เมื่อพูดถึงร้านกาแฟในจังหวัดเชียงใหม่ เชื่อว่าหนึ่งในนั้น จะต้องเอ่ยถึงร้านกาแฟ เดอะ ไจแอนท์ แห่งนี้อย่างแน่นอนค่ะ
ซึ่งเป็นร้านกาแฟที่ใครๆ ก็อยากมาเช็คอิน ไม่เว้นแม้แต่เราด้วยแหละ 555 ขอตามกระแสกันนิดนึง
หลังจากที่ไปเที่ยวบ้านแม่กำปองมาแล้ว ต้องแวะมาที่นี่กันต่อ
แต่การแวะของเราครั้งนี้ไม่ได้แวะเฉยๆ นะคะ เราได้มานอนที่นี่ด้วย 1 คืน

จากที่เคยรู้มาว่า ร้านกาแฟ เดอะ ไจแอนท์ รองรับคนได้แค่ 20 คนต่อครั้ง เพราะมีพื้นที่จำนวนจำกัด
แต่ นั่นคือเมื่อปีก่อนๆ ทว่า ตอนนี้ The Giant ChiangMai สร้างพื้นที่ใหม่เพิ่มขึ้น รองรับนักท่องเที่ยวได้มากขึ้นกว่าเดิมด้วย
เห็นทีอย่างนี้ ต้องมาเช็คอินกันหน่อยแล้วนะเออ

ร้านกาแฟหลักร้อย วิวหลักล้าน

มาติดตามการเดินทางอื่นๆ ของเราได้นะคะ

เราเปิดเพจเล็กไว้ที่นี้จ้าา >> https://www.facebook.com/RinsaYoyoliveTravelBlogger/

The Giant ChiangMai
ร้านกาแฟบนต้นไม้อินเทรนด์แห่งนี้ ตัวร้านตั้งอยู่บนเส้นทางภูเขา ความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,150เมตร
อยู่อำเภอแม่ออนค่ะ ห่างจากอำเภอเมือง ราวๆ 1 ชั่วโมง จากในเมือง ไปยังอำเภอแม่ออน ถนนทางเรียบ ลาดยางตลอดทั้งเส้นค่ะ ไม่มีปัญหา หากรถคันเล็ก หรือ CC. น้อยจะเดินทาง จะขับไปที่นี่ เพราะเราใช้รถยนต์เครื่อง 1200 ก็ขึ้นไปได้จ้าา แต่อืดๆ หน่อย 555

The Giant ChiangMai

วิธีไป ไปเส้นทางเดียวกับบ้านแม่กำปอง ก่อนถึงแม่กำปอง (เลยโครงการหลวงตีนตกไปเล็กน้อย) จะเจอแยกตัว Y ถ้าไปทางขวาจะเข้าบ้านแม่กำปอง ให้แยกไปทางซ้าย ป้ายเขียนว่าไปบ้านป๊อก มีป้ายเดอะไจแอนท์อยู่ตรงนี้ด้วย ขับจากแยกนี้ขึ้นเขาไปอีกประมาณ 3.6 กิโลเมตรก็ถึงแล้วค่ะ



เปิดบริการร้านกาแฟทุกวันยกเว้นวันจันทร์ ส่วนที่พักเปิดบริการทุกวัน (ยกเว้นวันหยุดยาวนะคะ ร้านกาแฟก็เปิดตามปกติค่า)

กดจิ๊ก GPS ตามนี้เล้ย

GPS: 18.892506, 99.351660

มาถึงแล้วค่าาาาาา The Giant ChiangMai ประตูทางเข้าเหมือนดินแดนลึกลับเลยน่ะ 555

แต่กว่าจะมาถึงได้เนี่ย ลุ้นมากกกกกก
กับเส้นทาง โหด และชัน ตลอดจนโค้งหักศอกหลายโค้ง ใครไม่ชินทาง ขับรถไม่คล่องไม่ควรขับเองนะคะ
สวนความเร็วใช้ไม่ได้อยู่แล้วในเส้นทางแบบนี้ เห็นหลายคอมเม้น หลายคนที่ไปมาแล้ว อดจะพูดถึงเส้นทางเหล่านี้ไม่ได้
แม้จะเป็นถนนเสริมคอนกรีตตลอดทั้งเส้นก็ตาม แต่ความสูง ความยากลำบากในการขับรถขึ้นมาต้องเหนื่อยพอสมควร

แต่ความเหนื่อยนี้ บอกปากต่อปากกันด้วยค่ะว่า คุ้มแล้วที่ได้มาเยือน คุ้มแล้วที่ได้มาเห็น The Giant ChiangMai แห่งนี

มาถึงแล้วต้องเช็คอินกัน มุมนี้ๆ มุมมหาชน กับฉากหลังที่เป็นต้นไม้มหึมายักษ์ใหญ่อลังการ


ตามด้วยสะพานไม้ที่เชื่อมต่อไปไปยัง The Giant ChiangMai
ที่เดินได้ครั้งละ 2 คนค่ะ ส่วนใครน้ำหนัก 100+ เราแนะนำให้เดินคนเดียวนะคะ ด้วยความห่วงใยค่าา อิอิ

อ้าวๆ นี่ยังเดินคนเดียวได้เลย เพราะไม่มีคนมาเดินด้วยไง เปล่าน้ำหนัก 100+ นะเออ

มาเฉลยด้วยภาพข้างล่างกันดีกว่า ว่าคนหายไปไหนหมดน้าาาา
เราไปวันหยุดค่ะ คนเลยไม่มี อ้าววันหยุดปิดไม่ใช่เหรอ ปิดค่ะ วันหยุดร้านกาแฟปิด แต่ที่พัก และพนักงานบางคน
ก็ยังเปิดให้บริการอยู่นะค้าาาา

และนี่คือที่นั่งโซนใหม่ ของ The Giant ChiangMai ทำออกมาแข็งแรง

และสีเข้ากับธรรมชาติมาก ไม่ต้องต่อคิว เข้า 20 คนอีกต่อไป เพราะเค้าขยายพื้นที่ไปได้กว้างมาก

มาแล้วก็ต้องนั่งเช็คอิน ชิลๆ กันมุมนี้นะคะ พูดถึงอากาศดี ตลอดทั้งวันในช่วงที่เราไปค่ะ

เย็นสบายมาก พร้อมดูวิวอลังกรเพลินๆ ของบริเวณโดยรอบ

โดยร้าน The Giant ChiangMai มีประวัติความเป็นมา ดังนี้คือ

เดิมพื้นที่บริเวณนี้เป็นไร่ปลูกกาแฟ ปลูกพลับ ปลูกใบเมี่ยง โดยเจ้าของซึ่งได้เข้ามาตั้งหลักปักฐานในพื้นที่กว่า 10 ปี

ภายหลังมีโครงการพัฒนาหมู่บ้าน จึงได้ออกแบบและสร้างร้าน The giant โดยความร่วมมือจากหมู่บ้าน และชาวบ้านจนเสร็จ

และเปิดบริการในวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2557 โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้

1.พัฒนาหมู่บ้าน – เรื่องสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น ถนน สัญญาณโทรศัพท์

2.ส่งเสริมการเกษตรในชุมชน – ร้านไจแอนท์ เป็นศูนย์กลางในการจำหน่ายและประชาสัมพันธ์กาแฟของหมู่บ้าน

3.การดูแลและอนุรักษ์ธรรมชาติ – สร้างจิตสำนึก ในเรื่องของการดูแลรักษาธรรมชาติ (ไม่ตัดไม้, ไม่ล่าสัตว์, ไม่เผาป่า)

และรายได้ส่วนหนึ่งของ The Giant ChiangMai ก็จะนำไปพัฒนาหมู่บ้าน และบำรุงรักษาต้นไม้ยักษ์ต้นนี้ด้วยนะคะ


เมื่อเพลินกับวิวอลังการของต้นไม้ยักษ์ และโซนที่นั่งใหม่แล้ว เข้าห้องพักกันค่า คืนนี้เรามานอนที่ The Giant ChiangMai
กันหนึ่งคืน ซึ่งตอนที่เราไปจะเป็นช่วง Green Season (เราไปเมื่อกลางเดือน กค. ที่ผ่านมา)
ห้องพักจะลดราคาเป็นพิเศษค่ะ

ห้องพักของ The Giant ChiangMai มี 5 ห้องเท่านั้นนะคะ

แบ่งเป็นห้องเล็ก 2 และใหญ่ 3 ช่วงนี้ลดราคา เหลือ ห้องเล็ก 2500 บาท และห้องใหญ่ 4000 บาท

ราคาดังกล่าว รวมอาหารเย็น และอาหารเช้า พร้อมกิจกรรมโหนสลิงระยะสั้น และเดินชมวิถีชีวิตชุมชมบ้านป๊อกค่ะ

เราได้พักห้องเล็กเบอร์ 1 ค่ะ ไปดูในห้องพักกัน

ภายในห้องพักของ The Giant ChiangMai โทนสีอิงเข้ากับธรรมชาติ ซึ่งเปิดสู่ธรรมชาติสีเขียวได้อย่างเต็มๆ ตา

ห้องพักจะอยู่ด้านล่างนับจากชั้นบนสุดที่เป็นพื้นที่ของร้านกาแฟนะคะ โดยมีบันไดเดินลงมาไม่กี่ก้าวก็ถึงห้องพักเลย

อธิบายง่ายๆ ว่า สร้างห้องพักได้ติดกับต้นไม้ยักษ์ต้นนี้เลยค่า มีความเป็นส่วนตัวด้วยนะคะไม่ต้องกลัวคนเดินพลุกพล่านแต่อย่างใด

เพราะให้เข้าไปได้เฉพาะลูกค้าที่เข้าพักเท่านั้น

ภายในห้องพักไม่มีแอร์ มีแต่พัดลมเพดาน ไม่มีตู้เย็น มีห้องน้ำส่วนตัวภายในห้อง ไม่รู้วามีน้ำอุ่นให้หรือเปล่านะคะ

เพราะตอนเราไปเปิดน้ำไม่อุ่นนี่นา และอากาศตอนกลางคืน รวมทั้งตอนเช้านี่ 20-22 องศาจ้า เย็นสบายเชียวล่ะ

มาเดินเล่นโซนที่พื้นที่ส่วนของร้านกาแฟกันนะคะ เราจะมาทานข้าวเย็น และข้าวเช้า บริเวณนี้ด้วยเช่นกัน

มุมกาแฟเย็นนั้นเราไม่ได้สั่งนะคะ เพราะเข้าใจว่าไปวันจันทร์ร้านปิด แต่อาจจะเปิดให้สั่งเฉพาะลูกค้าที่เข้าพักก็ได้

วันที่เราไปพักก็มีลูกค้าห้องอื่นๆ ครบเต็มทุกห้องนะคะ ดูแล้ว ไม่เหงาๆ เรารอทานมื้อเย็นกันดีกว่า

โดยอาหารเย็นจะเริ่ม 18.30 น.

อาหารเย็นจะได้เหมือนกันทุกโต๊ะ ทุกห้องที่เข้าพักค่ะ เว้นใครที่สั่งมาเป็นพิเศษ ก็ว่ากันไป

ส่วนเราทานได้หมดทุกเมนูๆ

อากาศแบบนี้ บรรยากาศแบบนี้ บางคนเค้าสั่งเบียร์มาจิบมุมนี้นะ

แต่เราสั่งเค้กค่ะ 555 เห็นในตู้แช่ด้วยเลยไปสั่งมาลิ้มลองหน่อย

ทำให้ได้รุ้ว่า บรรยากาศแบบนี้ ทานอะไร ก็อร่อยจริงๆ นะคะ ขอบอกๆ

ความอร่อยในครั้งนี้ไม่ได้อร่อยเฉยๆ นะเออ เพราะมีน้องแมวมาการันตีด้วย เดอะ ไจแอนท์เค้าเลี้ยงหมากะแมวหลายตัวเลยล่ะค่า
แมวนี้เห็นประมาณ 7 ตัว กำลังน่ารักๆ เชียวเพราะมาแบบยกครอบครัวมาสร้างสีสันให้ในพื้นที่ด้วย

ระหว่างที่ทานข้าวตอนเย็นนั้น บอกได้เลยค่ะว่า ฟินมากกกก กับบรรยาากาศรอบๆ ร้านไจแอนท์

วิวตรงหน้า บรรยากาศตรงหน้า ท่ามกลางสีเขียว และหมอกไหลบางๆ จางๆ ลอยผ่านไปมา

สายตาเราเห็นมันสวย สวยเกินกว่าที่เห็นในภาพที่เราถ่ายมาอีกนะคะ เพราะเป็นหมอกไหล รู้สึกชิลจริงๆ ที่นี่

บรรยากาศยามเย็น และค่ำคืนนั้น เงียบ สงบ พร้อมด้วยอากาศเย็นๆ

อีกจุดหนึ่งที่มาเช็คอินกันค่ะ หากพูดถึงสัญญาณมือถือ บนนี้ ais และ True มีสัญญาณนะคะ แต่เรแจ็คพ็อตเอง

ใช้ Dtac มาตลอด ดับสนิทตลอดทุกๆ ดอยเหมือนเดิมค่ะ 555

แต่ไม่ได้หนักใจไรมาก เพราะที่นี่มี Free Wi-Fi ให้ด้วย โพสเช็คอินลงเฟสบ็ค ลงเพจได้สบายกันเล้ย ไม่มีเหงา

และเป็นอีกหนึ่งคืน ที่เราพักผ่อนได้นาน ไม่นอนดึกเหมือนอยู่บ้านตัวเอง

เช้าวันอังคารที่มาพร้อมกับอากาศดีดี เช่นเคย
ข้าวต้มยามเช้า บริการช่วง 8.30 น. ณ เวลาเดิม ทานแล้วอินไปกับบรรยากาศของพื้นที่แห่งนี้ไปด้วย

ไม่แค่นั้น เช้านี้เรามีกิจกรรมที่อยากเล่น คือ Zip Line ค่ะ โหนสลิงในระยะสั้น ไปกลับ สำหรับคนที่เข้าพักเล่นฟรีนะคะ

ส่วนลูกค้าอื่นๆ คนละ 200 บาทค่ะ กิจกรรมตื่นเต้นนี้บอกเลยว่า ต้องไม่พลาดๆ

โดยจะมีเจ้าหน้าที่ดูและ ทั้งไปและกลับ

ตลอดจนอุปกรณ์ เซฟตี้ทั้งหลาย เพิ่มความมั่นใจให้เราได้สนุกกันแน่นอน

อุปกรณ์พร้อม คนล่ะ ก็พร้อมด้วย งานนี้มีสวยๆ แน่นอนค่า

พร้อมแล้ว ลุย !

แอคชั่นภาพนี้ได้แล้ว อย่าลืมโพสโชว์กันนะจ๊ะสาวๆ อิอิ

เวลานี้ วันนี้ ร้านกาแฟเปิดกันแล้ว ป้ายโต๊ะตั้งเบอร์ พร้อมลูกค้าที่ทยอยเข้ามาเช็คอินกันเรื่อยๆ
พร้อมๆ กับเราที่เก็บของเตรียมเช็คเอาท์ ไปเที่ยวที่อืนกันต่อ ก่อนออกไปต้องมาซึมซับกับบรรยากาศอีกครั้ง
เพราะไม่รู้ว่า จะได้มาเยือน The Giant ChiangMai กันอีกเมื่อไหร่

เครื่องดื่มร้อน 85 บาท และเครื่องดื่มเย็น 120 บาทค่ะ

( ราคา ห้องพัก อาหารและเครื่องดื่มที่นี่ ไม่รวมภาษี ไม่มีค่าบริการ แต่รวมค่าดูแลธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เพราะรายได้ส่วนนึง ของที่นี่ นำไปพัฒนาหมู่บ้าน และดูแลรักษาธรรมชาติ ที่นี่นะคะ ) ทางร้านเล่าว่า อยากให้นักท่องเที่ยวเข้าใจในจุดนี้ค่ะว่า ทำไมราคาแพงกว่าที่อื่น

ส่วนเครื่องดื่มเย็น ก็จะชงใส่เหยือกไว้เพราะ ข้างบนนี้ ไฟฟ้าจะดับบ่อย ทำให้เครื่องชงใช้งานไม่ได้

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ป้ายทางเข้าร้าน The Giant ChiangMai ก็จะเขียนชี้แจง หมายเหตุไว้ด้วยทั้งสิ้น
ที่หวังว่า ลูกค้าทุกคนจะเข้าใจในจุดนี้ ส่วนเรานี่เข้าใจนะ เพราะการเดินทาง ระยะทางที่จะขึ้นมาบนนี้ได้
รถขนส่งที่ต้องวิ่งส่งน้ำแข็งทุกๆวันละกี่ตัน ตลอดจนวัตถุดิบต่างๆ
ได้สมกับคำว่า กาแฟหลักร้อย วิวหลักล้าน ที่ใครๆ ก็อยากมาเช็คอินแล้วคุ้มค่ากับการมาเยือนจริงๆค่ะ

กลับละน้าาาาา เดอะ ไจแอนท์ ถ้ามีโอกาส เราจะมาเยือนใหม่ อย่างแน่นอนค่าาาา

ขอบคุณที่ติดตามชมค่าาา

จัดเต็มทุกรีวิว จัดเต็มทุกพื้นที่ ไม่ว่าทริปนี้ หรือทริปไหนๆ

RinSa YoyoLive

https://www.facebook.com/RinsaYoyoliveTravelBlogger/

RinSa YoyoLive

 วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เวลา 13.25 น.

ความคิดเห็น