ทริปถ่ายรูปบนยอดภูเขาที่สูงเป็นอันดับสามของประเทศไทย

ณ "เชียงดาว 360"

....ความพิเศษของทริปนี้คือ เราจะเดินทางไปทั้ง 4 ทิศ รอบดอยหลวงเชียงดาว ทั้งเหนือ ใต้ ออก ตก เป็นทริปที่เก็บความสวยงามของธรรมชาติอย่างเชียงดาวแบบ 360 องศาเอาไว้ในแต่ละห้วงเวลา

...เชื่อเถอะ...สวยจนคุณอยากจะหยุดเวลา จนบางทีอาจจะอยากหมุนเวลากลับไปเป็นภาพ replay ในความทรงจำในทุกครั้งที่นึกถึงเลย

วันแรก....ผมได้เดินทางไปยัง อำเภอเวียงแหง และผมเลือกที่จะพักที่ “อะกิปุโฮมสเตย์

อะกิปุโฮมสเตย์ตั้งอยู่บริเวณทางเหนือของดอยหลวงเชียงดาว และพึ่งเปิดใหม่เมื่อปี 2022 เรียกได้ว่าใหม่แกะกล่อง มีทั้งบ้านพักและเต็นท์อำนวยความสะดวก ซึ่งเจ้าของของที่นี้ ดูแลดีและเป็นกันเองมาก เค้าชื่อน้องหมัด

ในเย็นวันนั้น เราตั้งใจว่าจะขึ้นดอยค้ำฟ้าด้วยรถกะบะโฟร์วีล เพื่อไปเก็บวิวแรก แต่ฟ้าฝนไม่เป็นใจเท่าไหร่นัก ประกอบกับทางอันตรายเกินไป และเพื่อความปลอดภัยของนักเดินทางอย่างเราๆ เจ้าหน้าที่จึงไม่อนุญาตให้ผมขึ้นดอย ทำให้ผมพลาดเส้นทางทัศนาจรจุดนี้ไป

เราจึงตัดสินใจย้ายที่ไปยัง จุดชมวิวอะกิปุ

จุดชมวิวอะกิปุ เป็นจุดชมวิวที่ต้องอาศัยคนในพื้นที่พาเข้าเท่านั้น Unseen สุดๆ ซึ่งที่นี่ ผมก็ได้ภาพแรกนี้มา เป็นการตัดริบบิ้นประเดิมทริป กับยอดเชียงดาวที่ถูกปกคลุมไปด้วยเมฆ

หลังจากสำรวจพื้นที่ไปได้พักใหญ่ และ รอเวลาให้ท้องฟ้าเปิด ท้ายที่สุดสวรรค์ก็ยังคงไม่เป็นใจ ทำให้เราพลาดโอกาสที่จะได้เห็นยอดดอย และถึงแม้ Mission นี้จะเฟล แต่เราก็ยังได้กลับไปทานอาหารกันที่ที่พัก ได้นั่งล้อมวง และทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมโฮมสเตย์เดียวกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นรวมถึงเจ้าของด้วย เห็นไหม..จอยสุดๆ

เช้าวันที่ 2 ตื่นมาด้วยความหวังว่าจะเห็นยอดเชียงดาวตามที่ตั้งใจ ผมตื่นตั้งแต่เช้าพร้อมๆกับอากาศที่หนาวสุดๆ และเลือกที่จะกลับไปยังจุดเดิม จุมชมวิวอะกิปุ แบกความหวังว่าพร้อมกล่องความทรงจำแบบดิจิตอลติดกระเป๋าไปด้วย หวังว่าวันนี้ธรรมชาติเห็นใจ

....สิ่งที่เราเฝ้าตามรอเริ่มปรากฏขึ้น ในที่สุดเราก็ได้ชื่นชมยอดเชียงดาว ยอดน้อยๆที่ปะปนคลุกเคล้าไปกับทะเลหมอกบางๆ

ผมเฝ้ามอง ผมเก็บภาพ เป็นภาพที่ให้ชื่อว่า “เชียงดาว คู่ดวงดาว” ผมเก็บภาพตั้งแต่เช้ามืดจนกระทั่งแสงแรกของเช้าเริ่มต้นขึ้น มันเป็นวิวแรกที่ประสบความสำเร็จ

จุดนี้......ผมว่าผม....”พอใจแล้ว”..... ฮ่าฮ่า

ยังไงซะวันนี้ก็พึ่งจะวันที่ 2

ทางน้องหมัด เจ้าของโฮมสเตย์ของผม ได้ทำการดริฟกาแฟให้ดื่ม โดยที่จะจ่ายเท่าไรก็ได้ตามใจเลย

หลังจากที่ได้เก็บรูปจนเป็นที่พอใจ ผมก็ย้ายไปอีก 1 จุดชมวิวที่ไม่มีชื่อ ในบริเวณนั้น ซึ่งก็ได้พบกับทะเลหมอกเน้นๆ เต็มภูเขาไปหมด

หลังจากนั้นผมก็กลับมาพักผ่อนตามอัธยาศัยที่โฮมสเตย์ ลืมบอกไปอีกอย่าง ที่นี้ มีร้านกาแฟ แบล็กกราวน์เป็นธรรมชาติสุดโต่ง อย่างวิวภูเขา ให้ได้นั่งชมตามวิถีชาวสโลว์ไลฟ์ด้วย

คืนที่สอง ผมเลือกจะย้ายที่นอนไปยังเมืองคอง โดยเมืองคองตั้งอยู่บริเวณตะวันตกของดอยหลวงเชียงดาว เป็นเมืองแห่งความเงียบ และสงบ...

ผมพักที่พักเมืองคองโฮมสเตย์ เป็นโฮมสเตย์ติดริมน้ำ ที่บรรยากาศดีสุดๆ ก่อนจะถึงเมืองคองผมได้แวะที่อำเภอเชียงดาว เพื่อทานข้าวและเก็บวิวดอยหลวงเชียงดาวใกล้ๆ เพื่อดูความยิ่งใหญ่ของภูเขาลูกนี้ ที่บ้านฮัก เฮือนสุข

ช่วงเย็น ผมได้ขึ้นไปยัง ”จุดชมวิวเด่นทีวี” ด้วยรถกะบะ คนขับเป็นคุณป้าขาซิ่ง ถือคติเจอหลุุมเท่าไหร่เหยียบใส่ให้หมด ตับไตไส้พุงนอกจากจะมากองรวมกันแล้ว เผลอๆ ผมว่ามันมัดเป็นปมไปเลย...

ด้วยระยะทาง 10 กิโล ใช้เวลาประมาณ ครึ่งชั่วโมง วิววันนี้ที่ผมเห็นคือ ดอยหลวงเชียงดาวด้านตะวันตก ที่ซ่อนตัวอยู่หลังม่านเมฆและม่านสายฝนบางๆ...เป็นความสวยงาม ที่น่าประทับใจไปอีกแบบ

นอกเรื่องสักหน่อย....ที่เค้าเรียกว่า ”เด่นทีวี” เพราะว่า สมัยที่เขาทราย นักมวยในตำนานของไทยชกมวยอยู่นั้น บริเวณนี้ จะเป็นบริเวณที่มีสัญญาณโทรทัศน์ เวลาจะมีการขึ้นชกของเขาทราย ชาวบ้านจะยกทีวีและเสาร์อากาศขึ้นมาดูมวยด้วยกันบริเวณนี้ นี่จึงเป็นที่มาของคำว่า “เด่นทีวี” และถ้าคุณเกิดทันดูเขาทรายต่อย ผมว่าคุณไม่เด็กแล้วนะ 55555+

เช้าวันที่สาม ผมกลับไปยัง จุดชมวิวเด่นทีวี ให้รูปพวกนี้บรรยายทุกอย่างเถอะครับ ผมคิดว่า ผมไม่มีคำใดๆมาอธิบายเลยยยย

หลังจากถ่ายรูปจนพอใจแล้ว ก็กลับมาล่องแพชิลๆ ในตัวเมืองคอง เพื่อรับบรรยากาศดีดี ซึมซับกลิ่นธรรมชาติอย่างเต็มที่ที่สุด

คืนที่สามนี้ ผมย้ายที่นอนไปยัง ม่อนเคียงดาว ที่พักที่มีวิวเป็นดอยหลวงเชียงดาว อยู่ทางทิศตะวันออกของดอยหลวงเชียงดาว

ในช่วงเย็นนี้ เราจะได้ไปยัง ”พระธาตุปางแดงใน” ที่ที่นักเดินทางต้องใช้วิธีเดินเท้าไปยังยอด กินเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ก็จะได้พบกับแสงแดดที่สาดส่อง ของพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าเป็นฉากหลังประดับให้ดอยหลวงเชียงดาว

ผมแนะนำว่า ให้เตรียมของกันยุงไปครับ เพราะที่นี่คุณต้องออกรบกับยุงที่เรียกเพื่อนใส่เกราะมาได้เป็นฝูง

พอแสงเริ่มหมด ผู้คนเริ่มทยอยหายไป ผมก็รีบกุลีกุจอลงมา ก่อนที่ฟ้าจะมืดไปมากกว่านี้

เช้าวันสุดท้าย ทิศสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่คือทิศใต้ ผมตื่นตั้งแต่เช้ามึดและเริ่มออกเดินทางไปยัง “ดอยแม่ตะมาน” แต่เช้านี้ พระเอกของเราโดนเมฆปกคลุมทั้งหมด ทำให้พระเอกของเรากลายเป็นพระรองขึ้นมาเลย เพราะธรรมชาติรอบๆดันขึ้นแท่นพระเอกซะแล้วสิ

ผมใช้สายตาจดจ้องมองทะเลหมอกที่มีพร็อพเป็นแสงพระอาทิตย์รำไร ให้เราได้เสพบรรยากาศไปแบบฟินๆ ได้อยู่สักพักนึงทีเดียว

หลังจากนั้นผมก็ย้ายที่ไปยังสันป่าเกี๊ยะ เพื่อไปทัศนาจรต่อที่ดอยหลวงเชียงดาวในจุดสุดท้าย และเช่นเดิมที่นี่ยังถูกปกคลุมไปด้วยเมฆ แต่ผมรับรองได้ว่า..มันสวยไปอีกแบบนะ

...สุดท้ายก็จบทริปสุดพิเศษนี้ เชียงดาว 360 ฉบับเหนือ ใต้ ออก ตก ทั้ง 4 ทิศ ซึ่งทำให้ผมและคุณได้เห็นความงามของภูเขาลูกใหญ่ในหลายๆ แบบ หลายๆ มุม.....

.....ครั้งหน้าเราจะขึ้นไปพิชิตยอดเชียงดาว เอาวิวบนนั้นลงมาอวดโฉม เผื่อคุณๆจะอยากลองออกเดินทางไปสัมผัสความฟินแบบ Excusive ด้วยตาแบบผมในสักวันนึงบ้าง....ถ้าวันนั้นของคุณมาถึงแล้ว มาอวดกันบ้างนะคร้าบบบ......

...ท้ายที่สุดขอขอบคุณน้องซอล แห่งเฟจ Lifeplorer ที่เป็นไกด์พาเก็บภาพในทริปนี้ครับ

becauseworldwide

 วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2566 เวลา 09.24 น.

ความคิดเห็น