สวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่านนนนน
วันนี้จะมาเขียนรีวิวเที่ยว สิงคโปร์ 3 วัน 2 คืน กัน ด้วยงบ 5,000 บาทเท่านั่น โดยราคานี้หารกับแฟน2คนนะ (ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน) ใครสะดวกสายการบินใหน ราคาไหนก็แล้วแต่เลยจ้า ส่วนของเรานั่น ได้จองไปกับ Airasia ตั๋วsuper+ราคาไป-กลับ คนละ 3,400 บาท โดยเราได้วางเพลนไว้คราวๆว่า จะใช้เงิน3วัน ที่อยู่ที่สิงคโปร์คนละ3,000 บาทก็น่าจะพอแล้ว เพราะค่าที่พักเราได้กดจ่ายตัดบัตรมาจากที่ไทยเรียบร้อย
ป่ะ !! เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า ว่าโม้หรือเปล่า ไป 3 วัน2คืน หมดไปแค่คนละ 5000 บาท
ส่วนใครถ้าขี้เกียจอ่าน ก็เลื่อนไปอ่านสรุปค่าใช้จ่าย กับ เพลนที่เที่ยว ด้านล่างสุดได้เลยจ้า
Day 1 go to Singapore
รอบนี้บินกับสายการบิน airasia อีกเช่นเคย ไม่ได้สปอน หรืออย่างใด แต่เพราะความที่สมัครเป็นสมาชิค Super+ ไว้ เลยบินกับเจ้านี้บ่อย รอบนี้ กดตั๋ว กรุงเทพ(ดอนเมือง)-สิงคโปร์ ไปกลับ คนละ 3,400 บาท โดยรอบที่ไปสิงคโปร์นั่นคือเวลา 11.20 น โดยใช้เวลาเดินทางประมาน 2 ชั่วโมง 40 นาที เราก็เดินทางมาถึง สนามบิน T4 ที่ประเทศสิงคโปร์ ตอนเวลาบ่าย3 ก็เดินเข้าตม ปกติ อย่าลืม กรอก ICA ก่อนเดินทาง2-3 วันด้วยนะ ถ้าทำไม่เป็นก็ดูลิงค์นี้ได้เลย
ใช้เวลารอตม ไม่นาน ประมาน 10 นาที ก็ผ่านเข้าประเทศเรียบร้อย เมื่อเดินออกมาจาก T4 มองที่ป้าย จะเจอคำว่า ถ้าเข้าเมืองให้ไปนั่งรถที่ T3
รอรถ shutter bus ไปส่งที่ T3
รอประมาน 3-5 นาที รถก็มาแล้ว ฟรีนะ ไม่มีค่าใช้จ่าย นั่งไปลง T3 เลยย
นั่งรถประมาน 10 นาที เราก็มาถึง Terminal 3 ซึ่งถ้าใครมีเวลาว่าง ก็สามารถเดินทางเชื่อมไปเที่ยว jewel ดูน้ำตกก่อนได้ ส่วนเรานั่นวันนั้นตามเพลน เราไว้แวะมาชมตอนขากลับ ก็ลงบันไดเลื่อนตามป้าย train to city ได้เลยจ้า
พอเดินลงไป ก็ใช้บัตร Youtrip ที่สมัครไว้ (ตั้งแต่อยุ่ที่ไทย ) หรือบัตรอื่นๆก็ใช้ได้ หรือจะเป็น บัตรของสิงคโปร์ ez-link ก็ใช้ได้เช่นกัน ตี๊ดเข้าแล้วก็เดินไปทางขวา เราจะนั่งสาย East west line - tuas link ไป (นั่งไป 2 สถานี ตรงนี้จะสุดสายแล้วต้องต่อสาย tuas link ) เข้าเมืองอีกรอบ ไม่ต้องกลัวจะหลง เพราะคนอื่นเค้าก็ลงที่นี้กันหมด นั่งไปประมาน 7-8 สถานี เราก็มาลงที่ Tanjong pagar แล้วเดินไปยังโรงแรม
ถนน หนทางที่นี่ ดีเลิศสุด คือไม่ต้องยกกระเป๋าเลย ทุกขอบฟุตบาท มีจุดให้ลากขึ้นลากลงได้หมด
ถึงแล้ว Wink Hostel @downtown เราจองผ่านbooking.com 2 คืน 4,300 บาท เป็นห้องรวม ชาย-หญิง ซึ่งจะมี 4 เตียงใน1ห้อง เป็น Hostel ที่ทำเลดี สะอาด ไกล้ฟู๊ดคอท ไกล้potato head ไกล้ศูนย์อาหารmaxwell ไกล้วัด ชั่นล่างมีร้านโดนัท เซเว่น และเดินทางเข้าเมือง-กลับเมือง สะดวกมาก และนี่ก็เป็นประสมการณ์การนอน hostel ครั้งแรกของเราด้วย
หลังจากเข้าเช็คอิน เก็บของ (เค้าจะมีลีอกเกอร์ให้นะ ไม่ใหญ่มาก แต่ก็เก็บพวกของมีค่าต่างๆได้อยู่) เราก็เดินข้ามถนน มาหาอะไรกินที่ศูนย์อาหาร Amoy Street Food Centre
คิดราคาง่ายๆ 1 ดอนล่าสิงคโปร์ ก็คูณ26 เข้าไป
ถามว่ากินข้าวไม่กินน้ำหรอ ที่ Hostel มีตู้กดน้ำให้เราเติมได้เลย ได้ลองเทสแล้ว กินได้ปกติ ไม่มีกลิ่น ไม่แสบคอ ก็เลย เติมใส่ขวดแล้วพกติดตัวตอนมาเที่ยวรอบเย็นนี้มาด้วย
กินอิ่มกันแล้ว ก็เริ่มออกเดินทาง โดยเราตั้งใจจะไปชมพระอาทิตย์ตกที่ Marina Barrage ซึ่งการเดินทางรอบนี้ จะนั่งMRT รถไฟใต้ดินไป (ตามป้ายเลย)
เข้ามาก็ตี๊ดบัตร youtrip เข้าได้เลย แล้วไปรอฝั่งที่จะไป gardens by the bay
นั่งไป 2 สถานี เราก็ถึง gardens by the bay แต่เราจะไปชมวิวเมืองกันก่อนที่ Marina Barrage ซึ่งเดินเลยออกมาจากสถานี้นิดเดียวประมาน 300 เมตร ก็ถึง Marina Barrage
มาทันช่วงพระอาทิตย์ตกพอดี
คนมานั่งเล่น พักผ่อน ปิกนิก ออกกำลังกาย ที่นี่กันเยอะมาก
สูดกลิ่นความเจริญของบ้านเมืองเค้า
เริ่มมืดแล้ว ตึกก็เริ่มเปิดไฟ สวยงาม
นั่งพัก อยู่นาน เราก็ออกเดินกันต่อที่ Gardens by the Bay เสียดาย ช่วงนี้ มีจัดงาน คริสมาส ถ้าจะเข้าไปด้านใน ต้องเสียตังเพิ่ม เราเลยอด มาจัดงานไรวันนี้ เนี้ยยย5555
ได้แต่ถ่ายรูปอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ
เดินออกไปทาง MRT จะเจอกับสะพาน ข้ามน้ำ เดินทางเชื่อมต่อไปเรื่อยๆจะไปทะลุกับ โรงแรม Marina Bay Sands แล้วก็เดินต่อไปจะมาทางลงไปเป็นห้าง
เข้ามาในห้าง Marina Bay Sands
ช่วงนี้จะปีใหม่ มีการจัดไฟ เวอร์วังอลังการมาก
นั่งพัก หาอะไรสดชื่นๆ ให้หายเหนื่อย ที่ร้าน R&B ที่เหลืออ่านไม่ออก เป็นร้านชา ร้านน้ำ ไข่มุก
จัดน้ำ บลูเบอร์รี่ปั่นไข่มุกมา ดูดที ตาตื่น สดชื่นมาก
นั่งพักอยู่นาน เราก็เดินออกมาจากห้าง มาฝั่งริมน้ำ เพื่อจะเดินไปยัง สะพาน Helix Bridge
อยู่จนดึกจนดืน 5 ทุ่ม ก็นั่งรถเมล์ (สายอะไรนั่นจำไม่ได้เลย เพราะมีหลายสายที่วิ่งผ่านแถวที่พัก) เปิด google map แล้วเลือกวิธีการเดินทาง จะแสดงสายรถเมล์ที่วิ่งผ่าน แถวที่พักของเรา
ขึ้น-ลง รถเมล์ก็เหมือน MRT ให้ตี์ดบัตรด้านหน้ารถ พอลงให้ไปตื๊ดบัตรด้านหลัง สะดวกง่าย อีซี่มันนี่
จากรถเมล์ เดินต่อไปประมาน 300 เมตร ก็ถึงที่พัก
แวะเข้าไปซื้อน้ำเปล่าที่ เซเว่น
ราคาสินค้าต่างๆภายใน เซเว่น
ถ้าไม่เคยเที่ยวเลย เห็นราคาคงตกอกตกใจ แต่สำหรับเราแล้วที่เที่ยวมาหลายๆประเทศ ราคาที่เห็นคือ ไม่ได้แพงเวอร์วังอะไรเลย แต่ละที่ของบางอย่างอาจจะถูก บางอย่างอาจจะแพง ต้องเข้าใจประเทศนั่นๆด้วย
Day 2 เวลาช่างผ่านไปไวจริ๊ง
ตื่นสายๆเลย จ้า 11 โมง เดินข้ามถนน ทานอาหารที่ ศูนย์อาหารเดิม
อิ่มแล้ว พร้อมออกเดินทาง เดินไปขึ้นป้ายรถเมล์ เพื่อจะที่ Old Hill Street Police Station
เดินตาม map ไปเรื่อยๆ
ผ่าน Maxwell Food Centre ช่วงเที่ยง คนจะเยอะมาก ถึงมากที่สุด
ผ่าน Buddha Tooth Relic Temple
เดินมาเรื่อยๆ ก็จะถึงป้ายรถเมล์ สายที่เราจะไป Old Hill Street Police Station
นั่งรถเมล์ประมาน 4-5 ป้าย ก็มาถึง Old Hill Street Police Station น่ารัก สวย เด่นมาแต่ไกล
ที่เห็นมืดๆไม่ได้แต่งรูปให้ ดาร์กๆแต่อย่างใด แต่คือฝนจ้า ฝนตก
ตกอยู่ 5 นาที แดดก็ออก
เดินข้ามถนนมา เราก็จะเจอ Fort Canning Park
เดินเข้าไปในสวนเรื่อยๆ ก็จะเจอกับ พันธุ์ไม้นานาชนิด
จุดหมายหลักของเรา ในสวนนี้ ก็คือ ไปให้เห็น Fort Canning Park Tree Tunnel แลนด์มาร์คยอดฮิตของมวลประชา
ใช้เวลาประมาน 20 นาที เราก็ถึง ณ Fort Canning Park Tree Tunnel จริงๆ จะนั่งรถเมล์มาก็ได้ แต่เราเดิน นั่งพัก กินขนม มาเรื่อยๆ ไม่ได้รีบอะไร
ต่อคิวประมาน 2 คิว ไม่ได้ยาวมาก รอประมาน 5 นาที
คิวก็ไม่ได้ยาวนะ แต่ทำไมเรารีบๆถ่าย ก็ไม่รุ้เหมือนกัน มันดูเร่งๆไปหมด ไหนจะมีตากล้องคอยบอกให้ถ่ายมุมนี้นั่น ก็เลย ขีเกียจถ่ายได้มาไม่กี่รูป
เดินออกมา เรื่อยๆเพื่อจะไปป้ายรถเมล์ จุดหมายต่อไปคือ Sultan Mosque
นั่งรถเมล์มาไม่นาน ไม่ทันหายร้อน ก็มาถึง Sultan Mosque
ปัญหาใหญ่มาแล้ว ใหญ่มาก มืดดำมาเลย
ฝนตกกระหน่ำ รอบนี้มานานแหะ เลยตัดสินใจกลับที่พัก แล้วค่อยออกไปเที่ยวใหม่
จริงๆตามเพลน จะต้องไปที่ Fountain of Wealth แต่ฝนตก เค้าจะปิด เลยตัดสินใจไม่ไปดีกว่า ใครไม่โดนฝนเล่นงานเหมือนเรา ก็แวะขอพรที่ Fountain of Wealth ได้นะ
ลงรถเมล์ที่สถานี maxwell
แวะมาลองทาน Tian Tian Hainanese Chicken Rice
สั่งอีท่าไหนไม่รู้้ ได้ผสมมา ได้ลองแล้วรู้สึกว่าที่ไทยเราเหนือชั้นกว่าเยอะเลย หรือสู้ร้านข้าวหน้าหมู ข้าวหน้าเป็ดของเมื่อวานไม่ได้เลย มาลองให้รู้ จะได้คุยกับเค้ารู้เรื่อง 55
หอยนางรมทอด อันนี้อร่อย ให้ 3ผ่าน อยู่ตรงข้ามร้านข้าวมันไก่
น้ำอ้อยร้านเจ๊แกของจริง ไม่ได้กินรสชาตินี้มาตั้งแต่เด็กๆแล้ว โตขึ้นมาอยู่เมืองกรุงก็หากินไม่ได้ ไม่มีเจ้าไหนอร่อยเลย ยิ่งตาม4แยก ยิ่งโยนทิ้ง
กลับมาที่พัก นอนสักงีบ 5 โมงตื่นมา ฝนหยุดตกพอดี ก้เริ่มปฎิบัติการ ไปทัวร์ Sentosa เดินไปขึ้นรถเมล์
มาลงที่ Vivo city ให้เดินเข้าไปในห้าง ไปตามป้าย Sentosa Boardwalk
ฟ้ายังปิดอยู่ รอลุ้นว่าฟ้าจะเปิดใหม่ ช่วงพระอาทิตย์ตก
ไปเกาะ Sentosa มีหลายวีธีให้เลือก ไม่ว่าจะเดินทางด้วยกระเช้า รถไฟ แท๊กซี่ หรือจะเดินก็ทำได้เช่นกัน
เดินประมาน 30 นาที ก็ถึงเกาะ Sentosa
ถึงแล้ว Universal
ไม่ได้จะมาเล่นนะ แต่แวะหาเฉยๆ เป้าหมายหลักของเราคือมาชมพระอาทิตย์ตกที่ทะเลSentosa
ไว้แวะมาเล่น รอบหน้านะ
ชอบอ่านเป็น เหลา เหลา 555ชอบชื่อนี้ ส่วนตัวเคยกินที่ pavilion มาเลเซียมาคืออร่อยมาก ติดใจมาก
แต่พอมากินที่นี่ คือ อิหยั่งว่ะ ไม่เหมือนกันเลยอย่างสิ้นเชิง เนื้อสัมผัส รสชาติความเปรี้ยวคนละเรื่องเลย ผิดหวังคอตกกลับบ้าน 555 มาสิงคโปร์เพื่อสิ่งนี้ ถามว่าอร่อยไหม อร่อยนะ แต่สุ้ที่มาเลเซียไม่ได้จริงๆ
ในที่สุด ก็เดินมาถึงหาด
มาทัน พระอาทิตย์ตกพอดี
มีรถเวียน ไว้ให้บริการไปหาดต่างๆด้วยนะ ซึ่ง sentosa นั่น มีทั้งหมด 3 หาดด้วยกัน คือ Sentosa Siloso Beach ,Palawan Beach ,Tanjong Beach ถ้ามีเวลาว่างทั้งวัน แต่ไม่รู้จะไปที่ไหน ก็มาที่ Sentosa มาเล่นน้ำทะเลที่นี่ได้ ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
เดินกลับไปยัง Vivo city
เดินเข้ามาก็เจอกับ ร้าน yole เห็นมีคนบอกว่า อรอ่ยกว่า เหลาเหลา อยากจะลองนะ แต่ตอนนี้หิวของคาวมากกว่า
คนกินเยอะมาก จริงๆ และแอบเห็นว่า ราคาถูกกว่าด้วย
เดินขึ้นมาชั้น 3 จะเจอกับ Foodrepublic
มีให้เลือกหลายร้านหลายสไตย์ เอาที่ชอบเอาที่อยากกินเลย ส่วนเรานั่นจบที่ร้านอาหารไทย เลี้ยวขวาก็เจอเลย
ให้เยอะมาก อร่อย ราคาเหมือนกันร้านสวนอาหารบ้านเรา ไม่ได้แพงเวอร์วัง
นั่งพัก อัพรูป ชิวๆ ก็ออกท่องกลางคืนกันต่อที่ Merlion เดินออกนอกห้าง ไปนั่งรถเมล์ฝั่งตรวข้าม เพื่อไปยัง Merlion
ถึงแล้ว น้อง Merlion ยามค่ำคืน
Jubilee Bridge
จบไปอีก1 วัน เรานั่งรถเมล์กลับที่พัก แล้วก็นอนพักผ่อน
วันนี้ โชคดีมาก ในห้องไม่มีคนพักเลยนอกจากเรา เหมาห้องนี้กันเลยทีเดียววันนี้ ส่วนเมื่อคืนคืนแรกมีคนมาพักอยู่ 3 คู่ โชคยังดีที่ไม่มีใครกรน เพราะเป็นคนนอนหลับยากมาก ถึงมากที่สุด มาเที่ยวรอบนี้พกดวงมาด้วย
Day 3 ไว้เจอกันใหม่
วันนี้ตื่นเช้าหน่อย เพราะจะไปเที่ยวช่วงรอบเช้า เราก็ทำการเก็บของ เช็คเอ๊าท์ออกแล้วก็ฝากกระเป๋าไว้ที่ hostel ก่อน ช่วงเที่ยงค่อยกลับมาเอา
มาฝากท้องกับร้านเจ๊ คนดีคนเดิม
อิ่มกันแล้ว ก็ออกเดินทางกันต่อ ที่ Potato Head Singapore อยู่ไม่ไกลจากป้ายรถเมล์เมื่อวานมากนัก เดินไปประมาน 20 นาที
เมืองเก่า ที่คุ้นตา เหมือนภูเก็ต ปีนัง มาเลเซีย แต่สะอาดตากว่ามาก
มาถึงแล้ว Potato Head ร้านยังไม่เปิดเลย
เดินย้อนกลับไปถ่ายรูปที่ Buddha Tooth Relic Temple
เดินกลับไปเอากระเป่าที่ฝากไว้กับที่พัก แล้วก็เดินทางไปยังรถไฟMRT เพื่อไปยัง สนามบิน ขึ้นตอนการเดินทางไปสนามบินก็เดินทางเหมือนขามาเลย นั่งรถไฟมาลงที่เดิม ที่ Terminal 3
ออกจากสถานีรถไฟ เราก็จะมุ่งหน้าไปที่ jewel กัน ขึ้นไปตามป้ายเลยจ้า
ซึ่ง jewel เป็นห้าง ที่ติดกับสนามบิน สามารถเดินจากทางเชื่อมระหว่าง T3 ไป jewel ตามป้ายเลย
เดินเข้ามาในห้างjewel เมื่อเดินไปตรงกลางห้าง ก็จะเจอกับน้ำตกในร่มขนาดยักษ์ มันใหญ่อลังการสมคำร่ำลือจริงๆ สวยมาก
แล้วเราก็ออกมารอรถเมล์ หน้าห้างjewel เดินมาตามป้าย เลย ที่เขียนว่า Bus to T4
นั่งรถประมาน 15 นาที เราก็มาถึงสนามบิน Terminal 4 ทำการเช็คอิน แล้วก็รอบินกลับไทยจ้า
แวะทานข้าวระหว่างรอบอร์ดดิ้ง ซึ่งเราบินกลับรอบ 5 โมง 20 ถึงไทยประมาน 1 ทุ่มนิดๆ
มาแจกเพลน 3 วัน 2 คืน ว่าเราไปไหนกันมาบ้าง
Day 1
-Amoy Street Food Centre
-Marina Barrage
-Gardens by the Bay
-Marina Bay Sands Singapore
-ArtScience Museum
-Helix Bridge
Day2
-Amoy Street Food Centre
-Old Hill Street Police Station
-Fort Canning Park /Fort Canning Park Tree Tunnel
-Sultan Mosque
-Maxwell Food Centre
-VivoCity/Sentosa
-Sentosa Siloso Beach
-Merlion
-Jubilee Bridge
Day 3
-Amoy Street Food Centre
-Potato Head Singapore
-Buddha Tooth Relic Temple
-Jewel Changi Airport
สรุปค่าใช้จ่าย (ยังสรุปตัวเลขแปีะๆไม่ได้ ต้องรอให้ทาง youtrip เรียกเก็บค่านั่งบัส รถไฟก่อน)
Day 1
นั่งรถไฟเข้าเมือง ?
นั่งรถไฟไปลง มารีน่าเบร์ ?
นั่งงรถเมลกลับที่พัก?
ข้าวเย็น 9
น้ำองุ่นปั่น 6.7
น้ำเปล่า 2.8
Day 2
อาหารเช้าเช้า 11
นั่งรถเมล์ไปfort?
นั่งรถเมลไปสุลตาน?
ชานม 2.8
นั่งรถเมลกลับที่พัก ?
ข้าวมันไก่ 5
หอยทอด 6
น้ำอ้อย 2
นั่งรถเมลไป universel ?
Ilaollao 7.9
อาหารเย็น 18.50
ต้มยำ 15
นั่งรถเมลไปเมอไลออน?
นั่งรถเมลกลับที่พัก?
Day 3
ข้าวเช้าก๋วยจ๊าบ 5
ข้าวหมูกรอบ 4.5
น้ำมะนาว 1.5
น้ำอ้อย 2
นั่งรถไฟไปสนามบิน ?
ข้าวมันไก่ 9
เลี่ยว หลง เป่า 8
เตี่ยว8.9
ค่าที่พัก Wink hostel@downtown 4,300 บาท
กดเงิน 1600 บาท ได้ 50 SGD (หมดเกลี้ยง) ไว้ซื้อข้าวใน Food center
บัตร Youtrip คนที่ 1 เติม 3000 / ใช้ไป 867 บาท (ยังไม่ได้นับค่าเดินทาง)
บัตร youtrip คนที่ 2 เติม 3000/ใช้ไป 1,096 บาท (ยังไม่ได้นับค่าเดินทาง)
ค่าเดินทาง นั่งMRT และ บัสต่างๆจากYoutrip คนละ 13.48 SGD หรือ 347 บาท 2 คนรวมค่าเดินทาง 694 บาท ถูกมากก (7วันหลังจากกลับมาจากสิงคโปร์ถึงจะคิดเงิน)
รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดในทริป 2 คนใช้ไป 8,857 บาท หารกับแฟน2คน เหลือคนละ 4,278 บาท
คือใช้เงินน้อยกว่าตอนไป เชียงใหม่อีกกกกก
จบแล้วทริปสิงคโปร์ 3 วัน 2 คืน
จริงๆเราก็หาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศนี้เยอะมาก ที่เที่ยว การเดินทาง บัตรที่ใช้จ่าย ก็แอบๆกลัวว่ามันจะใช้เงินเยอะไปไหม จนบอกกับแฟนว่า เทตั๋วไปเลยไหม เพราะเรามีเรื่องให้ต้องใช้เงินอย่างกะทันหัน แต่เราก็มองหน้ากันโดยที่ไม่มีใครปฎิเสธว่าควรทิ้งตั๋ว งั้นเดี๋ยวเพลนทริปเท่าที่เราไปไหว ไปชิวล์ๆ ลองไปนอนhostel กัน คงจะใช้เงินไม่เยอะ สิ่งที่อยากจะแนะนำเป็นอย่างแรกเลยคือ หาที่พักก่อน เลือกที่อยู่ในเมืองจะดีมาก ไกล้ทุกการเดินทาง เมื่อได้ที่พักแล้วก็สมัครบัตร Travel Card ไว้สัก1-2 ธนาคาร ไว้ไปรูดตี๊ดในการโดยสาร ส่วนของเรานั่นใช้ของ Youtrip ไม่ได้สปอนแต่อย่างใด แต่มันก็ใช้ได้สะดวกจริงแหละ หลายๆคนอาจจะมองว่า ประเทศสิงคโปร์อะไรๆก็แพงไปหมด ซึ่งผมก็เป็นอีกคนที่คิดแบบนั่นจริงๆ แต่พอได้ลองมาแล้ว ถึงรู้ว่า มันไม่ได้แพงเวอร์ขนาดนั่น มันราคาสูงกว่าถ้าเทียบกับที่ไทย แต่ถ้าสำหรับเราเทียบกับหลายประเทศๆที่ได้เดินทางมา ราคาค่าใช้จ่ายต่างๆมันไม่ต่างกันเลย หรือเท่ากัน หรือบางอย่างก็ถูกกว่าด้วยซ้ำ เช่น ไปมาเลเดินทางเข้าเมืองค่ารถแพงมาก ไปอินโดจะกินเบียร์ได้ขวดเล็กก็เล่นไป 75 บาทแล้ว ออกไปเปิดโลกกว้าง พบสิ่งใหม่ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราพยายามทำกันมาเสมอ คือถ้าไม่จำเป็นจะไม่กลับไปเที่ยวที่เดิม
อยากให้ไปกันนะ สิงคโปร์ รักนางเข้าให้แล้วจริงๆ
ใจมันได้
วันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2565 เวลา 21.38 น.