นาขั้นบันได บ้านปางมะโอ สุข..จนสุดใจ
ข้างกองไฟประมาณสิบแปดนาฬิกากว่าๆ ฟ้าใกล้มืดค่ำ อุณหภูมิเริ่มลดต่ำลงตามลำดับ ความหนาวเย็นเข้ามาเยือน บทสนทนาข้างกองไฟระหว่าง พี่หมาน..เจ้าของสถานที่กับผู้มาเยือน คัดเอาแต่ชุดสนทนาที่โดนใจ….
ผู้มาเยือน เปิดมานานยังครับ
พี่หมาน เพิ่งเปิดให้เข้ามาเที่ยวได้เป็นปีแรกครับ
ผู้มาเยือน เคยมีเข้ามาพักมากที่สุดกี่คนครับ
พี่หมาน สิบสองคนครับ ที่นี่มีบ้านสามหลัง รับได้เท่านี้ ดูแลได้ทั่วถึงครับ
ผู้มาเยือน วันนี้มีคนมาพักกี่คนครับ
พี่หมาน วันนี้รวมพวกพี่ก็สามคนครับ
ผู้มาเยือน แล้วเค้าจะเริ่มเกี่ยวข้าวกันเมื่อไหร่ครับ
พี่หมาน ประมาณอาทิตย์หน้าก็จะเริ่มแล้วครับ
อย่างที่บอกว่าตัดมาบางส่วนของการพูดคุยข้างกองไฟกันเท่านั้น ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่ได้แลกเปลี่ยนกัน
เอาจริงๆ แค่คิดจะเริ่มบรรยาย ก็ไม่รู้จะเรียบเรียงลำดับอักษรยังไง ให้ใครที่ผ่านมาได้อ่าน ได้เห็นภาพที่ไปเก็บกลับมา รับสัมผัสถึง ความสุขแบบ สุขจนสุดใจ…..
ที่ตรงนี้…
ไม่มีไฟฟ้า…
ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์…
แต่ที่นี่มีความสุข มากมายก่ายกอง…..
ด้วยความบังเอิญ ได้เห็นสถานที่แห่งนี้ อืมมม..น่าสนใจ ชื่อนี้ไม่คุ้นเคย ไม่เคยได้ยินมาก่อน ตัดสินใจเดี๋ยวนั้นเลย ไป…..
…นาขั้นบันได บ้านปางมะโอ…
เริ่มต้นสั้นๆสำหรับการเดินทางมาที่นี่ โดยวิธีการของเราสองคน จากสนามบินเชียงใหม่ ติดต่อเช่ารถไว้ล่วงหน้าแล้ว ขับจากสนามบินมา อบต.ป่าแป๋ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ จอดรถไว้ที่ อบต.ป่าแป๋ เนื่องจากเส้นทางต่อจากนี้ มันสาหัสสากรรจ์พอสมควร พี่หมาน เจ้าของ ผู้ดูแล นาขั้นบันได บ้านปางมะโอ จะเอารถกระบะมารับเรา
เดินทางต่อไปอีก ยี่สิบนาที ก็จะถึงบ้านปางมะโอ ยังๆไม่จบ คราวนี้เริ่มใช้กำลังกันแล้ว ต้องเดินเท้าต่ออีก 2 กิโลเมตร ถ้าไม่เดินก็นั่งมอไซค์ เข้ามาได้ น้องเค้ามีบริการ แต่เราเลือกเดินดีกว่า อยากเก็บเกี่ยวบรรยากาศกลับไปให้มากที่สุด จบกระบวนการเดินทาง ถึงหมุดหมายตามความตั้งใจ…..
เริ่มเดินแล้วนะ......
เอาบรรยากาศสองข้างทางมาให้ดูกันก่อน แค่นี้ก็โคตรว๊าวแล้ว....
สภาพเส้นทางเดินเท้าไปยังจุดหมาย
สัญญาณแห่งความดีงาม มันเริ่มตั้งแต่ตอนเราเดินเท้าเข้ามาแล้วล่ะ น้องธี ผู้นำทางมาจากหมู่บ้าน คอยบรรยาย บรรยากาศระหว่างเส้นทาง ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงกว่า ที่ช้า ก็เพราะหยุดถ่ายรูปนานไปนิดนึง ถ้าจ้ำๆน่าจะไม่เกินยี่สิบนาทีก็ถึงแล้ว
แวะไปชมความสุขในอีกรูปแบบนึงก่อนได้นะ https://youtu.be/mGbTvELypUc
ในที่สุดเราก็มาถึง นาขั้นบันได บ้านปางมะโอ ในวันที่ทุ่งนาเป็นสีทอง เมื่อยามกระทบกับแสงจากดวงอาทิตย์ อร่ามไปทั่วหุบเขา ความรู้สึกแรกที่ได้เห็นคือ มันใช่เลย ใช่มากๆ มันต้องใช่แน่ๆ แน่นอน ขอจัดแบ่งความใช่เลยเป็นข้อๆ ตามนี้…
ความสงบ ให้สิบเอ็ดเต็มสิบ ทั่วทั้งทุ่งนาท่ามกลางหุบเขา มีมนุษย์อยู่ สามถึงห้าคน บางช่วงเวลาเหลือแค่ สองคน ไม่มีเสียงเครื่องยนต์ กลไก ใดๆทั้งสิน มีแต่เสียง หรีด ริ่ง เสียงสายน้ำที่ไหลอยู่ในลำธาร เสียงใบไม้ เสียงลม ดีโคตร…
ความสวยงาม ดูจากภาพที่ไปเก็บกลับมา อันนี้ให้คะแนนกันได้เลย คือถ้าเราบอกไปเดี๋ยวจะหาว่าให้คะแนนกันเกินไปป่าว แต่แอบบอกนิดเดียวว่า ดีโคตรโคตร....
ธรรมชาติ มันจะมีอะไรดีกว่านี้แล้ว พื้นที่หลายร้อยเอเคอร์ มีมนุษย์ใช้ออกซิเจน อยู่ สามสี่คนเองอ่ะ อ่อ มีหมาหนึ่งตัว แล้วก็แมลงตัวเล็กๆ มด ไส้เดือนดิน ก็อยู่กันประมาณนี้แหละ โคตรดี...
ความสุข คือ ที่สุดที่เราได้จากที่นี่ เอาสามสิ่งที่บอกไปมามัดรวมกัน บางเวลาได้อยู่กับตัวเอง บางเวลาได้อยู่กันสองคน มันก็นานมากแล้วนะ ที่เราไม่มีสัญญาณการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ทั้งโลก ไม่มีข่าวสารมีแต่ข้าวสารเต็มทุ่ง ไม่มีดราม่าแต่มีมาม่าเป็นบางมื้อ ไม่มีการพูดคุยทางไกลโดยไม่เห็นหน้าค่าตา
อารมณ์ ความรู้สึก สติ ประสาทสัมผัส เราอยู่ตรงนั้นเลย ตรงทุ่งนา ตรงหุบเขา ตรงลำธาร ตรงบ้านหลังเล็กๆ ตรงนั้น มันดีมากมายมหาศาล.......
สามวันกับสองคืน เราได้รับการดูแลจากพี่หมาน ตามความจะเป็น มันสมจริงมากๆ มีอาหารให้กินอิ่มทุกมื้อ มีการสนทนาตามประสา ผู้มาเยือนกับผู้ต้อนรับ อาจจะยังไม่ค่อยคุ้นเคยกันแต่มันแฝงไปด้วยความจริงใจระหว่างกันและกัน
คราวนี้มาชมภาพบรรยากาศแบบยาวๆพร้อมคำบรรยายสั้นๆเนอะ....
นี่คือภาพแรกที่เราเห็นตอนเดินมาถึงจุดหมายปลายทาง.....
กระท่อมกลางนา บ้าน โฮมสเตย์ จะเรียกยังไงก็ได้ มันคือที่ที่เราอาศัยอยู่สามวันกับสองคืน เป็นสถานที่ที่มีความทรงจำดีๆมากมายมหาศาลจริงๆ
แม่พี่หมาน เป็นแม่ครัวด้วย ทำอาหารอร่อยมากกกกกกก เดี๋ยวให้ดูหน้าตาอาหาร....
อร่อยแท้.....
มื้อเช้า เบาๆ ข้ามต้มหมู กาแฟ โอวัลติน ไข่ต้ม…
ภาพชุดเพลิดเพลิน เจริญนา..........
หนึ่งคนบันทึกด้วยการวาดภาพ...หนึ่งคนบันทึกด้วยความทรงจำ คร่อกกกกก........
เย็นย่ำจนค่ำมืด มีลมหนาว มีนาข้าว มีกองฟืนไฟ กับดาวแสนล้านดวง........
บรรยายความมาถึงตรงนี้ แสดงภาพมาถึงตรงนี้ ใครที่ตามมาถึงบรรทัดนี้ คงเห็นภาพแห่งความสุขบ้างแหละเนอะ
ความรู้สึกตอนต้องกลับออกมา บอกเลยว่า ไม่อยากกลับอ่ะ กลับมาอยู่ในวิถีชีวิตของตัวเอง ก็บอกกับตัวเองตลอดว่า เราจะต้องกลับไปที่นั้นอีกครั้ง.....
วิธีการติดต่อกับ พี่หมาน....https://www.facebook.com/Pangmaoriceterrace
ขอจบแบบนี้นะ
กลับจากแม่แตง เราขับข้ามเชียงใหม่ ไปเที่ยวต่ออีกที่ โครงการหลวงขุนแปะ ไปชมทุ่งไฮเดรนเยีย ฝากตามต่อด้วยนะ เร็วๆนี้
…จบบริบูรณ์......
คน ฟ้า ป่า น้ำ
วันพุธที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 เวลา 19.11 น.