สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาไปเที่ยวเชียงใหม่แบบสไตส์ถูกทราเวล เที่ยวตามโปร จ่ายเต็มเราไม่ไป เน้นคุ้มเที่ยวแบบสไตล์ประหยัดกันนะครับ เริ่มออกเดินทางกันเลย เริ่มต้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ วันนี้บินกับบางกอกแอร์เวย์ได้โปรจาก Agoda มาชอบเจ้านี้มากมักจะมีราคาหลุดบ่อยๆ ได้ตั๋วขาไปในราคา  721.09 บาท และ    ขากลับในราคา  706.63 บาท ได้บินฟลูเซอร์วิส ในราคานี้ถือว่าคุ้มมากๆ บินบางกอกสิ่งแรกที่นึกถึงก็ต้องไปกินข้าวต้มมัด แต่อย่างเราจะให้ไปนั่ง Bangkok Airways Boutique Lounge ธรรมดาได้ไงคนเยอะ เพื่อความคุ้มอุตส่าห์จ่ายค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตรายปี ได้ Priority Pass แบบเข้าเล้าจ์ได้ไม่จำกัด ก็จัดการโบกบัตรเพื่อไปเข้า Blue Ribbon Club Lounge มีอาหารร้อน มีแอล มีข้าวต้มมัดในตำนานก็จัดไปก่อนเลยครับ เพื่อความคุ้มอีกแล้วก็สั่งไวน์มาแก้วนึง มึนๆก่อนบิน

จากนั้นเพื่อความคุ้มก็ไปต่อกันเล้าจ์ที่สอง The Coral Executive Lounge ไปกินข้าวมันไก่ชิ้นโตๆ และของหวาน สถานที่ภายในเล้าจ์จัดสวยเหมือนนั่งอยู่คาเฟ่เลย ชอบที่นี่เพราะมี  Butter Beer เสริฟอีกด้วยรออะไรก็จัดไปเลยสิครับ

กะว่าให้อิ่มถึงมื้อกลางวันกันเลยทีเดียวจะได้ประหยัดไปอีก ฮ่าๆๆ ถ้าไม่ติดว่าจุกจะไปต่อเล้าจ์ที่สามแล้วนะเนี่ย นั่งไปนั่งมาก็ได้เวลาขึ้นเครื่องพอดี

มาถึงเชียงใหม่คืนนี้ผมพักที่โรงแรม ทรีวนา คลับ เชียงใหม่ เป็นโรงแรมเล็กๆน่ารักๆ มีสิ่งของที่จำเป็นให้ครบครัน อันนี้ก็ได้มาในราคาประหยัดโปรของ Robinhood โรงแรมเชียงใหม่ลด 1000 บาท ได้มาในราคา 1,186.19 บาท พร้อมอาหารเช้า และ Afternoon Tea ห้องสวยตรงปก มีขนมในตะกร้าให้ฟรี พร้อมทั้งเขียนการ์ดต้อนรับให้ด้วย ยังกับโรงแรมห้าดาวเลยใส่ใจสุดๆ ทางโรงแรมจะให้เลือกอาหารเช้าเซ็ทหลักตอนเช็คอินเลย และก็น้ำ 1 แก้ว นอกจากนี้อาหารเช้าก็จะเป็นไลน์บุฟเฟ่ต์ พวกสลัด น้ำผลไม้ นม ปาท่องโก๋ มีก๋วยเตี๋ยวอีกด้วย ผมไปเช็คอินแล้วอยากไปเที่ยวต่อเลยไม่ได้ทาน Afternoon tea พนักงานแจ้งว่าสามารถรับตอนหลังเช็คเอ้าได้อีกด้วยก็เลยรอเช็คเอ้าค่อยรับดีกว่า

หลังจากเช็คอินเสร็จแล้วก็ไปเก็บบรรยากาศที่อ่างแก้ว มช. กันวันนี้มีกิจกรรมดนตรีสดของนักศึกษาจากคณะต่างๆและมีหนังกลางแปลงอีกด้วย คนก็จะเยอะหน่อยมานั่งฟังเพลงตอนเย็นชิลๆกันริมอ่างแก้ว

จากนั้นก็ไปทานอาหารเย็น มาเชียงใหม่ทั้งทีต้องได้ทานอาหารพื้นเมือง ผมเลือกร้านถึงเชียงใหม่ จะได้มาถึงเชียงใหม่จริงๆ 555 เข้าใจตั้งชื่อร้านเนอะ คนก็มากันเยอะเหมือนกันพอมีโต๊ะว่างแต่ที่จอดรถไม่ค่อยมี อาหารรสชาดอร่อยทานหมดเกลี้ยงทุกอย่างแนะนำสำหรับคนมาเที่ยวเชียงใหม่เลยครับ

ทานเสร็จก็กลับโรงแรมอาบน้ำแต่งตัว เตรียมตัวท่องราตรีแหล่งวัยรุ่นหาน้ำเก็กฮวยเย็นๆดื่มให้ชุ่มคอ คืนนี้ผมเลือกร้านชื่อ "ฮอม" น่าจะเป็นเจ้าของเดียวกันกับท่าช้าง ส่วนมากโต๊ะทำเลดีๆก็จะถูกจองเต็มจากเหล่าวัยรุ่นทั้งหลาย เราวอคอินแต่อยากติดขอบเวทีก็เลยเลือกนั่งชั้นสอง

อันนี้เพื่อความคุ้มอีกแล้วน้องๆเด็กเสริฟขายของเก่งส่วนใหญ่จะเป็นโปรซื้อ 2 แถม 1 กับแก้มเลยเต็มกินไม่หมดเลยทีเดียว 

ค่ำคืนนี้ก็สนุกสนานมึนๆกลับโรงแรมนอน พรุ่งนี้เช้าไปไหว้พระต่อ

เช้านี้ตื่นมาก็อาบน้ำแต่งตัวแล้วลงมาทานอาหารเช้า อาหารเช้าทางโรงแรมจะเตรียมที่เราสั่งไว้เมื่อวานตอนเช็คอินพร้อมเครื่องดื่มอีก  1 แก้ว ผมสั่งเป็นเซ็ทชื่อเดียวกับโรงแรม และก็ชาไทยเย็น นอกจากนี้ก็จะมีไลน์บุฟเฟ่ต์เพื่อความคุ้มก็จัดเลยมีทั้ง น้ำผลไม้ สลัด ปลาท่องโก๋ ติ่มซำ ก๋วยเตี๋ยวกะอิ่มถึงเที่ยงไปเลยทีเดียว

ด้วยความที่ทานอาหารเช้าอิ่มมาก เช็คเอ้าแล้วไม่ได้ทาน Afternoon tea เนื่องจากทานไม่ไหวแล้วเพื่อนๆคนไหนมาพักแล้วได้ทานช่วยรีวิวด้วยนะครับ ฮ่าๆๆ  หลังจากเช็คเอ้าทางโรงแรมก็มีมอบโปสการ์ดให้ 1 ใบอีกด้วย

ขากลับผมจองเที่ยวบินเป็นไฟท์เวลา 19.45 น .ดังนั้นยังพอมีเวลาอีกเยอะ หลังจากเช็คเอ้าก็ไปไหว้พระกันต่อที่วัดป่าแดด ขอโชคขอลาภกันไป คนเยอะเหมือนกันเขาจะมีที่บูชาเพื่อไหว้พระพิมฆเนศพร้อมคู่มือใบเล็กๆก็อ่านและทำตามทีละขั้นตอนเป็นอันเสร็จสิ้น

จากนั้นไปต่อที่วัดพระธาตุดอยสุเทพออกกำลังขากันหน่อย

ขาขึ้นเดินขึ้นหน้ามืดแทบเป็นลมขาลงขอนั่งลิฟลงละกันครับจ่ายค่าลงลิฟคนละ 10 บาท

จากนั้นก็เดินทางกลับสนามบินเพื่อความคุ้มเราก็ไปทานข้าวเย็นฟรีกันที่ ฺฺBangkok Airway Blue Ribbon Club Lounge เล้าจ์จะอยู่บริเวณชั้น2 ด้านนอกยังไม่ต้องผ่านจุดแสกนกระเป๋าเข้าไป อาหารร้อนของวันนี้ก็จะมี เกี๊ยวกุ้ง บะหมี่เป็ดย่าง สปาเก็ตตี้ ข้าวซอย ผมจัดเกี๊ยวกุ้งไปอร่อยดี

อิ่มแล้วก็เข้าไปใน Gate ผ่านจุดแสกนกระเป๋าเพื่อรอขึ้นเครื่อง และเพื่อควมคุ้มอีกแล้วก็เลยขอแวะไปทานของหวานใน Thai Airways Royal Orchid Lounge เล้าจ์จะอยู่บริเวณ Gate 3 ระหว่างรอเรียกขึ้นเครื่องก็จัดของหวานเป็นอันปิดท้ายทริปเชียงใหม่ 2 วัน 1 คืน ทริปนี้ครับ

เป็นอันจบทริปถูกทราเวล ประหยัดคุ้มค่า อิ่มจุกกันไป

Took_Travel

 วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 เวลา 18.36 น.

ความคิดเห็น