สวัสดีค่ะทุกคน Be Cool by Kru Gib จะพาทุกคนไปผจญภัยกับเราที่ลาวใต้ค่ะ ซึ่งจุดหมายปลายทางครั้งที่ของเราอยู่ที่ปากเซ ปากซอง แขวงจำปาสักค่ะ
ก่อนอื่นเราจะบอกว่าเหตุผลที่เราเดินทางไปลาวใต้ครั้งนี้คือ เราเคยเห็นภาพเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้วค่ะ เป็นภาพการขี่ซิปไลน์ แล้วมีฉากหลังเป็นน้ำตกที่อลังการมาก.....เราก็ค้นหาทันทีว่าที่นั่นคือที่ไหน....นั่นก็คือ ตาดฟานนั่นเองค่ะ ที่ปากซอง แขวงจำปาสักนั่นเอง....โห...ไกลจากบ้านเรานะเนี่ย ...เลยไม่คิดจะไปซักที...จนมีพี่ที่เคยเที่ยวต่างประเทศด้วยกันบ่อยๆ ว่าจะไป...ได้ทีแระงั้น ทักไปเลยจ้า...ตกลงปลงใจไป5555....แต่ยังไม่คิดหาวิธีนะว่าไปไง แต่มีเพื่อนไปแระ.......
เราอยู่ที่จังหวัดเลย เราต้องไปข้ามด่านช่องเม็กที่อยู่ จ.อุบลราชธานี ซึก จากเมืองเลยมีวิธีการเดินทาง 2 วิธี คือ 1. ขับรถไปเอง ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง 54 นาที 2. นั่งเครื่องไป กทม. และต่อเครื่องจาก กทม. ไป อุบลราชธานี และจากอุบล ไปช่องเม็ก......แต่ละวิธีนี่แสดงให้เห็นถึงความพยายามและทุ่มเทในการท่องเที่ยวของเรามากเลย55555.....เราเลือกวิธีที่ 1 ค่ะ ขับรถไปอุบล คนเดียว ตื่นเต้นอยู่นะ ไม่เคยขับไปทางนั้นมาก่อน ไม่รู้ทางด้วยแหละ ฝากความหวังไว้กับ GPS....55555
11 ต.ค.65 ออกเดินทางจากบ้านประมาณ 9.00 น. เลทไปหน่อย มัวแต่เก็บของ....11.30 น. ขับไปก่อนถึงจังหวัดขอนแก่น รู้สึกรถแปลกๆ รถมันเด้งๆ เราเลยชิดซ้าย ลงมาดูรถ ก็ไม่เห็นผิดปกติไร แต่ตัดสินใจขับกลับเข้าไปแถวชุมชน เพราะคิดว่าต้องมีอะไรผิดปกติกับยางแน่ๆ......ไปเจอร้านยาง ร้านก็บอกว่า ยางบวม อันตราย ต้องเปลี่ยนยางอะไหล่....โห...โชคดีนะเนี่ยที่เราไม่เป็นไร ยางไม่ระเบิด ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนเดียวต้องมาเจอแบบนี้ กระซิกๆ (กระซิกไปก็ไม่มีใครปลอบนะสาว5555 หาวิธีแก้ต่อไป555) ตอนนั้นก็เปลี่ยนยางอะไหล่เรียบร้อยค่ะ แต่แอบกังวลว่ายางจะดีมั้ย เพราะดูยะยะเวลาแล้ว อีกหลายชั่วโมงและไกลมาก ที่สำคัญ เราไม่อยากขับรถกลางคืน มันอันตราย .....ขับไปถึงสารคาม อ.เชียงยืน เราก็ตัดสินใจเข้าร้านยางอีกรอบ เพื่อเปลี่ยนยาง ตอนนั้นประมาณบ่าย 3 โห ดูเวลาแล้วต้องเปลี่ยนแผนแน่ๆ เพราะเดี๋ยวจะมืดค่ำซะก่อน เลยตัดสินใจไปนอนที่ในตัวเมืองอุบล นี่ก็ลุ้นอีกว่าจะเจอน้ำท่วมมั้ย555....เริ่มต้นทริปด้วยอุปสรรค แต่เราซะอย่าง สู้สุดใจเพื่อการได้เที่ยว555 (ทริปจอร์เจีย ตอนนั้นก็เริ่มต้นประมาณนี้แหละค่ะ 555)....อุบลราชธานี เวลา 19.30 น.เข้าพักที่โรงแรมเลยค่ะ เป็นการขับรถที่นานมาก ถึงโรงแรม พักผ่อน
12 ต.ค. 65 จากที่เราเปลี่ยนแผนนอนที่ในเมืองอุบล เราก็นัดกับสมาชิกที่ ช่องเม็ก เวลา 9.00น. ค่ะ เรารู้จักแค่ รุ่นพี่เรา พี่ฝน และรุ่นน้องเรา รุ่นน้อง (สมาชิกคนอื่นตอนนั้นรู้แค่ว่าเป็นเพื่อนและญาติของน้องโต้ง)แต่เราไม่มีปัญหาอยู่แล้วเพราะเราเข้ากับคนง่าย ^^
ลาวใต้ที่เราจะไปคือเมือง ปากเซ ปากซอง ในแขวงจำปาสักค่ะ ซึ่งติดกับจังหวัดอุบลราชธานี
ค่าเงิน 490 กีบ = 1 บาทค่ะ
งบประมาณที่เราใช้ในทริปนี้
แลกเงินไป 2000 บาท
ค่าผ่านด่าน 200 บาท
ซื้อซิม 100 บาท
ค่าซิปไลน์ 1,100 บาท
ค่าจ้าง staff ตามถ่ายรูป 200 บาท
ค่าไกด์เดินไปตาดขมึดตาดเสือ 1500 บาท หารกับเพื่อ 5 คน ตกคนละ 300 บาท
ค่าเข้าปราสาทวัดพู 50,000 กีบ
ค่ารถผ่านด่าน ค่าทางด่วน ค่าเติมน้ำมัน 2000 บาท หารกับเพื่อ 5 คน ตกคนละ 400
ค่าของฝาก 380 บาท (ซื้อเบียร์กลับเป็นลังจ้า เราไม่ดื่มนะ แต่ไม่รู้จะซื้อไร5555)
ค่ากิน มื้อเย็น เราจะจ่ายกองกลางกับเพื่อนๆค่ะ ซึ่งอยู่ในเงินที่เราแลกไปนั่นแหละ
เหลือเงินกลับไทย แลกคืนได้ 470 บาทค่ะ (เสียเปรียบค่าแลกเงินคืนไป 70 บาท แต่ไม่เป็นไร ^^)
รวม 3,830 บาท ใครไม่เล่นซิปไลน์แบบเราก็ประหยัดไปอีกค่ะ
9.30 น. เราก็เจอกับทุกคนที่ร้านกาแฟใกล้ๆด่าน ทักทาย ทำความรู้จักกัน (รวมๆก็สมาชิกทริปนี้ ขึ้นรถคันเดียวกับเราก็รวม 5 คน) ซื้อซิมให้เรียบร้อย
พาสปอร์ตรถยนต์ค่ะ รอบนี้เรานั่งรถไปกะรุ่นน้องค่ะ หากใครจะเอารถข้ามไปก็ต้องมีพาสปอร์ตรถด้วยนะคะ ใบขับขี่ของไทยได้ค่ะ
ซิมที่ลาว ซื้อได้ในราคา 100 บาท มีคนไทยมาขายให้ตอนอยู่ร้านกาแฟค่ะ บริการเปลี่ยนซิมให้เลยค่ะ
10.50 น. เรารอสมาชิกครบ ทำธุระเสร็จก็เข้าไปที่ด่านช่องเม็กเตรียมข้ามไปที่ สปป.ลาวค่ะ พอปั๊มตราออกจากไทยเสร็จก็เดินไปที่ฝั่ง สปป.ลาวค่ะ กว่าจะทำธุระที่ด่านที่ฝั่ง สปป.ลาว ก็ปาไป 11.22 น.
พอปั๊มตราออกจากไทยเสร็จก็เตรียมเดินไปที่ฝั่ง สปป.ลาวค่ะ ....แต่ขอถ่ายรูปซะหน่อยเราดั้นด้นมาตั้งไกล555
ไปค่ะ เดินลอดไปโผล่ที่ สปป.ลาวกัน
ข้ามฝั่งมาที่ สปป.ลาวแล้ว สิ่งที่เราต้องทำต่อไปคือ ไปปั๊มตราเข้าประเทศลาวกันค่ะ....เดินไปเลยค่าาา
อาคารนี้เลยค่ะ Arrival immigration
การเข้าไปที่ประเทศลาว จ่าย 100 บาทค่ะ แต่ๆ เราโดนไป 200 เพราะให้เหตุผลว่า พาสปอร์ตเราใหม่ (เราเพิ่งไปทำแบบ 10 ปี มาค่ะ ช่างเถอะ เรากะรุ่นพี่โดนไปคนละ 200 แต่คนอื่น 100...รุ่นน้องเราเคยบอกว่า เคยเอาพาสปอร์ตใหม่มาก็โดนไปแค่ 100 เองนะ)
เสร็จจากตรงนี้เราและเพื่อนๆก็เดินข้ามถนนไปที่ธนาคารหลังคาสีเหลืองๆนั่นเอง เพื่อแลกเงินค่ะ
ตอนแรกเราจะแลก 4,000 บาท แต่เพื่อนๆ บอกว่า แลก 2,000 บาท พอค่ะ เพราะที่ลาวเราจ่ายเป็นเงินไทยได้ หรือถ้าไม่พอค่อยแลกเพิ่ม ถ้าเงินเหลือมา ที่ธนาคารไม่รับแลกคืนค่ะ เราต้องไปแลกกะคนที่เขามารับแลก เสียเปรียบนิดหน่อยค่ะ
กว่าจะทำธุระที่ด่านที่ฝั่ง สปป.ลาว ก็ปาไป 11.22 น.
เอาล่ะ ได้เวลาออกเดินทางซะที 3 ปีแระ ที่ไม่ได้ออกไปไหน เริ่มต้นจาก สปป.ลาวใกล้ๆ ก่อนแล้วกัน มีเวลาจำกัด
สัมภาระเยอะๆ ไม่ใช่ของใคร...ของเราเองจ้าาา55
3 วัน 2 คืน ที่ ลาวใต้ เราเที่ยวตามนี้ค่ะ
Day 1 (12 ต.ค.65)
- ทานมื้อเที่ยง แหนมเนือง อาหารเวียดนาม
- เล่นซิปไลน์ที่ตาดฟาน
- แวะชมความงามที่ตาดเยือง
- ค่ำๆ กินหมูกระทะ
Day 2 (13 ต.ค.65)
- ทานมื้อเช้าในตลาด
- แวะซื้อของในปั๊ม
- เดินป่า ตาดขมึด ตาดเสือ
- ทานมื้อค่ำ
Day 3 (14 ต.ค.65)
- ทานมื้อเช้าที่ตลาด
- แวะชิลล์ๆ จิบกาแฟ กินเค้ก ถ่ายรูปสวยๆ ที่ Amor Cafe
- วัดใหญ่พูสะเหลา
-ปราสาทวัดพู
-แวะซื้อของฝาก
- กลับไทย
แพลนเที่ยวของเราเน้นกินอิ่ม นอนสบาย ตื่นสายได้นิดหน่อย บอกเลยว่าทริปนี้สนุกมาก
มาค่ะ เกริ่นซะเยอะ เรามาเริ่มเต้นการผจญภัยของเราเล้ยยยย
Day 1
หลังจากที่ข้ามด่านมาแล้ว เราก็แวะเอาของไปที่โรงแรมก่อน โรงแรมชื่อว่า Champa diamond ค่ะ เราพักในตัวเมืองปากเซค่ะ รุ่นน้องเคยบอกว่า ราคา 300 บาทต่อคืน ในใจเราคิดว่าคงพออยู่ได้ แต่เปล่าเลยพอไปเห็นห้อง โอ้โห!!! ดีกว่าที่คิดไว้เยอะ (ตอนเราจ่ายเงิน เป็นคืนละ 360 บาทค่ะเพราะมีการเปลี่ยนแปลงของค่าเงิน)
พอเก็บของที่โรงแรมก็เตรียมตัวออกไปลุยกันค่ะ เราแวะทานอาหารเวียดนาม มีทั้งแหนมเนือง ปอเปี๊ยะทอด ขนมเบื้องญวน (น่าจะเรียกแบบนี้มั้งคะ เพราะที่เมืองเลยก็มีเมนูนี้ ต่างกันแค่ไส้เล็กน้อยค่ะ) พอสวาปาม...เอ๊ย..พอทานอิ่มกันแล้วก็เตรียมตัวมุ่งหน้าไปน้ำตกตาดฟานค่ะ....
ปอเปี๊ยะทอดอร่อย...แต่ก็สงสัยว่าทำไมถึงเสิร์ฟคู่กันกับขนมจีน ^^
ขนมเบื้องญวน (น่าจะเรียกแบบนี้มั้งคะ เพราะที่เมืองเลยก็มีเมนูนี้ ต่างกันแค่ไส้เล็กน้อยค่ะ)
ตึกตรงข้ามร้านอาหารสวยดี ขอถ่ายรูปก่อนแล้วกัน ^^
จากปากเซ เรามุ่งหน้าสู่ปากซอง เพราะน้ำตกตาดฟานอยู่ปากซองค่ะ ห่างจากปากเซประมาณ 40 กิโลเมตรได้ค่ะ นั่งรถไป ฟังเรื่องราวของเมืองปากเซไป ทำให้อินกับการเที่ยวในครั้งนี้ นั่งรถไปซักพักก็ถึงแล้วค่ะ
น้ำตกตาดฟาน น้ำตกนี้รถเข้าถึง เดินนิดหน่อยค่ะ เดินไปสักพักก็ตะลึงกับภาพน้ำตกที่อยู่ข้างหน้า คือสวยยยยยยมาก สวยแบบโอ้โห ทำไมสวยขนาดนี้...แต่ก็ หัวใจเริ่มเต้นแรง เพราะความสูง แต่ก็ยังไม่ตื่นเต้นมาก ยังกล้าถ่ายรูป
พอถ่ายมุมนี้เสร็จก็ไปดูคนเล่นซิปไลน์ ตอนนี้แหละทุกคนนนนนนคะ หัวใจเราเต้นแรงมาก5555 ร่าง 1 เริ่มคุยกะ ร่าง 2 แระ ว่า เล่น หรือ ไม่เล่นดี555555 ใจนึงก็กลัว...อีกใจนึงก็ เฮ้ยยย...อุตส่าห์ขับรถมาข้ามด่านตั้งไกล ต้องเล่นสิ...พอคุยกับตัวเองเสร็จ ก็เป็นอันตกลงว่า เล่น จ้า5555 (มีการปรึกษากับตัวเองจริงจังจ้าาา555) ส่วนเพื่อนร่วมทริปเรานั้น ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ขอเป็นกำลังใจให้แล้วกัน555 เอาวะ เล่นก็เล่น
เราก็ไปติดต่อซื้อบัตรกับทาง staff ค่ะ จ่ายเป็นเงินไทย 1,100 บาทถ้วน พร้อมค่าจ้าง staff ตามถ่ายวิดีโอตอนเล่นด้วยค่ะ 200 บาท เราจ่ายเป็นเงินไทยค่ะ
staff ก็ให้ใส่อุปกรณ์ ตอนนั้นหัวใจเต้นแรงมากก ขาเริ่มสั่น แต่ใจบอกว่า ลองเล้ยยยย
จากนั้นทาง staff ก็พาเราไปฝึกการเล่นซิปไลน์ที่ลานใกล้ๆ เพื่อให้รู้จักสัญญาณมือ ให้รู้จักการเบรค
เมื่อพร้อมแล้วก็ถึงเวลา เดินลงไปสถานที่จริง....ขาสั่นมากแม่5555
staff คนที่ 1 ขี่ซิปไลน์ข้ามไปก่อน เก่งมากจาก ขี่ไปแบบไม่จับใดๆ คือพี่ๆ เขาเก่งและชินแล้วไง วันๆนึงคนมาเล่นเยอะ ก่อนหน้าที่เราไปก็เล่นไปแล้วกว่า 40 คน
พอถึงเวลาที่เราจะเล่น หัวใจก็ยังคงเต้นแรงมากกก ขาก็สั่น พี่ staff ก็บอกว่าออกตัวเลย หายใจเข้าลึกๆ ก็ลุยยยยย......หน้าก็ต้องยิ้ม กล้องก็ต้องถือ5555
ยัง....ยังไม่ก้าวออกไปอีก55 ขาสั่นไม่ไหว....ยิ้มก่อน แล้ว ลุย!!!
เรานี่ไม่กล้ามองข้างล่างเลยค่ะ เส้นนี้ยาว 450 เมตร ความสูงเท่ากับตึก 70 ชั้น...แปลกมากจ้าเราเคยขี่พารามอเตอร์ซึ่งสูงกว่านี้มากแต่ๆๆๆๆ รอบนี้เรารู้สึกเสียวๆ และขาสั่น5555
เป็น 40 วินาทีที่หลากหลายความรู้สึก...^^ รู้สึกทึ่งกับวิว ทึ่งกับตัวเองที่กล้าทำ รู้สึกกลัวด้วย555
พอใกล้ถึง staff ก็ให้สัญญาณมือให้เราเบรคได้ค่ะ ตอนเบรคเราต้องกะระยะ ให้ถูกนะคะจะได้ถึงพอดี บางคนเบรคก่อนก็ยังไม่ถึง ต้องมี staff ไต่เชือกไปดึงเข้ามาก็มีค่ะ
พอไปถึงก็โล่งอก ยังเหลืออีก 3 เส้นที่ต้องลุยต่อ
เส้นที่ 4 เราต้องเดินขึ้นเขาไปพอสมควรเพื่อเล่นเส้นที่ 4 เพื่อกลับไยังจุดเริ่มต้น
พอถึงฝั่งถึงกับโล่งอก...เรามีชีวิตรอดแล้วจ้า555
เสร็จจากน้ำตกตาดฟาน เราก็มุ่งหน้าไปที่น้ำตกตาดเยืองต่อค่ะ พอถึงก็จอดรถไว้ที่ลานเดินต่ออีกนิดเดียวค่ะ
เดินลงไปดูน้ำตกตาดเยืองซักหน่อย
วิวตรงหน้าคือ ดีงามมากจ้าาาาา
ตาดเยืองสวยประทับใจมาก สวยแบบมีละอองน้ำฟุ้งๆตลอดเวลา เราใช้เวลาที่นี่สักพักเพื่อถ่ายรูปเก็บทุกมุม
เปียกมอมแมมกันเลยจ้า
ตอนมายังปกติ แต่ตอนกลับนี่สิ555 เปียกทุกส่วนของร่างกายเลย มอมแมมยังกะลูกหมาตกน้ำ555 เราเลยนั่งท้ายกระบะเพื่อกลับไปที่โรงแรมเพื่ออาบน้ำ
พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ออกไปหาไรทาน
หมูกระทะและเบียร์ลาวไปจ้า ปกติเราไม่ดื่มเบียร์แต่อาจจะเพราะเหนื่อยและอยากลองชิม สรุปว่าเห้ย ดื่มได้ ดื่มแบบไม่ขมมากเลย สรุปดื่มเบียร์แทนน้ำเปล่าไปเลยจ้ามื้อนี้
กลับโรงแรมนอนนนน
Day 2 วันนี้ตื่นเช้าหน่อย เพราะเราจะไปทานมื้อเช้าที่ตลาดกันและต่อด้วยไปเดินป่าจ้า
ชุดพร้อมเดินป่า55แต่แวะมาตลาดให้ผู้คนตกใจเล่นก่อน
เช้านี้เราเลือกทานร้านนี้ค่ะ รุ่นน้องบอกว่าอร่อย
รสชาตินัวๆ อร่อย นัวอูมามิมาก5555
ราสั่งข้าวเปียกหมู ต่างจากข้าวเปียกของทางจ.เลย ค่ะ เพราะที่นี้เส้นจะไม่ได้เหนียวมาก หมูก็เป็นหมูกรอบ ก็อร่อยอีกแบบ เสิร์ฟพร้อมกับน้ำชาหอมๆ ปาท่องโก๋ด้วย มื้อนี้อื่มอร่อย
มุ่งหน้าสู่ตาดขมึดจ้า แวะ ปั๊มซื้อเสบียงเดินป่าซะหน่อย
ที่นี่ 40 บาทนะคะ บ้านเรา 60 บาท
แวะซื้อมื้อเที่ยงซะหน่อย ไก่ย่าง หมูปิ้ง ข้าวเหนียว อาหารพกพาง่าย เพราะเราไม่ได้พกเอง ให้น้องหอบ55
พอไปถึงบ้านหนองหลวงเราก็แวะถามที่ร้านขายของในหมู่บ้านว่ามีไกด์แนะนำมั้ย จริงๆ รุ่นน้องเราติดต่อไกด์ไว้แต่พอถึงวัน ไกด์ดันไม่สะดวกค่ะ พวกเราเลยไปหาใหม่ ส่วนใหญ่คนอื่นจะเดินป่าแต่เช้า หรือสายๆ...แต่พวกเราสายชิลล์จ้า55 มาถึงบ่ายโมง ตอนแรกไกด์ว่าไปกลับมันจะมืดก่อนนะ แต่พวกเรายืนยันว่าอยากไป พวกเราเดินเร็ว555 สรุปไกด์ก็ตอบตกลง ได้ไกด์นำทาง 2 คน ราค 1500 บาทค่ะ จากนั้นก็ลุยขับจากหมู่บ้านไปอีก 2 กิโลเมตร
จอดรถไว้นี่ค่ะ...เตรียมตัวลุยยย พวกเราจะเดินป่าประมาณ 10 กิโลเมตร ไป-กลับค่ะ โจทย์คือต้องออกมาจากป่าก่อนดวงอาทิตย์ตกค่ะ
เดินไปสักพัก ลุยเลยหรอ ไม่ทันได้เตรียมใจ5555 ลุยก็ลุยค่ะ เรามันหญิงแกร่ง
ไต่เชือกข้ามน้ำจ้า ขาสั่นนิดๆ ออกแนวเข้าค่ายลูกเสือ สนุกดีค่ะ
ถัดจากตรงนี้ก็เจอไร่กาแฟ....จริงๆแถวนี้ มองไปทางไหนก็เจอไร่กาแฟค่ะ
และก็ลานกว้าง มีดอกหญ้า ดอกไม้ สวยๆเต็มเลย
ดอกไม้สวยๆทั้งนั้นเลย ^___^
เส้นทางต่อจากนี้จะไม่เรียบแล้วนะ ไกด์ไม่ได้บอก5555
ทางชันประมาณ 90% เลยจ้า
น้ำตกตาดเสือ เราก็แวะถ่ายรูป ก่อนที่จะเดินไต่เชือกข้ามแม่น้ำเพื่อไปต่อ จากนี้ทางชั้นมาก ลงเขากันไปเลยจ้า
เราเดินค่อนข้างเร็ว ตามติดไกด์นำทางเลย จะมีไกด์ประกบท้ายอีกคนค่ะ
พอถึงตาดขมึดถึงก็ร้อง ว้าววววว คือ สวยมากกกกกกกกกก และที่ดีใจคือ คนไม่เยอะ เพราะเราเคยเห็นจาก โซเชี่ยลคือคนเยอะ ถ่ายรูปตรงไหนก็ติดคน พวกเราถือว่าโชคดีที่คนน้อย ที่เจอ 2 กรุ๊ป ก็เป็นคนไทยทั้งหมดเลยค่ะ พวกเราก็ทักทายกัน ^^
มาดูอาหารเที่ยงของพวกเรา เพื่อนกำลังจะกิน เราก็ขอแป๊บนะ555 ขอถ่ายรูปมุมนี้ก่อน มันสวยมากกกกก
ทานข้าวเสร็จแระ ถ่ายรูปพักแป๊บ
บ่ายสองกว่าพวกเราก็เดินทางกลับค่ะ ตอนกลับนี่ทางขึ้นเขา เหนื่อยกว่าตอนมาแน่นอนนน
เราชอบเดินเร็วเพราะจะได้มีเวลานั่งพักรอเพื่อนๆนานๆและได้มีเวลาถ่ายรูป5555
ยาดมต้องเข้าแล้วค่ะ ณ จุดนี้ 55
.ในที่สุดก็มาถึงลานทุ่งดอกไม้ซะที พักให้หายเหนื่อยเลยจ้า..... ถ่ายรูปสร้าง content รอเพื่อนอีก 1 กรุ๊ปค่ะ
พักจนหายเหนื่อยเพื่อนก็มาถึง.....ได้เวลาเดินทางกลับแระ
เดินไป หัวเราะไป คือมันดีมากเลยยยยยย
พอวันนี้ออกจากป่ามาด้วยสภาพมอมแม เราแวะทานอาหารก่อนเข้าโรงแรม ร้านนี้ดันมีโต๊ะว่างจ้า จะมาแบบสวยๆ โต๊ะดันเต็ม555....ด้วยความเหนื่อยพวกเราก็สั่งอาหารและเบียร์มารัวๆๆๆๆๆๆเลยจ้า กินแบบองค์ลงมาก55555
ค่าเสียหาย 3 แสนจ้ามื้อนี้ และกิจกรรมที่ทำเราใช้เวลาพอสมควรคือการนับเงินนี่แหละจ้า คิดเลขไม่ทันด้วย555
เอาล่ะ วันนี้เหนื่อยพอสมควร ไม่มีแรงไปผับอีกแระ
Day 3 วันนี้วันกลับไทยแระ เราสายสุดเลยวันนี้ ทุกคนต้องรอ555เพราะเราแต่งหน้ายังไม่เสร็จ555
กิจกรรมวันนี้คือ ไปทานมื้อเช้าที่ตลาดแต่ไปลองอีกร้านใกล้ๆกันค่ะ
เสร็จจากมื้อเช้าเราก็ไปหาคาเฟ่ซะหน่อย พวกเราไม่ได้ตั้งใจมาคาเฟ่นี้ แต่กลายเป็นว่า เราชอบมากกกกกกก
หรูหราหมาเห่าที่สุด ความหรูก็แห่อานุภาพไปถึงห้องน้ำจ้าาาา
เอาล่ะได้เวลามุ่งหน้าออกไปไหว้พระวัดพูสะเหลา ชมวิวเมืองปากเซซะหน่อย วันนี้ทุกคนก็จะเดินแปลกๆหน่อย555เพราะเมื่อวานไปเดินป่ามา ดีที่เราปวดนิดหน่อย ^____^
วิวเมืองปากเซ เห็นสะพานมิตรภาพลาว-ญี่ปุ่น ข้ามแม่น้ำโขง
วันนี้ขาแต่ละคนระบมจากการไปเดินป่าเมื่อวาน....เลยแวะถ่ายรูปเฉยๆค่ะ555 ขับรถขึ้นไปชมวิวได้ ^^
สถานีต่อไปคือไปปราสาทวัดพูค่ะ อยู่แขวงจำปาสัก
ที่นี่จ่ายค่าเข้า 50,000 กีบ มีรถรับส่งเราไปถึงที่ปราสาทเลยค่ะ
พอถึงก็อุดหนุนยายๆ 40 บาท ได้ 3 อัน เอาไว้ไหว้พระด้านในค่ะ
เราล่ะ วันนี้ก็เดินอีกแระ เราก็มาทั้งทีเดินไปให้สุด...สู้เค้า
เอาล่ะ...บ่าย 2ครึ่งแล้ว....ได้เวลาเคลื่อนขวนเตรียมข่ามฝั่งไปไทยแล้วค่ะ.....สำหรับมื้อเที่ยงซื้อง่ายๆ หมูย่าง ปลาย่าง ข้าวเหนียว ทานบนรถค่ะ เพราะทุกคนทานกันแล้ว จ่ายไปสองแสนสำหรับมื้อนี้ ^^ อิ่มมากกกก
เงินเหลือนี่ทำไงดี...แวะซื้อเบียร์กลับบ้านไปเลยจ้า 1 ลัง
จากนั้นเราก็มุ่งหน้ากลับที่ด่านช่องเม็กค่ะ กว่าจะทำธุระต่างๆเสร็จ ปาไป 5 โมงเย็น ขับกลับบ้านไม่ทันแล้วจ้า....หาที่พักอยู่อุบลต่อเลยละกัน หุหุ
เอาเป็นว่า การผจญภัยลาวใต้ของเราก็ได้จบลงแล้วค่ะ.....หากมีโอกาสเราก็อยากจะไปเที่ยว สปป.ลาวอีกเรื่อยๆ ค่ะ เพราะมีทั้งความเรียบง่าย วัฒนธรรม อาหารและผู้คนน่ารักๆ ^____^
การเดินทางไม่สำคัญเฉพาะจุดหมายปลายทาง....เพื่อนร่วมทางก็สำคัญมาก
ทริปนี้เราสนุกมาก หัวเราะตลอดทริปเลย
ยินดีที่รู้จักเพื่อนใหม่น้องพลอยและน้องบีนะคะ ^______^
***************************************************
ขอบคุณสำหรับการกดแชร์ประสบการณ์....เรื่องราวการท่องเที่ยวของเราด้วยนะคะ^____^
พูดคุย แลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้เพิ่มเติมที่
เพจ Facebook : Be Cool by Kru Gib ได้เลยค่ะ ตามลิงค์นี้เลยค่ะ
https://www.facebook.com/becoolbykrugib/
Be Cool by Gib
วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2565 เวลา 15.40 น.