การเดินทางที่ใช้เวลา 49 วัน ใน 12 ประเทศ 31 เมือง ได้สิ้นสุดลง ทริปแรกที่เดินทางไกลกับสมุดบันทึกเล่มเล็ก เราตั้งใจเขียนกระทู้นี้เพื่อบอกเล่าเรื่องราวและข้อมูลการเดินทาง
[ข้อมูลสำหรับการเดินทาง เมืองเวอร์ซบูร์ก ประเทศเยอรมัน]
ก่อนเดินทาง เราจินตนาการว่าที่นี่จะเป็นเมืองเล็กๆ มีสวนองุ่นง่ายๆ เดินเล่นจิบไวน์ริมแม่น้ำ จนเมื่อรถไฟเทียบชานชาลา เมืองที่คิดว่าเล็กกลับกว้างใหญ่ เรามีเวลาแค่ 24 ชม. ขอดื่มด่ำให้ได้มากที่สุด ไปเริ่มกันเลยค่ะ
(ภาพด้านหน้าสถานีรถไฟเมืองเวอร์ซบูร์ก)
ภาษา (Languages) : German , English
วีซ่า (Visa) : Schengen visa
สกุลเงิน (Currency) : Euro
การเดินทาง รถไฟ (Train) : จากเมือง Rothenburg ob der tauber ระยะทาง 43 กม.ใช้เวลาเดินทาง 1 ชม. ราคาตั๋ว 14.60 ยูโร
ตั๋วแบบ Flexible จองแล้วจะเดินทางช่วงเวลาไหนก็ได้ภายในวันนั้น ที่นั่งว่างตลอด ขบวนรถไฟที่กว้าง นั่งรถไฟที่เยอรมันแล้วรู้สึกเป็นส่วนตัวสุดๆ
กดจองและดูเที่ยวเวลาที่นี่ https://www.bahn.com/en/view/index.shtml
จะซื้อตั๋วหน้าตู้ ให้เดินเข้าสถานีรถไฟ มองหาป้าย DB
เมื่อถึงหน้าตู้ให้กดเปลี่ยนภาษา >> พิมพ์ชื่อเมืองที่ต้องการจะไป >>เลือกวันเดินทาง >> เลือกเวลาเดินทาง โดยเครื่องจะแสดงช่วงเวลาที่ใกล้เวลาที่เรากดเลือกด้านบนเท่านั้น >> กด Purchase ticket เพื่อซื้อตั๋ว >> เลือกจ่ายแบบเงินสด หรือ Card ก็ได้ สามารถปริ้นท์เที่ยวเวลาออกมาดูก่อนได้ฟรี แต่วันนี้เราลองซื้อตั๋วกับเจ้าหน้าที่ ก็สะดวกมากๆค่ะ
อาหารการกิน (Food) : บริเวณด้านในและรอบๆสถานีรถไฟ (Wurzburg Hauptbahnhof) มีร้านอาหารและร้านกาแฟราคาถูกเหมือนที่เมืองมิวนิค แถมราคายังถูกกว่าอีกด้วย ร้าน Asia hung เมนู Nippon nudeln (ผัดหมี่ใส่ผักกินกับน้ำส้มเผ็ด) แค่ 2.80 ยูโร กาแฟร้อนๆร้าน YORMA’S แค่แก้วละ 1.20 ยูโรเอง
ส่วน น้ำดื่ม (Tap water) สามารถเปิดแล้วดื่มจากก๊อกได้เลย
แวะ Supermarket ในสถานีรถไฟ ซื้อครีมอาบน้ำแบบ 2 in 1 ทั้งอาบน้ำและสระผมในขวดเดียว ลดเหลือ 1.25 ยูโร ประมาณ 50 บาทเองง!!
ที่พัก (Accommodations) :
Hostel Babelfish จองห้องแบบ 1-bed female dormitory (เตียงเดี่ยวในห้องรวมหญิง) ราคา 27.56 ยูโร (รับบัตรเครดิต) พร้อมค่า Deposit บัตร 5 ยูโร โดยจะคืนวันเช็คเอาท์
เตียงสะอาด นุ๊ม นุ่ม ทำเลดีมาก อยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟ (Wurzburg Hauptbahnhof) ข้ามถนน 300 เมตร ก็เจอเลยค่ะ สะดวกต่อการเดินทาง และใกล้แหล่งของกินราคาถูก
(ติดต่อที่นี่ babelfish-hostel.de)
การเดินทางภายในเมือง : Tram , Coach
กิจกรรมสำหรับนักเดินทาง :
Alte Mainbrucke สะพานเก่าแก่ที่ทอดยาวผ่านแม่น้ำไมน์ (Main river)ของเมืองเวอร์ซบูร์ก กลางสะพานมีรูปปั้นของท่าน Saints
สะพานนี้เป็นจุดนัดพบของชาวเมืองและนักเดินทาง บรรยากาศตอนเช้าจะเหมาะกับการถ่ายภาพ คนไม่พลุกพล่าน ฟ้าสวย สดชื่น
วิวแม่น้ำเมื่อมองมาจากบนสะพาน น้ำด้านล่างไหลแรงและเชี่ยว เสียงดังก้องไปทั่วบริเวณนั้น
ในยามค่ำคืน เราเห็นผู้คนยืนจิบไวน์ Franconian และยืน Chit-Chat กันเป็นกลุ่มๆ
เสียงน้ำไหลเชี่ยวก็ดูจะเข้ากันกับโฟล์คซองของนักดนตรีท่านนี้เป็นอย่างมาก
จากบนสะพานมองไปด้านหน้าจะพบ Fortress Marienberg ถือเป็นแลนด์มาร์คของเมือง
ลักษณะเป็น Museum สไตล์ศิลปะ Franconian นักเดินทางสามารถเดินขึ้นเนินเขาที่สูงชันไปยังปราสาท ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ตลอดเส้นทางเดินจะเป็นสวนองุ่น บนเนินเขาจะเห็นวิวมุมสูงของ Old Town หรืออยากจะนั่งรถบัสขึ้นไปก็ได้
ที่นี่เปิดตลอดเวลาและไม่เก็บค่าเข้าชมค่ะ ยกเว้น เข้าชมใน Museum
เดินเล่นต่อแถวริมถนน ด้านหน้า Fortress Marienberg
บรรยากาศฝั่งตรงข้าม Fortress Marienberg
อีกย่านที่อยู่ไม่ไกลจากสะพาน Alte Mainbrucke คือ Market Square อันนี้เราขอแนะนำสายช้อปปิ้งเลย เสื้อโค้ท รองเท้าบู้ท เสื้อผ้าแฟชั่น อุปกรณ์กันหนาว ราคาเป็นมิตรมากค่ะ sale เกือบทุกร้านในช่วงหน้าหนาว
ใจกลาง Market Square จะมองเห็น Falkenhaus ตึกสีเหลืองหรูหรา สมัยก่อนถูกสร้างเป็น Guest house ปัจจุบันเป็นห้องสมุดสาธารณะ ตึกสีแดงโดดเด่นด้านข้าง คือ Marienkapelle ภายในโบสถ์นำหินมาทำเป็นรูป Adam and Eve โดยนักประติมากรชาวเยอรมัน โบสถ์เข้าฟรีค่ะ
ห่างจาก Market Square 100 เมตร ชมต้นคริสต์มาสยักษ์ด้านหน้า St. Kilian Cathedral
มีโอกาสเดินเข้าไปชมด้านในของ St. Kilian Cathedral สวยอลังการมาก
สิ่งที่ต้องระวังในการเข้าชมโบสถ์หรือสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ไม่ว่าในทุกที่ คือ ใช้ความสงบ บางที่ไม่อนุญาติให้ถ่ายภาพ
ชม Neumunster Collegiate church โบสถ์สีหวาน สถาปัตยกรรมสไตล์ Baroque
เดินชมเมืองกันยาวๆต่อไปอีกเรื่อยๆ
ถึงสี่แยกด้านหน้า Wurzburg old university
ปิดท้ายวันนี้กับ Christmas market ของเมืองเวอร์ซบูร์ก ซึ่งปีนี้งานจัดในช่วงวันที่ 1 ถึง 23 ธันวาคม ตลาดเล็กๆ ขายขนม ผลไม้ ขายไวน์ และมีเครื่องเล่นให้เด็กๆด้วย
มีอีกหลายที่ในเมืองเวอร์ซบูร์ก ที่น่าไปชื่นชม ข้อมูลที่หามากมายแต่ไม่ได้ไปเยือน เราขอแชร์และเล่าต่อนะคะ เผื่อมีใครไปแล้วจะกลับมาเล่าให้กันฟังบ้าง
หากเดินมาตามถนนเส้น Martinstrasse จะพบ Lusamgartchen เป็นสวนแห่งความลับ ถูกสร้างเมื่อปี 1930 เป็น Memorial stone แด่คุณ Walther von der Vogelweide นักร้องป๊อบสตาร์คนแรกๆของเยอรมัน ว่ากันว่า หากใครก็ตามที่มีอาการ Lovesick เพียงแค่วางดอกไม้ลงบนแผ่นหินนี้ ความผิดหวังเสียใจจะหายไปในทันที ไปรักษาแผลใจได้ทุกวันนะคะ เปิดจนถึง 17:00 น. เข้าชมฟรีค่ะ
สถานที่ที่เป็น UNESCO world cultural heritage ของเมืองเวอร์ซบูร์ก นั่นคือ Residence Palace หลังทัวร์พระราชวัง ไป Take a break ในสวนแสนสงบต่อได้เลยค่ะ
วันเวลาเข้าชม
เดือน เมษายน ถึง ตุลาคม 9:00 - 18:00
เดือน พฤศจิกายน ถึง มีนาคม 10:00 - 16:30
Indie Shopping
ร้าน H2O แหล่งขาย CD DVD Poster T-Shirt ทั้งใหม่และมือสอง บนถนน Karmelitenstr.28 แถวแม่น้ำไมน์ (Main river) หลัง Market Square เปิดทุกวัน Mon-Fri 11:00-19:00 , Sat 11:00-18:00 (ข้อมูลที่นี่ www.h2o-records.de)
Herr Pfeffer ขายเสื้อผ้า เครื่องเขียน เฟอร์นิเจอร์ ที่ออกแบบและทำมือเอง ตั้งอยู่บนถนน Obere Johannitergasse 10 ใกล้กับ Old town เปิดทุกวัน Mon-Fri 10:00-18:00 , Sat 11:00-17:00 (ข้อมูลที่นี่ www.herrpfeffer.de)
Dreizehneinhalb มีหนังสือให้เลือกมากมายหลากหลายทั้งภาษาเยอรมันและภาษาอังกฤษ อยู่บนถนน Echhornstr.13
เปิดทุกวัน Mon-Fri 9:00-19:00 , Sat 9:00-16:00 (ข้อมูลที่นี่ www.dreizehn-einhalb.de)
ไปไหนต่อ (Where to go next) :
•นั่งรถไฟไปเมือง Munich
•นั่งรถไฟไปเมือง Frankfurt
•นั่งรถไฟไปเมือง Rothenburg ob der tauber
•นั่งรถไฟไปเมือง Bamburg
And...More great things to do in Wurzburg? แนะนำเราได้เลยนะคะ
อีกหลายเส้นทางของเรา ที่นี่ www.facebook.com/Inspiremyjourneys
InspireMyJourneys
วันพฤหัสที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 เวลา 01.20 น.