อินโดนีเซียยยยยย !!! มีอะไรมากกว่าที่เราคิด หลังจากติดตามอ่านรีวิวมานับแสนเลยตัดสินใจ....ต้องโดนสักครั้งล่ะในชีวิต ได้แต่คิดจนกระทั่งเพื่อนมาชวนไปตัดสินใจแค่ 5 นาที จองตั๋วเลยเพื่อน!!!!



หลังจากที่ไปเที่ยวมาครั้งนี้กลับมามีแต่คนถามว่า????



เห้ยแกรรรร!! คือสวย คือดี สวยงาม ค่าใช้จ่าย ตาราง ไปไง ไปที่ไหนบ้าง อะไรยังไง ตัดสินใจเขียนรีวิวล่ะกัน

ทริปนี้ไปกัน 5 คนค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่จะถูกถึงถูกมากกกกกกกกกก แฮปปี้!! ปล่อยเวลามาเนิ่นนานกว่าจะมารีวิวให้เพื่อนๆได้ชมมาเริ่มกันเลย

เริ่มจากแผนการเดินทางดีกว่าไม่ให้เสียเวลา
ทริปนี้พวกเราไปวันที่ 19/05/2016 – 25/05/2016 (5 คืน 7 วัน)
สถานที่ที่พวกเราไปทั้งหมด


>>>>>เตรียมของเดินทาง<<<<<


พูดถึงการเตรียมตัวก่อนมา Indonesia นึกสภาพต้องสมบุกสมบัน แต่ฉันต้องสวยทุกสภาพอากาศและอิริยาบถการเตรียมข้าวของก็ไม่ได้เยอะมากก็ตาม Step ผู้หญิงทั่วไปประมาณนี้



>>>>Schedule จะเป็นไปตามนี้เลย<<<<<


>>>>>ค่าใช้จ่ายทั้งหมดโดยประมาณ<<<<<


โดยรวมคร่าวๆจะใช้ประมาณ 15,600 บาทต่อคน ซึ่งไม่ได้กินอดอยาก กินดี อยู่ดีมาก แต่เราจะไม่ได้แยกค่าใช้จ่ายของโรงแรม ค่าเดินทาง ค่าไกด์ ค่าเข้าสถานที่ต่างๆ เนื่องจากเราติดต่อกับไกด์ที่นั่นที่ชื่อ Mr.Adit เขาจัดการให้ทุกอย่างโดยคิดราคาเหมารวม 5 คน ราคา 13,500,000 Rp (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 36,450) ราคาต่อคนจะประมาณ 7,300 บาท รวมทุกสิ่งทุกอย่างแทบจะไม่ได้ควักกระเป๋าจ่ายเงินเลย



หลังจากที่เตรียมตัวมาหลายเดือน เฝ้ารอมาเนิ่นนาน ในที่สุดก็มาถึงเวลาสักที เริ่มเลยนะ!!!



>>>>> DAY 1 <<<<<


หลังจากทำงานเสร็จสิ้น เคลียงานเรียบร้อย ออกเดินทางจากบริษัท มาทาง Airport Link มาขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิขึ้นเครื่องโดยสายการบิน Tiger Air จองตั๋วกันข้ามปีเพราะคิดว่าถูกสุดแล้ว แต่มีถูกกว่านั้นแล้วแต่ดวงคนและระยะเวลา

เนื่องจากจองตั๋ว Tiger Air แต่ว่าต้อง Transit ที่สิงคโปร์ตั้งแต่ 23.00 น. – 08.15 น. ตามหาที่นอนตามเก้าอี้จนถึงเช้ารอขึ้นเครื่อง เดินเล่นใน Airport เรื่อยเปื่อย


>>>>> DAY 2 <<<<<


หลังจากที่ลงเครื่องก็มี Guide ที่เราติดต่อ รอเจอมาเนิ่นนานเนื่องจากคุยถามตอบมาหลายเดือนเราขอแนะนำ Mr.Adit เขาเป็นไกด์ที่ดูแล แทคแคร์ คุยเก่ง ชอบเล่นมายากลให้ดู ชอบถ่ายรูปให้ คือคนนี้ดีมากกกกกกก รู้จักกันจากที่ไหน?? ตามอ่านจากรีวิวหลายๆที่เพื่อนเราเลยติดต่อไป

เริ่มออกเดินทางมุ่งหน้าจาก Surabaya City ไปเมือง Banyuwangi นั่งรถยาวมากใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชม.Banyuwangi เป็นเมืองที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเกาะบาหลี เราจะไปพักที่ Ketapang Indah Hotel ก่อน 1 คืน โรงแรมถือว่าโอเคเริ่ด!


หลังจากเก็บกระเป๋าเสร็จออกมาทานข้าวในโรงแรมมาถึงถิ่นก็ต้องไม่ลืมลองของท้องถิ่นจากนั่นพักผ่อนยาว


รสชาติเบียร์ดีใช้ได้ถือว่าเป็น The Best ของอาหารมื้อนี้ อาหารเราขอไม่พูดถึงนะ


ก่อนนอน Mr.Adit แจ้งว่าจะมาหาตอน 04.30 น. เพื่อไปดู Sunrise ของที่นี้ Mr.Adit แนะนำว่าสวยงามมากเพราะพระอาทิตขึ้นจากฝั่งของเกาะบาหลี

>>>>> DAY 3 <<<<<


หลังจากดูพระอาทิตย์ขึ้นก็กลับมากินอาหารเช้าเก็บกระเป๋าเดินทางไป Kawah Ijen เดินทางใช้เวลาประมาณ 4 ชม. นั่งรถยาวไป แวะซื้อขนมถ่ายรูปตามข้างทาง

เดินทางถึงที่พัก Catimor Homestay ที่พักไม่มีแอร์ไม่มีพัดลมแต่อากาศเย็นสบายทั้งวันเราจะพักกันที่นี้ก่อนขึ้น Ijen


ถึงที่พักก็สำรวจพื้นที่สักหน่อยข้างๆหมู่บ้านมีน้ำตกให้ไปเดินเล่นชื่อว่า Blawan Waterfall Mr.Adit พาขับรถไปไม่ไกลมาก หลังจากนั่นเดินเข้าไปนิดหน่อยสวยงามดี


น้ำตกนี้เป็นน้ำตกเล็กๆหน้าหมู่บ้านพอหลังจากที่ไปเดินเล่นน้ำตกก็กลับมาพักผ่อนเตรียมตัวตื่นเที่ยงคืนเพื่อเริ่มเดินขึ้น Ijen


>>>>> DAY 4 <<<<<



มาแล้วสิ่งที่รอคอย Kawah Ijen

ตื่นเที่ยงคืน เตรียมตัวให้เรียบร้อย Mr.Adit เตรียมทุกอย่างให้พร้อม อาหารเช้า ขนมปัง ไข่ต้ม หน้ากากกันกลิ่น พร้อม!!!



ก่อนเริ่มเดินก็ต้องเตรียมอาวุธก่อน

- ผ้าปิดปาก เราซื้อที่ไทย ยี่ห้อ 3M สามารถกันกลิ่นได้ในระดับนึงนะ

- ไฟฉาย ใช้แบบที่คาดหัว Mr.Adit เตรียมให้ ตอนเริ่มเดินมันมืดมากเดินทางตอนตี 1 มีแค่แสงจันทร์นำทาง แต่ส่วนใหญ่ก็ตามคนข้างหน้าไป แนะนำให้ใช้เป็นที่คาดหัวถ้าแบบถือลำบากมากเพราะเราต้องใช้พลังในการปีนป่ายที่อันตรายตามโขดหินต่างๆ

- น้ำ เดินขึ้นเขาก็เหนื่อยแล้ว อากาศหนาวและแห้ง หิวน้ำตลอดไว้ค่อยจิบเบาๆเดี๋ยวจุก

- การแต่งกาย อากาศหนาวเริ่มแรก แต่เดินไปนานๆจะถอดเสื้อโดยปริยายเพราะร้อน



บรรยายความรู้สึกระหว่างการเดินทางนะ

Oh My God!!!!!!!!!!! เริ่มเดินตอนแรกจะดี๋ด๋ามาก เห้ย!ตื่นเต้น ฉันฟิตมาเตรียมพร้อม แต่พอไปเดินจริงๆนี่หน้าหงิก ทางชันแทบจะใช้ 4 ขาเดิน Mr.Adit จ้าง Local Guide ที่นั่นพาเราไป ที่นี้เขียนว่าเดินเท้า 3 km แต่เริ่มเดินจริงๆเขาพูดว่าอีก 1 km ก็ถึงแล้ว คือพูดคำนี้ประมาณ 4 รอบ หลอกให้ดีใจ แต่สนุกดี

ระหว่างทางจะมีทางให้พักเหนื่อยมีมาม่า โอวัณติน กาแฟ เครื่องดื่ม ให้เลือกซื้อกินนี่ Adit เองไงจะใครล่ะ


พักกันสักแปบ เดินต่อค่ะ เดินวนไปค่ะ คือใจแบบเมื่อไหร่ๆจะถึง พอมองขึ้นไป เห้ย!!! เห็นดวงไฟฉายไกลๆ ทางเดินเป็นตัวเอส โค้งไปมา และทางชัน 90 องศา ตายค่ะ พยายามเดินต่อไปค่ะ


เดินมาได้สักพักถึงทางลงเหมือง มันโหดมากกก แต่เราว่าเราถนัดนะชอบเดินลงแบบนี้เราเดินนำเพื่อนไปก่อนเลยสนุกดี เดินไปสักพัก เริ่มเอาหน้ากากมาปิดเพราะเริ่มได้กลิ่นซัลเฟอร์แรงมาก แสบจมูกแสบตาไปหมด เจอคนไทยเยอะเหมือนกันนะ เดินประปราย ในที่สุดถึงจุดชม Blue Fire สักที่ เราไม่สามารถเข้าไปถ่ายรูปใกล้ๆ Guide เอากล้องไปถ่ายให้เรา รูปอาจจะเหมือนไฟเตาแก๊สสักหน่อย

พอดู Blue Fire เสร็จก็เฝ้ารอทะเลสาบสีฟ้าที่รอคอยมานาน รอจนพระอาทิตย์ขึ้น พอพระอาทิตย์ขึ้นก็พุ่งตัวไปถ่ายรูปหนักมากคือมันสวยจริงๆ


ถ่ายตอนฟ้าเริ่มจะสว่างขึ้นเรื่อยๆ


หลังจากสนุกสนานกับการถ่ายรูปทะเลสาบเสร็จก็เตรียมตัวเดินขึ้นพอมองไปข้างบนเท่านั้นล่ะ ขาอ่อนแรง


คนเหมืองยกกันไปได้ยังไงคือหนักมากและแบกขึ้นเหมืองไปอีก


พอขึ้นจากเหมืองก็จะมาเจอป้ายนี้นั่งสักพัก เดินทางต่อก็มาเจอทางลาบเดินกันเบาๆรู้สึกว่าขากลับเดินสบายกว่าขามามากเพราะส่วนใหญ่เป็นทางลาดลง


เริ่มเดินต่อ...


เดินผ่านทางที่เป็นหินทางเนินมาเจอทางป่าเขา อากาศกำลังดี เย็นสบาย พอเดินกลับมาทำให้นึกว่านี่เราเดินมาไกลขนาดนี้เลยหรอแต่บอกเลยว่าคุ้มค่ามาก


พักเหนื่อยหน่อยพอเช้าก็เริ่มหิวและเหนื่อยล้าจากการเดิน มาม่าช่วยคุณได้ค่ะ


ในที่สุด...........ก็ถึงข้างล่างสักที

หลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการเดินเราหลับกันยาวค่ะถึงที่พักเก็บกระเป๋าเตรียมตัวเดินทางไป Mont.Bromo ต่อทริปนี้จะเสียเวลาไปกับการเดินทางมากแต่ก็คุ้มค่าที่มาจริงๆ

>>>>> DAY 5 <<<<<
MONT.BROMO – SAVANA



จาก Kawah Ijen ไป Mont. Bromo ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชม. หลับตายค่ะ หลับยาวไป ต้องเก็บแรงพักผ่อนเพื่อใช้พลังในวันต่อไป เราจะพักกันที่ Cemara Indah Hotel อากาศประมาณ 13 องศา แล้วเสื้อผ้าที่เราเตรียมไปล่ะ เอาไม่อยู่ต้องเช่าเสื้อกันหนาวเอา เพราะมันหนาวมาก แต่เราชอบพักที่นี้ที่สุด อยู่ในห้องมันอบอุ่น สบาย อาหารโอเค แต่ไวไฟใช้ได้เฉพาะที่ร้านอาหารเท่านั้น เราจะพักกันที่นี้ 2 คืน

Mont.Bromo



ว่ากันว่าเป็นลมหายใจเทพเจ้า เป็นจุดที่เรารอคอยว่าเมื่อไหร่จะได้ไป ในที่สุดมาถึงสักที

ในการเตรียมตัวสบายๆ ชิวๆ เดินสวยๆ ใครๆก็คิดงั้น แต่ทริปนี้ไม่ค่ะ มากับ Mr.Adit ไม่มีธรรมดา ตื่นตี 1 เตรียมตัว มีรถจิ๊บมารับถึงที่ หลังจากที่อ่านรีวิวและทำการบ้านมา อยากได้รถจิ๊บสีแดง Mr.Adit จัดให้ค่ะ

เราเริ่มเดินจากจุดเริ่มต้นเพื่อไปยัง Penanjakan View Point ซึ่ง Mr.Adit บอกว่าเป็นจุดที่สูงและสวยสุด เดินตั้งแต่ ตี 2 ถึงตอน ตี 5 นะคะ เราจะไม่รีวิวความยากลำบากเพราะอยากให้มาเจอกับตัวเอง แต่ขอบอกว่าคุ้ม วิวหลักล้าน รูปก็เป็นพันนะ พยายามเก็บมาให้ดู



อันนี้ถ่ายตอนฟ้ายังไม่ค่อยสว่าง

ถึงเวลาแล้วค่ะ กับลมหายใจแห่งเทพเจ้าแบบสว่าง


หลักจากดื่มด่ำกับการที่ได้เห็นลมหายใจแห่งเทพเจ้าจากที่ไกลๆแล้ว ถึงเวลาที่เราจะได้สัมผัสด้วยมือและเท้าของตัวเองอย่างใกล้ๆสักที นั่งรถจิ๊บลงจากเขาเลยค่ะ พอถึงตีนภูเขาไฟ ก็มีม้ามารับเราถึงในรถ ย้ำว่าในรถ เพราะเขาดูอยากให้เราเช่าม้าเขามาก ซึ่ง Mr.Adit ได้เตรียมให้เราเรียบร้อยแล้ว


ทางเดินขึ้นก็ไม่ได้เลวร้ายแรกๆก็เป็นขั้นบันไดดีอยู่พอขึ้นไปข้างบนๆ ขี้เถ้าฝุ่นทับถมจนบันไดหายไปล่ะ


ในที่สุด!!!! เสียงคำรามและลมหายใจของเทพเจ้า มันน่าเกรงขามจริงๆ


วิวจากด้านบน


พอถ่ายรูปเสร็จก็เดินลงค่ะ


จุดพีคสุด คือเราต้องเดินลงไปทางนี้ตอนแรกคิดว่าต้องนั่งม้ากลับแน่ๆไปๆมาๆ เดินเลียบภูเขาไฟนี่ล่ะค่ะ My God! แต่สนุกนะ จะเดินง่ายสำหรับผู้ที่การทรงตัวดี ที่ Mr.Adit ให้เดินตรงนี้คืออยากให้เดินไปด้วยถ่ายรูปไปด้วย คือดีอ่ะแกรรร!! คือ 3 ก้าวถ่าย 10 รูป รูปเซตนี้จะเยอะนิดนึง นี่คัดรูปจาก 1000 รูปให้เหลือขนาดนี้ ทำใจตัดหลายรูปเหมือนกัน เพราะอยากให้เห็นว่าถ่ายรูปตรงไหนแล้ววิวสวย


พอออกจาก Mont.Bromo ก็จะเจอ Whisper Sand เป็นอารมณ์แบบทะเลทราย


พอเดินมาถึง Mr.Adit ก็รอรับเราไปทุ่งหญ้าสะวันนา แต่ขอพักแปบนึงเพื่อถ่ายรูปแบบ รัวววววว


ถ่ายรูปเล่นนิดนึง ใครเลียนแบบใครดูเอา


สวยๆก็มี...


ถ่ายรูปกันสักพักมุ่งหน้าสู่ทุ่งหญ้าสะวันนา


จบการเดินทางสำหรับวันนี้กลับที่พักกันเถอะ พอถึงที่พักพวกเราก็อาบน้ำชำระล้างกายจากที่โดนฝุ่น ขี้เถ้า ฝนตกเป็นสีดำ กินข้าวเที่ยง อัพรูป นอนยาวจนถึงหกโมง และพักผ่อนตลอดทั้งเย็นถือว่าวันนี้เป็นวันที่ไฮไลท์ของทริปนี้เลยเพราะตั้งใจมาเดินอันนี้มาข้ามปี คุ้มค่าที่รอมาก

>>>>> DAY 6 <<<<<


MADAKARIPURA WATERFALL – SURABAYA CITY


ตื่นมาชิวๆตอนเช้ามุ่งหน้าสู่น้ำตก Madakaripura WaterFall แต่งตัวชิวๆได้กางเกงขาสั้นเสื้อยืดอากาศก็ปกติไม่หนาวไม่ร้อน อากาศสบายๆอุ่นๆ

Mr.Adit จะมาส่งเราแค่หน้าทางเข้าหน้าตก และ Local Guide ที่นั้นจะพาเราซ้อมมอเตอร์ไซค์เข้าไปอีกที่


พอถึงทางเข้าก็ต้องเตรียมใส่ Raincoat เพื่อป้องกันไม่ให้เสื้อผ้าเปียกเพราะเข้าไปข้างในนี้มันเปียกไปถึงข้างในเลย


ทางที่ต้องข้ามไปอันตรายและลื่นหน่อย Local Guide ต้องพาเราข้ามไป


นี่คือด้านในสุดของน้ำตกนี้สวยมาก มีคนมาเล่นน้ำเยอะอยู่เหมือนกัน


เขาบอกว่าน้ำที่นี้กินได้ แต่ที่นี้ต้องเดินระวังหน่อยเพราะมีปลิงตัวเล็กๆคอยมาเกาะและดูดเลือดเราโดยที่เราไม่รู้ตัว


หลังจากที่ไปน้ำตก เราก็มุ่งหน้าสู่ Surabaya City ซึ่งใช้เวลาเดินทางเกือบทั้งวัน พอตกเย็นก็มาเที่ยวพิพิธภัณฑ์บุหรี่ นิดหน่อยและไปนอนในเมือง Surabaya 1 คืนเพื่อเตรียมตัวขึ้นเครื่องพรุ่งนี้เช้า


จบมหาทริปอินโดนีเซีย เย้....!!!


ยังไม่อยากกลับเลยจริงๆ

หลังจากจบทริปนี้ มันทำให้เรารู้ว่าจริงๆเราเป็นคนรักการท่องเที่ยวมากกว่า การช้อปปิ้ง แต่งหน้า หรือใดๆก็ตาม โลกยังกว้างและรอให้เราไปสัมผัส นี่เป็นการรีวิวครั้งแรกถ้าผิดพลาดระการใดขออภัยด้วยนะคะ เล่าสู่กันฟัง เจอกันทริปหน้า เร็วๆนี้



>>>>>ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ<<<<<

Travelwithsirin

 วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 เวลา 14.04 น.

ความคิดเห็น