ทำไมต้องหมาหมาตะลุยโลก !!

มีทั้งหมด 5 ตอนนะคะ ( จะทะยอยเขียนค่ะ)

ตอน 1 การเดินทาง/ Blawan Waterfall / Hot spring

ตอน 2 Kawah- Ijen

ตอน 3 Bormo MT

ตอน 4 Prambanan temple & Borobudur temple

ตอน 5 สรุปค่าใช้จ่าย และ สรุปรายละเอียด

ชอบท่องเที่ยวชอบถ่ายภาพ เข้าไปเมาส์มอยกันได้ที่เพจนะคะ
FB Page : Goanywhere ( <a href="https://www.facebook.com/go.anywheree">https://www.facebook.com/go.anywheree</a> )
E-mail : [email protected]
photo / Story by LamHub


แต่อย่าปิดกั้นโอกาสการเดินทางท่องโลกของตัวเอง เราเป็นลูกชาวสวนยางแถวปักษ์ใต้ ใน จ.พัทลุง ถือเป็นจังหวัดเล็กๆที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก ไม่ค่อยมีคนรู้จักขนาดที่มีคนมาถามว่าพัทลุงอยู่ในประเทศไทยหรือเปล่า ( จะตลกก็ตลก จะเงิบก็เงิบ)

( อยากรู้จักพัทลุงมากขึ้น ตามไปอ่าน ได้ค่ะ https://th.readme.me/p/4667 )


gikก็เติบโตมา จากเด็กบ้านนอกในจ.พัทลุง มาเป็นพนักงานออฟฟิตกินเงินเดือน ณ บางกอก ที่โดนเงินเดือนกินทุกเดือน เพื่อนๆชอบล้อกันบ่อยๆ สมัยเรียนว่าพ่อแม่กรีดยางส่งควายเรียน เรียนจบมาก็ ทำงานรับเงินเดือน ชักหน้าไม่ถึงหลังมาตลอด ( คนมันฮ๊อตก็ต้องเป็นแบบนี้แหละ ไม่ฮ๊อตทำไม่ได้จีจี )



แต่จเราไม่เคยขาดเรื่องการท่องเที่ยวและเดินทางหาสิ่งใหม่ๆเลย โอกาสเรามีไม่เท่ากัน ก็สร้างโอกาสของตัวเองมาสิวะ

เราก็เที่ยวในแบบฉบับของตัวเอง ไม่ต้องไปนาน มาก ไกลมาก ค่อยๆก้าวเดินไปเรื่อยๆ เดี๋ยวเราก็เก็บครบ



เกริ่นมายาวแล้วขอเข้าเรื่องอินโดนีเซีย ทริปล่าสุดเลยค่ะ ( ทริปอื่นไว้มีเวลาจะมาเล่าให้ฟังนะคะ)

เป้าหมายหลักของทริปนี้คือภูเขาไฟโบรโม่ค่ะ เราชอบภูเขาเป็นชีวิตเลยค่ะ เห็นภูเขาเป็นไม่ได้ คันยิบ ยิบ เหมือนโดนแยงหมามุ่ย

สำหรับ เราเอง ชอบเที่ยวกับเพื่อนๆ เป็นหมู่คณะ บางคณะ ก็เป็นโขลง บางคณะก็เป็นฝูง ( แล้วแต่สรรพคุณของสมาชิก ว่ามีความเปตรมากแค่ไหน )



** ต้องขอบอกก่อนว่าสำหรับเราและเพื่อน คำว่าเปตรถือว่าเป็นคำสุภาพนะคะ เทียบได้กับคำว่าเธอ ฉัน ผม เขา คุณ เดี๋ยวจะตกใจกันนะคะ

ทริปอินโดรอบนี้ถือได้ว่าเป็นการรวมตัวของคนเปตร และเปตร ติดอันดับคนที่รู้จักกันมาตั้งแต่ จขกท เกิดมา เราจึงใช้ชื่อทริปนี้ว่า หมา หมา ตะลุยโลก ( ยืมคำจากพี่ชายคนหนึ่งมาค่ะ ฟังแล้วมันใช่จีจี)

( มิได้จะล้อเลียนน้องหมอหมอ นะคะ เราให้น้องหมอๆเป็นตัวแทนจากสวรรค์ ส่วนพวกเราเป็นตัวแทนมาจากนรก ๕๕๕ )


ทีมงานหมาๆ เราจะวางทริปคล่าวๆเท่านั้น โดยกำหนดจุดหมายว่าเราจะไปไหนบ้าง ดูเส้นทางให้พอรู้ว่าจากไหนไปไหน ที่เที่ยวสำคัญมีอะไรบ้าง ที่เหลือไปหาเอา โดยในรอบนี้ตั้งใจเอาไว้ แค่สองที่หลักๆ ( ไม่จองที่พักเพราะชอบเปลี่ยนใจ และก็เปลี่ยนใจทุกครั้งจริงๆ)



1) Kawah Ijen เพื่อชม blue frame

2)Bromo MT


อยากไปแค่นี้ จีจี แต่กฎมีไว้แหก แพลนก็มีไว้เปลี่ยน สุดท้าย เราก็ตัดสินไปเปลี่ยนแผนไป Borobudur เพิ่มด้วยเพราะลมปากของชาวอินโดนีเซีย ที่เจอกันที่สนามบินสุราบายา ใจง่ายชิป้ะ



เสียดาย Air-Asia ยกเลิกเที่ยวบินไปสุราบายา ไม่งั้นจะมีทริปบินตรงไปลงสุราบายา ( ตอนนี้ไม่มีไฟล์บินตรงแล้วค่ะ) เลยตัดใจจอง Garuda Indonesia สายการบินของอินโดนีเซีย โดยต้องบินทั้งหมด 4 fight


Fight 1 BKK ( Suvarnabhumi) – Jakarta

Fight2 Jakarta – Surabaya

Fight 3 Surabaya – Jakarta

Fight 4 Jakarta - BKK ( Suvarnabhumi)

(ขาไปรอต่อเครื่องประมาณ 2 ชั่วโมง / ขากลับรอต่อเครื่องประมาณ 1 ชั่วโมง ถือว่าไม่นานค่ะเมื่อเทียบกับสายการบินอื่นๆ อันนี้เวลาดีสุด ณ ตอนนั้น)



ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการชมภูเขาไฟโบรโม่ คือ กค. – กย. ค่ะ ฟ้าจะใสสุด แต่ทีมงานไม่สะดวกช่วงนั้น เลยมาสรุปกันในวันที่ 22 -27 ตุลาคมค่ะ ไปช่วงนี้ก็สวยมากค่ะ


ก่อนจะเริ่มเดินทางมาทำความรู้จักเกี่ยวกับอินโดนีเซีย ในเรื่องที่จำเป็นสำหรับการเดินทางค่ะ

ประชากร : ประมาณ 220 ล้านคน ประกอบด้วย ชนพื้นเมืองหลากหลายกลุ่ม ซึ่งพูดภาษาต่างกันกว่า 583 ภาษา ร้อยละ 61 อาศัยอยู่บนเกาะชวา ( แต่ชาวอินโดสื่อสารภาษาอังกฤษกันได้ดีเลยแหละ ดีกว่าพวกคนใต้ บอกเลอะ)

ภาษา : ภาษาราชการและภาษาประจำชาติ ได้แก่ ภาษาอินโดนีเซีย หรือ Bahasa Indonesia

ศาสนา : ชาวอินโดนีเซียร้อยละ 87 นับถือศาสนาอิสลาม ร้อยละ 6 นับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรแตสแตนท์ ร้อยละ 3.5 นับถือศาสนาคริสต์นิกายแคทอลิก ร้อยละ 1.8 นับถือศาสนาฮินดู และร้อยละ 1.3 นับถือ ศาสนาพุทธ 4 (อย่าพิเรนไปสั่งคอหมูย่างที่โน่นนะคะ อาจโดนย่างเป็นหมูก็ได้ จะหาว่าป้าไม่เตือน ให้เกียตริเค้าบ้างอะไรบ้าง)



สกุลเงิน : รูเปียห์ (Rupiah : IDR) อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ (ซื้อ) 2.83 บาท / 1,000 ณ วันที่เราแลก ได้เรทประมาณนี้นะคะ


ไปเที่ยวรอบนี้ถือว่ารวยมากบอกเลอะ มีเงินเป็นสิบล้านนน ฮะ ฮะ ฮะ ฮ่า ขอให้เรียกเราว่าเจ้ ( รวยอย่างแรงนิพี่น้องเห้อ รวยไม่ปันเพื่อน แต่ในรูปนี่คือเบี้ยเพื่อนเพ)



- อินโดนีเซียใช้เต้าเสียบแบบ 2 หัวกลม ไม่เหมือนบ้านเรา ดังนั้นต้องเตรียม universal plug ไปด้วยนะคะ ( พวกเธอต้องชาร์ตแบตกล้องถ่ายรูป, power bank, โทรศัพย์มือถือ ถ้าไม่ได้ชาร์ตพวกเธอจะลงแดงเอาได้ง่ายๆนะ และอย่าลืมปลั๊กสามตาสำคัญมากจีจี ขอให้ยัดใส่กระเป๋าไปโดยด่วน)



รู้จักอินโดนีเซียกันพอกุบกิบแล้ว มาเริ่มกันเลย ( ไม่ต้องรู้มาก รู้พอทำเนา ไปเจอเองดีกว่า) ไปลุยกันเลย



เริ่มต้นด้วยสุวรรณภูมิ เคาเตอร์เชคอินของ Garuda Indonesia อยู่ประมาณแถว G ค่ะ


เจ้าหน้าที่น่ารักค่ะ ให้คำแนะนำพม่าเข้าเมืองอย่างพวกเราได้ดี เช็คอินให้พวกเราทั้งสองไฟล์เลย


แต่เรามีปัญหาเล็กน้อยเกี่ยวกับไม้ปีนเขา จำเป็นต้องยัดเข้าไปในกระเป๋าให้เรียบร้อย เลยปฎิบัติการกันด้านหน้าเคาเตอร์เลยค่ะ



จับยัดรวมกัน ( เค้าให้โหลดกระเป๋าได้ 30 กก./คน แน่ะ ดี๊ดี)

เช็คอินพร้อมแล้วก็ลุยย ก่อนมาเพื่อนๆก็ถามกลัวว่าเรื่องบินจะตกไหม ฟังดูชื่อมันอินโด๊ อินโด จีจี อ่านเจอข่าวเครื่องตกรันเวย์ด้วยจ้า


แต่พอขึ้นเครื่องไป เฮ้ยมันโอเคเลย น้องๆ บางกอกแอร์เวย์เลย ยืดขาได้ แต่ จขกท.ไม่ติดปัญหาเรื่องขาค่ะ เพราะว่าสัดส่วนมาตรฐานหญิงไทยจ้าา

เตี้ย ล่ำ สัดส่วนเป็นวงรี นมแฟ่บ พุงป่อง



ภาพบรรยากาศในเครื่องค่ะ เพลงอินโดเพราะมากนะจ้ะ ทำนองติดหูมาห

เราเริ่มเดินทางกันด้วยแสงสุดท้ายของสุวรรณภูมิ ไปแป๊ปเดียวเดี๋ยวมา ( แอบถ่ายจากหน้าต่างชาวบ้าน ได้รูมานิดเดียว เห็นอาทิตย์แว๊บๆ)


ไฟล์ BKK-Jakarta มีเสิฟอาหารด้วยน๊าาา จุดสนใจไม่ได้อยู่ที่อาหารอย่างใด แต่เป็นเบียร์ประจำชาตินี่แหละ


ยียวนชวนให้ลอง ไม่ได้อยากจะกินเล้ยยยยยยยยย สาบานให้ถูกหวยเลยอะ

บินนานกว่านี้ก็ไหว เพราะเสริฟเบียร์ตลอดไฟล์ กินเบียร์ไปดูหนังตะลุงไป #ดีออก


( พักไว้ก่อน พรุ่งนี้มาเขียนต่อนะคะ ยังไม่ได้เริ่มเรื่องความเพี้ยนๆของทีมงาน หมาหมา เลยค่ะ รอติดตามนะคะ)ดูหนังตะลุงแล้วคิดถึงบ้านเกิดเมืองนอนมาก ( ใครชอบความฮาของน้องล่า #เหนียวไก่ หายยย แนะนำให้ไปหาคลิปหนังตะลุงน้องเดี่ยว ตอน คุณยายทันสมัยมาดู ไม่รู้อิหลกพรือ คือว่าที่สุดของความฮา แต่ต้องใช้สกิลหูในการฟังภาษาใต้หน่อยนะ ค่อนข้างเป็นใต้ต้นรับหรับ คือว่าออริจินอลจริงๆ



ดูหนังจะลุงจบ เราก็แคว็ก ( หยิบ) หนังสือขึ้นมาอ่าน ทำตัวเหมือนว่านักเดินทางสักหิด

เพื่อนเราก็ตามสไตล์ หม้อแอร์กันเรื่อยเปื่อย ตามประสาหนุ่มโฉด เอร้ย โสด ( โสดเฉพาะตอนนี้นี่แหละ โสดกระปริบกระปรอย)


( จริงๆเราว่าเราสวยหวาแอร์พวกนี้นะ คือเราค่อนข้างธรรมชาติกว่ามาก คือธรรมชาติค่อนข้างลงโทษมาอย่างหนัก )



และแล้วก็ถึงเวลา เหยีบเท้าลงบนอินโดนีเซีย ที่สนามบินจาการ์ต้า เมืองหลวงของอินโดนีเซียแล้ว ต้องคึกคักแน่นอน สนามบินใหญ่นะเหวยลงเครื่องมาปั๊ป กริบเลยค่ะคุณขา ร้านรวงปิดไปหมดละค่า คือไม่รอกันเลย

เลยไปนั่งรอทรานเฟอร์เครื่องเก๋ๆในสตาบัคค่ะ กรุณาอย่าจินตนาการว่าเป็นร้านสตาบัคทั่วไปนะคะ มีโซฟานุ่มๆ กลิ่นกาแฟหอมตลบอบอวล นั่งเอนกายชิลๆ



เปล่าเลย มันคือเหมือนฟู๊ดคอร์ส มีเก้าอี้พลาสติกตั้งตรงกลาง และมีร้านอาหารรายรอบค่ะ

เก้าอี้พลาสติกจริงๆค่ะ พลาสติกอย่างแข็งเลย การันตีคุณภาพ โบงด้านฉาด (แปล = ก้นด้านหมดเลย)


ที่นี่เรารอต่อเครื่องแปปเดียวค่ะ ร้านก็เปิดอยู่มีกี่ร้าน หาขนมมากินเล่นกันรอเวลาค่ะ


คริสปี้ครีม ไม่ต้องต่อคิวซื้อเลยค่ะ ไร้วี่แววผู้คน


นั่งอัพเดทโลก social ติดต่อกลับหาครอบครัว เพื่อนฝูงกันสักแปป ก็ถึงเวลาเดินทางต่อค่ะ วันนี้เป็นวันแห่งการเดินทางค่ะ ถึงสุราบายาแล้ว เราจะเดินทางกันต่อ ไป kawah Ijen กันเลย ( ยาวไปเหลยยคืนนี้)จากสนามบินสุราบายา - คาวาอิเจี้ยน ทีมงานหมาๆได้ติดต่อเช่ารถไว้เรียบร้อยแล้ว รอบนี้เราใช้บริการของ K.Arif ที่ติดต่อและนัดหมายกันไว้แล้ว



ไปถึงสนามบินปั๊ป กระเป๋ามาแล้ว ล้างหน้าแปรงฟันพร้อมนอนก็แล้ว คนหายจะหมดสนามบินแล้ว ขุ่นพระะะะะ #คนขับรถกุอย่ไหน

( มโนไปว่า นัดผิดเวลาป่าววะ หรือเค้าเข้าใจไปว่าวันพรุ่งนี้วะ เพราะมันเที่ยงคืนครึ่ง อำนาจฝ่ายมืดมาเต็มค๊าา)



เอาไงละทีนี้ วิ่งหา wifi ค่ะะ อีเมลล์ไปหาเค้าว่าเรารออยู่หน้าห้องน้ำในสนามบินนะจ้ะ ( ภาวะนั้นคือไม่มีเบอร์นางค่า ด้วยความสะเพร่า ไม่จดเบอร์นางไว้เลย หายหวางไปทีนี้)



สองนาทีผ่านไป นางเดินมาพร้อมป้ายไฟชื่อเรา อั๊ยยะ สรุปว่าไปรอกันคนละที่จ้า



K.Arif บริการดี ดูแลดี ไม่มีบ่นกับความอืดอาดยืดยาดของพวกเราเลยยย ( ทั้งที่ทีมงานหมาหมาตะลุยโลก เสียงดังม๊ากกกก วุ่นวาย กันในรถตลอดเวลา ไปไหนก็เลทตลอดเพราะว่าบ้าถ่ายรูปกัน ไม่แคร์สื่อจริงๆ เพื่อนๆคนไหนสนใจจะไปเที่ยวอินโด ติดต่อ [email protected] / FB :Arif Wawan มีคนไทยไปใช้บริการก่าลุย ( เค้าคุ้นเคยกับคนไทยป็นอย่างดี คิดว่าถ้าเค้ารับพวกเราได้ เค้าคงไม่มีปัญหากับคนอื่น )



หลังจากปรึกษาเรื่องการเปลี่ยนแผนของทีมงานกันแล้ว K.Arif ไม่สามารถไปต่อกับเราได้ เราจะแยกทางกันที่สุราบายา และส่งทีมงานขึ้นรถไฟเพื่อไปเผชิญชะตากรรมในเมืองยอร์คยาแต่สวน สำหรับตั๋วรถไฟสามารถแวะซื้อในมินิมาร์ทได้

( จำนวนวัดที่ลดลง นางก็ลดราคาให้เราตามวันเลย คือดีมากก ไม่มีหักมัดจำใดๆทั้งสิ้น พระมาโปรดจีจี)



คืนนี้ก็นอนในรถ toyota avanza กันค่ะ หมอนรองคอพร้อม ทุกคนนั่งประจำที่พร้อม ฝันดีราตรีสวัสดิ์



( ก่อนถึงโรงแรมเราก็แวะยิงกระต่ายสักตัวสองตัวค่ะ อากาศดีเย็นๆสบาย ฟ้าโปร่ง นับว่าเป็นนิมิตรหมายอันดีชิ้ป้ะ)อินโดนีเซียวันแรก วันแห่งการพักผ่อน



วันนี้เป็นวันพักผ่อนเพื่อปรับสภาพร่างกาย พักผ่อนให้เพียงพอ สำหรับการเดินในคืนนี้ค่ะ



วันนี้เราพักกันที่ Catimor Homestay ( เป็นโฮมสเตที่ไกล้จุดเดินขึ้นคาวาอิเจี้ยนที่สุด เดินทางจาก Catimor Homestay - จุดเดินขึ้น ใช้เวลา 1 ชั่วโมงค่ะ) มาถึงตั้งแต่เช้าที่นี่ก็ให้เช็คอินได้เลยค่ะ ( แน่สิ ตีหนึ่งก็ต้องเชคเอาท์ออกละนี่เชอะ



หน้าตาที่พักของพวกเราค่า

อ่านในรีวิวแบบ ไม่ค่อยดีอ่ะ พอไปเห็นข้างหน้าเอร้ยก็โอเคนะ ไม่แย่ แต่อย่ามองอะไรด้วยตาเปล่าเลย ขอเข้าไปดูข้างในก่อน แล้วจะเหลาอีกที



บริเวณหน้าห้องพัก ( สามเตียงของฝ่ายชาย)

โถงทานอาหารกลาง


บริเวณห้องรับรองรวม ( หน้าห้องพักของทีมฝ่ายหญิง)


ห้องนอน


ทุกอย่างดูเหมือนเอ้ย โอเคว่ะ จนกว่าจะถึงห้องน้ำ ( ห้องเราไม่ปลือนะ โอเค แต่ห้องพวกผู้ชาย กลิ่นดีงามอย่างแรง ยิ่งกว่ากินสะตอ แล้วมาเยี่ยวใส่ห้องน้ำไม่ราดอีกค่า ท่านผู้ชม)



ดีที่หน้าตาดี เลยขอเปลี่ยนห้องได้ ( เกิดมาค่อนข้างใช้หน้าตาได้คุ้มค่า) ขอบคุณความดีงามของบิดรมารดาเช็คอิน เก็บของกันแล้ว ถึงเวลารับทานอาหารค่า



อาหารอินโดมื้อแรก กับ Catimor Homestay ( มาถึงที่นี่ไม่มีสิทธิ์เลือกค่ะ ที่นี่ถือว่าไว้วางใจในด้านความสะอาดมากที่สุดแล้ว เชื่อเจ้ )

ก็นะ เข้ามาอยู่ในหลีบโลกซะขนาดนี้ จะมีอะไรให้กินนอกจาก



1) ข้าวผัดไก่ ( เนื้อไก่ค่อนข้างดี แถมกลิ่นหืนๆมานิดหน่อยค่ะ ไก่ที่อินโดมีขนทุกที่ค่ะ ไม่แน่ใจมีสรรพคุณอะไรเพิ่มเติมไหม คือถ้าถอนขนไก่ออกให้หมดก็ดีนะ นี่มาเป็นไรขนเลอะ ดี้ดี น่ากินออก นึกแล้วก็น้ำลายไหล)



2) บะหมี่แห้งไก่ / บะหมี่น้ำไก่ ( ไก่เดียวกันค่ะ ทอดไว้ตั้งแต่เมื่อวานใช้งานทีเดียวเลย)


จานเด็ด หม่อมถนัดศรีมณีเด้ง ขอมอบให้กับ บะหมี่แห้งไก่ค่ะ รสชาติรสดีมากทึ่สุด แต่จริงๆอย่างอื่นก็กินได้นะ ไม่ได้แย่อะไร



อิ่มกันแล้วพักผ่อนนอนหลับกันสักแป๊ป บ่ายๆไปเดินเที่ยวในหมู่บ้านกันค่ะชาร์ตแบตเต็มแล้วออกไปเดินเหวน ( ตระเวน) ในหมู่บ้านกัน ( ทางโรงแรมบอกมีน้ำตก กับ น้ำพุร้อน )



เดินไปเรื่อยๆค่ะ ต้องผ่านหมู่บ้านนี้ น่ารักมากกก ดูเป็นหมู่บ้านจิ๋มบิ๋ม เล็กๆ ดูอบอุ่นดี ใช้ชีวิตเรื่อยๆไม่มีความรีบเร่ง ไม่มีรถติด ไม่มีควันพิษ ( แต่ฝุ่นตึ๊ม)

ปลูกผักหน้าบ้าน


ผักเค้าต้นใหญ่มากนะเออ ไม่รู้กินได้ป่าว น่าจะปลูกเป็นไม้ประดับ


คนที่นี่น่ารักจัง เดินผ่านก็ทักทายกันตลอดทาง ( เราว่าเราคงสวยมากๆแน่เลย คนแถวนี้เหลยกรี๊ด ๕๕๕)เดินผ่านหมู่บ้านนี้ไป ก็จะเป็นป่า และถนนลูกรัง



ที่นี่ไม่มีป้ายบอกใดใดทั้งสิ้น หลักการเดินคือ การตั้งสมมุติฐานการไหลของน้ำ และการฟังเสียงน้ำตก ( ใช้ได้เหรอวะ ไม่ได้อะจิ เลยหลงงะ) ชาวบ้านก็บอกทางกันคนละทาง คือดี ถือว่าเดินป่าเล่นๆ



สูดอากาศบริสุทธิ์ (เร๊อะ ฝุ่นคลั่กเลยนะเมริงงงง)

เดินไปก็ไม่มีใครเลย นักท่องเที่ยวก็ไม่มี ชาวบ้านก็ไม่มีเลยอิหล้า เดินวนไปวนมาจนเจอน้ำตกของพวกเรา



อั๊ยยะ หวางอิหาทางเข้าน้ำตกพบ รอลุ้นเลยค่ะว่าจะสวยขนาดไหน (ทีมงานพกกางเกงมาเล่นน้ำตกด้วย กะโดดเล่นเป็นปลาปิรันย่าเลอะ)

หลุดจากถนนลูกรังมาได้ ป่าที่นี่ยังสมบูรณ์อยู่มาก ต้นไม้พึ่บพั่บ ก่าลุยแหม็ด ( แยอะแยะไปหมด)


เดินมาครึ่งชั่วโมง ก็มาถึงแล้ววว Blawan Waterfall ( เป็นน้ำตกจริงๆ ตกมาอย่างแรง เล่นน้ำไม่ได้เลย การเล่นน้ำตกเป็นหมันโดยไม่ต้องใช้การผ่าตัด)



ตกลงไปคงไม่ตาย แต่สงสัยหาไม่พบนิ ลงไปก่าสูน ( ลงไปแล้วหาไม่เจอ หายตัว)


หน้าตาความดีใจในแบบหมาๆ ( เหมือนผู้พิชิตหิมาลัยค่า ดีใจเกินจริง)


ไม่ได้คาดหวังกับน้ำตกที่นี่มาแล้วก็เออ โอเคว่ะ ส่วนตัวไม่ได้ชอบน้ำตก แต่ชอบ ผนังมอสตรงข้ามน้ำตก มันดีอ่ะ สวยงามม เป็นมอสแบบนี้ทั้งหน้าผา


ไหนๆมาถึงแล้วก็ถ่ายรูปสักสองสามรูป ( ถ่ายไปถ่ายมา นับรวมเวลาเกือบชั่วโมง ระหว่างนั้นมีนักท่องเที่ยวไป-กลับแล้วประมาณ 10 กลุ่ม พวกเราก็ยังอยู่ )



กลับกรุงเทพไป ต้องเผชิญอะไรอีกก็ไม่รู้ เลยไม่ลืมที่จะทำเวลาปัจจุบันให้ดีที่สุด ( คือทำไรเหรอ คือก็ไม่ได้ทำไร บ้าป่าว คุยกับตัวเอง )

กว่าจะเดินมาถึงจุดนี้ เท้าเราต้องเปื้อนฝุ่นขนาดไหนน ( จากตรีนดำ ขาวเฉยเลย กรูต้าก็ไม่ได้กิน เห็นหน้าตาเคี่ยมๆ ตรีนขาวเพียบนะครัช ไม่อยากอิโม๊)


เสร็จจากน้ำตก เราก็เดินกลับที่พักค่ะ



ระหว่างทางมีบ่อน้ำร้อน สามารถไปแช่ได้ค่ะ ( น้ำไม่ได้ขัดขาวนะค่ะ คือสีน้ำตาลดั้งเดิมเลยทีเดียว เห็นแล้วอยากกินชาชัก)



หนุ่มๆหมาหมา เลยไม่พลาดเซลฟี่กับสาวอินโด ( ลงเรือลำเดียวกันละ )

สาวๆอินโด น่ารักอยู่นะ ( แพ้สาวพัทลุงไปหิดเดียวเท่านั้น)อาบน้ำเสร็จแล้วก็เย็นย่ำ อากาศเย็นๆชุ่มฉ่ำ ตอนเดินกลับโฮมสเตล์ชาวบ้าน และเด็กๆออกมานั่งหน้าบ้าน วิ่งเล่นกันสนุก ไม่รอช้าค่ะขอจักรยานเด็กมาปั่น ( เอาชอคโกแลตเข้าล่อ ) บวกกับความช่วยเหลือของสาวอินโด ทำให้โหมเราได้มีกิจกรรมตอนเย็น



ปล่อยบ่าวไปจัดการฮาเร็มของเค้า คิคิคิ

แก๊งบิ๊กไบค์


เทรนการขี่จักรยานของที่นี่ฮะ ( ผาดโผนมากจนถ่ายไม่ทันเลยฮะพี่ฮะ)


เด็กที่นี่ชอบถ่ายรูป และแต่ละคนจะมีท่าโพสเฉพาะตัวของตัวเอง ฮาดี


( บ้ากล้องมากกก แต่ขอให้ระวังกล้องให้ดีๆค่ะ น้องๆจะแย่งจากมือ ไม่ได้มีเจตนาขโมยหรือไรนะคะ แค่อยากดูรูปตัวเองเท่านั้น อย่าเผลอไปตบบ๊องหูเด็กเข้าล่ะ)

น้องคนนี้ ถ่ายกี่ทีก็ยิ้มแบบนี้ ( นี่คงธรรมชาติสุดของน้องเค้าแล้วละฮะ)


เราชอบเด็กคนนี้ ( แพ้ผู้ชายติดกระดุมคอ ๕๕๕๕ จองไว้ก่อนคนนี้ ไปรอบหน้าจะให้แม่ไปขอ)


อากาศจะเย็น และ หนาว ขึ้นเรื่อยๆ ( อย่าคาดหวังว่าเครื่องทำน้ำอุ่นจะทำงานได้ดีค่ะ)


เราพลาดอาบน้ำก่อนนอน ขนงี้ลุกเลยครับ



โฮมสเตย์ที่นี่มีคอร์ทแบตมินตัน ( เราก็ไม่พลาด ถึงจะไม่มีไม้และลูกจ้าา ยืมเอา คนที่นี่ใจดีจริงๆ ให้เรายืมด้วย )

เล่นเทนนิสเสร็จก็ถึงเวลาทานอาหารเย็นค่ะ มื้อนี้ก็ต้องฝากท้องไว้ที่นี่แหละ



อาหารเย็นจะเป็น set ค่ะ สามารถสั่งได้ว่าจะเอากี่เซท ( มา 5 คน ไม่จำเป็นต้องสั่ง 5 เซท ค่ะ อาหารในเซทเยอะ) ทีมงานหมาหมา สั่งไป 2 เซท ( เพิ่มผัดหมี่ และโตงโม ราคารวม 140,000 IDR / อาหารเซทละ 50,000 IDR)

เมนูอาหารก็เลือกไม่ได้จ้ะ เค้าจะจัดเซทมาให้เรา



1) ผัดหมี่

2) น้ำซุปผัก


3) ไข่เจียวม้วน / มันฝะรั่งบดทอด


4)ไก่ทอด ไก่ทอดตอนเย็นดีกว่าตอนเที่ยงมาก ( คาดว่าทอดใหม่ และเปลี่ยนน้ำมันทอดไก่เรียบร้อย)


5) ข้าวสวย ( เอามาคลุดน้ำพริกที่มีจากบ้านเรา กินกับไก่ทอด แค่นี้ก็พอยาใส้แล้ว)

ุ6) ข้าวเกรียบ อาหารที่นี่เกือบทุกอย่างจะมีข้าวเกรียบมาด้วย ( คงประมาณน้ำพริกผักเหนาะบ้านเรา)



กินข้าวไป จิบเบียร์ไป ตามสโลแกน กินของคาว ไม่กินแฮลกอฮอล์สันดานไพร่

เขาว่าคนใต้เสียงดัง ไม่รู้จริงป่าว กินเบียร์เล่นเกมส์ไปแค่ไม่กี่ขวด สักพัก มีฝรั่งรูปหล่อเดินมา ( คิดในใจ เค้าต้องชอบเราแน่เลอะ มาขอไลน์ชิป๊ะ จะให้ดีไหมเรา กุลสตรีไทยนะเหวย คิคิคิ)



ความจริงคือ เค้ามาบอกว่า "ขอโทษนะครับ รบกวนเงียบหน่อยครับ พรุ่งนี้ผมต้องตื่นเช้า ขอบคุณครับ"



ในใจเขาคงคิดว่า



"พวกเมิงไม่มีมารยาทกันหรือไง เสียงดังชิปเป้ง เล่นอะไรปัญญาอ่อน 5 / 10 /15/ 20 พรุ่งนี้ขอให้ตื่นสาย เดินไปขึ้น Kawah Ijen ไม่ทัน



ก็แค่สามทุ่มเองนะ



สามทุ่มในวันที่ต้องตื่นกี่โมงก็ไม่รู้ละ เพื่อออกเดินทางตอนตีหนึ่งเอง

ใช่แล้ว ฟังไม่ผิด พิมพ์ไม่ผิด ล้อหมุนตอนตีหนึ่ง



คุณพระ หน้าพอจะมียางอายเลยแยกย้ายกันไปนอน แอบรู้สึกผิดเล็กๆต่อฝรั่งนายนั้น

ขอย้ำอีกครั้ง ให้อาบน้ำเตรียมไว้ตั้งแต่เย็น อาบน้ำเสร็จใส่ชุดพร้อมเดินทางสำหรับวันพรุ่งนี้ พร้อมกับตั้งนาฬิกาปลุกเที่ยงคืนครึ่ง สำหรับล้างหน้าแปรงฟัน เก็บของ ( ไม่ว่ายังไงตอนเช้าชั้นก็จะไม่อาบน้ำเด็ดขาด เย็นนนนนนนนสาสสสสสสสส)



สู้เว่ย


ชอบท่องเที่ยวชอบถ่ายภาพ เข้าไปเมาส์มอยกันได้ที่เพจนะคะ
FB Page : Goanywhere ( <a href="https://www.facebook.com/go.anywheree">https://www.facebook.com/go.anywheree</a> )
E-mail : [email protected]
photo / Story by LamHub

goanywhere

 วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เวลา 23.38 น.

ความคิดเห็น