ใครจะว่าสุราหนึ่งป้านบ้าก็เชิญ มันจะมีใครสักกี่คนชวนเพื่อนไปเที่ยวป่าช้ากันว่ะ? ถ้าไม่บ้า ก็ขาดๆเกินๆ ไม่เต็มเต็งเป็นแน่แท้ สถานที่มากมายให้ไปเที่ยวพักผ่อน ทำไมไม่ไป? เมาหรือป่าว คำถามมากมายอาจพรั่งพรู จากใครหลายๆคน แต่ทนๆไปเที่ยวเป็นเพื่อนผมพออุ่นๆใจ อย่าให้ไปแบบคนเดียวหัวหายเลย ฮ่าฮ่าฮ่า บรื๋อ!!!


ว่าก็ว่าไป ถึงไม่ไปตอนนี้ ยังไงก็ต้องไปตอนตายกันทุกราย แต่นี่สุราหนึ่งป้านไม่ได้ชวนไปตาย แต่กำลังชวนไปเที่ยว เที่ยวก่อนตาย ดีกว่าตายแล้วเที่ยว และที่ที่สุราหนึ่งป้านชวนไปเที่ยวก็คือสถานที่แห่งนี้ครับ มันคือ ฌาปนสถานตำบลป่าขาด อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา หรือที่รู้จักกันว่า "ป่าช้า" นั่นเอง แต่ชาวบ้านแถบนี้เขาเรียกกันว่า "เปลว" ครับ "เปลว"


"เปลว" ตามพจนานุกรมฉบับบัณฑิตยสถาน ให้คำจำกัดความไว้ว่า เรียกไฟที่ลุกแลบออกมาหรือพวยพุ่งขึ้นว่า เปลวไฟ, เรียกควันที่พลุ่ง ๆ ขึ้นไปว่า เปลวควัน, เรียกช่องอยู่เหนือถํ้าที่แลบ ทะลุขึ้นไปเบื้องบนว่า ช่องเปลว หรือเปลวปล่อง, เรียกสิ่งที่เป็น แผ่นบางอันมีลักษณะคล้ายเปลวไฟ เช่น ทองคําเปลว, เรียกมัน ของสัตว์ที่ไม่ได้ติดอยู่กับหนัง ว่า มันเปลว, คู่กับ มันแข็ง; ชื่อลาย จําพวกหนึ่งมีปลายสะบัดอ่อนไหวคล้ายเปลวไฟ เช่น กระหนกเปลว

ส่วนคำว่า"เปลว" ตามพจนานุกรมภาษาท้องถิ่นภาคใต้ ระบุความหมายว่า เปลว คือ สุสาน ที่ฝังศพ หรือที่เผาศพนั่นเอง ได้ยินแล้วเสียวหลังชาด


แล้วทำไม๊ ทำไม คนบ้าๆเพี้ยนๆอย่าง สุราหนึ่งป้าน จึงดันพาฉันมารีวิวในป่าช้า หล่ะพ่อคู๊นนนนนนนนน ขอโทษที่ครับพี่น้อง เค้าไม่ได้ตั้งใจ แต่เค้าจงใจจะพามา เพราะเห็นว่า มีสถานที่สัปปายะเช่นนี้อีกหลายสถานที่ ที่ปัจจุบันได้รับการพัฒนาพ้นขีดความน่ากลัว และกลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของคนในชุมชนไปแล้วไม่น้อย สังเกตุจากป่าช้าในเมืองกรุงซิครับว่า แทบไม่เหลือที่ให้ผีอยู่กันแล้ว บางคนยังสร้างบ้านเบียดชิดติดเมรุเผาศพไปแล้ว คอนโดโอ่อ่าราคานับหลักล้าน ขึ้นแข่งกับปล่องระบายควันเผาศพไปแล้ว ดูตัวอย่างแถวๆแยกติวานนท์ นนทบุรีซินั่น เมรุวัดลานนาบุญ สูงเทียมๆกับคอนโดไปแล้ว เผาศพทีก็เก็บผ้าหนีกันไม่ทันชาวคอนโดทั้งหลาย ฮ่าฮ่าฮ่า


แต่สำหรับป่าช้า ที่สุราหนึ่งป้าน จะพาไป มันมากมายด้วยความรู้สึก ที่เป็นไปด้วยสัปปายะ ๗ สบาย ๗ สิ่ง ชีวิตสบายที่ประกอบไปด้วย

1. สบายการอยู่ (อาวาสสัปปายะ) ที่อยู่เหมาะสม ไม่พลุกพล่านจอแจเกินไป
2. สบายการไป (โคจรสัปปายะ) แหล่งการกิน การเดินทาง
สถานที่สำคัญต่าง ๆ มีระยะพอเหมาะ ไม่ไกลเกินไปนัก เดินทางได้ง่าย
3. สบายพูดคุย (ภัสสสัปปายะ) การพูดคุยที่เหมาะสมในหมู่คนดี ไม่พูดมากหรือน้อยเกินไป
4. สบายคบคน (ปุคคลสัปปายะ) คบหาบุคคลที่ถูกกันเหมาะสมกัน
พากันไปในทางที่ดีมีผู้รู้เป็นที่ปรึกษา มีมิตรแท้ที่จริงใจ
5. สบายการกิน (โภชนสัปปายะ) รับประทานอาหารที่เหมาะสมต่อสุขภาพ เพศ วัย
อย่างไม่ยากและไม่เป็นโทษต่อร่างกาย
6. สบายอากาศ (อุตุสัปปายะ) ดินฟ้าอากาศธรรมชาติแวดล้อมที่เหมาะสม
ไม่หนาวเกินไป ไม่ร้อนเกินไป น้ำไม่ท่วม ไม่มีภัยธรรมชาติ
7. สบายท่าทาง (อิริยาปถสัปปายะ) การอยู่ในอิริยาบถที่เหมาะสมกับเหตุการณ์
เคลื่อนไหวได้สะดวก อิสระ วางตนได้เหมาะกับกาลเทศะ

และที่นี่ก็เป็นเช่นนั้น โดยไม่ต้องมียาม มีรปภ. มีตำรวจ มีเจ้าหน้าที่รักษาความสงบ เพื่อควบคุมพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว เพราะที่นี่มี"เจ้าเปลว"เป็นผู้ดูแลในทุกมิติได้ดีจริงๆ คนโบราณมีความเชื่อในเจ้าเปลว มีความเคารพในเจ้าเปลว และมีความเกรงใจ จะทำอะไรก็เกรงเจ้าเปลวขัดเคืองใจ และสุดท้ายจึงนำมาซึ่งความร่วมมือให้เกิดการพัฒนาสถานที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ที่ใช้ในการพักผ่อนหย่อนใจ ของชุมชนแถบนี้ไป แทนที่จะกลายไปเป็นแค่เพียงสถานที่เผาศพ สุสาน ที่ใครๆไม่กล้าอย่างกลาย สุดท้ายกลายเป็นสถานที่ที่เด็กๆชื่นชอบ ไปโดยปริยาย


ค่ำมืดดึกดื่น วันเสาร์วันอาทิตย์ ยามเย็นย่ำค่ำมืด จึงมักเห็นเด็กๆลงเล่นน้ำกันท้ายป่าช้าแห่งนี้กันทุกวัน มิหนำซ้ำทำให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวคนที่ผ่านไปผ่านมาแถวป่าขาด ต้องหมุนพวงมาลัย เลี้ยวหัวรถ เข้าไปยืนเอ๊กท่าถ่ายรูปกับความสวยงามที่ริมทะเลท้ายป่าช้ากันไม่ขาดสาย สถานที่แห่งนี้ยังกลายเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมอื่นๆ เช่นงานรื่นเริง ประเพณีต่างๆ เช่นงานลอยกระทง งานทำบุญเดือนสิบหรืองานชิงเปรต ประเพณีลากพระ มีทั้งหนังตะลุง หนังกลางแปลง ดนตรี มากมาย ซึ่งจัดกันที่นี่ทั้งหมด


ทิวทัศน์ของทะเลสาบสงขลาที่สวยงาม มองเห็นวิถีการอยู่การกินของชาวประมงพื้นบ้าน ที่มองทอดสายตาออกไปไกลจนถึงเกาะยอ เวิ้งทะเลที่กว้างน้ำทะเลสีครามสวยงามไม่แพ้ที่ใดๆ มองมุมไหนก็งดงาม นักท่องเที่ยวนักถ่ายภาพเดินทางผ่านมาทางนี้ก็มิอาจหักใจข้ามผ่านไปได้ ก็ต้องแวะลั่นชัตเตอร์กันทุกราย บังเอิญว่าภาพรีวิวที่ทางสุราหนึ่งป้านนำมาลงได้ใช้มือถือถ่าย ก็เลยได้ภาพตามอนาถารีวิว เพราะชีวิตชิลชิล จะเอาอะไรมากมาย ถ่ายมาได้ก็บุญแล้วหล่ะครับท่านผู้ชม เวลาก็เริ่มอับแสงแล้วด้วย ภาพก็ยิ่งมืดไปกันใหญ่ ภาพก็แต่งไม่เป็นกะเขา ก็เอากันแบบพอเดาๆสถานที่ได้หล่ะกันพี่น้อง


ภาพเด็กๆลงเล่นน้ำทะเลท้ายป่าช้า ทำให้สุราหนึ่งป้าน เลิกคิดถึงสถานที่แห่งนี้ไปเลยว่ามันเคยเป็นอะไร เสียงเจี๊ยวจ๊าวของเด็กๆ ทำให้ลืมทุกสิ่งอย่าง ทำให้มีแต่ความว่างโล่งโปร่งสบายเหมือนได้ลงไปร่วมเล่นน้ำกะเขาด้วย ความหวาดกลัวในวัยเด็กของเด็กๆที่นี่ได้หายไปจากความทรงจำก่อนเก่า อย่างที่เราๆท่านๆเคยเป็น พวกเขากลับรักและอยากมาที่นี่ แม้ว่าในยามหนึ่งพวกเขาก็ต้องมาแม้ไม่ชอบ


นี่เขาก็เพิ่งจัดแข่งขันเรือพาย มวยทะเลไปหมาดๆ บรรากาศลมโชยพริ้วเชียวแหล่ะ


ความสุขของเด็กๆที่มาเล่นน้ำที่นี่

เด็กๆเหล่านี้จะมากันทุกๆตอนเย็น หลังเลิกเรียน


แม้แต่สถาปัตยกรรมบางอย่างในพื้นที่ป่าช้าแห่งนี้ก็น่าสนใจน่าเรียนรู้ ทั้งอาคารสถานที่สิ่งก่อสร้าง ก็ซ่อนซุกความเป็นวิถีกรรมวิธีในการปลูกสร้าง ต่างก็มีระยะกาลเวลาที่ยาวนาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทางชุมชนก็พยายามอนุรักษ์ให้ดำดงรงคงอยู่คู่ชุมชน อย่างศาลาประกอบพิธีหลังนี้ก็งดงามไม่หยอก ซึ่งมุงด้วยกระเบื้องดินโบราณ เข้ารูปเข้ารอยด้วยสลักไม้ ที่หาดูได้ยากมากในสมัยนี้

ศาลาประกอบพิธีกรรม สงบ ร่มเย็น ร่มรื่น

บางครั้ง บางที บางความสุข ก็ยังหาได้ ในสถานที่แห่งความตาย ที่ใครอาจปฎิเสธมัน ซึ่งปัจจุบันสถานที่เหล่านั้นถูกพัฒนาเสียจนเลยความคิดของเราไปมากแล้ว แปลกไหมหล่ะครับกับสถานที่ท่องเที่ยวของคนที่นี่ ที่อาจไม่เคยมีในหัวของนักท่องเที่ยวหลายคน แม้แต่จะเพียวเสี้ยวความคิดหนึ่งก็ตามที ฮ่าฮ่าฮ่า....

อ๋อ ลืมไป ถ้าใครจะมาที่นี่ก็อย่าลืม แวะชิม แวะชม ผลิตภัณฑ์สินค้าชาวบ้าน อย่างลูกตาลสด น้ำตาลสด และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากน้ำตาลโหนด น้ำผึ้งแว่น หนุมดู หัวครกผัดน้ำผึ้ง กันนะครับ ก็อยู่ริมถนนสองข้างทางด้านหน้าป่าช้านั่นแหล่ะครับ สุราหนึ่งป้าน ขอกราบลา คารวะหนึ่งจอกครับ เอื๊อกๆๆๆๆ กลัวถูกเว๊ปมาตเตอร์ด่าเอาจริงๆ เขียนอะไรก็ไม่รู้เนอะ...ฮ่าๆๆๆ

สุราหนึ่งป้าน

 วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เวลา 18.07 น.

ความคิดเห็น