Day 3 : ที่ปีนัง มาเลเซีย 🇲🇾 กิน เที่ยวไม่หยุด เดินกันขาลากสุดๆ และอากาศก็ร้อนมากๆ จ้าาาาา 🌞
เวลาที่ปีนัง 🕢 ช่างผ่านไปไวซะเหลือเกิน อย่างเมื่อวานกินเที่ยวได้แป๊ปเดียวก็หมดวันซะแล้ว วันนี้เลยตั้งใจว่า...จะต้องตามกิน ตามเที่ยว ตามแพลนที่เตรียมไว้ให้ได้เยอะที่สุด เพราะอุปสรรคอีกอย่างของการมาเที่ยวปีนัง คือ ฝนค่ะ 🌧🌦⛈️ ตกมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ตกตลอด วันนี้ก่อนออกจากที่พัก ก็ภาวนาว่าอย่าให้ฝนตกเลย ขออากาศร้อนดีกว่าเจอฝนค่ะ ว่าแล้วก็ไปหาทานมื้อเช้าอร่อยๆ เติมพลังกันก่อน เตรียมตัวพร้อมแล้วไปกินไปเที่ยวด้วยกันค่ะ
มื้อนี้เราไปกินไกลที่พักนิดนึงน๊าาา แต่เป็นช่วงเวลาเร่งด่วนเราเลยเดินไปเรียก Grab Car แถวร้าน KEDAI KOPI SENG THOR เพื่อไปกินติ่มซำ
แป๊บเดียวก็ถึงหน้าร้านแล้วค่ะ ระยะทาง 3 km อัตราค่าโดยสารอยู่ที่ 10 RM (10*8 = 80 บาท)
Lhong Tou Dim Sum 龙头点心
ร้านนี้ เป็นร้านติ่มซำสไตล์ฮ่องกงที่อร่อยจริงๆ รสชาติดีราคาสูงเล็กน้อย แต่!!! หากเอามาเปรียบเทียบกับคุณภาพของอาหารที่ได้ถือว่าคุ้มค่าเอามากๆ เพราะทางร้านเลือกใช้วัตถุดิบอย่างดี สด สะอาด
ภายในร้านก็บรรยากาศดี พนักงานให้บริการดี ใจเย็นกับลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวแบบเรามากค่ะ ให้คำแนะนำในการสั่งอาหารได้เป็นอย่างดี มื้อนี้เราสั่งมา 8 อย่าง
1️⃣ บาร์บิคิวเบคอน : 1 ชุด มี 3 ชิ้น เมนูนี้คือ หมูบดก้อนปรุงรสพันมาด้วยเบคอน แล้วนำไปทอด ราดด้วยน้ำซอสเฉพาะของทางร้าน เมนูนี้เด็ดจริง ราคา 13.90 RM คิดเป็นเงินไทย (13.90*8 = 111.20 บาท)
2️⃣ เสี่ยวหลงเปา : 1 ชุด มี 3 ชิ้น แป้งแอบหนาไปนิดแต่ก็อร่อยค่ะ ข้างในเป็นหมูสับกินคู่กับเครื่องเคียงที่ให้มา คือ ขิงซอยแช่มาในน้ำซอสสีดำๆ ซึ่งไม่ใช่ซีอิ๊วดำ ไม่ใช่จิ๊กโฉ่ อร่อยลงตัวมากค่ะ ราคา 16.90RM คิดเป็นเงินไทย (16.90*8 = 135.20 บาท)
3️⃣ ข้าวอบ เป็นข้าวที่อบมาแบบชุ่มฉ่ำซอสมากค่ะ มีลักษณะคล้ายกับบ๊ะจ่างภูเก็ต แต่ฉ่ำว้าวกว่าเยอะ ข้าวไม่แข็ง ไม่เล๊ะยังคงเป็นเม็ดเพียงจะกอดกันด้วยตัวน้ำซอส ด้านบนจะ Top มาด้วยเนื้อไก่ กุนเชียง และเห็ดหอม อร่อยว้าว ราคา 8.90 RM คิดเป็นเงินไทย (8.90*8 = 71.20 บาท)
4️⃣ ก๋วยเตี๋ยวหลอด : 1 ชุด มี 2 ชิ้น เป็นก๋วยเตี๋ยวหลอดแป้งสด แป้งนุ่มละลายในปาก ไส้ด้านในเป็นหมูแดงที่มีความฉ่ำซอสมาก มีกลิ่นหอม ทางร้านจะเสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำพริกเผาให้ทานคู่กัน ส่วนน้ำราดก็รสชาติกลมกล่อม ราคา 16.90 RM คิดเป็นเงินไทย (16.90*8 = 135.20)
5️⃣ เผือกทอด : 1 ชุด มี 2 ชิ้น เนื้อเผือกมาแบบจัดเต็ม ไส้แน่น ละเอียด มีเนื้อเผือกกับหมูสับผสมกัน รสชาติพอดี อร่อย กรอบนอกนุ่มใน ทานตอนร้อนๆ อร่อยมากเลยค่ะ ราคา 12.90 RM คิดเป็นเงินไทย (12.90*8 = 103.20 บาท)
6️⃣ ทาร์ตไข่โปรตุเกส : 1 ชุด มี 3 ชิ้น สีสันอย่างสวย มีกลิ่นหอม ไม่คาวไข่ ทานตอนร้อนๆ ก็อยู่ค่ะ ไม่เหมือน KFC น๊าา ราคา 10.90 RM คิดเป็นเงินไทย (10.90*8 = 87.20 บาท)
7️⃣ ขนมจีบกุ้ง : 1 ชุด มี 3 ชิ้น เป็นขนมจีบกุ้งของจริงไม่จกตา เพราะมีกุ้งด้านในถึง 2 ตัวเต็มๆ แล้วเอาหมูสับมาห่อหุ้มแบบบางๆ ทานตอนนึ่งมาร้อนๆ คือ ฉ่ำมาก ด้านบนก็ Top ไข่กุ้งมาเพื่อตวามสวยงาม ทานคู่กับน้ำจิ้มสีส้มของทางร้านอร่อยมาก น้ำจิ้มคล้ายกับที่ภูเก็ตแต่!!! ก็ไม่เหมือนค่ะ ราคา 11.90 RM คิดเป็นเงินไทย (11.90*8 = 95.20 บาท)
8️⃣ ชาร้อน กาเล็ก ชาที่สั่งเป็นชามะลิค่ะ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ตอนแรกคิกว่าราคานี้คือ 1 กาจบ หมดแล้วหมดเลย ที่ไหนได้พนักงานถามเติมน้ำร้อนให้แบบรีฟิวได้ถ้าคุณต้องการ เห็นกาเล็กแบบนั้นแบบจุกเหมือนกันค่ะ 🤣🤣 ราคา 10.90 RM คิดเป็นเงินไทย (10.90*8 = 87.20 บาท)
โชคดีค่ะ ทางร้านเห็นว่าเราเป็นนักท่องเที่ยว แล้วเห็นเราการถ่ายรูปเยอะเวอร์ เลยได้สอบถามว่าเราจะไปทำรีวิวให้กับทางร้านใช่มั้ย ด้วย
ความสัจจริงเราก็ตอบว่า Yes! ทางร้านก็เลยมีส่วนลดให้ 5 % สรุปรวมค่าเสียหายของมื้อนี้ อยู่ที่ 107.85 RM คิดเป็นเงินไทย (107.85*8 = 862.80 บาท)
🎯 : 11, Jalan Pasar, Pulau Tikus, 10350 George Town, Pulau Pinang, มาเลเซีย
⏰️ : เปิดทุกวัน เวลา 07.00-14.30 น. และ เวลา 17.00-21.00 น.
☎️ : +60 4-264 5168
🌏 : https://maps.app.goo.gl/SW6NnYDLDoLmXy5u6
หลังจากทานเสร็จ ก็ตัดสินใจอยู่นานว่าจะเรียก 🚖 Grab Car หรือ จะใช้บริการ🚶♀️🚶♂️ 2 ขาคู่ใจ สุดท้ายเราก็เลือกที่จะเดินย่อยไปในตัว เพื่อไปยังวัดไทยกับวัดพม่า ที่อยู่ไม่ไกลจากร้านติ่มซำค่ะ
วัดไชยมังคลาราม : Wat Chayamangkalaram Thai Buddhist Temple
"วัดไชยมังคลาราม" วัดไทยที่รู้จักกันในท้องถิ่นว่า "วัดพระนอน" ตั้งอยู่ที่ถนนโลรองบูร์มะฮ์ จอร์จทาวน์ ปีนัง ประเทศมาเลเซีย เป็นวัดไทยแห่งแรกในปีนัง ที่สร้างตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ในปี พ.ศ. 2388 โดยบริษัทอินเดียตะวันออก (East India Company) ซึ่งเป็นบริษัทการค้าของอังกฤษในนามของสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย จัดสรรไว้สำหรับชุมชนชาวไทยพุทธบนพื้นที่ 5 เอเคอร์
และยังเป็นที่ตั้งของพระพุทธรูปปางไสยาสน์ขนาดใหญ่ ที่ยาวที่สุดในมาเลเซีย ซึ่งมีชื่อเรียกว่า "พุทธชัยมงคล" นอกจากนี้ยังเป็นวัดที่สูงที่สุดในคาบสมุทรมาเลเซีย ด้วยความสูงของวัดประมาณ 165 ฟุต โดยมีรูปปั้นงู นาค ขนาดใหญ่ ถือเป็นสัญลักษณ์ที่เชื่อมระหว่างโลกกับสวรรค์
โดยศิลปะของวัดไชยมังคลารามนั้น ได้รับการออกแบบสไตล์สถาปัตยกรรมให้เป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะไทย พม่า และจีนเข้าด้วยกัน รูปลักษณ์ปัจจุบันของเจดีย์ได้รับการออกแบบตามสถาปัตยกรรมเจดีย์ไทย และตั้งแต่นั้นมาเจดีย์ก็ยังคงรักษาสถาปัตยกรรมและการออกแบบดั้งเดิมไว้ ซึ่งทำให้วัดแห่งนี้มีสีสันสะดุดตา ทำให้เกาะปีนังมีวัดไทยที่เป็นจุดศูนย์รวมของชาวพุทธค่ะ
วัดไทยแห่งนี้ ยังมีตำนานเล่าว่า...วัดถูกสร้างขึ้นโดยพระภิกษุผู้มีชื่อเสียงในศาสนาพุทธนิกายเถรวาท ตำนานของพระองค์นี้ยังบอกอีกว่าเขาชอบกินหลักซาซึ่งเป็นอาหารพิเศษของปีนัง ดังนั้นจนถึงทุกวันนี้ชาวพุทธมักถวายหลักซาที่ศาลเจ้าเสมอ หากใครที่ไปแล้วเห็นของถวาย จะได้คลายข้อสงสัยนี้ค่ะ
🎯 : 17, Lorong Burma, Pulau Tikus, 10250 George Town, Pulau Pinang, มาเลเซีย
⏰️ : เปิดทุกวัน เวลา 08.00-16.00 น.
☎️ : +60 4-226 8503
🌏 : https://maps.app.goo.gl/FuyzPU...
พอเราเดินออกจากวัดไทย มองไปข้างหน้าฝั่งตรงข้ามกับวัด เราก็จะเห็นวัดอีกหนึ่งวัด นั่นก็คือ
วัดธรรมิการามพม่า
วัดธรรมิการามพม่า (พม่า: ဓမိ ကာ ရာ မ မြနနမာ) เป็นวัดพม่าในย่านชานเมือง Pulau Tikus ของเมืองจอร์จทาวน์ ปีนัง ประเทศมาเลเซีย ตั้งอยู่บนถนนบูรมะห์ วัดตั้งอยู่ตรงข้ามวัดไชยมังคลาราม ที่นี่!!! เป็นวัดในพุทธศาสนานิกายเถรวาท เป็นวัดพุทธแบบพม่าเพียงแห่งเดียวที่อยู่นอกประเทศเมียนมาร์ และเป็นวัดพม่าในมาเลเซียเพียงแห่งเดียวและเก่าแก่ที่สุด
วัดแห่งนี้ยังคงเป็นศูนย์กลางของเทศกาลสงกรานต์และเทศกาลไหว้พระจันทร์ประจำปี รวมถึงวันเข้าพรรษาและวันเวียนเทียนในเขตชานเมืองอีกด้วย เจ้าอาวาสคนแรกของวัดคือ พระครูอุบลนันทมาลา
ภายในวัดมีห้องสมุดและพระพุทธรูปจำนวนมาก รวมถึงสัตว์ในตำนานและภาพจิตรกรรมฝาผนังขนาดใหญ่ที่แสดงภาพการปรินิพพานของพระพุทธเจ้า และมีพระพุทธประทับยืนปางห้ามญาติในพระอุโบสถ มีการแกะสลักปิดทองเป็นฉากหลัง โดยที่เพดานห้องโถงก็มีการแกะสลักอันวิจิตรงดงามยิ่ง
🎯 : 24, Jalan Burma, Pulau Tikus, 10250 George Town, Pulau Pinang, มาเลเซีย
⏰️ : เปิดทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น.
☎️ : +60 4-226 9575
🌏 : https://maps.app.goo.gl/qidXx7...
เดินตากแดดมาครึ่งค่อนวัน ทีนี้เราจะไปหาที่เย็นสบายบ้างค่ะ แต่!!! เราใช้วิธีการเดินเหมือนเดิม โชคดีที่ระหว่างการเดินตลอดเส้นทางมีต้นไม้ใหญ่ ทำให้ไม่ร้อนเลยค่ะ แป๊ปเดียวก็มาถึงห้างแล้วว
จุดหมายหลักของการมาที่ห้างแห่งนี้คือ มาคาเฟ่ร้านหนังสือ ที่ตั้งอยู่ชั้น 7 ของศูนย์การค้า Gurney Paragon ถามว่าทำไมถึงมาที่นี่ คำตอบคือ เพราะเราโดนป้ายยามาจ้า 🤣🤣 ไปค่ะไปนั่งชิวในห้างกัน
BookXcess Gurney Paragon
แอบเสียดายคาเฟ่เค้าปิดกิจการไปแล้ว แต่สามารถเดินดูหนังสือ ถ่ายรูปได้น๊าทู๊กคน มีมุมสวยหลายมุมเลยค่ะ 📸
🎯 : 163D-7.06-7.16 & L8.02-8.-5, Gurney Paragon, Persiaran Gurney, 10250 George Town, Pulau Pinang, มาเลเซีย
⏰️ : เปิดทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.
☎️ : +60 4-295 0152
🌏 : https://maps.app.goo.gl/R3abkv...
พอหายร้อนแล้ว ก็ได้เวลาไปต่อค่ะ เราเรียก Grab Car ให้มารับที่หน้าห้าง เพื่อไปส่งยังศาลเจ้าแม่กวนอิม ระยะทางทั้งหมด 5 km อัตราค่าโดยสาร 8 RM คิดเป็นเงินไทย (8*8 = 64 บาท)
Goddess of Mercy Temple ศาลเจ้าแม่กวนอิม : ศาลเจ้าแห่งแรกในปีนัง
ศาลเจ้าแม่กวนอิม หรือ "กวนยินเต้ง" หรือ "กวนอิมเถิง"(Kuan Yin Teng) ในภาษาจีนฮกเกี้ยนสำเนียงปีนัง เป็นศาลเจ้าจีนลัทธิเต๋าที่เก่าแก่มากที่สุดในปีนัง ประเทศมาเลเซีย เท่าที่มีการบันทึกไว้ ป้ายจารึกที่ศาลเจ้าแม่กวนอิมได้ระบุปีสร้างไว้ที่ ค.ศ. 1800 มีผู้สร้างเป็นชาวจีนกวางตุ้งและฮกเกี้ยนที่พำนักอยู่ปะปนกันในย่านนี้ เป็นเหตุให้คนในพื้นที่เรียกศาลเจ้าแห่งนี้ว่า "กองฮกเกียง" หรือ "กว่องฮก" หรือ "กวงฟุก" หมายถึงศาลเจ้าของชาวกวางตุ้งและฮกเกี้ยน สร้างขึ้นเพื่อบูชาเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์และเทพเจ้าแห่งความเมตตา มีอายุกว่าหลายร้อยปี
ศาลเจ้าแม่กวนอิมแห่งนี้เดิมทีประดิษฐานเจ้าแม่มาจู่ เทพีแห่งท้องทะเลผู้คุ้มครองชาวประมงและนักเดินเรือ แต่หลังการบูรณะครั้งหนึ่ง ชาวบ้านได้เปลี่ยนเทพประธานในศาลเป็นเจ้าแม่กวนอิมหรือพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรผู้เปี่ยมเมตตาแทน นอกจากเจ้าแม่กวนอิมแล้ว ภายในศาลยังมีทวยเทพให้กราบไหว้อีกมากมาย เช่น เทพเจ้ากวนอู เทพเจ้าที่ตั่วแป๊ะกง และอีกหลายองค์ทั้งในคติพุทธศาสนาและลัทธิเต๋า ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่เคารพศรัทธาของผู้คนเป็นอย่างมาก เห็นได้จากธูปมังกรดอกยักษ์ที่มักถูกจุดจนควันโขมงทั้งวัน มีผู้คนมาทำบุญเนืองแน่น และยังมีผู้ยากไร้ตั้งแถวรอรับทานอาหารบริเวณหน้าศาลอีกด้วย
ในปัจจุบันที่ผ่านหลายยุคสมัยและได้มีการปรับเปลี่ยนลักษณะการใช้ประโยชน์ให้เป็นพื้นที่สาธารณะ ถือได้ว่าเป็นศาลเจ้าจีนที่พลุกพล่านและมีชีวิตชีวาที่สุดในปีนัง โดยเฉพาะช่วงเทศกาลตรุษจีน ประดับโคมไฟแดงใหญ่ บริเวณด้านหน้าวัดทางด้านซ้ายมือจะมีแผงขายเครื่องบูชาอยู่หลายร้าน ที่สำคัญห้ามจุดธูปจุดจุดเทียนภายในวัดด้วยนะคะ หากใครที่บูชาธูปเทียนจะต้องจุดไหว้ด้านนอกเท่านั้น และที่นี่!!! ก็ห้ามให้อาหารนกพิราบด้วยค่ะ
🎯 : 30, Jln Masjid Kapitan Keling, George Town, 10200 George Town, Pulau Pinang, มาเลเซีย
⏰️ : เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.
☎️ : +60 4-226 2645
🌏 : https://maps.app.goo.gl/MNriyj...
หลังจากที่เราได้กราบขอพรองค์เจ้าแม่กวนอิมเสร็จเรียบร้อย เราก็เดินข้ามไปฝั่งตรงข้ามไปย่าน Little India เพื่อไปตามหาร้านอร่อย ซึ่งจากศาลเจ้าแม่กวนอิมเดินมายังร้านนี้คือใกล้มากค่ะ
Penang Famous Samosa
ร้านนี้เลยค่ะทู๊กคน ร้านอาหารสไตล์อินเดีย ที่ตั้งอยู่โซน Little India ที่อยู่ในทำเลดีเยี่ยม คือ อยู่ติดถนน อยู่ในใจกลางของลิตเติ้ลอินเดีย
Penang Famous Samosa เป็นร้านที่ Samosa ที่ดีที่สุดในปีนังอย่างเป็นเอกฉันท์ ที่การันตีด้วยรางวัล มิชลิน 2024 มีหลายไส้ให้เลือกเยอะมากทั้งเนื้อแกะ เนื้อไก่ ปลาซาร์ดีน ไข่ และขนมหวานอีกหลายอย่าง
แต่!!! เราเลือกซื้อมาลองชิมด้วยกัน 2 ไส้ คือ ไส้ไก่ กับ ไส้แกะ แป้งด้านนอกบางกรอบมาก ส่วนไส้ข้างในมีลักษณะแบบแกงแห้งๆ ที่รสชาติเข้มข้น จัดจ้าน ปริมาณเนื้อข้างในเยอะมากกัดไปเจอแต่เนื้อชิ้นโตๆ เต็มปากเต็มคำ กลิ่นไม่ฉุนเหมือนบ้านเราค่ะ ที่สำคัญไม่อมน้ำมันเลยจ้า
🎯 : 45, Lebuh Queen, George Town, 10200 George Town, Pulau Pinang, มาเลเซีย
⏰️ : เปิดทุกวัน เวลา 09.30-20.00 น. ❌️หยุดวันพุธ❌️
☎️ : +60 16-401 7595
🌏 : https://maps.app.goo.gl/m2eC7b...
ไหนๆ ก็มาถึงย่าน Little India แล้วเราก็ต้องเดินสำรวจเที่ยวชมกันสักหน่อยค่ะ
Penang Little India பினாங்கு லிட்டில் இந்தியா
ปีนังลิตเติ้ลอินเดีย ตั้งอยู่ใจกลางเมืองจอร์จทาวน์ เมืองหลวงของปีนัง เป็นย่านวัฒนธรรมมร่วมระหว่างจีน-อินเดีย-มลายู เป็นย่านที่เต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวา เป็นอีกหนึ่งย่านที่ชอบมากในปีนัง ชอบในความสีสันสดใสจัดจ้านของที่นี่ 🤣🤣 เป็นย่านที่เราสามารถสัมผัสได้ถึงศิลปวัฒนธรรม อาหาร ดนตรี ตลอดจนถึงประวัติศาสตร์ของชุมชนชาวอินเดียในท้องถิ่นนี้
จุดเด่นที่สำคัญที่เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของปีนังลิตเติ้ลอินเดีย ที่ไม่มีใครปฎิเสธได้ก็คือ เรื่องอาหาร เพราะจะได้พบกับอาหารอินเดียหลากหลายประเภท ตั้งแต่แกงเผ็ด ข้าวหมกบริยานี ขนมหวาน ของว่าง ตลอดถึงร้านค้าแผงลอยขายของแนวสตรีทฟู้ด ร้านจำหน่ายข้าวของเครื่องใช้ ผ้าส่าหรี เสื้อผ้า เครื่องประดับ งานหัตถกรรม ของที่ระลึก ของตกแต่งร้านค้า เครื่องหอม เครื่องเทศ
และมีร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตร้านใหญ่ที่ขายของทุกอย่างเกี่ยวกับเครื่องปรุงของอินเดีย แบบมีครบจบที่เดียว
ใครที่มาเที่ยวปีนัง แล้วยังไม่แน่ใจว่าจะมาย่านนี้ บอกเลยว่าถ้าไม่มาคือพลาดค่ะ!!! เพราะสภาพแวดล้อมโดยรวมให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ที่อินเดีย ถนนหนทางก็สะอาดสะอ้าน มีนักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปกันเยอะมากค่ะ
🎯 : Lebuh Pasar, George Town, 10450 George Town, Pulau Pinang, มาเลเซีย
⏰️ : เปิดทุกวัน เวลา 08.00-21.45 น.
🌏 : https://maps.app.goo.gl/EHtnJC...
เราใช้เวลาที่ย่านลิตเติ้ลอินเดียไม่นานนัก เพราะเรามีจุดหมายหลักที่จะไปในวันนี้ นั่นก็คือ
Pinang Peranakan Mansion : บ้านปารานากัน
คฤหาสน์ปีนังเปอรานากัน (Pinang Peranakan Mansion) เป็นของเศรษฐีชาวจีน-เปอรานากัน เมื่อปลายศตวรรษที่ 19 เป็นสถานที่เก็บสะสมชิ้นงานแอนทีคเก่าแก่กว่า 1,000 ชิ้น และมีการผสานศิลปะแบบจีนและตะวันตกเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
ปัจจุบันได้จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์มรดกที่มีชื่อเสียงด้านวัตถุโบราณ มีเครื่องใช้ต่างๆ ในยุคโบราณของคนจีนในปีนังที่หาดูได้ยากมาก ตื่นตาตื่นใจกับข้าวของเครื่องใช้ที่ยังคงเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี เป็นทั้งแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเกี่ยวกับชาวจีน-เปอรานากัน (Peranakan) หรือ กลุ่มลูกครึ่งมลายู-จีน ที่มีให้พบเห็นได้ทั้งในมาเลเซียและสิงคโปร์ จึงถือเป็นแหล่งวัฒนธรรมที่โดดเด่นมากที่สุดอีกแห่งในปีนัง และเป็นจุดเช็คอินถ่ายรูปสวยๆ ที่ห้ามพลาดเลยทีเดียวค่ะ นอกจากนี้ยังมีร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหารอยู่ด้านในด้วยค่ะ
🎫 : ค่าเข้าชม 25 RM (200 บาท)
🎯 : 29, Church St, Georgetown, 10200 George Town, Penang, มาเลเซีย
⏰️ : เปิดทุกวัน เวลา 09.30-17.00 น.
☎️ : +60 4-264 2929
🌏 : https://maps.app.goo.gl/urPYWE...
เราใช้เวลาอยู่ที่คฤหาสน์ปีนังเปอรานากันนานมาก เพราะมีรายละเอียดความสวยงามให้ชมเยอะ ถัดไปเราจะพาไปเปลี่ยนบรรยากาศกันค่ะ ไปยังสถานที่สำคัญอันเป็นสัญลักษณ์ของปีนัง คือ ท่าเรือของกลุ่ม "ทางเดินไม้กระดาน" ที่เรียงกันเป็นแนวยาวไปในทะเล โดยแต่ละที่จะขนาบข้างด้วยบ้านเรือนที่คาดว่าน่าจะเป็นของสมาชิกในตระกูลที่มีนามสกุลเดียวกัน โดยท่าเทียบเรือในแต่ละแห่งมีความแตกต่างกันเล็กน้อย ซึ่งเดิมที่ปีนังจะมีท่าเทียบเรือด้วยกันทั้งหมด 9 แห่งตามแนวชายฝั่ง แต่วันนี้จะพาเที่ยวชมหมู่บ้านชาวประมง หรือ ชุมชนชาวประมงของ 3 ตระกูล Penang คือ
1. Tan Jetty
ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะปีนัง และเป็นหนึ่งในสะพานและนามสกุลที่มีชื่อเสียงตามชื่อสะพานที่ใช้เรียกหมู่บ้านบริเวณนั้น ซึ่งเป็นบ้านไม้รูปทรงสะพานบนชายหาดปินเต่า แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมของตระกูลจีนและลักษณะเฉพาะของที่อยู่อาศัยทางทะเลได้อย่างเต็มที่ เป็นท่าเทียบเรือที่มีอายุน้อยที่สุด แต่เป็นท่าเทียบเรือที่มีแท่นไม้ยาวที่สุด ตอนที่เราไป ท้องฟ้ามืดครึ้มนิดหน่อย แต่ก็ยังสามารถเที่ยวชมได้
🎯 : 48, Pengkalan Weld, George Town, 10300 George Town, Pulau Pinang, มาเลเซีย
⏰️ : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
🌏 : https://maps.app.goo.gl/2WyX7p...
2. Lee Jetty
Lee Jetty เปรียบเสมือนพื้นที่อยู่อาศัยที่แปรสภาพเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เป็นหมู่บ้านที่ยังคงมีวิถีเดิมๆ ที่ใช้อยู่อาศัยเพียงอย่างเดียว โดยอาศัยอยู่บนบ้านบนเสาค้ำริมทะเล ซึ่งมีผู้คนอาศัยอยู่หนาแน่นกว่าที่อื่น ไม่ได้กลายเป็นแหล่งทำธุรกิจ ส่วนตัวเลยมีความรู้สึกว่า...ที่นี่!!! สวยกว่า Jetty อื่นมาก
เมื่อเราเดินไปจนสุดปลายสะพาน จะพบว่าที่ Lee Jetty แห่งนี้ค่อนข้างเงียบสงบ วิวเปิดโล่ง ทะเลกว้างสุดลูกตา ท้องฟ้าจรดผืนน้ำ เป็นธรรมชาติที่สวยงามมาก และผู้คนไม่พลุกพล่าน ทำให้ใช้เวลายืนรับลม ชมวิว และถ่ายรูปได้อย่างสบายๆ
🎯 : 57-58, Pengkalan Weld, George Town, 10300 George Town, Pulau Pinang, มาเลเซีย
⏰️ : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
🌏 : https://maps.app.goo.gl/mhXuxh...
3. Chew Jetty หรือ Clan Jetties of Penang
หมู่บ้านชาวประมง Chew Jetty จะมีศาลเจ้าใหญ่มากอยู่ด้านหน้า เป็นหมู่บ้านที่ได้รับรางวัล Unesco World Heritage Site (แหล่งมรดกโลก) เป็นท่าเรือไม้แห่งหนึ่งในปีนัง ที่ยังคงสวยงาม มีพื้นทางเดินเป็นไม้
ในชุมชนแห่งนี้ยังคงบ้านรูปแบบเดิมไว้ เป็นบ้านไม้เก่าแก่ยกใต้ถุนสูงเหนือน้ำ ที่มีมากถึง 72 หลัง สร้างขี้นโดยรอบทางเดินริมน้ำจากศตวรรษที่ 19 ที่ผสมผสานศิลปะแบบจีน ตัวบ้านยื่นไปในทะเล ซึ่งส่วนมากจะเป็นชาวจีนจากกวางโจว, ฮกเกี้ยน, ฝูเจี้ยน ประเทศจีนที่ได้อพยพมาอยู่ที่นี่
ที่ Chew Jetty แห่งนี้ผู้คนจะคึกคักกว่า 2 ที่แรกที่เรามา เพราะระหว่างทางเดินไปยังบริเวณท่าเรือ เราจะเห็นตามบ้านเรือนสองข้างทางเปิดเป็นร้านค้าขายของกิน ของฝาก คล้ายๆ กับตลาดน้ำบ้านเรา ที่สำคัญมีมุมยอดฮิตให้ถ่ายรูปกับ Street Art
ปัจจุบันนี้ยังคงมีชุมชนริมน้ำหลงเหลือเพียง 7 แห่ง คือ ท่าเทียบเรือของกลุ่ม Ong, Lim, Chew, Tan, Lee, Yeoh และ New (ผสม) กล่าวกันว่า Chew Clan เป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาท่าเทียบเรือที่เหลือ ซึ่งในปัจุบันนี้ Chew เป็นท่าเทียบเรือที่มีชื่อเสียง เป็นท่าเทียบเรือที่เป็นที่รู้จักและมีผู้คนมาเที่ยวชมมากที่สุด
เราเดินไปจนสุดปลายสะพาน ที่นี่ก็สวยไม่แพ้กันค่ะ บรรยากาศดี ลมพัดเย็นสบาย มองเห็นทิวทัศน์ของเกาะปีนัง ใครที่มาก็สามารถมาเดินชมวิวทะเลสวยๆ ช๊อปปิ้งของที่ระลึก ราคาน่ารักกันได้นะคะ
🎯 : Georgetown, 10300 George Town, Penang, มาเลเซีย
⏰️ : เปิดทุกวัน เวลา 09.00-21.00 น.
☎️ : +60 11-6246 2884
🌏 : https://maps.app.goo.gl/hjfe6J...
กินลมชมวิว สูดอากาศบริสุทธิ์กันไปเต็มปอด ทีนี้ก็มีแรงเดินตามหางานศิลปะบนกำแพงที่ไม่เหมือนใครอีกหนึ่งในไฮไลต์ของการมาเที่ยวจอร์จทาวน์ ปีนัง ค่ะ
Penang Street Art
"สตรีท อาร์ต" ที่เล่าเรื่องย่านเมืองเก่าได้อย่างมีชีวิตชีวาและลงตัว เป็นเมืองมรดกโลกคู่กับเมืองมะละกา ที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่งดงามไว้ได้อย่างครบถ้วน ซึ่งไฮไลท์สำคัญก็คือ ภาพวาดสตรีทอาร์ต (Street Art) ที่ถ่ายทอดความเป็นเอเชียสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของชาวปีนัง ผ่านภาพวาดที่เพิ่มสีสันสร้างเสน่ห์ให้กับเมืองจอร์จทาวน์เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น และยังได้ขึ้นทะเบียนไว้กับ UNESCO เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากงานศิลปะที่เป็นภาพวาดแล้ว ยังมีงานศิลปะที่เป็นแบบเหล็กลวดลายด้วยค่ะ โดยย่านที่มีภาพวาดหนาแน่นจะอยู่ที่แถวถนน Lebuh Armenian ซึ่งภาพวาดส่วนใหญ่จะเป็นฝีมือของศิลปินจากทั่วโลกที่ตั้งใจเดินทางมาปีนัง เพื่อมาสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกเอาไว้ ได้เวลาออกตามหา Street Art แล้วค่ะ
เริ่มต้นจาก Street Art - Boy on Motorbike by Ernest Zacharevic
และนี่ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่เจอค่ะ เป็นสตรีทอาร์ตที่พิเศษมาก ไม่ใช่เป็นแค่เพียงรูปภาพฝาผนังเรียบๆ เท่านั้น ยังมีการเอารถจักรยาน รถมอเตอร์ไซค์ของจริงมาวางประกอบเอาไว้เป็น installation art ทำให้ภาพดูสมจริงขึ้นไปอีก แต่!!!ก็แอบเสียดายที่บางภาพอยู่ในสภาพทรุดโทรม สีเริ่มเลือนลาง ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีและสนุกมากๆ ค่ะ
🎯 : 12, Lbh Ah Quee, George Town, 10300 George Town, Pulau Pinang, มาเลเซีย
⏰️ : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
🌏 : https://maps.app.goo.gl/4PJZov...
หลังจากที่เราตระเวนย่าน Street Art ปีนัง เราจะสังเกตุเห็นอาคารหลังนี้ได้อย่างชัดเจน เพราะตั้งอยู่หัวมุมถนน ตัวอาคารทาสีแดง-ขาวโดดเด่นมาก นั่นก็คือ
Central Fire Station 1908
สถานีดับเพลิงที่เป็นหนึ่งในอาคารเก่าแก่โดดเด่นที่สุดในจอร์จทาวน์ มาเลเซีย เริ่มเปิดใช้ตั้งแต่ปี 1908 สถานีดับเพลิงแห่งนี้เป็นหนึ่งในอาคารประวัติศาสตร์ 82 แห่งที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นประเภทที่ 1 ในเขตมรดกโลกในเมืองจอร์จทาวน์ เป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างสไตล์โคโลเนียลกับสไตล์ท้องถิ่น สะท้อนภาพลักษณ์การผสมผสานทางวัฒนธรรมของเมือง
แม้สถานีดับเพลิงจะมีอายุมาก แต่ปัจจุบันยังคงใช้งานอยู่ได้เต็มรูปแบบ พร้อมอุปกรณ์ดับเพลิงที่ทันสมัย แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเมืองในการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมควบคู่ไปกับการปรับให้เข้ากับความต้องการในปัจจุบัน อาคารหลังนี้มีมานานกว่าศตวรรษ ภายในมีการจัดแสดงนิทรรศการเล่าประวัติความเป็นมาวัตถุโบราณและสิ่งของต่างๆ ไว้ด้านล่างสถานี ซึ่งบางส่วนยังคงเก็บไว้ในตู้กระจก อาคารหลังนี้ยิ่งสวยงามมากเวลาเปิดไฟในเวลากลางคืนค่ะ
นอกจากนี้ซอยด้านข้างที่อยู่ติดกับสถานีดับเพลิง มีการประดับประดาด้วยโคมไฟหลากสีสันสวยงามมากในเวลากลางคืน และยังมีภาพวาดนักผจญเพลิงตามผนังตลอดแนวกำแพงให้ได้ถ่ายรูปอีกด้วยค่ะ
🎯 : Balai Bomba Dan Penyelamat, George Town, 10300 George Town, Pulau Pinang, มาเลเซีย
⏰️ : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
🌏 : https://maps.app.goo.gl/BzzByP...
ตะลอนเที่ยวทั้งวัน นาทีนี้กองทัพต้องเดินด้วยท้องแล้วค่ะ ทริปในวันนี้เป็นทริปที่ใช้การเดินเยอะมาก ถึงแดดจะร้อนแต่ก็มีความสุขแล้วก็สนุกด้วย เย็นนี้เราตั้งใจจะไปอีกตลาดขายของกินกลางคืน ซึ่งอยู่ไกลจากที่พักแต่เราเดิมตามหา Street Art มาจนเหลือระยะทางอีกไม่มากก็จะถึงแล้ว เราเลยตัดสินใจเดินกันต่อไป 🤣🤣
Chulia Street Hawker Food
ถนน Chulia Street ในปีนังเป็นถนนสายอาหารที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในจอร์จทาวน์ สร้างขึ้นหลังจากการก่อตั้งเมืองไม่นานนัก ถนนสายนี้ยังคงอนุรักษ์บ้านเรือนและอาคารเก่าแก่ที่มีเสน่ห์เอาไว้ ในย่านนี้มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ โรงแรม และเกสต์เฮ้าส์ จึงเป็นย่านที่นักท่องเที่ยวนิยมมาพักและออกเดินเที่ยวสำรวจจุดต่างๆ ในจอร์จทาวน์ได้อย่างสะดวก
ช่วงกลางวันถนนสายนี้อาจจะไม่คึกคักมากนัก แต่ยามเย็นถึงช่วงค่ำย่านสตรีทฟู้ดในเมืองจอร์จทาวน์แห่งนี้จะคึกคักไปด้วยผู้คนทั้งชาวปีนังและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาลองชิมอาหารสตรีทฟู้ดที่บริเวณนี้ เพราะมีอาหารพื้นถิ่นอร่อยๆ เยอะมาก เช่น
วันทันหมี่ บะหมี่หมูแดงน้ำดำที่ห้ามพลาด ชาก๋วยเตี๋ยวที่มีหลายร้านอร่อยๆ
นอกจากนี้ยังมีล๊กล๊กหรือชาบูเสียบไม้ที่ควรลอง โดยสามารถสั่งอาหารแล้วหาที่นั่ง ทางร้านจะนำอาหารมาเสิร์ฟและเก็บเงินในภายหลัง ในย่านนี้มีร้านอาหารอร่อยๆ หลายแห่ง โดยเฉพาะบะหมี่ลุงปากซอย ก๋วยเตี๋ยวชาร้านตรงข้าม ตรอกเล็กๆ ในย่านนี้คับคั่งไปด้วยผู้คนและรถรา แต่ราคาอาหารไม่แพง โดยเฉพาะบะหมี่แห้งตรงหัวมุมที่อร่อยจนไม่ต้องปรุงเพิ่มจริงๆ น๊าาา 😋😍
บะหมี่หมูแดงน้ำดำ ราคา 6.50 RM คิดเป็นเงินไทย (6.50*8 = 52 บาท)
ชาบูเสียบไม้ ราคาเริ่มต้น (แต้มสีเทา) ไม้ละ 0.80 RM คิดเป็นเงินไทย (0.80*8 = 6.40 บาท) สูงสุด (แต้มสีเหลือง) อยู่ที่ไม้ละ 2.40 RM คิดเป็นเงินไทย (2.40*8 = 6.40 บาท)
ขนมอาโป้ง ราคาชิ้นละ 0.70 RM คิดเป็นเงินไทย (0.70*8 = 5.60 บาท)
🎯 : Lbh Chulia, George Town, 10450 George Town, Pulau Pinang, มาเลเซีย
⏰️ : เปิดทุกวัน เวลา 16.30-22.30 น.
🌏 : https://maps.app.goo.gl/zR1azN...
กินอิ่ม แต่ยังไม่ได้นอนขอเดินย่อยชมเมืองอีกแป๊ป ขากลับเราเลือกเดินกลับเส้นทางเดิมเพื่อมาที่นี่ค่ะ
Sri Mahamariamman Temple : วัดแขกเมืองจอร์จทาวน์
มาเป็นรอบที่ 3 ย่านลิตเติ้ลอินเดียอีกครั้ง เพื่อมายัง "วัดแขก หรือ วัดศรีมหามาริอัมมาน" (Sri Mahamariamman) เทวสถานฮินดูนิกายศักติ ได้รับการขนานนามว่าเป็นวัดฮินดูแห่งแรก-เก่าแก่ที่สุดของปีนัง
แรกเริ่มวัดนี้เป็นเพียงศาลบูชาขนาดเล็ก ไม่มีประวัติว่าสร้างโดยใครและเมื่อใด แต่น่าจะมีการทำพิธีบูชามาตั้งแต่ ค.ศ. 1800 เป็นอย่างช้า มาขยายเป็นวัดใหญ่โตเมื่อ ปี ค.ศ.1883 และที่มีสภาพเช่นปัจจุบันนี้ เป็นผลมาจากการบูรณะครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1933 อันเป็นปีที่วัดมีอายุครบศตวรรษ
ภายในวัดเป็นสถานที่ประดิษฐานของรูปปั้นเทพเจ้าสุบรามาเนียม ซึ่งประดับด้วยอัญมณีล้ำค่าทั้งเพชรและมรกต บริเวณเหนือซุ้มประตูทางเข้าด้านหน้าตกแต่งประดับประดาอย่างวิจิตรสวยงามด้วยงานประติมากรรมรูปเหล่าเทพเจ้าและเทพธิดาในศาสนาฮินดู เป็นสถานที่สักการะแสวงบุญยอดนิยมสำหรับผู้นับถือศรัทธา และวัดยังเป็นเจ้าภาพจัดงานเทศกาล งานเฉลิมฉลองต่างๆ ตลอดทั้งปี อย่างเช่น ไทปุสัม นวราตรี และดีปาวลี
วัดศรีมหามารีอัมมันยังรักษาขนบธรรมเนียมเดิมของวัดฮินดูอยู่ คือจะเปิดประตูแค่ช่วงทำพิธีภาคเช้าและเย็น ทุกครั้งที่วัดเปิดจะมีชาวมาเลเซียเชื้อสายอินเดียมาสักการะบวงสรวง คนต่างศาสนาสามารถเข้าร่วมพิธีและเยี่ยมชมวัดได้ แต่ต้องสำรวมกิริยาและงดถ่ายภาพภายในวัดค่ะ แต่เราขอส่องดู ถ่ายรูปด้านนอกอย่างเดียวค่ะ บริเวณใกล้ๆ กับวัดแขกเดินไปไม่ไกลก็จะเจอกับมัสยิด และร้านค้าที่เปิดไฟสีสันสวยงามมากในเวลากลางคืน
🎯 :Hindu Temple, Lebuh Queen, George Town, 10450 George Town, Pulau Pinang, มาเลเซีย
⏰️ : เปิดทุกวัน เวลา 08.00-12.00 และ 17.00-21.05 น.
☎️ : +60 4-263 8916
🌏 : https://maps.app.goo.gl/VJ757v...
ณ เวลานี้คือหมดแรงแล้วค่ะ เป็นวันที่ 3 ในปีนังที่ใช้เรี่ยวแรงในการเดินเยอะมาก บางคนอาจจะสงสัยว่า...ไหนบอกว่า Grap Car ราคาไม่แพง ทำไมถึงไม่เรียกรถล่ะจะเดินทำไม??? คือ ส่วนตัวเป็นชอบเดินดู เดินชมวิถี ร้านค้า บ้านเรือน แวะถ่ายรูป พูดคุย ที่สำคัญเราได้พิสูจน์มาแล้วว่าในเวลาที่รถติด การเดินของเราไวกว่าอีกค่ะ 🤣🤣🤣 เลยตั้งใจว่าเก็บเงินค่ารถไว้ไปกินของอร่อยกันค่ะ จบทริปวันที่ 3 ไว้ตามต่อทริปวันพรุ่งนี้ด้วยนะคะ ตอนนี้ขอตัวกลับที่พักไปนอนเอาแรงก่อนน๊าาาทู๊กคนน 😪🤤😴 ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
-----------------------😍
🤗 สนุกกับการเที่ยว สนุกกับการกิน
ในแบบฉบับของตัวเองน๊าา 🚘🧳🏖 🌄
❣️ช่องทางการติดตามเพจ❣️
https://www.facebook.com/TIEWD...
🙅งดนำภาพไปใช้ทุกกรณี ก่อนได้รับอนุญาตน๊าา
-----------------------🌿
#เที่ยวได้กินกินได้เที่ยว
#เที่ยวปีนัง #เที่ยวปีนังมาเลเซีย
#ปีนังมาเลเซีย #ปีนัง #มาเลเซีย
#เที่ยวมาเลเซีย #เที่ยวต่างประเทศ
#ท่องเที่ยวต่างประเทศ #ท่องเที่ยว
#เที่ยวปีนังด้วยตัวเอง
#เที่ยวมาเลเซียด้วยตัวเอง
#travel #Penang #Malaysia
เที่ยวได้กิน กินได้เที่ยว
วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 เวลา 10.21 น.
