ได้ยินมาว่า….ฤดูฝนเป็นช่วงที่ผีเสื้อจะออกมาให้เราเห็นเยอะมาก
จึงเป็นจุดเริ่มต้นของทริปนี้ ….. หาสิค่ะ หาข้อมูล
ดูผีเสื้อต้องไปที่อุทยานแห่งชาติปางสีดา และในช่วงนี้มีเทศกาลผีเสื้อด้วย
พร้อมแล้วก็เก็บกระเป๋ากันเลย
ทริปนี้เราเลือกพักที่ Kantary Kabinburi
อาจจะเป็นเพราะอยู่จุดกึ่งกลางของสถานที่ต่างๆ
เราเดินทางมาถึงโรงแรมในช่วงเที่ยงพอดิบพอดี
ก็เลยเลือกทานอาหารมื้อแรกที่โรงแรม
ตอนแรกก็แอบคิดว่า เห้อ..อาหารโรงแรมอีกแล้ว จะอร่อยมั๊ยละนี่
แต่พอมาดูเมนูอาหาร ….สตั๊นไป 3 วิ
ที่นี้เขามีอาหารญี่ปุ่น มีทั้งพวกปลาดิบ เบ็นโตะ ข้าวปั้น ซูชิ
แบบนี้ถูกใจเลยค่ะ …. เราสั่งเบ็นโตะเซ็ตนี้มา
Sake Shioyaki Set ราคา 210 บาท
คุ้ม อิ่ม อร่อย
เซ็ตที่สองเป็น Sashimi Set ราคา 280 บาท
ปิดท้ายด้วย Sashimi เซ็ตนี้เราจำราคาไม่ได้ แร่ไม่เกิน 300 บาท
กินอิ่มแล้วก็ได้เวลาเข้าห้องกันแล้วค่ะ …. วันแรกเป็นเหมือนทุกๆ ทริป
เราจะไม่ออกไปไหน เพราะค่อนข้างจะเหนื่อยกับการเดินทาง
บวกกับว่าอยากพักผ่อน เพราะปลายทางที่เราตั้งใจไว้จริงๆ มีแค่ ผีเสื้อที่อุทยานแห่งชาติปางสีดา
ช่วงบ่ายๆ ใกล้เย็น เราไปเดินสำรวจโรงแรมรอบๆ
แคนทารี กบินทร์บุรี จะมีห้องทั้งหมด 3 แบบ
ได้แก่ Studio / One bed Room / Two bed Room
เริ่มกันที่ห้องเริ่มต้อน คือ Studio
โรงแรมในเครือนี้ยังเป็นโรงแรมที่เราชอบมาก เพราะมีอุปกรณ์ในห้องครบครันมาก
ห้องค่อนข้างกว้าง สะอาด
โดยเฉพาที่แคนทารีกบินทร์บุรี วิวหลังห้องสวยมากๆ เขียวขจีเลย
ห้องโดยรวมจะประมาณ นี้
มีโซฟานุ่มๆ ทีวี LED มีมุมโต๊ะทำงาน โต๊ะทานข้าว และยังคงมีในส่วนของครัวให้ทำให้อาหารได้
.
ต่อกันที่ห้อง Two Bed Room
เป็นห้องแบบที่ใหญ่ที่สุดของที่นี้
ห้องกว้างขวาง และดูหรูมาก ชอบโซนตรงกลางห้อง บริเวณห้องนั่งเล่น กว้างขวา
จะมีห้องนอน 2 ห้อง ภายในห้องแต่ละห้องกว้างมากๆ
โซนของครัว เห็นแล้วกรี๊ด เหมือนบ้านเลยเธอ
มีพร้อมเตาอบ เครื่องซักผ้า
โต๊ะทานอาหารใหญ่มาก สำหรับ 6 คน เลยทีเดียว
ห้องนี้แนะนำมาเป็นแก๊งส์ มาเป็นครอบครัว เหมาะมากๆ จะเป็นทริปเที่ยวที่แฮปปี้สุดๆ
มาดูแบบสุดท้าย
One bed Room เป็นห้องที่เราพักเอง
ตามชื่อเลยค่ะ จะมี 1 ห้องนอน
มีห้องนั่งเล่น ห้องครัว
โซฟาตัวนุ่มยังคงวางอยู่หน้าทีวีเหมือนห้องแบบอื่นๆ
ห้องนอนกว้างขวาง มีทีวีในห้องนอนอีกเครื่อง
ภาพโดยรวมของห้อง One bed Room
สำหรับมื้อเย็น เรายังทานอาหารที่โรงแรม
เนื่องจากมื้อเที่ยงถูกใจ อร่อยคุ้มไปแล้ว
จินตการตามว่ามื้อเย็นต้องอร่อย และอีกอย่างเราพักโรงแรมในเครือแคนทารีค่อนข้างบ่อย
เรื่องรสชาติอาหารถือว่าอยู่ในระดับที่โอเคเลย
ห้องอาหารอยู่ด้านหน้าใกล้ๆ กับล็อบบี้
เมื่อช่วงบ่าย อาหารหิวหนักมาก ลืมถ่ายบริเวณล็อบบี้ให้ดูกันว่า ล็อบบี้ของที่นี้ดูดี และกว้างขวาง
มีมุมโซฟา เก้าอี้ให้นั่งรอกันแบบสบาย ๆ
และที่เราประทับใจที่นี้อีกอย่างคือ ….. พนักงานน่ารักมาก บริการดี สุดๆ
ภายในห้องอาหารค่อนข้างโล่งเลยทีเดียว มีโต๊ะให้เลือกนั่ง 2 แบบ
ทั้งแบบโต๊ะส่วน ตัว และโซฟายาวๆ
.
ระหว่างรออาหาร มีขนมปังมาเสิร์ฟ
ถ้าเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ นี่คือตัวตัดกำลังอย่างดี แต่วันนี้เราสั่งจากเมนู
จานแรกสเต๊กหมู … หมูนุ่มมาก นานๆ จะเจอสเต๊กหมูที่เนื้อหมูนุ่มๆ
สเต๊กเนื้อสันใน ถ้าเราจำไม่ผิด จานไหนไมได้กินเอง มักจะหลงๆ ลืม ๆ
แต่จำได้ว่า ชายต้นบอกว่าอร่อย
จานนี้เป็นสเต๊กเนื้อเหมือนกัน แต่เราจำไม่ได้ว่าเนื้อส่วนไหน
ปิดท้ายจานหนักๆ ด้วยปลา
ทานปลาเยอะๆ จะได้ฉลาด สเต๊กเนื้อปลาหิมะ
อร่อยถูกปากมาก
แต่ทั้งหมดที่ว่ามา ไม่มีอันไหนชนะขนมหวานจานเด็ดจานนี้ได้เลย
มาเสิร์ฟแบบเซอร์ไพรมาก เพราะมาทำโชว์ให้เห็นกันสดๆ ที่โต๊ะเลย
เสร็จแล้วหน้าตาจะออกมาเป็นแบบนี้ นั่นก็คือเครปอร่อยๆ เสิร์ฟพร้อมไอศครีมคะ
ปิดท้ายด้วย ของแถม
เมนูนี้จะเสิร์ฟมาปิดท้ายให้สำหรับลูกค้าที่สั่งสเต๊กเนื้อค่ะ
เป็นไอศครีมวนิลา เคลือบด้วยช็อคโกแลต
หลังจากมื้ออาหารไม่ต้องถามเลยว่าอาการจะเป็นยังไง หลับปุ๋ยเลยจ้า
อาบน้ำหรือเปล่าเราจะไม่พูดถึงมัน
แต่ตื่นเช้ามาเจอวิวหลังห้องแบบนี้ ฟินสิคะ
เจอวิวแบบนี้ไม่ต้องออกไปไหน สำหรับบางที ต้องขึ้นเขา นอนเต้นท์ ตากลมหนาว ถึงได้สัมผัสบรรยากาศแบบนี้
แต่สำหรับที่นี้อยู่กลางเมือง แต่ได้วิวนี้ ปลื้มเลย
หลังจากบ้าเห่อกับวิวหลังห้อง จิบกาแฟ นั่งฟังข่าวเพลิน ก็ได้เวลาอาบน้ำอาบท่าลงไปกินอาหารเช้า
เพราะวันนี้โปรแกรมของเรามีเที่ยวทั้งวันเลย ต้องเติมพลังกันแบบเยอะ ๆ
อาหารเช้าของที่นี้ค่อนข้างหลากหลาย ถูกใจมาก มีอาหารญี่ปุ่นด้วยนะ
เสร็จจากมื้อเช้า ก็ได้เวลาออกเดินทางกันแล้ว
วันนี้เราจะไป อุทยานแห่งชาติปางสีดา กัน ซึ่งห่างจากโรงแรมไปพอสมควร
ใช้เวลาในการขับรถเกือบๆ 1 ชั่วโมงเลย แต่ก็ไม่ไกลเกินไป สำหรับการเที่ยว
อุทยานแห่งชาติปางสีดา ตั้งอยู่ที่อำเภอเมือง จังหวัดสระแก้ว
ยังเป็นป่าที่ค่อนข้างสมบูรณ์ และน่าสนใจ เนื่องจากเป็นที่อยู่ของสัตว์ป่าหายาก และนกกว่า 300 ชนิด
ชอบส่องนกต้องไม่พลาดน๊า แต่จุดเด่นของอุทยานแห่งชาติปางสีดา
คงหนีไม่พ้น เหล่าผีเสื้อที่จะออกมาโบยบินให้เราเชยชมกัน ในช่วงฤดูฝน
และในช่วงเดือนมิถุนายน ถึง สิงหาคม จะมีเทศกาลฝีเสื้อ และกิจกรรมอีกหลายอย่างเลย
พลาดไม่ได้นะจ๊ะ
ระหว่างทางเข้ารถเข้ามาในเขตอุทยาน เราจะมองเห็นผีเสื้อบินอยู่เยอะมาก
ถ้าหากเป็นช่วงปกติ จะไมได้เห็นภาพเหล่านี้แน่นอน
ตอนขับรถเข้ามา ฟ้ามันก็มืดๆ มัว เพราะฝนพึ่งหยุดไป แต่กำลังจะตกใหม่
เจ้าหน้าบอกกับเราว่า วันนี้มีผีเสื้อเพียงแค่ประมาณ 20 เปอร์เซ็นเท่านั้นนะ
หน้าเราเปลี่ยนสีนิดนึง หลังจากคาดหวัง ว่าจะได้เจอแบบเยอะ
แต่พอเข้ามาด้านใน
ว๊าววว !!!!! คือคำอุทานที่เราร้องออกมา
นี่เหรอแค่ 20 เปอร์เซ็น เพราะมันเยอะมากในความรู้สึกเรา เราไม่เคยเห็นมันเยอะขนาดนี้
เรายืนอ่านป้ายอยู่พักใหญ่
และทำความเข้าใจกับเรื่องแปลกคือ
ผีเสื้อจะออกมาให้เราเห็นในช่วงฤดูฝน
แต่จะมาในวันที่แดดจ้า ถ้าวันไหนไม่ค่อยมีแดด ผีเสื้อก็จะน้อยตาม
สรุปผีเสื้อชอบแดด หรือชอบ ฝน
ช่วงเวลาที่เหมาะสุดๆ สำหรับการดูผีเสื้อ ควรเป็นช่วง 9.00-11.00 น
เพราะเป็นช่วงที่ฟ้ามักจะสดใส แสงแดดดี ( ตามคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่)
เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าปลายทางจะเป็นอย่างไร
และเราจะไม่มีทางรู้เลย ถ้าเราไม่ลองเดินไปให้ถึงปลายทาง
เราไม่อาจจะไปได้ในทุกๆ ที่ ที่เราอยากไป ….
แต่ค่อยๆ เริ่มไปในแต่ละที่ ….. เพื่อรับรู้ว่า มันวิเศษแค่ไหนที่ได้ไปสัมผัสเอง
แล้วพวกเธอจะรักการเดินทาง
เราถ่ายรูป อยู่จนถึงเที่ยง …
พอท้องเริ่มหิวทุกอย่างก็เริ่มหยุดนิ่ง
เราขับรถกลับมาที่กบินทร์บุรี ….แต่ปลายทางมุ่งหน้าไปที่ ร้านคาเฟ่ร้านหนึ่งที่มีความน่ารักระดับ 10 เลยทีเดียว
ชื่อว่าร้าน Cafe Kantary 304
ร้านจะตั้งอยู่หน้าโรงแรม แคนทารี 304
มีโซนที่นั่งแบบเอ้าท์ดอร์ซะด้วย แต่มุมนี้น่าจะเหมาะ กับการนั่งดริ้งช่วงกลางคืนมากกว่า
กลางวันร้อนจนผิดไหม้ได้เลย
ไปดูภายในร้านกันว่าทำไม เราถึงบอกว่า ความน่ารัก อยู่ในระดับ 10
ภายในร้านค่อนข้างโล่ง หลังคาสูง มีให้เลือกนั่ง 2 ชั้น
สิ่งที่ทำให้เราตื้นเต้นคือขนมเยอะมาก …. ยัยอ้วนแบบเราเจอขนม นี่คือ ตาลุกวาว
แต่เราไปนั่งชั้นบนกันดีกว่าเนอะ โชคดีวันนี้เป็นวันธรรมดา ไม่ค่อยมีคน
ร้านทั้งร้านเป็นของเรา เลือกได้เลยว่าจะนั่งจุดไหน
แต่ก่อนเดินขึ้นไปข้างบน …
โอ้ววววว น้องมาดี้ นารักมากๆ เลย
น้องมาดี้กำลังนั่งสูดกลิ่นกาแฟ คิดถึงอารมณ์แบบเจออากาศหนาวๆ เลยอะ
พอมาถึงชั้นสอง โอ้วมายก็อต
น้องมาดี้ตัวใหญ่มาก ๆ เต็มฝาผนังห้องเลย
หลังจากได้เจอกับความน่ารักของน้องมาดี้
หน้าตาของเรา 2 คน จืดไปเลยค๊าา
มุมเก๋ ๆ ที่ชั้นสอง
แต่ความน่ารัก….ไม่สามารถทำให้เราอิ่มท้องนะค่ะ
จัดมาเลยสำหรับมื้อนี้ทั้งคาวหวาน …บอกเลยว่าจัดหนักมาก
เริ่มกันที่ ฮอกไกโดสลัด เป็นสลัดผักสดๆ กรอบๆ มีเซลม่อน ทูน่า สาหร่ายญี่ปุ่น และไข่กุ้ง
ต่อมาเป็น Smok salmon pizza
แป้งบางกรอบอร่อยมากค่ะ มีแถมมาด้วยไข่ปลาด้วยนะ
ข้าวไข่ข้นต้มยำกุ้ง เคยกินเมนูนี้ที่ คาเฟ่แคนทารี ระยอง แล้วชอบถูกใจมาก
เลยมาสั่งอีกครั้งที่สาขานี้
จานนี้แซ่บสุดๆ สองสีผัดขี้เมา เป็นเส้นสปาเก็ตตี้สองสีนั่นเอง แต่แซ่บจัดจ้านมากๆ
ปิดท้ายด้วยของหวานกันค่ะ
เครื่องดื่มที่นี้ก็อร่อยนะ
ไปทุกที่กินทุกที่ ฮันนี่โทสต์ ของที่นี้อร่อยจริงๆ
แอบเสียดายเมนูนี้ที่เป็นเมนูโปรโมชั่นของเดือนมิถุนา
อยากให้มีขายทุกๆ เดือนเพราะมันอร่อยมาก เป็นความชอบส่วนตัวนะ
ปิดท้ายด้วยเครป ไม่อ้วนให้มันรู้ไป
ตอนแรกตั้งใจจะไปเที่ยวต่อเลย
แต่เจออาหารแบบจัดเต็มเข้าไป … หนังท้องตึงหนังตาเริ่มหย่อน
ขอกลับไปพักที่โรงแรมก่อนสักนิด
เพราะยังไงโรงแรมก็เป็นทางผ่านที่จะไปสถานที่ต่อไป
เราเลยเลือกที่จะไปนั่งพักที่ห้อง executive lounge
เป็นห้องสำหรับนั่งอ่านหนังสือ นั่งทำงาน สำหรับแขกที่พักในโรงแรม
ห้องกว้าง นั่งสบาย แอร์เย็นฉ่ำ
และที่สำคัญมีเครื่องดื่่ม และขนมไว้บริการฟรีด้วย
และในช่วงเย็นได้เวลาออกหากินแล้ว
เฮ้ย! ไม่ใช่
ช่วงเย็นๆ เราก็ออกไปเที่ยวกันต่อที่ เวโรน่า ทับลานค่ะ ห่างจากโรงแรมไปประมาณ 25 นาทีเอง
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวคล้ายๆ กับปาลิโอ เขาใหญ่ค่ะ
แต่ใหญ่โตกว่า และมีพื้นที่กว้างกว่า มาก
The Verona Tublan ดินแดนแห่งความรักท่ามกลางขุนเขา ด้วย
แต่ที่นี้ค่อนข้างเงียบเหงา คนน้อยมาก
แต่ก็ดีตรงที่เราจะได้ถ่ายรูปเยอะๆ ถ่ายง่ายด้วย
ด้านในมีทั้งที่พัก และร้านอาหาร แต่มีจำนวนร้านไม่ค่อยมากนัก
เพราะฉะนั้นแน่นอนเลยว่าจุดประสงค์หลักคือมาถ่ายรูป
ใครชอบถ่ายรูปไม่ควรพลาดนะยูว์
แต่สำหรับใครที่ชอบธรรมชาติ ฝั่งตรงกันข้ามจะเป็นอุทยานแห่งชาติทับลาน
เหมาะมากกับการหวีทหวาน เพราะมีมุมดูตะวันลับเหลี่ยมเขาที่ผาเก็บตะวันนะ
แต่สำหรับ ทริปนนี้ ไม่เน้นจัดหนักมาก แค่ชิลๆ อยากไปก็ไป อยากพัก ก็พัก
ขับรถกลับมาถึงโรงแรมใกล้มืดพอดี
วันนี้เราจะไปผ่อนคลายด้วยการว่ายน้ำ
แต่ก่อนว่ายน้ำเราขอนำเสนอห้องรีดผ้า
มันเจ๋งมาก อยู่ใกล้ๆ สระว่ายน้ำ มีเครื่องซักผ้าไว้ให้ในห้องแล้ว ยังมีห้องรีดผ้า
ไปกระโดดน้ำกัน ติดๆ กันมีฟิสเนตด้วยนะ แต่คนค่อนข้างเยอะ
เราเลยขอผ่านดีกว่า นอนแช่ในน้ำฟินกว่าเยอะ
รีวิวนี้เราบะบ๊าย กันแค่นี้แล้วกันเนอะ
มีคลิปด้วยนะยูว์
คลิปดูผีเสื้อ
คลิปโรงแรม
https://www.youtube.com/watch?v=Foie2JMvV5g
ปิดท้ายกันด้วยข้อมูล
Kantary Hotel and Serviced Apartments, Kabinburi
349, 349/2 Moo 8, Suwannasorn Road, T.Muang Kao, A. Kabinburi, Prachinburi 25240, Thailand
Tel: +66 37 28 2699, +66 37 20 3193
Fax: +66 37 28 2655, +66 37 20 3224
E-mail:
[email protected]
———————–
อุทยานแห่งชาติปางสีดา
ตู้ ปณ.55 อ. เมืองสระแก้ว จ. สระแก้ว 27000 โทรศัพท์ 0 3755 6500 (VoIP), 0 3724 3775,0 37246100 โทรสาร 0 3724 3774
อุทยานแห่งชาติปางสีดา โทร.0-3724-3775, 0-3724-6100, 0-1862-1511
สมาคมรักษ์ปางสีดา โทร.0-1429-2842 และ
www.rakpangsida.com
———————
ขอบคุณเพื่อนๆ สำหรับการติดตามกันนะค่ะ
ทักทายกันได้ที่ช่องทางเล่านี้
Facebook : https://www.facebook.com/MyLifeMyTravels/
Instagram : https://www.instagram.com/mylifemytravel/
Website : http://www.mylifemytravels.com/
YouTube : https://goo.gl/Gync7Y
แฟนพาเที่ยว
วันอังคารที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 เวลา 09.12 น.