่อยมีให้เห็นเยอะเท่าไรแล้ว

ปล. หากออกทริปช่วงเดือนกรกฎาคม "ทุ่งดอกเปราะภู" ไม่เยอะเท่าช่วงเดือนมิถุนายน แต่ปริมาณน้ำตกคือจัดเต็มน้ำตกอย่างฟูสวยงามอลังการมากๆ และที่นี่ "หม้อข้าวหม้อแกงลิง" อย่างเยอะ

คืนนี้เราจะพักตั้งแค้มป์ค้างคืนกันที่นี่ท่ามกลางดงเปราะภูและป่าสน ลักษณะเป็นพื้นที่โล่งๆ บรรยากาศปลอดโปร่งดี ส่วนเรื่องของอากาศนั้นด้วยที่ว่าเป็นช่วงหน้าฝน สภาพอากาศคาดเดายากท้องฟ้าเปิดๆ ปิดๆ ตลอดเวลา ส่วนตอนกลางดึกน้ำค้างจะแรงมาก ด้วยที่ว่าเป็นพื้นที่โล่งไม่มีต้นไม้ใหญ่ๆ ให้เป็นร่มกันน้ำค้าง น้ำฝนได้เลย เตรียมกราวชีทมาคลุมเต็นท์ไว้ด้วยก็จะดีมาก แต่พอดีไม่ได้พกไป 555++

ปล. ที่นี่มีลำธารเล็กๆ ไม่ไกลที่พักให้ได้อาบน้ำกันนะจ๊ะ 

บรรยากาศดีแบบนี้ต้องจัด!

ฟ้าเปิดๆ แล้วว ประมาณเกือบจะ 4 โมงได้ ป่ะ! จะพาไปชมบรรยากาศ ความสวยงามรอบๆ ทุ่งกัน ไปไม่ทั่วหลอกนะ เน้นแค่จุดชมวิว... ที่นี่ "หม้อข้าวหม้อแกงลิง" อย่างเยอะ พอตก 6 โมงเย็นหมอกลง ฝนปรอยๆ

"หม้อข้าวหม้อแกงลิง"

"ดอกเปราะภู" ณ ด่านใหญ่

จุดนี้จะสามารถมองเห็นตาด... ในมุมสูง (จำชื่อตาดไม่ได้)

เพื่อนร่วมทางที่ไม่รู้จักแต่มีมิตรภาพที่ดีต่อกันได้

ความสวยของของธรรมชาติมันดีต่อใจจริงๆ


ปิดวันกับบรรยากาศชิลๆ ยามเย็น


วันที่สี่ >> ด่านใหญ่ - บ้านหนองหลวง : 31 กรกฎาคม 2565

-----------------------------------------------

สวัสดีเช้าวันที่สี่ วันที่ตื่นมาช่วงเช้ามืดที่ตลอดทั้งคืนน้ำค้างตกหนักมาก และมาพร้อมกับหมอกที่ลงหนักเต็มอยู่ทั่วพื้นที่ 

ฟ้าช่วงเช้ายังไม่ทันเปิดความบันเทิงก็ตามมาต่อเลยจ๊ะ ฝนตกหนักยังกะห่าลง! ทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากนั่งหลบฝนอยู่ในเต็นท์อยู่หลายชั่วโมง ไม่เหลือจ๊ะเต็นท์ ตกหนักจนน้ำท่วมเต็นท์ 555++ ถามว่าทำอะไรได้มั้ย? ทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากนั่งแช่น้ำกันอยู่ในเต็นท์ต่อไปจนกว่าฝนจะหยุดตก...

กรุ๊ปอื่นๆ ทยอยเดินกลับกันแล้ว

วันนั้นฝนตกตลอด เดี๋ยวหยุด เดี๋ยวตก ต้องหาจังหวะฝนหยุดแล้วรีบเก็บแค้มป์กัน เก็บเสร็จรีบกินข้าวรีบออกเดินเท้ากันประมาณ 8 โมงครึ่งได้ เดินลุยฝนกลับไปยังหมู่บ้าน "บ้านหนองหลวง" 

ระยะทางการเดินเท้า : วันที่สี่เดินเท้าประมาณ 4-5 กิโล เส้นทางเดินสบาย สบายมากจริงๆ

โดนเตือน! ชอบบรรยากาศการเดินป่าที่ฝนตก เย็นสบาย!

เส้นทางวันกลับบ้านหนองหลวงเป็นอีกเส้นทางหนึ่ง และมีจุดที่ต้องข้ามลำธารหรือจะไต่เชือกสลิงข้ามลำธารก็ได้เช่นกัน หลังจากผ่านจุดนั้นไปคือเดินสบายๆ แต่หลายกิโลอยู่...

ปิดจ๊อปการเดินเท้าด้วยการใช้บริการรับส่ง คนละ 20 บาท

พวกเราอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและหาอะไรกินกันที่โฮมสเตย์ ซึ่งที่นั้นมีร้านค้าขายน้ำ ขายเบียร์ ขนมขบเคี้ยว แต่ราคาขนมบางอย่างนำเข้ามาจากบ้านเราแต่ราคาจะแพงขึ้นมาหน่อย และที่สำคัญมีก๋วยเตี๋ยวขายด้วย ก็นั่งกินชิลๆ รอเพื่อนร่วมทริป 

เบียร์ลาวรสชาติถูกปาก!

แก๊งซ์บอยแบนด์สตาร์ปพี่ลาว! เทคแคร์ลูกทริปดีมาก  

มาไงก็กลับอย่างงั้น มารถสองแถวกลับรถสองแถวไป "ด่านวังเต่า" (ด่านไทย-ช่องเม็ก) ถึงด่านเกือบ 4 โมงครึ่ง พวกเรานั่งรถทัวร์กลับกรุงเทพฯ กันนะจ๊ะ

ค่าบริการโปรแกรมทัวร์

- 5,500. บาท


อัตราค่าบริการนี้รวม

- ค่ารถทัวร์ไป-กลับ
- ค่ารถสองแถวไป-กลับ
- ค่าเข้าป่า
- ค่าเข้าป่าสงวน
- ค่าตำรวจท่องเที่ยวลาว
- ค่าอาหาร 8 มื้อ
- ค่าธรรมเนียมสถานที่ต่างๆ
- ค่าเจ้าหน้าที่นำเที่ยวตลอดการเดินทาง


อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

- ค่าเข้าด่าน ตม.ลาว คนละ 100.- บาท (ไป 100.- กลับ 100.-)
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากที่ระบุในรายการ
- ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่ของชาวต่างชาติที่เพิ่มเติมตามการจ่ายจริง
- ค่าลูกหาบ ลูกหาบ 1 คน แบกได้ 20 กิโล ราคา 2,000 บาท (ไปกลับ) พอดีไม่ได้ใช้บริการ


เครติดภาพ : รวมมิตรกล้องแก๊งเดินป่า

By : Namee Be Bear
Fanpage : www.facebook.com/KanXengStudio
อยากออกทริปต้องไปกับเพจ : ใบสน2ใบ

#เที่ยวให้มีความสุขและสนุกกับสิ่งที่ทำ #เที่ยวแบบจอยทริป
#ที่ราบสูงโบโลเวน #ลาวใต้ #Readme.me

NaMee Be Bear

 วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2565 เวลา 11.06 น.

ความคิดเห็น