เราขอยกพี่โล้ให้เป็นโลโก้ผาฮี้ในความทรงจำครั้งนี้ของเราเลย

หลังจากที่เราตัดสินใจไปผาฮี้คนพื้นที่คนแรกที่เราได้สนทนาด้วยก็คือ พี่โล้ ตามคำแนะนำของสองที่เคยไปที่นี่มาก่อนเราปรึกษากันถึงการเดินทางว่า เราไม่มีรถส่วนตัว จะสามารถขึ้นไปผาฮี้ยังไงได้อย่างปลอดภัย เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องความชันและแคบของถนนมาก ๆ คำตอบที่ได้คือ “เดี๋ยวผมไปรับครับ”ความสบายใจมาเยือนทันทีที่ได้อ่านข้อความนี้


Location : เชียงราย / ระหว่างทาง / ผาฮี้

เราเจอกันที่แม่สาย 7 โมงเช้า และพากันเดินทางไปผาฮี้ เราพูดคุยกันเหมือนกับว่าเป็นพี่น้องที่ไม่เจอกันนาน แทบไม่มีความเกร็งอะไรเลย ระหว่างทางมีวิวสวย ๆ และเรื่องราวมากมายตามสไตล์ดินแดนชายขอบประเทศเส้นทางที่เราผ่าน ขวาเป็นพม่า ซ้ายเป็นไทย เรื่องราวมากมายถูกถ่ายทอดออกมาจากพี่โล้ให้เราได้รู้ถึงความพิเศษของเส้นทางที่เรากำลังผ่าน และแวะถ่ายรูปเหินฟ้ากลางหมอกกันไปคนละภาพสองภาพ


มาถึงผาฮี้ เราได้รับการต้อนรับจากพี่ฝ้ายด้วยอาหารพื้นถิ่น ล้อมเก้าอี้กินข้าวกันเหมือนพึ่งกลับมาบ้านมาเจอพี่น้อง คุยกันสนุกสนาน เพิ่มรสชาติอาหารให้อร่อยมากยิ่งขึ้น 

พี่โล้เป็นคนทำอาหารเก่งมาก ดริปกาแฟเด็ดมาก และเป็นตัวอย่างที่สุดยอดในหลาย ๆ ด้าน 

มุมมองการใช้ชีวิตที่ทันสมัย เป็นคุณพ่อที่ให้อิสระลูก ๆ และเป็นตัวอย่างที่โคตรสุดตอนนี้นอกจากเป็นคุณพ่อที่สุดยอดแล้ว พี่โล้มีอาชีพอื่น ๆ อีกหลายอย่างเลย

ทั้งเปิดแคมป์ให้นักเดินทางได้ไปพักในบรรยากาศที่ดีโคตร ๆ ด้วย ชื่อว่า #แคมป์ผู้เฒ่า 

เป็นเกษตรกรปลูก เก็บ คั่ว กาแฟ ทำทุกอย่างจนกระทั่งกาแฟเสิร์ฟถึงมือผู้ชิมเลย (ถ้าไปถึงที่นะ) แต่ถ้าอยู่ไกลสั่งได้ พรีเมียมทุกซอง ไม่เน้นขายเยอะ เน้นขายคนที่อยากได้ลิ้มรสของดีจริง ๆ 

ยัง ยังไม่หมดนะ พี่โล้เป็นบุคลากรในโรงเรียนบ้านผาฮี้ดูแลทุกอย่างตั้งแต่เปิดประตู ปลูกต้นไม้ใบหญ้า ยันจัดงานกีฬาโรงเรียนที่สุดของผาฮี้ ขอยกให้พี่ชายคนนี้เลย ใครได้ไป อยากให้ได้เจอนะ ถ้าหาไม่เจอมุ่งตรงไปที่ บ้านวิถีกาแฟ หน้าลานโล้ชิงช้าเดี๋ยวก็เจอค่ะ

กิ๊บเจอนี่มา kib's journey

 วันพุธที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2566 เวลา 21.40 น.

ความคิดเห็น