เกริ่นนำกันไปบ้างแล้วกับชื่อหัวข้อกระทู้ Loligo Resort Hua Hin : ที่พักเก๋ ใจกลางหัวหิน บริการดี ราคาน่ารัก
ตามที่กล่าวมาข้างต้นเลยค่ะ วันนี้ลาเต้ปั่นเย็นๆ จะพาเพื่อนๆไปรู้จักกับที่พักทำเลดี โซนเขาตะเกียบ ใกล้ตลาดซิเคด้า
ใกล้แค่ไหนก็คือเดินไปได้ภายในไม่ถึง 5 นาที ... และเราคิดว่าใครๆหลายๆคนต้องเคยได้ยินที่พักสุดเก๋ที่ชื่อ
" Let's Sea Al Fresco " พี่พักที่ดีไซนฺ์สวยชิค แต่ราคาค่อนข้างสูง แต่ตอนนี้เค้าได้ทำรีสอร์ทน้องใหม่ขึ้นมา ราคาจับต้องได้ บริการดีเยี่ยม
ที่ชื่อว่า " Loligo Resort " เดี๋ยวเราลองไปชมดูว่า ที่นี่จะเป็นอย่างไรบ้าง
ป.ล. ที่พักค่ำคืนนี้เราได้มาโดยเพื่อนมอบให้เป็นของขวัญตั้งแต่วันแต่งงานโน่น ผ่านมาหลายเดือนเพิ่งมีโอกาสได้ใช้

เพื่อนๆสามารถไปพูดคุยทักทายกันได้ที่เพจน้อยๆ ของลาเต้ปั่นเย็นๆตามลิงค์ด้านล่างนี้เลยค่ะ

https://www.facebook.com/lattepunyenyen/

วันนี้ลาเต้ปั่นฯ เดินทางออกจากบ้านตอนบ่ายนู่นเลย จึงทำให้ถึงหัวหินช้าไปหน่อย ช่วงพลบค่ำเลยแหละ


" Loligo resort ตั้งอยู่ใกล้ๆตลาด Cicada ค่ะ พิกัดเดียวกับโรงแรม Let's Sea Al Fresco อยู่ติดกันเลย

สัญลักษณ์แสนจะน่ารักของรีสอร์ท "โลลิโก้ "เป็นชื่อของปลาหมึกที่พบได้ในเขตทะเลหัวหิน

นี่จึงเป็นที่มาของชื่อรีสอร์ท และสัญลักษณ์ที่เราพบเจอ



ถึงรีสอร์ทก็ค่ำมืดซะแล้ว พนักงานที่นี่น่ารักมากค่ะ จอดรถปุ๊บรีบวิ่งมาคอยบริการ ถามไถ่


เดินถือกระเป๋าไปส่งที่ Lobby คือเทรนมาดีมากๆ ประทับใจตั้งแต่แรกเริ่มกันเลย

เชคอินเรียบร้อย พนักงานพาเราไปยังห้องพัก เดินผ่านสระว่ายน้ำแห่งเดียวของที่นี่...



ลัดเลาะไปตามทาง แปลกตาดีจัง



ห้องพักของเราวันนี้ อยู่ชั้น 3 ค่ะ ( ชั้นบนสุด ) ที่พักที่นี่ไม่มีลิฟท์นะคะ เนื่องจากมีเพียง 3 ชั้น


ท่านใดที่มีคนแก่ หรือ เด็กๆมาด้วย แนะนำด้านล่างค่ะ น่าจะสะดวกกว่า



ห้องพักของเราวันนี้ เป็นประเภท ห้องดีลักซ์ บัลโคนี่ (Deluxe Balcony Room)


ถึงแม้จะเป็นแค่เริ่มต้น แต่ก็มีขนาดกว้าง 40-44 ตารางเมตร ไม่อึดอัดค่ะ สบายๆ

เตียงนอนสีขาวสะอาดตา โซฟาเบดอยู่ปลายเตียง พร้อมโต๊ะเขียนหนังสือเล็กๆ สะดวกแก่การจัดเก็บ



ที่เห็นเป็นหน้าต่างนั้น เป็นส่วนที่เชื่อมกับห้องน้ำค่ะ...สามารถเปิดหรือปิดได้ตามความต้องการ



ตกแต่งด้วยโทนสีขาวๆ สบายตาดีค่ะ... ห้องน้ำแยกส่วนเปียก แห้ง มีสายชำระ Amenities kit


ตามที่โรงแรมพึงจะมี...ครบครันค่ะ



ชะเง้อออกไปนอนหน้าต่าง...เจอเตียงนอนสีขาว น่าน้อน น่านอนเนอะ



เดี๋ยวเราแว่บๆไปเดินเล่นข้างล่างดีกว่าค่ะ ได้ข่าวว่ามีร้านสะดวกซื้อเล็กๆ เปิดตลอด 24 ชั่วโมง



เอ คาราวาน (A Caravan) บริการ 24 ชั่วโมง

ใครต้องการของว่าง ขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่ม มีให้เลือกสรร สะดวกมากทีเดียวในส่วนของตรงนี้



สควิด อิงค์ บาร์ (Squid Ink Bar) บาร์ริมสระยามค่ำ


ได้บรรยากาศผ่อนคลาย เครื่องดื่มเย็นๆสักแก้วก็คงชื่นใจน่าดู



สอดส่องหาที่นั่งเหมาะๆดีกว่า...ด้านข้าง เป็น เดอะ กัปตัน (The Captain)


ห้องอาหารที่ให้บริการอาหารเช้า และอาหารกลางวันค่ะ ตกแต่งสไตล์หมู่บ้านชาวประมง เรโทรนิดๆ น่ารักดีจัง



พนักงานแจ้งว่าช่วง 2 - 4 ทุ่ม จะเป็นช่วง Happy Hour ซื้อเครื่องดื่ม 1 แก้ว แถม 1 แก้วค่ะ


เราเลยสั่งมาจิบๆเบาๆ อ่านหนังสือชิลๆกันดีกว่า



ใครที่อยากจะไปเดินเล่นต่อที่ตลาดซิเคด้า ก็ง่ายมากค่ะ เดินจากโรงแรมไปไม่ถึง 5 นาที


สะดวกสบาย ไม่ต้องเสียค่าที่จอดรถให้ยุ่งยาก...ดี๊ดี ณ จุดนี้

เราก็ก็ไปเดินมาสลบเหมือด ได้เวลาพักผ่อนกันแล้วล่ะ



ที่นอนนุ่มสบายค่ะ...ชอบตรงที่นี่มีพัดลมเพดานด้วย น้อยนักน้อยหนาที่จะเจอค่ะสำหรับเรา



ในตู้เสื้อผ้ามีกระเป๋าสานให้ เผื่อไปเดินเล่นชายหาด ร่ม เสื้อคลุม และผ้าขาวม้า !!!


เอ๊ะเค้าเอาไว้ทำไม ใครรู้ช่วยตอบทีค้าาา...คือมันเก๋



ด้านปลายเตียงมี LCD TV พร้อมโต๊ะเขียนหนังสือ ผสมผสานเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง สำหรับคุณผู้หญิง



Mini Bar ฟรีชา กาแฟ น้ำเปล่า และเครื่องดื่มในตู้เย็นทั้งหมด... ที่น่ารักมากขึ้นอีกคือมีกระติกน้ำแข็งให้


เผื่อใครต้องการน้ำแข็ง ขอได้ฟรีตลอด 24 ชม. ค่ะ



เปิดประตูกระจกออกไป เป็นระเบียง มีที่นั่งพร้อม ฝั่งขวามือที่เห็นเป็น Let's Sea Al Fresco ค่ะ



ไปทานข้าวกันดีกว่า....เดินผ่านโซนผ่อนคลายสีเขียวๆ ถึงแม้จะเป็นหญ้าเทียม ก็รู้สึกสดชื่นอยู่นะ



เช้านี้เรามาทานอาหารกันที่ห้องอาหาร The Captain เดอะ กัปตัน ค่ะ ไลน์อาหารเป็นแบบบุฟเฟต์



ไลน์อาหารมีให้เลือกไม่มากนัก มีทั้งไข่ต้ม ไข่ดาว อาหารไทย และเทศ เช่นข้าว โจ๊กกระดูกหมู


แฮม เบคอน สลัดผัก ขนมปัง ซีเรียล นมสด ต่างๆ



ที่ชอบคือตรงนี้ค่ะ ทำวาฟเฟิล เสิร์ฟกันร้อนๆ แจ้งพนักงานได้เลย มีซอสให้ราดหลายรสมากๆ



ในส่วนของแก้วกาแฟนั้น ได้อารมณ์แบบเรโทร เก่าๆ ...ให้เข้ากับคอนเซปต์โรงแรมหมู่บ้านชาวประมงหน่อยค่ะ



ทานนิดเดียวค่ะ เช้านี้คลีนๆ เน้นอาหารหวานอย่างเดียว ฮ่าๆ



วาฟเฟิลร้อนๆ กรอบ อร่อย



หันไปเจอเด็กน้อยชาวจีน 你真可爱 เธอน่ารักจริงจริ๊งงง แก้มชมพูเชียว



อิ่มหนำสำราญไปเดินเล่นที่ชายหาดกันค่ะ...เดินออกไปฝั่งด้านหลังโรงแรม


เดินผ่านถนนเล็กๆ ระหว่าง Let's Sea กับ Loligo ค่ะ เดินไปสัก 100 เมตรก็ถึงแล้วหละ

ท้องฟ้าอึมครึม ฝนตกแต่เช้าเลยวันนี้...



เดินเล่นได้สักพักเริ่มร้อน...กลับไปเก็บของกันดีกว่า...ก่อนจะขึ้นห้องพัก เราเดินผ่าน Spa / Kids club / Fitness


รวมอยู่ด้วยกันเลยค่ะ เดี๋ยวแว่บเข้าไปดูโบรชัวร์สักหน่อย พนักงานที่นี่พูดคุยดีมาก ให้คำแนะนำต่างๆ...

ให้เทสกลิ่นอโรม่าที่ชอบด้วย แต่แอบเสียดายเราไม่ได้ใช้บริการ เนื่องด้วยมีแพลนไปหลายที่

เดี๋ยวโอกาสหน้าจะมาใช้บริการค่ะ ราคาน่าโดนมากกกก ไม่แพงเลยค่ะสปาที่นี่...

ขอสำรวจด้านในนิดนึงนะคะ ตอนเช้าๆแบบนี้ยังไม่มีแขกมาใช้บริการ



Kids Studio กับ Fitness ค่ะ



ได้เวลา Check out แล้วค่ะ... Lobby โปร่ง โล่งสบาย


ตกแต่งแบบหมู่บ้านขาวประมงอย่างที่เรากล่าวไปในตอนแรก



มีอินเตอร์เนตให้บริการด้วยนะคะ สามารถมาใช้ได้เลยค่ะ สำหรับแขกที่เข้าพักที่นี่



ด้านหน้ามองเห็น Let' s Sea สีสันสวยงาม น่ามาพักผ่อนมาก...โอกาสหน้าคงได้มาใช้บริการ



สรุปแล้วกับ 2 วัน 1 คืนที่ Loligo Resort


เป็นรีสอร์ทที่ตั้งทำเลดี ใจกลางหัวหิน พนักงานน่ารักมากค่ะ เต็มใจบริการ คอยช่วยเหลือตลอด

ถึงแม้ไม่ติดชายหาดซะทีเดียว แต่ก็เดินไปได้ไม่ไกลค่ะ นิดเดียวจริงๆ ห้องพักราคาเริ่มต้นราคาจับต้องได้

ไม่สูงจนเกินไป ห้องกว้าง ข้าวของเครื่องใช้มีให้ครบ แต่อาหารเช้าน้อยไปหน่อยค่ะ

มีเมนูไข่ให้เลือกมากกว่านี้คงจะดีไม่น้อยเลย...สำหรับค่ำคืนนี้ฝันดีราตรีสวัสดิ์นะค้า



แอบแปะกระทู้ทริปเดียวกันนี้ อีก 2 ลิงค์นะคะ...ตามไปชมกันได้ค่าาา



จับมือแฟนเติมความหวาน ด้วยการนั่งจิบชาริมทะเล @The Barai Hua Hin



http://pantip.com/topic/35446677



เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า แล้วพา 2 เรา ไปพักผ่อนสไตล์เรโทร @The Restro Hua Hin



http://pantip.com/topic/35451216

ความคิดเห็น