แวะมาพัก มาแค้มป์ปิ้ง ลานหญ้าอันกว้างไกล ที่ท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์กันได้นะ

ลพบุรีไม่ได้มีแค่ลิงหรอกน่า

ปกติมาลพบุรีเราคงนึกถึงลิงเป็นอย่างแรกที่ครองเมืองจนมนุษย์อย่างเราๆอยู่ไม่ได้ ทำมาค้าขายยากขึ้น ตึก บริเวณปรางสามยอด ถูกลิงยึดครอง ชาวบ้านปล่อยทิ้งร้าง นั่นเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขให้เมืองลพบุรีมีชีวิตกลับมา...

เอาละ เข้าเรื่องดีกว่า มาคราวนี้มีที่น่าไปเยือนอีกหนึ่งที่ของจังหวัดลพบุรี หรือใครมาสระบุรีไปเยือนที่ตรงนี้ก็ได้แหละเพราะมันกินพื้นที่คาบเกี่ยวกัน ที่ที่ว่านี้ก็คือ "เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์" แต่เราจะไม่ไปเที่ยวตัวเขื่อนแล้ว เราจะไปยังท้ายเขื่อน(หรือเหนือเขื่อนเข้าไป) บริเวณ "บ้านท่าฤทธิ์"

บ้านท่าฤทธิ์ ที่จริงอยู่ในพื้นที่ของ จังหวัดสระบุรีนะ แต่ก็อยู่ภายในเขื่อนป่าสักฯซึ่งอยู่ในเขตลพบุรี งงมะ เขื่อนมันใหญ่กินพื้นที่ควบจังหวัดเลย55

เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนหรือหน้าแล้งเนี่ย ระดับน้ำในเขื่อนก็จะลดลง พื้นที่รอบๆเขื่อนจะโผล่มามากมาย กลายเป็นทุ่งหญ้ายาวเหยียดเลยล่ะ ชาวบ้านที่ทำปศุสัตว์ เขาก็เอาสัตว์เลี้ยงลงมากินหญ้า มีทั้ง ม้า วัว ควาย แพะ ขาดแค่ช้างกับแกะแหละที่ยังไม่เห็น แล้วก็มีสะพานผุดด้วยนะ ที่นักท่องเที่ยวชอบไปกัน ต้องนั่งเรือหางยาวไป ผุดอยู่กลางเขื่อนนั่นแหละเวลาน้ำลดถึงจะเห็น

เมื่อเกิดเป็นทุ่งหญ้า ยาวเหยียด กว้างขวางมากมาย รถก็สามารถขับลงไปได้ แต่ดูให้ดีด้วยไม่ใช่ลงไปตรงที่ดินนิ่มติดหล่มล่ะ บ้างก็มีนักท่องเที่ยว มากางเต้นท์ปิกนิค ตั้งแค้มป์กันยามเย็นจนถึงเช้าก็มี

ชาวบ้านเอาแพะลงมากินหญ้า ให้เราได้ถ่ายรูปเล่น หรือจะซื้อกระถิน ให้แพะกินก็ได้นะ กำละ 20 บาท

ก็เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่มาที่นี่ต้องทำแหละ คือให้อาหารแพะ เป็นกระถิน ที่ชาวบ้านเขาตัดไว้เลี้ยงแพะนั่นแหละ ก็ช่วยอุดหนุนนิดหน่อย กำละยี่สิบบาท เมื่อเราหยิบมา เขาจะวิ่งตามกันมาเลยล่ะ แบบนี้....

พอเจ้าแพะโซโล่ใบกระถินหมด เขาก็จากไปเลมกินหญ้าต่อ เหลือแต่กิ่งไว้ให้เรา 555

พอเราไปซื้อกระถินมาใหม่ เขาเห็นก็จะวิ่งมาเลย

คนที่ขายก็เป็นเจ้าของแพะนั่นแหละ ตัดมาใส่ไว้ในรถพ่วงข้าง ให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อให้ ได้ถ่ายรูป ไม่ซื้อก็ได้นะ ไปคุยไปถ่ายรูปเล่นเฉยๆก็ได้

เปลี่ยนจากหญ้าที่เคยให้แกะ มาเป็นกระถิน ให้แพะ แทน แปปเดียวหมดเรียบ....

ตัวเล็กๆ น่ารัก ไปจับ ไปอุ้มเล่นได้ ตัวนี้สายสะดือยังแห้งติดอยู่ ยังไม่หลุดเลย

ลูกแฝด แพะส่วนใหญ่จะคลอดเป็นลูกแฝด ตัวรุ่นๆตัวเด็กๆเพียบเลย น่ารักดีแหละ เชื่อง จับ ลูบ อุ้มเล่นได้

ใครว่างแวะมาเที่ยวได้นะ ยังคงต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่เสมอ มีร้านค้า ของชาวบ้านมาตั้ง มีห้องน้ำ อาบน้ำของชาวบ้านก็มี สำหรับสายแค้มป์ปิ้งอะนะ แต่ต้องเตรียมฝืนไฟมาให้พร้อมเอง เพราะระหว่างบ้านของชาวบ้านจนถึงจุดที่ท่านจะกางเต้นท์ในลานทุ่งหญ้าเนี่ยไกลพอควรเลยล่ะ ทุ่งหญ้ามันกว้างจริง บางคนมาเล่นพารามอเตอร์ได้สบาย มีร้านว่าวขายด้วยนะ ให้เด็กๆซื้อมาวิ่งเล่นได้ด้วย บางวันก็มีม้ามาให้ขี่

มาต้องมาช่วงเย็นๆ บรรยากาศดี ลมพัดตลอด ควรมาหลัง 15.00 น. เป็นต้นไปค่อยมา มิเช่นนั้นท่านจะร้อนเหงื่อท่วม มาตอนเย็นได้เห็นสัตว์เลี้ยงที่ชาวบ้านเอามากินหญ้า ได้ให้อาหารแพะ ได้ชมวิวพระอาทิตย์ตกลับไปตามแนวเขื่อนและผืนน้ำ ได้เห็นผู้คนขับรถมาจอด มาตั้งโต๊ะ กางเต้นท์ พาเด็กๆมาวิ่งเล่น กับพื้นหญ้าเขียวๆสุดลูกหูลูกตา ที่นี่แหละที่เขาว่า "นิวซีแลนด์เมืองไทย" อีกหนึ่งแห่ง