10 Days | 6 Cities

Osaka - Kyoto - Nara - Takayama - Shirakawago - Tokyo


กลับมาอีกครั้งกับการพาเที่ยวญี่ปุ่นฉบับง่ายๆ และบ้านๆ ค่าา ≖‿≖

สืบเนื่องจากปีที่แล้วเราไปญี่ปุ่นมา ไปกับทัวร์มันเที่ยวไม่สะใจเท่าไหร่
ปีนี้ก็เลยวางแผนไป Backpack กับเพื่อนๆ ค่ะ โดยช่วงที่เราไปนั้นเป็น
ช่วงที่ตั๋วเครื่องบินลดราคาหรือพูดง่ายๆ คือ Low season ทำให้วิวทิวทัศน์
อาจจะไม่ได้แกรนด์ปังอลังการ ไม่มีหิมะ ไม่มีซากุระ แถมต้องมาลุ้นวันฝนตกอีก

แล้วจะไปทำอะไรดี ? ไปชมกันเลยค่าาา



✧ ก่อนออกเดินทาง

PLAN

จองตั๋วเครื่องบิน

พอตกลงกับเพื่อนๆ ให้ว่างพร้อมกันได้ (สักที) ก็เช็คราคาตั๋วค่ะ

ช่วงนั้นมีโปรโมชั่นลดราคาพอดี สุดท้ายแล้วเลือกไปวันที่ 5-16 มิ.ย. ค่ะ

โดยวันที่ 5 กับ 16 เราจะนั่งเครื่องบินกันทั้งวันเลย 55555

บินตรงกับ AirAsia X ราคาไปกลับประมาณ 9,xxx (รวมน้ำหนักกระเป๋า 15 kg แล้วค่าา)


ที่พัก

เนื่องจากเราไปกันหลายเมืองทำให้ต้องจองแยกหลายครั้งนะคะะ

Osaka

เราพักที่โอซาก้า 4 วันค่ะ ที่พักจอง airbnb ไป เป็นอพาร์ทเมนท์

โดยวิธีการจองคือทักไปสอบถามกับโฮสท์โดยตรงผ่านเว็บ airbnb เลยค่ะ

สถานีใกล้ที่พักที่สุดคือ Nipponbashi กับ Ebisucho มีเซเว่นอยู่ด้านหน้าเลยด้วยค่ะ สะดวกดี



Takayama - J-hoppers

จองผ่านเว็บโดยตรงเลยเช่นกัน เป็นโฮสเทลห้อง mixed dorm ค่ะ

คืนละประมาณ 800 บาท (ถูกม้ากก) แต่ทีนี้มีปัญหาก็คือ

วันเสาร์คนเยอะมาก ทำให้เต็ม เราเลยต้องจองเว้นวันไป แล้วไปนอนที่ชิราคาวาโกะคืนนึง



Shirakawago - Shirakawa-go Hostel

จองผ่านเว็บ Booking แบบจองก่อนจ่ายทีหลังค่ะ ปรินท์ใบจองไปให้เค้าเลย

ที่พักที่นี่น่ารักมากกกก โฮสท์ใจดีมากค่ะ ที่พักเป็นเรียวกัง แต่ดันเป็นวันหยุด ทำให้ราคาเอาเรื่องเหมือนกัน

โฮสเทลจะอยู่ห่างจากตัวถนนหลักของชิราคาวาโกะออกมานิดนึงค่ะ ทำให้สงบมาก



Tokyo - Bunka Hostel

จองผ่านเว็บไซต์ของเค้าเลยค่ะ เป็นโฮสเทลห้อง mixed dorm อีกเช่นกัน

ดีไซน์ของโฮสเทลล้ำมาก มินิมอลสุดๆ ให้อารมณ์คล้ายๆ นอนแคปซูลเลยค่ะ ที่พักจะอยู่โซน Asakusa

ใกล้วัดเซนโซจิกับโตเกียวสกายทรี รอบที่พักจะเป็นย่านของกินกับห้าง Rox ค่ะ ช็อปสบ๊าย



Pocket Wifi

ใช้ของ BS-Mobile ค่ะ มีทริคนิดนึงคือให้เลือกรุ่นที่มันใหม่ที่สุด

เพราะว่าเจอพี่ที่ไปเที่ยวด้วยกันบอกว่ารุ่นเก่าเน็ตจะติดๆ ดับๆ เล่นไม่ค่อยลื่นค่ะ

ส่วนของเราตลอดสิบวันนี่แม้แต่บนเขาก็ยังมีสัญญาณค่ะ 55555

ราคาตกวันละ 280 บาท วันที่ 7 เป็นต้นไปเหลือวันละ 100 บาทค่าา


PASS

ด้านล่างเป็น pass ทั้งหมดที่ใช้ในการเดินทางทริปนี้ค่าา

กดสปอยล์ดูรายละเอียดได้เลยย (ยาวมากและละเอียดมาก)

- Osaka Amazing Pass 1 Day (2300¥)

เรียกได้ว่าขึ้นผิดก็แตะเข้าแตะออกจนคุ้ม 5555 ใครกะว่าจะอยู่โอซาก้าทั้งวันก็เต็มที่กับพาสนี้เลยค่า เข้าได้ทั้งพิพิธภัณฑ์ทั้งหลายเช่น art museum อควาเรียม สวนสัตว์ คือเรียกได้ว่าใช้สิทธิ์กันคุ้มทั้งโอซาก้า แต่โชคร้ายที่วันที่เราใช้พาสนี้ฝนดันตก ทำให้ไม่ได้ไปหลายที่มากๆ T-T

* ซื้อได้ที่ information center สถานีใหญ่ๆ เช่น namba กับ umeda

* แบบ 1 วันนั่งรถไฟฟ้าได้มากกว่าแบบ 2 วันนะคะ

ดูรายละเอียดได้ที่เว็บนี้เลยค่าา http://www.osaka-info.jp/osp/en/index.html


- Kyoto Sightseeing Pass 1 Day (1,200¥)

อันนี้เป็นความผิดพลาดดด พนักงานที่สถานีบอกเราว่าจริงๆ ไม่ต้องซื้อ Kansai Thru Pass ก็ได้เพราะมันไม่คุ้ม แต่เอาเข้าจริงๆ อันนี้แหละไม่ค่อยคุ้มกว่าอีก คือนั่งรถเมล์กับรถไฟฟ้า(ไม่กี่สาย) ได้อย่างเดียว พวกลดราคาค่าเข้าสถานที่ก็แทบไม่ได้ใช้เลยค่ะ *เสียใจ* แนะนำว่าซื้อ Kansai Thru Pass ไปเถอะ

* วันที่ไป Nara เราก็เลยไม่ได้ใช้พาสค่ะ คือนั่งรถธรรมดาไปแล้วเช่าจักรยานที่นู่นเอา


- Takayama-Hokuriku Pass 5 Day (13,500¥)

พาสที่โคตรคุ้มที่สุดในทริป จากราคาแล้วดูเหมือนจะโหดร้ายใช่มั้ยคะ (ประมาณ 4,500 บาทไทย) แต่จริงๆ นี่แค่นั่งรถไฟข้ามภูมิภาคก็คุ้มแล้ว สำหรับพาสนี้เราใช้เพื่อเดินทางข้ามจากโอซาก้าไปทาคายาม่าค่ะ โดยเราสามารถใช้รถ Thunderbird, Shinkansen Tsurugi, Hida wide view รวมถึงบัสของ Nohi แบบไม่จำกัดรอบ / เรายอมนั่งอ้อมไปๆ มาๆ เพื่อให้ได้นั่งชินคันเซ็นเนี่ยแหละค่ะ ทั้งที่จริงๆ บัสต่อเดียวก็ถึงทาคายาม่าได้แล้ว 5555555

* ต้องซื้อจากไทยไปนะคะ เราซื้อจาก H.I.S

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่นะค้า http://touristpass.jp/en/takayama_hokuriku/


- Tokyo Subway 48-hour Ticket (1,200¥)

ได้อยู่โตเกียว 2 วันเลยเลือกพาสนี้มาค่ะ เพราะส่วนใหญ่ที่ๆ ไปไม่ได้ใช้ Loop line เลยใช้ใต้ดินเอา 48 ชั่วโมงนี่คือนับชั่วโมงจากครั้งแรกที่เราใช้งานพาสค่ะ ไม่ได้นับจากรอบสุดท้ายของรถไฟของวันนั้น


พูดเรื่อง Pass ไปแล้วขอพูดเรื่องรถไฟบ้าง

หลายคนที่ไปแบคแพคญี่ปุ่นครั้งแรกคงจะงงก่งก๊งเรื่องรถไฟ เพราะรถไฟบ้านเค้ามันมีหลากสีสายรุ้งเห็นแล้วชวนงงละเกิน

นอกจากจะมีหลายสายแล้วยังมีหลายแบบหลายขบวนอีกกก ทำยังไงดี! เรามีวิธีซื้อตั๋วกับเช็ครอบรถไฟมาฝากค่าา

(เครดิตรูปเครื่องซื้อตั๋วจากกูเกิ้ลนะคะ ไม่ได้ถ่ายของจริงมา)


หลังจากเวิ่นเว้อมาเยอะ หลังจากนี้จะแปะรูปรัวๆ แล้ว

ไปบุกญี่ปุ่นกันเล้ยยย!



✧ DAY 0 / 5.06.16

DMK - KIX

เรียกว่าเป็นวันบินละกัน เพราะไฟลท์เราออกบ่ายสองถึงนู่นเกือบสี่ทุ่ม

✧ Arriving

พอเครื่องแลนด์ปึ้บก็รีบหยิบสัมภาระแล้ววิ่งสี่คูณร้อยตรงมาที่ ตม. เลยค่ะ

โชคดีที่มาต่อคิวต้นๆ เลยผ่านมาแบบสบายๆ ไปรับกระเป๋าแล้วก็วิ่งไปกดตั๋วขึ้นรถไฟฟ้า

(กลัวรอบรถไฟจะหมดและไม่อยากนั่ง shuttle bus เพราะไกลจากที่พัก 555)



กว่าจะเดินถึงที่พักนี่ก็ลากกระเป๋ากันเหนื่อยเลยทีเดียว

เก็บของเสร็จก็อาบน้ำนอนเก็บแรงเลยค่ะ เพราะวันต่อไปเราจะบุกสวนสนุกกัน

Universal Studio Japan นั่นเองงงง



✧ DAY 1 / 6.06.16
Universal Studio Japan

ตื่นเช้าเดินไปสถานี Namba กัน

ชีวิตเร่งรีบของเหล่าซาลารี่มัง

จะบอกว่าขนาดมาตอนสวนสนุกเพิ่งเปิดคนยังล้นเลย

แนะนำให้ซื้อ Express pass มาค่ะ ไม่งั้นรอยาวแบบเราแน่ๆ

พอถึงตรงเกทแล้วก็ยื่น QR โค้ดที่จองผ่านเว็บให้พนักงานสแกนเลยค่า

สำหรับโซนที่เราจะไปโซนแรกก็คงหนีไม่พ้นโซนยอดฮิต

ที่เหล่าพ่อมดแม่มดใฝ่ฝัน นั่นก็คือ The Wizarding World of Harry Potter นั่นเองงง

ผ่านประตูหน้ามาได้แล้ววิ่งให้เร็วที่สุดเลยค่ะ เพราะคนที่มาต่อแถวรอกดบัตรคิว

เข้าโซนแฮร์รี่นั้นเยอะมากก ยิ่งมาเช้ายิ่งเลือกรอบเข้าได้เร็วน้า

รถพ่อรอนในป่าต้องห้ามค่ะ มีความเยิน

Hogsmeade ค่าา มีซาวน์แทร็กแฮร์รี่ประกอบด้วย เพิ่มความอิน

Hogwarts Express 9 3/4

แม่มด

หลังจากเดินเล่นในฮอกส์มี้ดได้นิดนึง เราก็ไปต่อแถวเล่นเครื่องเล่น

Harry Potter and the Forbidden Journey ค่ะ เราไม่ได้ซื้อ Express มา

ต่อแถวประมาณชั่วโมงกว่าๆ ค่ะ แต่เพื่อแฮร์รี่เราทำด้ายยยย

เล่นเสร็จแล้วขอบอกว่าถึงกับน้ำตาซึมเลยค่ะ คือมันดีมากกก

สำหรับแฟนคลับแฮร์รี่พอตเตอร์คือต้องมาจริงๆ อะ visual สมจริงสุดๆ

ตอนในสนามควิดดิชกับผู้คุมวิญญาณไล่ล่านี่คือกรี๊ดกันเป็นแถบเลยค่ะ 555

ออกมาจากปราสาทก็มาต่อแถวรอเล่น Flight of the Hippogriff ต่อ

ระหว่างต่อก็จะเห็นบ้านแฮกริดกับแปลงฟักทองของแฮกริด จากในบ้านก็จะมีเสียง Fang เห่าตลอดเวลา

หลังจากนั้นก็มาช็อปปิ้งตามร้านต่างๆ ในฮอกส์มี้ด ขายไตได้นี่ขายค่ะ

ของทุกชิ้นน่าสะสมมาก เราเองซื้อแผนที่ตัวกวนกับไม้กายสิทธิ์ของเฮอร์ไมโอนี่มาค่ะ

ใครที่ซื้อแบบ Interactive Wand มาสามารถไปร่ายคาถาตามโซนต่างๆ ได้ค่าา

จะเห็นเด็กๆ มาต่อแถววิงการ์เดียมเลวิโอซากันเต็มไปหมด

โชว์จากสาวๆ โบซ์บาตงและหนุ่มๆ เดิร์มแสตรงก์ค่าา

เดินเล่นจนเหนื่อยก็มานั่งพักที่ร้าน Three Broomsticks ค่ะ

ออกมานั่งข้างหลังจะเห็นวิวปราสาทเต็มๆ จิบ Butterbeer ไปพลางๆ คือรสชาติมันประหลาดมากก

มีกลิ่นวานิลลากับคาราเมล นอกนั้นไม่รู้มันคืออะไร 5555

/ แบบธรรมดาจะเป็นแก้วพลาสติก แบบสะสมจ่ายเพิ่ม 1100¥ จะเป็นแก้วแบบในรูปเยยย

ต่อจากโซนแฮร์รี่เราจะไปลุยกันที่ Jurassic Park ค่ะ

นั่นคือ Jurassic Park: The Ride เป็นการทัวร์พาร์คที่ชิลมาก

อารมณ์ซุปเปอร์สแปลชบ้านเราเปียกนิดหน่อย ไดโนเสาร์น่ารักมากค่ะ 55555

กับอีกหนึ่งเครื่องเล่นคือ Jurassic Park: The Flying Dinosaur สำหรับคนที่ชอบความสูงนี่เหมาะมาก


ต่อแถวนานสุดๆ แนะนำว่าซื้อ Express เถอะ เรารอประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งกว่าจะได้เล่น

ระหว่างยืนรอก็จะมี soundtrack ของ John Williams คลอๆ ไป ฟังแล้วรู้สึกเหมือนไดโนเสาร์จะโผล่มาตลอดเวลา



ดูจากรูปก็น่าจะรู้ว่ามันนรกมาก คนญี่ปุ่นที่นั่งข้างๆ ถึงกับอุทานว่า "โอก้าซังงงงงงงง"

คือนอกจากมันจะเหาะแล้วมันยังหมุนอีกด้วย คือเป็น simulator การบินของ Pteranodons

ตอนขึ้นไปได้แต่จินตนาการว่าถ้าอีที่ล็อคหลุดชีวิตชั้นจะบินไปกับมันมั้ยยยย ฮือออ น่ากลัวมาก

ต่อไปเป็นบรรยากาศในโซนอื่นของ USJ ค่าา

ปิดท้ายด้วยขบวน Magical Starlight ค่าา


✧ DAY 2 / 07.06.16
OSAKA
หลังจากที่เมื่อวานเต็มที่กับสวนสนุกไปหน่อย ทำให้น็อคค่ะ
ตื่นสาย กว่าจะออกจากที่พักก็ 10 โมงกว่าแล้ว 55555

เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการไปซื้อ Osaka Amazing Pass ที่สถานี Namba
แล้วก็ต่อมาลงที่สถานี Tennoji เสียดายที่วันนี้ฝนตกเลยไม่ได้เข้าไปในสวนสัตว์กัน
เปลี่ยนเป้าหมายเป็น Art Museum แทน

ด้านในพิพิธภัณฑ์ห้ามถ่ายรูปค่ะ แต่งานที่อยู่ด้านในทำให้เด็กที่เรียนสถาปัตย์อย่างพวกเราร้องว้าวไปตามๆ กัน

เรียกว่างานละเอียดมากกกก สงสัยเหมือนกันว่าเมื่อก่อนทำได้ยังไง เช่น งานแกะสลักไม้เป็นพระพุทธรูป

งานปักผ้า งานวาด รวมถึงพวก porcelain ต่างๆ ด้วย ถ้ามีเวลาแนะนำให้เข้าไปชมกันค่ะ


✧ Kindai University

หลังจากเที่ยวพิพิธภัณฑ์เสร็จก็ตัดสินใจอยู่นานว่าจะไปไหนต่อดี

ด้วยความตั้งใจมาติ่ง Free! จึงนั่งรถไปต่อมาที่สถานี Nagase ค่าาา แล้วเราก็มาถึงต้นแบบของโรงเรียนซาเมะซึกะ

โรงเรียนของฉลามน้อยรินนั่นเองง



โรงอาหารต้นแบบบ

โซรินน


หลังจากทัวร์ซาเมะซึกะเสร็จ ก็มาปราสาทโอซาก้าค่า ฝนตกหนักมาก

ฟ้าขาวมาเลยย

หลังจากเดินดูรอบๆ เสร็จเราก็มาที่ห้าง HEP FIVE ค่ะ

ไปขึ้นชิงช้าสวรรค์กันนน

วิวซิตี้สเคปด้านบนแรร์มาก


ระหว่างรอเพื่อนไปเข้าห้องน้ำก็เตะตากับนี่พอดีค่ะ

กูเดทาม้าาาา~ ก็เลยชวนกันเข้าไปทำตัวเป็นไข่ขี้เกียจซักแว้บนึงง

ตอนออกมาจากห้างก็เจอสองหนุ่มร้องเพลง Wherever you are ของ One OK Rock อยู่ค่ะ

ถึงกับหยุดฟังเลยทีเดียวว เพิ่งคุยว่าจะมาซื้ออัลบั้มเองง


✧ Dotonbori - Shinsaibashi

หลังจากวันนี้ไปเราก็มาเดินที่นี่ทุกวันเพื่อหาของกินค่ะ เป็นทั้งย่านช้อปปิ้งและย่านของกินในเวลาเดียวกัน

แลนด์มาร์กของโอซาก้า - ป้ายกูลิโกะ

✧ ปิดท้ายวันด้วยการล่าของอร่อยที่ #1

Ichiran Ramen : ราเม็งข้อสอบ

สาขาที่อยู่ริมแม่น้ำคนเยอะมากกก เลยเดินมาอีกสาขานึงในซอยอีกฝั่งค่ะ กูเกิ้ลได้

วิธีสั่งก็คือจะมีใบมาให้เราวงว่าอยากได้ความเข้มข้นระดับไหน เส้นแบบไหน ใส่อะไรเพิ่มมั้ย

หลังจากนั้นก็ไปกดที่ตู้ตามที่เราเขียนไว้ค่ะ

บรรยากาศก็จะเป็นโต๊ะที่มีที่กั้นค่ะ (สามารถเอาออกได้) เหมือนในห้องสอบเลย

เราจะได้ใจจดใจจ่อกับรสชาติที่แท้จริงของราเม็งค่ะ เวอร์ไปนั่นน

เส้นนุ่ม น้ำเข้มข้นมากกกค่ะ หอมๆ มันๆ บอกไม่ถูกแต่อร่อยมาก รับไป A+


✧ DAY 3 / 08.06.16
KYOTO

ปีก่อนที่เรามาญี่ปุ่นมีคนบอกว่า ไหนๆ ก็ไป Little Kyoto มาแล้ว
ครั้งหน้าอย่าลืมมาเกียวโตจริงๆ ด้วยนะ ปีนี้เรามาตามที่คุณคนนั้นบอกแล้วนะคะ เย้ๆ

นั่งรถไฟมาจากสถานี Osaka ไปลงที่ Kyoto เลยค่า

มาถึงสถานีเกียวโตกันแล้ว ซื้อพาสอะไรเสร็จเรียบร้อยก็เดินมารอขึ้นรถบัสกันเลยจ้าาา

ดูป้ายให้ดี ถ้าไม่ชัวร์ถามคุณลุงที่สถานีได้เลยค่า (ตรงป้ายแผนที่) เขาพูดอิ้งเก่งมาก


✧ Arashiyama

มาเที่ยวตรงส่วนที่ไกลสุดกันก่อนเลย เป้าหมายของเราคือป่าไผ่นั่นเองงง

แต่ได้แวะเที่ยววัดกันนิดหน่อย

หลังจากนี้ไปเราจะเห็นคนใส่ยูกาตะกันเต็มเมืองเลยค่ะ

Jinkirisha - คล้ายๆ รถม้าแต่ใช้คนขับเคลื่อน พี่ต้องถึกขนาดไหนคะะะ

วัด Tenryuji เป็นวัด Zen ค่ะ

ถัดจากวัดมาอีกนิดนึงก็ถึงป่าไผ่แล้วว

ได้ยินเสียงเพลงดังมาไกลๆ เดินมาดูเป็นพี่คนนี้กำลังเล่นดนตรีอยู่ค่ะ

ไม่รู้ว่าเรียกว่าเครื่องอะไรแต่เสียงเพราะมากๆ เป็น soundtrack ของป่าไผ่ได้ดีเลย

ฟังแล้วสงบ

วัด Kinkakuji ค่ะ ไกลม้ากกกกก ได้เดินถ่ายรูปแปปเดียวเอง

ระหว่างทางไป Fushimi Inari

✧ Fushimi Inari Shrine

เพิ่งรู้ว่าเสาที่ตั้งอยู่นี่ไม่ใช่ระยะสั้นๆ เลยค่ะ คือมันยาวจนขึ้นเขาไปเลย

เดินไปครึ่งทางก็ไม่ไหวแล้ว / หามุมถ่ายที่ไม่มีคนยากมากก

จิ้งจอกขาวว

"อร่อยมากๆ!"

พี่คนขายเนื้อย่างได้กล่าวไว้(พูดไทยด้วยนะ)

เชิญชวนให้เพื่อนเราเสียสตางค์กันไปคนละไม้ 5555555

กลับจากเกียวโตมาเราก็หาของขึ้นชื่อของโอซาก้ากินกันค่ะ

นั่นก็คือออ Okonomiyaki นั่นเอง เสียดายมากที่ร้าน Mizuno ปิดรับคิวไปแล้วเราเลยมาที่ Chibo แทน

ได้มากินของจริงผัดกันสดๆ แล้วแฮปปี้มากก

ส่งท้ายวันที่สามกันไปป


✧ DAY 4 / 09.06.16
NARA

วันนี้เราจะไปนาราเมืองกวางกันนน ต่อรถไฟมาจากสถานี Namba เลยค่าา
ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ นั่งรถไฟก็ดูวิวข้างทางเพลินๆ
ลงจากสถานีแล้ว ด้านหน้าของสถานีจะมี information center อยู่ค่ะ
เดินเข้าไปขอแผนที่ได้เลยยย

วันนี้เราเช่าจักรยานมาปั่นกันค่ะ วันละ 500¥‎ ส่วนร้านเช่านั้นดูตามแผนที่เลยค่าา

ปั่นมาถึง Nara park ก็จะเจอฝูงกวางเต็มไปหมด ซื้อขนมเซมเบ้ไปล่อน้องกวางได้นะคะ ห่อละ 150‎¥‎


ซึ่งถ้าเราไม่ยอมให้มันกิน มันก็จะรุมเราและไล่ตามเราแบบนี้....

ไปทัศนศึกษาที่วัด Todaiji กันค่ะ

สาวๆ ในชุดยูกาตะ

✧ Mellow Café

หลังจากเดินเที่ยวทั้งสวนและวัดเสร็จ ก็มาแถวถนน Sanjo Dori ค่ะ

จะมีคาเฟ่น่ารักๆ แฝงตัวอยู่เต็มไปหมด แต่ที่เห็นคนแนะนำมาคือร้านนี้เลยยย mellow café

นั่งพักเสร็จก็ไปปั่นรอบเมืองกันต่อเลยค่า เมืองเล็กน่ารักมากก

บรรยากาศเหมือนในซีรีส์ญี่ปุ่นเลยย

เวลาเราชอบใครเราจะลงมาจูงจักรยานแล้วเดินไปพร้อมๆ กับเขา

แถมนิดๆ จริงๆ Nara เป็น ref. สถานที่ในอนิเมเรื่อง Kyoukai no Kanata ด้วยค่ะ

แต่เมืองหลักอยู่ที่ Kashihara ซึ่งเราไม่ได้ไป เสียดายมาก



หลังจากกลับจาก Nara เราก็ไปกินข้าวเย็นแถวโดทงโบริเหมือนเดิม

วันนี้มีของอร่อยมาฝากกันอีกแล้วค่าา เป็นร้านขนมที่คนต่อแถวยาวมากก

PABLO ร้านชีสทาร์ตชื่อดังแห่งโอซาก้านั่นเองงง

ร้านมีหลายสาขาเลยค่ะ แต่สาขาที่เรามาวันนี้คือ Shinsaibashi จ้าา


ตอนแรกกะจะซื้อชิ้นเล็กค่ะ ปรากฎว่าพอแถวขยับมาถึงหน้าร้านปั้บ

พนักงานก็เปลี่ยนป้ายเป็น sold out ไปแล้ว แงงงง เลยต้องซื้อชิ้นใหญ่มาแบ่งทานกับเพื่อนค่ะ

ที่เขาเคลมว่าชีสละลายในปาก ขอบอกว่าใช่เลย ละลายจริงๆ อร่อยมากกก

ปิดท้ายวันด้วยของหวานเลยย


✧ DAY 5 / 10.06.16
TO TAKAYAMA

ครึ่งทางของทริปแล้วว
เป็นวัน Sleep all day ของเราเพราะนั่งรถทั้งวันเลย
ขบวนแรกที่เราจะนั่งในวันนี้คือ Thunderbird จ้า ยื่นพาส Hokuriku แล้วผ่านฉลุย VIP มากกก / มาลงที่ Kanazawa ค่ะ

พอถึง Kanazawa แล้วก็ลงมาเปลี่ยนขบวนเป็น Shinkansen Tsurugi เลยค่า

ตื่นเต้นๆ ชินคันเซ็นเฟิร์สไทม์ จะเร็วขนาดไหนน้า

ไม่ใช่เร็วธรรมดา โคตรเร็วเลยค่ะ ในเวลาชั่วโมงนิดๆ เราก็ข้ามจังหวัดกันมาถึง Toyama แล้ว

ที่นี่มีรถรางด้วยย



เนื่องจากรอเปลี่ยนขบวนไปเป็น Hida wide view กินเวลานานมาก

เราเลยไปหาอะไรกินกันก่อน ซึ่งอาหารท้องถิ่นของเมือง Toyama

ก็คือ Shiro-ebi หรือกุ้งขาวค่ะ ชื่อร้าน Shiroebitei ร้านอยู่ติดกับสถานีเลย

หลังอาหารเที่ยงเราก็มารอรถไฟค่ะ

และขบวนนี้คือ Hida Wide View นั่นเองง wide สมชื่อมากๆ เพราะกระจกนี่ 360 องศาสุดๆ

ถึง Takayama แล้วก็ขอโบรชัวร์ Hyouka จาก information หน้าสถานีได้เลยค่าาา

พร้อมจะตามรอยแล้วว / ในส่วนของการเก็บรายละเอียดซีนต่างๆ


✧ Takayama

กลับมาเยือนอีกครั้งแล้วนะ เมืองเล็กๆ ที่มีเสน่ห์เมืองนี้

สถานที่ที่เราจะไปในวันต่อไปค่าา

สาวฝรั่งใส่ยูกาตะ

สำหรับในค่ำคืนนี้ มาทาคายาม่าทั้งทีจะพลาดสิ่งนี้ไปไม่ได้เลยยย

เนื้อ Hida นั่นเองงง ร้านที่เราจะไปกินกันโฮสท์ที่ J-hoppers แนะนำมาค่ะ

ชื่อร้าน Suzuya เดินตามกูเกิ้ลแมพไปเลยค่ะ 5555


มื้อนี้เราสั่งมาทั้งเนื้อฮิดะย่างกับโฮบะมิโซะหมู

ซึ่งเจ้าโฮบะมิโซะนี่ก็เป็นของขึ้นชื่อของเขาเหมือนกัน ซอสมิโซะคืออร่อยหอมมากก





✧ DAY 6 / 11.06.16

SHIRAKAWAGO


วันนี้เราจะย้ายไปนอนแบบเรียวกังที่ Shirakawago กันค่ะ

เหตุผลแบบสวยๆ คือจะไปดื่มด่ำบรรยากาศของหมู่บ้านให้เต็มอิ่มทั้งวัน

/ เหตุผลของจริงคือวันเสาร์ j-hoppers เต็มค่ะจองต่อไม่ได้เลยต้องหาที่อื่นไปพักแทน 555555


ใช้บริการรถบัสไปที่ชิราคาวาโกะกันค่าา ยื่นพาส Hokuriku เหมือนเดิมเลย

เดินจากป้ายรถบัสมาก็จะเห็นสะพานแขวนและวิวสวยๆ ของแม่น้ำ Shokawa

มื้อเที่ยงที่ร้าน Ochudo ค่าา

ร้านที่โฮสท์แนะนำมาค่าาาา ที่แนะนำเพราะบอกว่าเป็นร้านที่อาจารย์โอดะ

ที่เขียนวันพีซเคยมากินแล้ววาดรูปให้ 55555

ข้าวแกงกะหรี่ธัญพืชค่ะ ข้างบนมีมันญี่ปุ่นโปะมาด้วย

ที่ร้านมีโปสการ์ดให้หยิบได้ฟรีนะคะ เป็นของที่ระลึกก

✧ Shirakawa-go Hostel

พอได้เวลาก็มาเช็คอินเข้าที่พักหลังจากตอนเช้ามาแจ้งไว้ก่อนรอบนึง

เป็นโฮสเทลแบบเรียวกังห้องพัดลม นอนสบายๆ อยู่ห่างออกจากโซนหมู่บ้านมานิดนึง

ที่ประทับใจคือโฮสท์ใจดีมากกกกกกก เคียวโกะซังกับโทโมะซังเทคแคร์ดีสุดๆ

แนะนำร้านอาหารกับที่เที่ยวให้เต็มที่ มีอะไรสงสัยก็ถามได้ตลอด สอนภาษาญี่ปุ่นให้ด้วยนะ

ความใส่ใจให้คะแนนเต็มสิบเลย ส่วนเรียวกังนอนสบายมาก

เปิดแค่พัดลมพอเพราะตอนกลางคืนอากาศหนาวพอสมควรค่ะ



เก็บของในที่พักเสร็จ เราก็จะขึ้นไปจุดชมวิวหมู่บ้านกันค่าา

โดยเราจะเดินขึ้นทางที่คนอื่นเขาไม่ขึ้นกัน เพราะคนน้อยกว่า แต่ต้องปีนเขานิดนึง

เอาโปสการ์ดที่หยิบมาตอนกลางวันมาประทับตราสะสม

หมดไปอีกวันแล้วค่า กับบรรยากาศดีๆ ที่ชิราคาวาโกะ ไว้จะกลับมาอีกนะะ


✧ DAY 7 / 12.06.16
TAKAYAMA

ตอนเช้าเราก็นั่งรถบัสกลับทาคายาม่าค่ะ
กะว่าจะมาเดินตลาดเช้า miyagawa ปรากฎว่ามาไม่ทันนน
เค้ายกของเก็บกันหมดแล้วว 5555

ร้านนี้ป้าโฆษณาว่าเป็นร้านที่โฮทาโร่ (Hyouka) เคยเดินผ่านและเคยมากินค่ะ

ป้าแกมาแนวเดียวกับพี่ผู้ชายที่ฟูชิมิอินาริอีกละ "อร่อยมากๆ!" เพื่อนเราก็จัดไปหนึ่งไม้ 555555

ในส่วนของมื้อกลางวัน เดินผ่านร้านราเม็งเนื้อฮิดะ เลยแวะมากิน

ตัวราเม็งเองเราเฉยๆ แต่ไอที่เด็ดน่ะคือเนื้อค่ะ นุ่มละลายในปากอีกแล้วว

เหนือกว่าราเม็งคือซูชิเนื้อฮิดะค่ะ อันนี้แนะนำมากๆ อร่อยและแปลกดี

ปกติเคยกินแต่ซูชิเนื้อปลา นี่เนื้อวัว

ใช้ทั้งวันไปกับการตามรอย Hyouka ค่าา

ตรงนี้คือโรงเรียน Hida High School ต้นแบบของโรงเรียน Kamiyama ในเรื่อง

คุณป้าคนนี้เดินมาถามว่า "Do you like Takayama?" ค่ะ

พยายามชวนเราคุยเกี่ยวกับเมืองนี้ น่ารักมากๆ เลย / แต่ในอีกมุมนึงป้าแกก็ดูเศร้าๆ เช่นกัน

หมดวันนี้เราก็จะบอกลาทาคายาม่ากันแล้วค่ะ

พรุ่งนี้จะมุ่งหน้าสู่เมืองหลวงของญี่ปุ่น โตเกียววว


✧ DAY 8 / 13.06.16
TO TOKYO

สตาร์ทวันด้วยฟ้าครึ้มฝนอีกแล้ว วันนี้เราจะนั่ง Hida Wide View ไป Nagoya
เพื่อต่อบัสเข้าโตเกียวค่าาา / Sleep all day ไปอีกวัน

สวนกับ Shinkansen Nozomi ไปอีกก

มาต่อรถบัสแล้วค่า ใช้บริการของ JR จองได้ที่สถานี Nagoya เลยต่ะ มีเคาท์เตอร์อยู่

/ ของอีกเจ้ามี Willer Express ค่ะ อันนี้จองผ่านเว็บไซต์จ่ายที่ Familymart ได้เลย

นั่งกันยาวๆ ถึงโตเกียวค่ำๆ เลย

ถึงแล้วก็ต่อรถไฟจากสถานี Tokyo มาที่ Tawaramachi ค่ะ

รถไฟที่โตเกียวนั่งยากกว่าโอซาก้ามาก กว่าจะเปลี่ยนขบวนทีนี่เดินกันขาลาก

ไม่อยากเดินผิดก็จำสีของสายนั้นๆ แล้วตามป้ายไปค่ะ 555555


คืนนี้พักที่ Bunka Hostel เป็นโฮสเทลเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ สถานี Asakusa

แต่ล้อมรอบด้วยของกินค่ะ ร้านอาหารทั้งซอยเลย พิกัดอยู่ใกล้ๆ ห้าง Rox / Rox 3G ค่ะ


บรรยากาศรอบๆ

เตียงจะเป็น box แบบนี้เลยค่า ไม่ได้ใช้ผ้าม่านปิดเหมือนโฮสเทลอื่น

ดีไซน์น่ารักมากกกก

เก็บของเสร็จก็ออกมากินข้าวและเดินเล่นแถวที่พักค่ะ

✧ Sensoji Temple

ตอนกลางคืนแอบวังเวงนิดๆ แต่ก็ยังมีคนมาเยี่ยมชมบ้างเนาะ

เดินมาอีกนิดนึงก็จะเห็นวิว Tokyo Skytree ชัดมากค่ะ

ใกล้ๆ กันจะเป็นร้านขายของฝาก มีทั้งขนม (ที่ทัวร์ชอบขาย) พวกคิทแคท

ปลาเส้นชีส ถั่วพิสตาชิโอ ฯลฯ เครื่องสำอางก็มีนะคะ สารพัดอย่างมาก 555

ตรงข้ามกับห้างนี้ก็จะเป็น Rox / Rox 3G ค่ะ ข้างในจะมีเสื้อผ้าญี่ปุ่น

ABC Mart ที่ขายพวกรองเท้า ละก็มี UNIQLO ด้วยค่าา


✧ DAY 9 / 14.06.16
SHIBUYA - HARAJUKU - SHINJUKU

ขอสถาปนาวันนี้เป็นช็อปปิ้งเดย์ค่ะ พร้อมจะเปย์แล้ววว
ตื่นเช้ามาก็มุ่งหน้าไปย่านชิบูย่าเลยย ทางข้ามตอนเช้ายังไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่

ฮาจิโกะ

แวะ It's Demo ร้านเครื่องสำอางค์ที่มีพวก Character เยอะมากๆ

มาดูพาเลตต์อายแชโดว์ของเจ้าหญิงดิสนีย์ ตั้งใจจะมาซื้อ Belle แต่ดันหมดซะงั้น

เพราะนางเป็นสีนู้ดเลยฮิตมาก ราคา 1,400Y ไม่รวมภาษีค่ะ



To Harajuku

✧ Meiji Jingu

แวะศาลเจ้าเมจิกันก่อน ไม่คิดเลยว่าจะมีป่ากลางเมืองแบบนี้ด้วย

Takeshita Street ศูนย์รวมวัยรุ่นที่แฟชั่นสุดเหวี่ยงกันทุกคน

anello ค่ะ กลายเป็นเป้ยอดฮิตไปแล้วต่อจาก kanken

อันนี้เป็นร้านขายฟิกเกอร์กับสินค้าต่างๆ เกี่ยวกับอนิเมค่ะ

คือมันเยอะมากๆ ตั้งแต่เหล่าอนิเมชายล้วนอย่าง Free! Haikyuu Utapri Prince of Tennis บลาๆ

หรือตุ๊กตาน่ารักๆ แบบ Sumikko Gurashi, Gudetama, Moomin ตู้กาชาปองก็มีนะคะ

หาเรื่องช็อปกันเสร็จแล้วก็พักกินของหวานค่ะะ

ที่พลาดไม่ได้คือเครปเย็น ของที่ฮาราจุกุนี่ขึ้นชื่อมากก มีอยู่หลายร้าน

แต่เรากินที่ Santa Monica ค่าา 550Y หลังจากเดินฮาราจุกุเสร็จก็ไปชินจูกุค่ะ

ไปช็อปปิ้งกระจาย เลยไม่ได้ถ่ายรูปเลย 55555



ที่ชินจูกุนี่เดินเข้าหลายร้านมากค่ะ Muji, ABC Mart (ได้รองเท้ากันมาคนละคู่)

Animate นี่หมดเยอะมาก ทั้งซีดีโฟโต้บุคของสะสม หลังจากช็อปจนเหนื่อยก็

กลับมากินข้าวแถวที่พัก รู้ตัวอีกทีพรุ่งนี้ก็วันสุดท้ายในญี่ปุ่นแล้วว..


✧ DAY 10 / 15.06.16
AKIHABARA - DAIKANYAMA

วันสุดท้ายในญี่ปุ่นแล้วว ไม่อยากกลับเลย
วันนี้เราจะไปใช้ช่วงเวลาสุดท้ายในที่ที่อยากไปตั้งแต่มาครั้งที่แล้ว
Akihabara ศูนย์รวมของเกี่ยวกับอนิเมที่แท้จริงงง

คาเฟ่กันดั้มกับ AKB48 ก็มาา

พักกินข้าวเที่ยงที่ร้าน Go! Go! Curry ร้านข้าวแกงกะหรี่ชื่อดังค่าา

สังเกตไม่ยาก หาป้ายที่เป็นสีเหลืองๆ แล้วมีรูปคิงคองตัวใหญ่ก็เจออ



เข้มข้นและหอมมากกก ให้กะหล่ำเยอะด้วยย

จากนั้นเราจะแว้บไปที่ชินจูกุแปปนึงค่ะ ไปตามรอย The Garden of Words

เนื่องจากมาเมื่อวานแล้วสวนดันปิดไปซะก่อน

มีกลุ่มคุณลุงตากล้องมาถ่ายรูปกันด้วย อุปกรณ์จัดเต็มกันจริงๆ

นั่งรถไฟต่อมาที่ Daikanyama เลยค่าา จริงๆ แอบเสียดายที่ไม่ได้ไป

Jiyugaoka กับ Kichijoji เพราะมันไกลเกินไป เลยมาที่นี่แทน

จากของ Zakka เลยเปลี่ยนมาเป็นชมตึกชมสถาปัตยกรรมค่าาา

ตึกเขาสวยคลีนมาก เป็นโทนเดียวกันหมดเลย



เหมือนแมวเลยย

สำหรับค่าใช้จ่ายจะสรุปไว้ให้ในรูปด้านล่างน้าา

ราคานี้ไม่รวมช็อปปิ้งนะคะะะ เพราะแต่ละคนช็อปไม่เท่ากันเนอะ

ปิดท้ายด้วยรูปแก๊งค่า ถ่ายเลียนแบบฉากนึงใน Hyouka 55555555

ไว้เจอกันใหม่นะประเทศญี่ปุ่นน มากี่ครั้งก็ชอบทุกครั้งเลย



ติดตามภาพ (ที่เหลือเยอะมาก) ได้ที่เพจ

www.facebook.com/plaintography

รูปทั้งหมดถ่ายด้วยกล้อง Fuji X-T10 process ใน Lightroom ค่ะ

A girl goes there.

 วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 เวลา 11.26 น.

ความคิดเห็น