8th April 2024
แพลนเดิมคือวันนี้กะจะไปโคยะซัง แต่ "ไกล" และเสียเวลาเที่ยว
มันย้อนแย้งกับการมาวากะยามะของเรา จากเพจวัดเนโกะโระ ของอิวาเดะแจ้งว่าวันนี้จะฟลูบูม เอาค่ะทิ้งมรดกโลกตามหาซากุระในชนบทดีกว่า ^^
ข้าวเช้าของพวกเราง่าย ๆ จบที่คอมบินิ รองท้องแล้วไปสถานีนันไกวากะยามะชิ เพื่อเปลี่ยนนั่งเจอาร์วากะยามะ ขึ้นรถไฟที่แฟลตฟอร์ม 7 ปลายทางคือสถานีเจอาร์อิวาเดะค่ะ
ก่อนขึ้นแวะหาล๊อกเกอร์หยอดเหรียญฝากกระเป๋าเพราะอีกวันต้องเช็คเอาท์ก่อนออกเที่ยว เจอแล้วตรงทางเข้าสถานีที่วันก่อนมาไม่ได้สังเกต
เมืองอิวาเดะ หรือ อำเภออิวาเดะ อยู่ห่างจากอำเภอวากะยามะชิไปไม่กี่ กม.ค่ะ
นั่งสาย
Kesei Line จากสถานีนันไกวากะยามะชิ มาลงเจอาร์วากะยามะ แล้วต่อ Wakayama
Line ที่แฟลตฟอร์ม 7 ประมาณ 45 นาทีเพื่อมาลงที่สถานีอิวาเดะ
จากสถานีอิวาเดะที่ทางออก
เดินข้ามถนนไปจะเจอป้ายรถบัส ใกล้ ๆ กับตารางเวลาบัสมีร้านขายของชำ เราแวะซื้อร่มที่ร้านของชำนี้ 450 เยน ถูกกว่าในเซเว่นในเมืองอีกแน่ะ
ระหว่างรอรถ
จากสถานีไปที่จอดป้ายหน้าห้องสมุดใช้เวลานั่งบัสไม่นาน ราว 12 กม. เราก็ดูวิวข้างทางไป ซากุระผลิบานทุกที่ที่เรานั่งบัสผ่าน
จริงอย่างลุงร้านของชำบอก ว่าแค่หน้าโทโชกังก็เห็นซากุระแล้ว
เขาปลูกที่ทางเข้าและรอบ ๆ เลยเราเก็บภาพหนึ่งกรุบ ก่อนสาวเท้าไปวัดเนโกโระ
ลงบัสจากป้ายโทโชกัง เดินอีก 800 เมตรก็ถึงวัดค่ะ
เลี้ยวซ้ายตามป้ายเลย
โดนตกระหว่างทางด้วยยาเอะซากุร(ไมแน่ใจใครรู้แนะนำหน่อยนะคะ)ที่กำลังเบ่งบาน
จริง ๆ ต้นน้องก็สูงนะที่เห็นนี่ยอดเพราะลำต้นอยู่ริมธารด้านล่าง
นี่แค่ทางเข้าวัดนะ
ตรงไดมงของวัดค่ะ เราใช้เวลาที่นี่สักพักใหญ่เพราะฟูมาก ใจฟูตาม
ไดมง (ประตูใหญ่เข้าวัด)
โดนตกอยู่ตรงนี้สักพักใหญ่ ๆ 555 คือไม่ผิดหวังที่ทิ้งโคยะซังมาที่นี่สำหรับเรา แค่ล่าซากุระก็สุขใจที่สุดแล้วทริปนี้
จากไดมงและทางเข้า ยังต้องเดินต่ออีกสักสาม สี่ร้อยเมตร
ระหว่างทางเป็นตรอก เป็นทางรถวิ่ง เราเดินตามทางไป เห็นบ้านผู้คนที่อาศัยละแวกนั้น ผู้คนก็ทักทายเราดี รถราขับอย่างน่ารัก
ตรงโค้งนี้ จะมีศาลเจ้าเล็ก ๆ ซ่อนตัวอยู่บนเนินค่ะ
เราเข้าใจว่า ในพื้นที่ทั้งหมดตั้งแต่ไดมง จนถึงตัววัด จะมีศาลเล็กศาลน้อยเรียงรายสลับกับบ้านผู้คนไปด้วย
นี่มากลางคืนอาจมีวิ่ง
ตกใจ
เดินตามทางจะถึงประตูเข้าวัดมีเสาหินติดชื่อวัดต้นใหญ่ ๆ ค่ะ
ที่วัดเนโกะโระ
เราเสียค่าเข้าคนละ 500 เยน พร้อมได้เอกสารมาคนละชุด คนขายตั๋วเข้าวัดให้เอกสารอังกฤษ 1 ภาษาญี่ปุ่น 2
ในวัดกำลังประกอบพิธีอะไรสักอย่างได้ยินเสียงสวด
และผู้คนกราบไหว้
สองหนุ่มเดินมาเริ่มเหนื่อยและกระหาย
แม้จะอากาศหนาว แต่ควรแวะดื่มสักหน่อย
Negoro-ji Tahoto Pagoda
(Daito, Grand Pagoda)
วัดเนะโกโระจิคือกลุ่มอารามที่ซุกซ่อนตัวอยู่ในภูเขาคัตสึระกิอันศักดิ์สิทธิ์ วัดและเจดีย์ของที่นี่สวยงามมาก
เราเห็นป้ายหน้าเจดีย์ไม้หลังใหญ่ว่าเป็นสมบัติแห่งชาติเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญและเป็นเจดีย์ไม้หลังใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นอยู่ในเขตวัดแห่งนี้โดยยังคงสภาพเดิมไม่สึกหรอ แม้จะสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปีคศ. 1547 ซึ่งไม่ถูกทัพของโทโยโทมิล้อมโจมตี มีพระพุทธรูปในเจดีย์ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญในห้องโถงหลัก
Daitō (大塔), National Treasure (credit : wikipedia)
This is the largest Tahō-tō-style Pagoda in Japan, with a height of 40 meters and a width of 15 meters. It houses a statue of the Vairocana Buddha inside a circle of 12 pillars. It is believed to have started construction around 1480, and was completed around 1547. based on a record found within the structure during modern dismantling and repairs. The structure also has bullet holes from the attack on the temple by Toyotomi Hideyoshi in 1585.The structure was designated a National Treasure in 1899[5]
Negoroji Daidenhodo
อีกวิหารหลวงที่ผู้คนนิยมเข้าไปกราบไหว้ เราไม่ได้เข้าค่ะ ไม่มีรูปด้านในมาฝากนะคะ
ออกจากวิหารหลวงนึกว่าจะพ้นอาณาเขตวัด
อ้าวเปล่าหรอกเหรอ ยังมีวัดเล็กวัดน้อยที่อยู่เขตวัดเนโกโระอีกหลายที่เลยค่ะ
หนึ่งในนั้นที่เราแวะ คือ
Negoroji Fudodo
Momijidani Park
เป็นสวนสวยที่มีลำธารไหลผ่านตลอดสวน
ขึ้นชื่อเรื่องโมมิจิยามเปลี่ยนสี แต่ยามซากุระบานอย่างนี้ก็สวยไม่แพ้กันค่ะ
Nokoro Cafe
เดินวัด เดินสวน และมาจบที่คาเฟ่ในเขตวัดกันค่ะ
ราคาไม่แรง มีเมนูแนะนำช่วงใบไม้ผลิอย่างนี้คือไอติมซากุระ เราไม่พลาดที่จะลองค่ะ
Sakura Icecream กับวิวอย่างนี้
อากาศดี ๆ อย่างนี้ "รักเลย"
แล้วเราจะคิดถึงเธอนะ อิวาเดะ - วากะยามะ
Mariabamboo
วันจันทร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2567 เวลา 16.55 น.