ไม่มีรถแล้วยังไง ก็คนจะไปก็ต้องไป
หน้าฝนมันจะเที่ยวสนุกหรอ? เรากลัวเราห้ามได้หรอ งั้นก็ตกมาเลยได้ลุยเที่ยวมันทั้งหยั่งนั้นแหละ
ถ้าตั้งใจจะไปแล้วเราก็ต้องไป อย่าไปกลัวสิ่งที่กำหนดไม่ได้
ใครสนใจเที่ยวแบบ One Day Trip ด้วยงบเพียง 390 บาท ก็ไปได้นะ เราเขียนให้ไว้ด้านล่างแล้ว
เตรียมตัวก่อนวันเดินทาง ด้วยงบเพียง 2,000 เท่านั้น
เราเริ่มจากวางแผนคร่าวๆไว้ซักนิดส่วนที่เหลือไปแก้เอาหน้างานละกันเนอะ
เราหาข้อมูลต่างๆตาม Google แล้วเลือกจองที่บ้านพักของอุทยานเลยเพราะเราไม่มีรถส่วนตัว และอีกเหตุผลคือเราได้เดินทางไปเที่ยวก่อนใครๆ คนก้น้อยวิวก็สวยด้วย นี่ลิ้งขออุทยานนะครับเผื่อใครสนใจ
http://www.dnp.go.th
เริ่มต้นการเดินทาง วันที่ 1
เราเริ่มการเดินทางโดนการมารอขึ้นรถตู้วินแฮปปี้ กทม.-กาญจนบุรี รอบเช้าสุดเลยเพื่อให้มีเวลาเที่ยวมากที่สุด โดยรถรอบแรกที่เราได้ออกเวลา 5.30 น. วินอยู่ใกล้ๆห้างเซนจูรี่ โดยราคาตั๋วไปเมืองกาญจนบุรีราคา 120 บาท
สงสัยมาเช้าไปนิดทันพระท่านพอดี เลยใส่บาตรก่อนเดินทางซะเลยเนอะเรา
เวลา 5.30 น. ขึ้นรถแล้ว ทั้งคันมีอยู่ 4 คน ออกเดินทางสู่เมืองกาญจนบุรีกันเลยย
เวลา 7.35 น. เราก็ถึง บขส.เมื่อกาญจนบุรี เราก็เดินไปซื้อตั๋ว รถเมย์ กาญ - เอราวัณ รอบแรกออก 8.00 น. กันก่อนเลยเพื่อจะได้ที่นั่งที่วิวสวยๆ
เราก็เดินไปซื้อตั๋ว รถเมย์สาย 8170 กาญจนบุรี - เอราวัณ โดยรอบแรกรถออกเวลา 8.00 น.
ไปเลือกที่นั่งกันก่อนเลยดีกว่าเพื่อจะได้ที่มีโอกาสเลือกนั่งที่วิวสวยๆ ไปคนแรกของรถเลยยังไม่มีใครมากันเลย เลือกที่ตามชอบเลย.....!!!
มาเติมพลังกันซักนิดก่อนเดินทางดีกว่า นั่งรถ 1.30 ชม. เดี๊ยวจะหมดแรงซะก่อนนน
รถรอบแรกนี้มีคนไทยเพียงแค่ 6 คนเอง ที่เหลือต่างชาติหมดเลย เห็นรถเป็นแบบนี้คนเต็มนะครับไม่น่าเชื่อ
นั่งรถเสพบรรยากาศข้างทาง ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามวิถีชีวิต SlowLife
เราถึงอุทยานแห่งชาติเอราวัณ 9.30 น. ค่าเข้าไปข้างในอุทยานคนต่างชาติ 300 บาท / คนไทยคนละ 100 บาท
(ถ้าใครมีบัตรนักศึกษาค่าเข้าจะลดเหลือเพียง 50 บาท ประหยัดไปได้ครึ่งนึง) ท่ารถเมย์จะอยู่ตรงลานจอดรถของอุทยานเลยเวลาใครจะไป-กลับ ก็สบายขึ้นเยอะ
ระยะทางเดินเข้าไปน้ำตกเพียงแค่ 500 เมตร ถ้าใครไม่อยากเดินทางอุทยานเค้ามีรถให้เป็นทางเลือกด้วยไม่แน่ใจว่า 30บาท/เที่ยว รึเปล่านะ
ป่ะ.....เราไปเดินเล่นน้ำตกกันดีกว่า
พักที่จุดชมวิวก่อนนะเหนื่อยยย ไม่ไหวแย้ววววว
และแล้วเราก็ถึงจุดสูงสุดของอุทยานแล้ว
เรามาช่วงหน้าฝนแต่น้ำก็ยังน้อยอยู่มากเลยปกติจะเยอะกว่านี้
ชั้นที่น้ำสวยส่วนตัวว่า ชั้น 2 กับ ชั้น 7 น้ำออกเป็นสีฟ้าๆ
แต่ถ้าชั้นที่เล่นมันสุดเราว่าชั้น 4 เพราะชั้นนี้มีสไลเดอร์ให้เล่นด้วยสนุกมากตรงนี้ไปกี่ครั้งพลาดไม่ได้เลย
*แต่น้ำลึกมากๆ ต้องว่ายน้ำเป็นหน่อยนะครับขาลงไม่ถึงพื้นเลย สนุกรองลงมาก็ต้องชั้น 2 เพื่อนเล่นเยอะด้วย
16.00 น. และเราฝนเริ่มลงมา เราเข้าที่พักกันดีกว่าเก็บแรงหน่อย
ข้าวกลางวันก็ยังไม่ได้กินเลยกินแต่ขนมที่เอาติดมา ก่อนเข้าแวะก่อนก่อนเลยละกันดีกว่าา
อาหารก็ไม่แพงเท่าไหร่ 50-70 บาท เท่านั้นเอง
นี่คือบ้านพักของเราที่นี่ก็ไม่ได้แย่นะครับ เงียบสงบดี
ภาพลานจอดรถตอน 18.30 น. โล่งหมดเลย เหลือแต่คนที่นอนบ้านพักเดินมากินข้าวกัน
วันแรกของจบไปด้วยความสนุกและเหนื่อยล้า ของน้ำตกชั้น 4
วันที่ 2
เราตื่นขึ้นมาตอน 6.20 น. เพื่อที่เรามุ่งหน้าไปน้ำตกตั้งแต่เช้าจะเอาบรรยากาศตามทางก่อนใคร
ไปนั่งเล่นอยู่ที่ชั้น 2 อยู่กลุ่มเดียว น้ำตอนเช้านี้เย็นมากแทบไม่กล้าเล่นเลย เล่นคนแรกของวันก็เลยแอบวังเวงๆ
( นอนบ้านพักอุทยานก็ดีตรงนี้แหละ ไม่ต้องแย่งกลับใครตื่นเช้าก็เดินมาได้เลย )
จนเวลา 9โมงกว่าๆ คนถึงเริ่มทยอยมากันแล้ว เราก็กลับดีกว่าไปเตรียมตัวของเราบ้างดีกว่าา
11 โมงเราก็ออกมาซื้อตั๋วรอบ 12.00 น. วางเป๋าแล้วไปหาไรกินข้าวก่อนกลับซํกหน่อย
[u]สรุปค่าใช้จ่าย
ค่าห้องพักอุทยาน 800 บาท
ค่าหมูปิ้ง 29 บาท
ค่ารถตู้ไป 240 บาท
ค่ารถเมย์ไป 100 บาท
ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน 100 บาท ( ใช้บัตรนักศึกษายื่นด้วย )
ข้าวเย็น 204 บาท
รถเมย์กลับ 100 บาท
ข้าวกลางวัน 184 บาท
รถตู้กลับ 240 บาท
รวมทั้งหมด 1,994 บาท
ตกคนละ 998.50 บาท งบไม่เกิน 1,000 2 วัน 1 คืนก็ได้สบายกระเป๋าดีด้วย
เผื่อใครสนใจเที่ยวแบบ
ด้วยงบเพียง 390 บาท
รถตู้ 120 * 2 = 240 (ไป-กลับ)
รถเมย์ 50 * 2 = 100 (ไป-กลับ)
ค่าเข้าอุทยาน 50
PeatParin
วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 เวลา 21.12 น.