สวัสดีค่ะ ทริปนี้เราเพิ่งไปมาสดๆ ร้อนๆ เมื่อวันที่ 12 สิงหาที่ผ่านมา วางแพลนไว้จะไปที่หัวหินคืนนึง และมาที่แก่งกระจานคืนนึง ในขณะที่ขับรถไปตอนเช้า เสียงไลน์ของพี่สาวก็ดังขึ้นพร้อมข่าวเช้าที่สะเทือนอารมณ์คือมีการวางระเบิดที่หัวหิน (ขอแสดงความเสียใจกับผู้สูญเสียและผู้บาดเจ็บทุกท่านค่ะ) เราก็ชั่งใจกันอยู่ว่าจะไปดีมั้ย ที่พักก็จองไว้แล้ว แต่ใจนึงก็กลัว และยังมีประกาศอีกว่าให้นักท่องเที่ยวอยู่แต่ห้องพัก ให้ชาวบ้านอยู๋ในบ้านเพื่อความมปลอดภัย เราจึงตัดสินใจกลับรถแล้วไปที่แก่งกระจาน ส่วนที่พักค่อยหาไป โชคดีที่ที่พักที่หัวหินเราฝากห้องไว้ก่อนได้ จะไปเมื่อไหร่ก็ได้เนื่องจากเหตุนี้
ระหว่างทางไป เราไม่ลืมที่จะแวะไปทำบุญไหว้พระที่วัดห้วยโรง สักการะหลวงพ่อหนึ่ง เป็นวัดที่เข้าไปลึกนิดนึงจากถนนใหญ่
ตอนแวะกินข้าวก็ช่วยกันหาข้อมูลไป ส่วนใหญ่จะเต็มหมดแล้ว เพราะเป็นเทศกาลด้วย แล้วพี่สาวเราก็ได้เจอที่นึงที่ยังว่างและราคาไม่แพงเลยค่ะ เราก็เลยมุ่งหน้าไป "จิราภรณ์ แก่งกระจาน" เป็นออกแนวบ้านคนแล้วเอามาทำที่พัก บรรยากาศดีมากค่ะ อาจเป็นเพราะวันที่ไปแดดร่มลมตก ไม่ร้อน มองไปเห็นแต่สีเขียว ชอบมาก
ที่พักเป็นแบบเรียบง่าย บรรยากาศต่างจังหวัด แบบนี้สิ ถึงจะเรียกว่าพักผ่อน เข้าไปถึงด้านหน้ามีสระว่ายน้ำง่ายๆ ของเด็กกับผู้ใหญ่ ติดกันเป็นสไลเดอร์ลื่นลงไปในแม่น้ำ (เขาเรียกว่าอะไรเราไม่ถูกอ่ะ ขอโทษจ้า 55 เป็นน้ำที่เขาล่องแก่งอะค่ะ) คาดว่าที่พักเพิ่งเปิดได้ไม่นาน ทุกอย่างดูใหม่หมด ตอนเราไปคงยังไม่ค่อยมีคนจอง สระว่ายน้ำเค้าก็เพิ่งเปิดน้ำให้ค่ะ รอน้ำเต็มค่อยลงได้
ที่ลงเล่นน้ำทุกที่พักเขาก็จะมีห่วงยาง มีเชือกไว้ให้ เอาไว้เกาะเล่น และจริงๆคือช่วยได้มาก เพราะน้ำเชี่ยวมากแบบเข้าใจอารมณ์คนโดยน้ำพัด นี่คงไม่ได้แรงมากเหมือนขนาดนั้น เอาเป็นว่าแรงพอให้เราได้เล่นสนุก และเพื่อความปลอดภัย ทุกคนจะต้องใส่เสื้อชูชีพ ถ้าหากคุณไหลไปตามน้ำเกาะไม่ทัน ก็ไม่ต้องกลัว ไหลไปเรื่อยๆก็จะมีที่พักริมน้ำแบบนี้เป็นระยะๆตลอดทาง แต่ทางที่ดี เล่นอย่างปลอดภัยแบบพอเหมาะดีกว่าค่ะ
นี่คือสไลเด้ออออออออออ ไหลลงมาแบบ ปรื๊ดดดด เสียวไปถึงตาตุ่ม ลื่นลงมา ตู้ม!! น้ำเย็นฉ่ำสบายย และแนะนำอีกที ปิดจมูกด้วยก็ดีค่ะ น้ำเข้าจมูก สำลักค่ะ
ทางลงให้ลงไปเล่นน้ำเตาะแตะได้
พาไปดูบรรยากาศที่พัก เอาตามตรงไม่ได้โปรโมท แต่เราชอบมากจริงๆ ใครชอบแนวนี้ก็ลองดูจ้า
ศาลาริมน้ำ นั่งกินขนม ชมวิว รับลม จะดึกแค่ไหนก็ไม่น่ากลัว และที่สำคัญ ไม่มียุงเลย อาจเป็นเพราะน้ำไหลตลอดทางมั้ง
ห้องพักสำหรับเรานอนกัน 7 คนกับน้องหมาอีก 1 ตัว ที่นอนดูง่ายๆนะ แต่หมอนและฟูกนิ่มมาก ผ้าห่มก็นุ่ม ไม่มีกลิ่นอับ ผ่านค่ะ!
เก็บบรรยากาศรอบๆที่พักค่ะ
คุณนายแม่สูดอากาศ
นี่ๆ ศาลาเขามีเลเยอร์แบบนี้นาจา ลงมาอีกชั้นก็มีศาลาให้นั่งริมน้ำขอบจอเลยค่ะ
จากนั้นเราก็ไปล่องเรือยางกันจ้า ไปติดต่อล่องเรือได้ที่ที่พักเลย แล้วพี่เขาก็จะเอารถมารับที่บ้านพักเลย แล้วก็เอาไปลงที่ที่จะขึ้นเรือ รอเรือสัก 15 นาที ใส่เสื้อชูชีพแล้วก็รอรถมารับ ไปขึ้นอีกที่นึง ซึ่งระยะทางล่องแก่ง 8 กิโลเมตรโดยประมาณ และเราก็ต้องพายเองด้วยนะ มีพี่เค้าคัดท้ายให้คนนึง ก็ต้องช่วยพี่เค้าแหละ 555 เขาจะปล่อยให้ลงน้ำได้ประมาณ 3 กิโลเมตรก่อนถึงที่หมาย รูปไม่ได้ถ่ายมาเพราะลงน้ำจ้า ไม่ได้เอามือถือไป
ล่องแก่งเสร็จเราก็ไปกินข้าวกันต่อที่ วิโรจน์ แก่งกระจาน อาหารหน้าตาธรรมดาไม่หวือหวาไม่ว้าว แต่รสชาติอร่อยกล่มกล่อม
ด้านในเป็นโต๊ะไปขนาดใหญ่ ให้บรรยากาศความเป็นธรรมชาติมากๆ และที่เลิศสุดคือ ทัศนียภาพเบื้องหน้า
ต้องบอกว่า กินลมชมวิว อิ่มกว่ากินอาหารอีกค่ะ อิ่มแล้วก็กลับที่พัก นั่งกินขนมต่อที่ศาลาพักใจ
วันต่อมา เราก็เปลี่ยนที่พักไปที่ฮาโมนี่ สุดหรูหราพร้อมสวนน้ำ ห้องสวย สร้างดี แต่เราชอบความเรียบง่ายและบรรยากาศที่จิราภรณ์มากกว่าค่ะ ความเป็นกันเองของเจ้าของบ้านก็ด้วย ที่นี่คนเยอะไปหน่อย เพราะเขามีสวนน้ำด้วยแหละ คนนอกก็เสียตังเข้ามาเล่นได้
สายหน่อยกินอาหารเช้าเสร็จก็ไปต่อที่เขื่อนแก่งกระจาน ไปชมวิวกันรัวๆ ค่ะ
วันที่ไปถือว่าอากาศดีนะคะ แดดร่มลมตก คนก็ไปไม่ได้เยอะแบบที่คิดไว้เพราะเป็นวันเทศกาล
ตอนเดินทางกลับกรุงเทพ เราก็หาร้านกันอีกค่ะ แล้วก็ไปได้ร้านตามรีวิว ร้าน "แดง อาหารทะเล" สมุทรสาคร
อาหารอร่อยดีค่ะ ไม่แพง ได้เร็วดีด้วย ไว้จะรีวิวให้อีกกระทู้นึงนะคะ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาถึงตรงนี้ และในท้ายสุด ขอให้ทุกท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพ ปลอดภัยตลอดทริปการท่องเที่ยวค่ะ
เที่ยวเมืองไทย ไม่ไป...เสียดายแย่
การเดินทางของหัวหอม
วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เวลา 15.00 น.