Blog นี้เราจะมารีวิวการมาเรียนภาษาอังกฤษที่เมืองเซบู ความเป็นอยู่ และการท่องเที่ยวรอบๆ ค่ะ

ครั้งนี้เรามาอยู่เซบูทั้งหมด 7-8 สัปดาห์ด้วยกัน

โดย 2 สัปดาห์แรก จะเป็นช่วงที่เราได้ไปทดลองเรียนที่โรงเรียนต่างๆ รวม 5 โรงเรียน กับ ก้อปันกัน เอเจนซี่โรงเรียนสอนภาษาที่ฟิลิปปินส์ค่ะ ก่อนที่จะได้มาเป็นนักเรียนจริงๆ ระยะเวลา 1 เดือนที่โรงเรียน Cebu Blue Ocean Academy

สำหรับขั้นตอนแรกเลยของการมาเรียนภาษาที่ประเทศฟิลิปินส์ก็คือติดต่อกับทางเอเจนซี่ก่อนเลย เพราะโรงเรียนสอนภาษาที่นี่จะรับจองผ่านทาง Agency เท่านั้น

สำหรับ Agent ที่เราแนะนำและเลือกมาด้วยในครั้งนี้ คือ KPG Learn ค่ะ ทีมก้อปันกันเป็นเจ้าหลักๆ ที่ส่งนักเรียนไทยมาเรียนที่ฟิลิปปินส์มาอย่างยาวนานค่ะ

ซึ่งแต่ละโรงเรียนก็จะมีจุดเด่นแตกต่างกันไป รวมถึงคอร์สเรียนด้วย เมื่อได้คุยข้อมูลต่างๆ และเลือกคอร์สเรียนต่างๆ เรียบร้อย เราก็สามารถจองตั๋วเครื่องบินมาได้เลยค่ะ ไม่ต้องทำวีซ่ามาก่อน

โดยตอนที่เราลงคอร์สเรียน ทางโรงเรียนจะเก็บค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทั้งค่าเรียน ค่าที่พัก และ Local Fee เรียบร้อยแล้ว แปลว่าเราจ่ายเรียน ค่ากิน ค่าที่พัก ค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่จำเป็นมาทั้งหมดแล้วค่ะ จะเหลือก็แค่ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่าเดินทางไปนู่นนี่ ค่าขนม ของกินที่ออกไปกินข้างนอก และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ค่ะ

ข้อกำหนดของคนไทยหลักๆ ตอนที่เราไปก็คือ เราต้องมีตั๋วไปและตั๋วกลับแสดงให้กับทาง ตม. ดูค่ะ

ส่วนเรื่องวีซ่านั้น เราสามารถอยู่ได้แบบ Free Visa เป็นเวลา 30 วัน หากใครเรียนแค่ 1 เดือนก็ไม่ต้องทำอะไรเลย แต่หากอยู่นานกว่านั้นทางโรงเรียนจะดำเนินเรื่องทำเอกสาร SSP(Special Study Permit) สำหรับ Extend Visa ให้กับเราเองค่ะ สะดวกมากๆ ซึ่งบริการนี้มีทุกโรงเรียนค่ะ

สำหรับไฟลท์บินตรงลงเซบูตอนนี้จะมีเฉพาะสายการบิน Philippine Airlines เท่านั้นค่ะ เป็น Full Service มีอาหารพร้อมโหลดกระเป๋าได้ 30kg พอสำหรับการไปเรียนแน่นอนค่ะ : )

สนามบินที่เราไปลงคือ สนามบิน Mactan-Cebu International Airport อยู่บนเกาะ Mactan ใช้เวลาประมาณ 20-40 นาทีก็ถึงโรงเรียนในเซบูค่ะ

สำหรับการมาเรียน นักเรียนสามารถจองรถรับจากสนามบินกับทางโรงเรียนได้เลยค่ะ ไฟลท์จากไทยจะลงช่วงเช้าๆ พอดี เวลาที่ฟิลิปินส์เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมงจะว่าไปก็แทบไม่รู้สึกต่างเท่าไหร่ แค่ที่นู่นจะเริ่มสว่างตั้งแต่ประมาณตี 5 ครึ่งค่ะ

เราบินมาถึงวันอาทิตย์ก็จะชิลๆ หน่อย มีเจ้าหน้าที่คนไทยจากโรงเรียน GLC มารับค่ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาทีก็ถึงโรงเรียน มาทันมื้อเช้าด้วย ก็ทานอะไรรองท้องแล้วรับกุญแจห้องไปนอนพักกันก่อนได้เลย

ห้องพักที่นี่มีแบบ 1-4 เตียงให้เลือก ห้องเราเป็นห้อง 3 เตียง มีหน้าต่าง มีแอร์ และพัดลมให้ พร้อมไดร์เป่าผมในห้องน้ำ มีตู้เย็น ตู้เสื้อผ้า และมีโต๊ะทำงานพร้อมโคมไฟให้ด้วย ซึ่งแต่ละโรงเรียนก็จะมีที่พักให้เลือกในลักษณะเดียวกันค่ะ แต่จะแตกต่างตรงสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพักบ้างเล็กน้อย

สำหรับวันแรกที่มาถึงก็จะไม่มีอะไรมาก เรียกว่าเป็นวันจัดของ และพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวสำหรับวันจันทร์เลยค่ะ

วันจันทร์ วันนี้เป็นวันแรกที่เราจะได้เป็นนักเรียนแล้ว เริ่มต้นด้วยการลงมาทานอาหารเช้า แล้วก็มาปฐมนิเทศ เพื่อบอกกฎต่างๆ ของโรงเรียน ถ่ายรูปทำบัตร School Tour ชำระค่าธรรมเนียมต่างๆ และทำทดสอบวัดระดับกันค่ะ ในช่วงบ่าย ก็จะเป็นเวลานักเรียนไปห้างใกล้ๆ สำหรับแลกเงิน และซื้อของใช้ต่างๆ (บางโรงเรียนอาจมีสลับตารางเวลากันนิดหน่อย)

ในวันถัดมาเราก็จะเข้าสู่การเรียนแบบปกติกันค่ะทุกคน

ตอนเช้า เริ่มที่ลงมาทานข้าวก่อนเลย อาหารของโรงเรียนจะพร้อมตั้งแต่ช่วง 7-8 โมง ก่อนจะเริ่มเรียนประมาณ 8 โมงเช้า (บางโรงเรียนอาจมีเวลาต่างกันเล็กน้อย)

ตารางเรียนโดยส่วนใหญ่จะแบ่งเป็น ช่วงเช้า 5 คาบเรียน และช่วงบ่ายอีก 5 คาบเรียน

แต่ละคาบเรียนจะเรียน 45-50 นาที และมีเบรกระหว่างเรียน 5-10 นาที สำหรับเปลี่ยนห้องเรียน / เข้าห้องน้ำ / หาขนมกิน : )

ซึ่งนักเรียนแต่ละคนจะมีเรียนประมาณ 7-8 คาบ (แบบ Semi-Sparta) ก็อาจจะมีตารางพักเบรกบ้างแล้วแต่คนเลยค่ะ

คาบเรียนโดยส่วนใหญ่จะเป็นเรียนตัวต่อตัว 4-5 คาบ และเรียนแบบกลุ่มอีก 2-3 คาบ บางโรงเรียนจะมีคอร์สแบบเรียนตัวต่อตัวทั้งหมดเลยก็ได้ หรือจะเรียนแค่ครึ่งวันประมาณ 4 คาบเรียนก็มีเช่นกันค่ะ

ช่วงพักเที่ยงบางโรงเรียนจะพักพร้อมกันหมดเลย บางโรงเรียนก็จะมี 2 เบรก แล้วแต่ตารางเรียนเลย

สำหรับมื้อเย็นจะเริ่มช่วงหลังเลิกเรียนแล้ว ซึ่งถ้าใครอยากออกไปชอปปิ้ง หรือไปกินข้าวข้างนอกก็สามารถทำได้เหมือนกัน โดยเวลาเคอร์ฟิวที่เราต้องกลับมาที่โรงเรียนในวันธรรมดาคือก่อน 4 ทุ่มค่ะ

สำหรับวันศุกร์หลายๆ โรงเรียนจะมีแบบร่นคาบเรียนลง 5 นาที เพื่อให้เลิกไวขึ้น หรือเปลี่ยนบรรยากาศการเรียนเป็นการเล่นเกมที่ได้ใช้ภาษา หรือ Relax กว่าวันเรียนปกติ รวมถึงบางโรงเรียนไม่มีเคอร์ฟิวในคืนวันศุกร์ด้วย เราสามารถไปเที่ยวได้ตามอัธยาศัยเลย

สำหรับวันเสาร์-อาทิตย์ นักเรียนส่วนใหญ่จะออกไปเที่ยวกันค่ะ ทั้งในเกาะเซบู หรือบินไปเที่ยวเมืองอื่นๆ ก็สะดวกมาก เพราะใกล้สนามบินและที่เซบูก็เป็น hub ท่องเที่ยวของฟิลิปปินส์ด้วย

ทริปสุดฮิตของนักเรียนที่มาเรียนภาษาที่เซบู จะมีดังนี้ค่ะ

🐋 ว่ายน้ำกับฉลามวาฬที่ Oslob (One day trip)

🏝️ Island Hopping ที่ Mactan (One day trip)

🏞️ Canyoneering ที่ Kawasan Fall (One day trip)

🐟 ว่ายน้ำกับฝูงซาดีน ที่ Moalboal (One day trip)

🦥 ดูทาร์เชียร์ ที่ Bohol (One day trip)

🧙🏻‍♀️สัมผัสเสน่ห์อันลึกลับ ที่ Siquijor (2-3 วัน)

ส่วนที่เที่ยวสุดฮิตที่นิยมไปแต่ว่าต้องบินไปก็คือ

🏖️ เที่ยวทะเล ที่ Boracay (3-4 วัน)

🏄🏻 เล่นเซิร์ฟ และติดเกาะ ที่ Siargao (3-4 วัน)

🏝️ เที่ยวเกาะ ทะเล และดำน้ำ ที่ Palawan-Coron (4-5 วัน)

สำหรับการออกไปเที่ยวที่ต่างๆ นักเรียนต้องส่ง Travel Plan แจ้งโรงเรียนว่าจะไปไหนวันไหน กลับเมื่อไหร่ ประมาณนี้ค่ะ เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทางโรงเรียนและความปลอดภัยของตัวนักเรียนเอง

แต่ละโรงเรียนจะมีจัดกิจกรรมพิเศษในทุกๆ เดือน หรือทุกๆ สัปดาห์ เพื่อให้นักเรียนได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น และทุกๆ 2 สัปดาห์โรงเรียนจะมีกิจกรรมมอบใบประกาศสำหรับนักเรียนที่เรียนจบด้วย

💵 การใช้จ่ายในฟิลิปินส์ สามารถใช้บัตร Travel Card และบัตรเครดิตได้เลย (มีเพื่อนบอกว่าบัตรเดบิตชอบมีปัญหารูดได้บ้างไม่ได้บ้าง) เราใช้บัตร Youtrip ตลอดค่ะ แตะจ่าย ผูกกับแอป หรือรูดที่ร้านได้หมด สะดวกมากเพราะเติมเงินไทยเข้า เรทเท่าๆ กับแลกมา แต่ไม่ต้องกดเงิน ใครยังไม่มี สมัครตรงนี้ได้ฟรีเลย https://youtrip.onelink.me/3xWB/6f7o664s

หรืออีกวิธีที่สะดวกสำหรับคนที่มีซิมฟิลิปปินส์คือให้สมัคร Gcash ค่ะ ไว้สำหรับเติมเงินเข้าไปแล้ว Scan จ่ายได้เลย อารมณ์ Promptpay บ้านเรา

เงินสดยังเป็น A must ที่ฟิลิปปินส์นะคะ เพราะว่าหลายๆ ร้านก็รับเฉพาะเงินสดไม่สามารถรูดบัตรได้ค่ะ รวมถึงค่าทัวร์ต่างๆ เวลาจองส่วนใหญ่จะรับเป็นเงินสดค่ะ

การใช้ชีวิตในแต่ละวันไม่ยากเลย จริงๆ คล้ายกับเมืองไทยมากๆ ต่างก็ตรงต้องพูดภาษาอังกฤษแทนภาษาไทยค่ะ คนที่นี่พูดภาษาอังกฤษได้เกือบ 100% เพราะโรงเรียนเขาสอนหนังสือด้วยภาษาอังกฤษเป็นหลัก และก็ยังใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการด้วย ฉะนั้นหมดห่วงเรื่องกลัวว่าจะคุยไม่รู้เรื่องได้เลย (กลัวตัวเองดีกว่า 5555)

รถสาธารณะต่างๆ แทกซี่สามารถโบก หรือเรียกจาก Grab ได้ มีวินมอไซค์ และแบบเรียกผ่านแอป Maxim และ Angkas มีรถเมล์และสองแถวที่เรียกว่า Jeepney วิ่งครอบคลุมมากๆ ในราคาถูกสุดๆ และระหว่างเมืองสามารถนั่งรถทัวร์ได้ในราคาถูกมากๆ เช่นกันค่ะ

ชีวิตในแต่ละวันของการเป็นนักเรียน Full time ของเราก็จะเป็นแบบนี้วนไปค่ะ

สำหรับขากลับ นักเรียนจะเลือกนั่งรถแทกซี่ไปสนามบินเอง หรือว่าจองรถรับส่งกับทางโรงเรียนก็ได้ (แต่ว่านั่งแทกซี่ไปเองถูกกว่า และนี่คือคำแนะนำค่ะ 5555)

มาดูบรรยากาศของแต่ละโรงเรียนกันค่ะ

Cebu Blue Ocean Academy

GLC

EV Academy

Cella Premium Campus

Cella Uni Campus

I.Breeze

สำหรับใครที่ยังมีคำถามเพิ่มเติม สามารถสอบถามเราหรือติดต่อ KPG Learn ที่ Line@ @KPGLearn ได้เลยนะคะ

#เจอนั่นJourney #เรียนภาษาอังกฤษที่ฟิลิปปินส์ #เรียนภาษาที่ฟิลิปปินส์

#เรียนภาษาอังกฤษกับครูฟิลิปปินส์ #ก้อปันกัน #korpungun #KPGLearn #เรียนภาษาที่เซบู

เจอนั่น Journey

 วันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 เวลา 18.11 น.

ความคิดเห็น