" บั น ทึ ก ก า ร เ ดิ น ท า ง เ พื่ อ ค้ น ห า ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง ชี วิ ต "


[ ทั ศ นั ย ใ ช้ ใ จ เ ดิ น ต อ น โ อ ฮ า โ ย โ อ ซ า ก ะ ]


JAPAN

มหานครแห่งเอเชีย ดินแดนที่ถูกขนานนามอาทิตย์อุทัยที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ ความสุข ความตื่นเต้น ความรื่นเริง และบันเทิงใจ อีกทั้งยังเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกรวมทั้งนักท่องเที่ยวไทย สิ่งที่คุณจะได้เห็นในประเทศนี้คงจะเป็นความเจริญ ความทันสมัย สถานที่ท่องเที่ยว แหล่งบันเทิง ย่านช้อปปิ้ง แฟชั่น อาหาร บวกกับประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมที่ผสมกลมกลืนเป็นเอกลักษณ์ จึงทำให้ประเทศญี่ปุ่นเข้าไปอยู่ในใจของใครหลายๆ คนได้อย่างไม่ยาก..


ด้วยเหตุผลนานับประการ ที่ทำให้เราหลงรักญี่ปุ่น วันนี้ผมเลยจะยกเมืองในฝันอีกหนึ่งเมือง นั่นก็คือ "โอซาก้า" และทำรีวิว "ฉบับมินิ" เพื่อบอกเรื่องราวการเดินทางท่องเที่ยวในฉบับที่คุณก็สามารถเที่ยวได้ด้วยตัวเอง เป็นเซียนการท่องเที่ยวใน "เมืองโอซาก้า หรือ โอซากะ" ที่คนไทยเรียกจนชินหู เพื่อเป็นแนวทางเบื้องต้นให้ทั้งมือเก่ามือใหม่หัดเที่ยวที่มีใจรักในความเป็นญี่ปุ่น ความเป็นเรียวกัง ให้คุณสามารถเที่ยวโอซาก้าได้แบบไม่ต้องกลัวหลง เพลิดเพลิน และเกิดความประทับใจที่ได้มาสัมผัสมนต์เสน่ห์ วิถีชีวิตความเป็นโอซาก้าอย่างเต็มรูปแบบ

ย้ำไว้อีกครั้งนะครับ!! รีวิวนี้ผมจะรีวิวแค่เฉพาะ "โอซาก้า" เท่านั้น!! ไม่รวมรอบตัวโอซาะก้า เช่น เกียวโต ,โกเบ ,มิเอะ ,ชิกะ ,วากะยะมะ ,ฮิโรชิมะ ,ฮิเมอิ และนารา เป็น แต่ถึงอย่างนั้นโอซาก้าก็มีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายให้คุณได้ชิม ช้อป และคุณจะได้รู้จักย่านต่างๆ แหล่งท่องเที่ยว ช้อปปิ้ง รวมไปถึงร้านอาหารขึ้นชื่อ ที่ผมจะนำเสนอ สรรหา และรวบรวมมาไว้ให้แล้วที่นี่ ผมว่าแค่จุดเริ่มต้นของการเดินทางลองใช้ชีวิตไม่ต้องเที่ยวหลายเมืองแต่ได้จดจำเรื่องราวของเมืองแค่เมืองเดียวคุณก็จะอิ่มไปกับความสุขได้อย่างเต็มรูปแบบ จนทำให้คุณอิ่มเอิมไปกับ "โอซาก้า"เมืองที่ไม่ได้มีดีแค่ป้อกกี้ อย่างแน่นอน...


" เ ที่ ย ว ญี่ ปุ่ น อ ย่ า ง ค น ญี่ ปุ่ น "


OSAKA

โอซาก้า เป็นเมืองที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 และมีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันไซบนเกาะฮอนชู ต้องบอกเลยว่าเป็นหนึ่งในไม่กี่เมืองที่มีสถานะเป็นนครโดยข้อบัญญัติรัฐบาลญี่ปุ่น ด้วยความที่เพียบพร้อมและทันสมัยด้วยเทคโนโลยี ความเจริญหูเจริญตา คือพูดง่ายๆ ดีงามไม่ได้ต่างจากโตเกียว จึงทำให้โอซาก้ากลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่างหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย จึงทำให้นครแห่งนี้กลายเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวไปโดยปริยาย


" เ ที่ ย ว ส นุ ก เ ดิ น ท า ง ส ะ ด ว ก ด้ ว ย ง บ ป ร ะ ห ยั ด "


ระบบคมนาคมขนส่ง

การเดินทางในโอซาก้ามีหลากหลายวิธีด้วยกันครับ ไม่ว่าจะเป็น JR รถไฟเอกชน รถไฟใต้ดิน รถราง รถโดยสาร และเรือโดยสาร แต่วิธีที่นิยมที่สุด คือ รถไฟไฟ้าใต้ดิน รถไฟเอกชน และ JR โดยแต่ละสายจะแบ่งแยกตั๋วของแต่ละบริษัทเหมือนบ้านเราครับ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเบื่อแน่นอนสำหรับนักท่องเที่ยว แต่ในความยุ่งยากก็ยังมีความดีงามตรงที่นางก็มีการรวมตั๋วการเดินทางไว้ให้สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เราท่เดินทางสะดวกสบายง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งในครั้งนี้ผมจะแนะนำตั๋วท่องเที่ยวที่คิดว่ามันดี มันโอ และคุ้มค่า มา 2 ประเภท ให้เลือกโดยที่คุณไม่จำเป็นต้องไปดูตั๋วอื่นให้เสียเวลาถ้าคิดจะเที่ยวในตัวเมืองหรือรวมทั้งนอกตัวโอซาก้า

1.บัตร Kansai Thru Pass

ตั๋วนี้ ถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับคนที่คิดจะเที่ยวทั้งในเมืองและรอบตัวเมืองโอซาก้า คือพูดง่ายๆ รอบคันไซเลย ไม่ว่าจะเป็น โกเบ ,ฮิเมจิ ,นารา ,เกียวโต ,วาคายาม่า ,ชิงะ เป็นต้น สามารถเดินทางขึ้นลงได้ ตั้งแต่รถไฟเอกชนสายต่างๆ รวมทั้งในโกเบทุกสาย รถไฟใต้ดิน (Sub Way) ทั้งในโอซาก้าและโกเบ รถไฟเอกชนบริษัท Nankai,Heihan,Sanyo,Hankyu,Hanshin และ Kintetsu เป็นต้น แม้กระทั่งรถไฟ Airport Express ของ Nankai ก็สามารถนั่งได้ อีกทั้งยังมีคูปองส่วนลดค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหารต่างที่ร่วมรายการอีกด้วย แต่ข้อเสียก็จะอยู่ตรงที่บัตรนี้ไม่รวม JR ,Shinkansen และรถบัสบางสาย

โหหห ดีงามขนาดนี้ ผมแนะนำเลยครับ คุ้มยิ่งกว่าคุ้มอีก บัตรมี 2 แบบ คือ 2 วัน (4,000 เยน) และ 3 วัน (5,200 เยน) ครับ โดยบัตรคิดวันใช้งานจริง วันไหนไม่ได้ใช้ไม่คิด กล่าวง่ายๆ ไม่จำเป็นต้องใช้ต่อเนื่องกัน

2.บัตร Osaka Amazing Pass

บัตรนี้ดีที่สุดของการเที่ยวเฉพาะในเมืองโอซากะเท่านั้น สำหรับคนไม่มีแพลนไปเที่ยวรอบโอซากะครับ บัตรสามารถขึ้นลงรถไฟใต้ดินได้ทุกสาย รถไฟในเมือง รถไฟเอกชนบริษัท Nankai,Heihan,Sanyo,Hankyu,Hanshin และ Kintetsu เป็นต้น ไม่จำกัดจำนวนครั้ง นอกจากนี้ข้อดีความเป็นที่สุดของนาง คือ สามารถเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ฟรี ย้ำว่าฟรี!! กว่า 30 แห่งครับ โอยยย..ดีงามพระรามแปดขนาดนี้จะไม่รักได้ไง โดยบัตรก็มีทั้งแบบ 1 วัน (2,300 เยน) และ 2 วัน (3,000 เยน) ข้อเสียของนางคงจะเป็นที่ต้องใช้งานติดต่อกัน และไม่สามารถเที่ยวรอบนอกได้นี่แหละ



" เ จ แ ป น ไ ม่ โ น แ พ ล น "


ในส่วนเรื่องตั๋ว สายการบิน การเตรียมตัวการเดินทางคงไม่ต้องแนะนำเนาะ เอาเป็นว่าหลังจากมาถึงสนามบินคันไซแล้ว ผ่าน ตม. รับกระเป๋าเสร็จ สิ่งที่เราจะทำคืออะไร เข้าไปเมืองนี้ยังไง มีอะไรน่าสนใจ ควรจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง โดยรีวิวนี้ผมได้รวบรวมเกือบทุกย่านที่ขึ้นชื่อของความเป็นโอซาก้ามาให้เรียบร้อยแล้ว และคิดว่าคุณไม่ควรพลาด รวมไปถึงการเดินทางไปยังไง ลงสถานีไหน ออกทางออกไหน ค่าเข้าชมฟรีหรือไม่ เอาล่ะที่พูดมาผมมีคำตอบให้คุณแน่นอน เตรียมเก็บข้อมูลได้เลย ปักหมุดไว้เลย เพราะแต่ละย่านที่คัดสรรมาให้ จะทำให้คุณเพลิดเพลินและอิ่มเอมไปกับมหานครแห่งป้อกกี้แน่นอน


" 9 ย่ า น ที่ ต้ อ ง ทำ เ มื่ อ ม า โ อ ซ า ก ้า "


1. คิตะ (Kita) หรือ อุเมดะ (Umeda)

ย่านที่คนไทยอาจจะเรียกติดปาก "อุเมดะ" ตั้งอยู่ทางทิศเหนือตามแผนที่ของโอซาก้า เป็นอีกหนึ่งย่านที่คับคั่งไปด้วยผู้คนจำนวนมากตลอดทั้งวันทั้งคืน เนื่องจากย่านนี้เป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งทางราง ไม่ว่าจะเป็น JR และ Subway สายต่างๆ คุณก็สามารถมาเปลี่ยนสายได้ที่นี่ จึงทำให้ย่านนี้ถูกปกคลุมไปด้วยตึกอาคารสูง สำนักงานใหญ่ต่างๆ ห้างสรรพสินค้า ร้านค่าชั้นนำ โรงแรม ร้านอาหารต่างๆ ล้อมรอบทั้งพื้นที่เกือบหมดทั้งใต้ดินและบนดิน

How to get there

1) JR Line
Kobe Line ====>>> ลงสถานี Osaka
Osaka Loop Line ====>>> ลงสถานี Osaka
Tozai Line ====>>> ลงสถานี Kitashinchi

2) Osaka Municipal Subway
Yotsubashi Line ====>>> ลงสถานี Nishi-Umeda
Midosuji Line ====>>> ลงสถานี Umeda
Tannimachi Line ====>>> ลงสถานี Higashi-Umeda

3) Private Lines
Hanshin Main Line ====>>> ลงสถานี Umeda
Hankyu Kyoto Main Line ====>>> ลงสถานี Umeda
Hankyu Takarazuka Main Line ====>>> ลงสถานี Umeda
Hankyo Kobe Main Line ====>>> ลงสถานี Umeda


2. เทนโนจิ (Tennoji)

ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของโอซาก้า เป็นย่านที่ดูเงียบสงบห่างไกลจากสถานบันเทิง ในย่านนี้คนญี่ปุ่นจะชอบมาผ่อนครายชีวิตกับสังคมที่เร่งรีบ แต่ถึงอย่างนั้นที่นี่ก็มีสถานที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น วัด สวนสัตว์ สวนสาธารณะ พิพิธภัณฑ์ ร้านอาหาร ซึ่งผมได้รวบรวมมาให้คร่าวๆ ดังนี้

2.1 วัดชิเทนโนจิ (Shitennoji)

เป็นวัดที่มีชื่อเสียง เก่าแก่ และสวยที่สุดในโอซาก้า ภายในวัดมีสถานที่หรือสิ่งศักดิ์ให้ผู้มาเยือนได้สักการะ ไหว้ขอพร โดยไฮไลท์เด็ดอยู่ที่วงล้อซึ่งติดอยู่ตามประตูวัด ในความเชื่อคือการหมุนวงล้อเพื่อขอพรให้สมหวังปราถนาตามที่หวังไว้ อยากจะขออะไรก็ขอให้ได้ขอให้โดน

How to get there
1) Osaka Municipal Subway
Tannimachi Line ====>>> ลงสถานี Shitenniji-mae Yuhigaoka Exit 4
ค่าเข้า : ฟรี


2.2 สวนสัตว์เทนโนจิ (Tennoji Zoo)

สวนสัตว์ที่เก่าแก่ของเมือง มีสัตว์ป่ามากมายหลายสายพันธุ์กว่า 300 ชนิด ซึ่งบางชนิดหาชมได้ยากมีที่นี่ที่เดียวในญี่ปุ่น ในช่วงวันหยุดพ่อแม่ชาวญี่ปุ่นจะพาลูกหลานมาชมขวัญใจของสวนสัตว์นั่นก็คือ หมีอโคอาลา

How to get there
1) Osaka Municipal Subway
Sakaisuji Line ====>>> ลงสถานี Dobutsuen-mae Exit 1
Midosuji Line ====>>> ลงสถานี Dobutsuen-mae Exit 1
ค่าเข้า : 200-500 เยน


2.3 Keitakuen Garden

ถ้าใครอยากเห็นสวนสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ แบบเรียวกังต้องมาที่นี่ครับ บอกเลยสวยมาก ต้นไม้ในแบบญี่ปุ่น สระน้ำ ก้อนหิน ปลาคาร์ฟแหวกว่าย ทำให้นึกถึงการจัดสวนหย่อมในขวดแก้วมากครับ เพียงแต่ขยายให้เป็นไซต์จริงเท่านั้น บรรยากาศโดยรอบดูร่มรื่น ผู้คนส่วนใหญ่ที่เข้ามา จะเป็นคู่รัก ผู้สูงสัยมาพบปะพูดคุยกัน ผมว่าที่นี่เหมาะกับคนที่อยากใช้ชีวิตช้าๆ นิ่งๆ มากครับ

How to get there
1) Osaka Municipal Subway
Sakaisuji Line ====>>> ลงสถานี Dobutsuen-mae Exit 1
Midosuji Line ====>>> ลงสถานี Dobutsuen-mae Exit 1
ค่าเข้า : 150 เยน


2.4 Osaka City Museum of Fine Arts

ศูนย์รวมงานศิลปะของเมืองโอซาก้าไว้เลย ด้วยงานศิลปะแขนงต่างๆ ที่รวบรวมเอาไว้ที่นี่ มากกว่าเกือบหมื่นชิ้น ผมว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คุณจะได้เห็นนอกเหนือไปจากงานศิลปะที่ไม่สามารถชมได้ทั่วไป

How to get there

1) Osaka Municipal Subway
Sakaisuji Line ====>>> ลงสถานี Dobutsuen-mae Exit 1
Midosuji Line ====>>> ลงสถานี Dobutsuen-mae Exit 1
ค่าเข้า : 200-300 เยน


2.5 Abeno Harukas

ตึกสูงที่สร้างขึ้นใหม่ในซึ่งดูแปลกตาในย่างนี้ไปเลย ภายในมีทั้งห้างสรพพสินค้า ร้านค้าชั้นนำ แบรนด์หรูต่างๆ กว่า 16 ชั้น มีสำนักงาน รวมไปถึงจุดชมวิวเมืองโอซาก้า "Harukas 300"

How to get there

1) Osaka Municipal Subway
Tanimachi Line ====>>> ลงสถานี Tennoji Exit 9
Midosuji Line ====>>> ลงสถานี Tennoji Exit 9
ค่าเข้า : ฟรี สำหรัยจุดชมวิว Harukas 300 (1,200-1,500 เยน)


3. ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)

เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของเมืองโอซาก้าเลยก็ว่าได้ สำหรับใครที่มาเมืองนี้ ตัวปราสาทสีเขียวขนาดใหญ่และมีความสวยงาม ไม่แพ้ปราสาทฮเมจิ หรือปราสาทคุมาโมโตะเลย โดยปราสาทถูกล้อมรอบด้วยกำแพงหินขนาดใหญ่ คูน้ำ และสวนนิชิโนมารุ (Nishinomaru Garden) มีต้นซากุระกว่า 600 ต้นรายล้อมรอบตัวปราสาท ที่นี่จึงเป็นแหล่งชมซากุระที่ดีที่สุดจุดนึงของญี่ปุ่นที่โด่งดังไปทั่วโลก โดยเฉพาะมีฉากด้านหลังเป็นปราสาทโอซาก้าที่สวยงามเป็นอย่างยิ่ง

How to get there

1) Osaka Municipal Subway

Nagahori Tsurumi-Ryokuchi Line ====>>> ลงสถานี Osaka Business Park Exit 2,3

Nagahori Tsurumi-Ryokuchi Line ====>>> ลงสถานี Morinomiya Exit 3-B (ไม่แนะนำลงที่นี่เพราะไกล)
Tanimachi Line ====>>> ลงสถานี Temmabashi Exit 3
Chuo Line ====>>> ลงสถานี Tanmachi 4-chome Exit 9
Chuo Line ====>>> ลงสถานี Morinomiya Exit 3-B (ไม่แนะนำลงที่นี่เพราะไกล แต่มีรถรางรับส่ง ค่ารถ 300 เยน/เที่ยว)

2. JR Line
Osaka Loop Line ====>>> ลงสถานี Morinomiya Exit North


4. ชินเซไก (Shinsekai)

ย่านนี้หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยรู้จักหรือชื่อไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไหร่ แต่ถ้าพูดถึง หอคอยสึเทนคาคุ ,สปาเวิลด์ และดอกกี้โฮเต้สาขาใหญ่ ทุกคนอาจจะถึงบางอ้อ!! ใช่แล้วครับ ผมกำลังพูดถึงย่านแห่งโลกแสงสีเสียงยามค่ำคืน โดยเป็นย่านเก่าแก่ที่เคยรุ่งเรืองและเฟื่องฟูมากของโอซาก้าเมื่อกว่าร้อยปีก่อนแหละ ที่นี่จึงรวมความเป็นโอซาก้า ร้านอาหารชื่อดังต่างๆ รวมไว้ที่นี่ รวมไปถึงด้านมืดที่น้อยคนอาจจะไม่ค่อยรับรู้เท่าไหร่ แต่ถึงอย่างนั้นที่นี่ยังรวมที่พักโฮสเทลราคาถูกไว้มากมาย ถ้าคุณไม่ค่อยเห็นฝรั่งในญี่ปุ่นให้มาย่านนี้ สำหรับนักเดินทางสายประหยัด ผมแนะนำทางเลือกอีกหนึ่งทางเลือกไว้ในย่านนี้ครับ

4.1 หอคอยสึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower)

อีกหนึ่งแลนด์มาร์คของโอซาก้า หอคอยนี้มีต้นแบบมาจากหอไอเฟล กรุงปารีส เลยนะนั่น!! ชั้นบนเป็นจุดชมวิวรอบเมืองโอซาก้า และยังเป็นที่ตั้งของศาลเทพเจ้า Billiken ที่มีความเชื่อว่าถ้าลูบเท้าแล้วชีวิตจะมีแต่ความสุขความเจริญ

How to get there

1) Osaka Municipal Subway

Sakaisuji Line ====>>> ลงสถานี Dobutsuen-mae Exit 5
Midosuji Line ====>>> ลงสถานี Dobutsuen-mae Exit 5
ค่าเข้า : (500-700 เยน)


4.2 ดอกกี้โฮเต้

สาขานี้พื้นที่ค่อนข่างใหญ่พอสมควร เปิดปิดยันเช้าเลยทีเดียว ที่นี่มีครบแทบทุกอย่าง กระเป๋า Kanken ,Anello เครื่องสำอางค์ โฟมวิปครีม กันแดด ขนม มีหมด สวรรค์ของนักช้อปแน่นอน ที่สำคัญเดินชิลล์มากกก เพราะคนไม่ค่อยเยอะ

1) Osaka Municipal Subway
Sakaisuji Line ====>>> ลงสถานี Dobutsuen-mae Exit 5
Midosuji Line ====>>> ลงสถานี Dobutsuen-mae Exit 5
ค่าเข้า : ฟรี

4.3 สปาเวิลด์ (Spa World)
สำหรับใครชอบแช่น้ำแร่ ออนเซน แนะนำเลยครับ สปาเวิลด์อันโด่งดังของโอซากะ ที่มีมากกว่า 16 บ่อ จากน้ำแร่ทั่วญี่ปุ่นและเทศ โดยตกแต่งในบรรยากาศแบบยุโรปและเอเชียกว่า 10 ประเทศ ต้องมาลองครับแต่ค่าเข้าก็แพงเอาเรื่อง ใครชอบการผ่อนคลายแบบนี้ คงต้องลอง!!

How to get there

1) Osaka Municipal Subway

Sakaisuji Line ====>>> ลงสถานี Dobutsuen-mae Exit 5
Midosuji Line ====>>> ลงสถานี Dobutsuen-mae Exit 5
ค่าเข้า : (1,300-2,700 เยน)


นอกจากนี้ที่นี่ยังรวมร้านอาหารชื่อดังต่างๆ มากมายที่ดาราญี่ปุ่นต่างแวะเวียน มาลิ้มลองและรอให้คุณมาสัมผัสบรรยากาศ รสชาติของการใช้ชีวิต บวกกับแสงสีเสียงในยามค่ำคืนที่แต่งแต้มความศิวิไลให้คืนตลอดทั้งคืน


5. มินามิ (Minami)

หากพูดถึงย่านหรือเขตนี้ หลายคนก็ยังจะไม่คุ้นชื่อมากแต่ถ้าพูดถึง ชินไซบาชิ (Shinsaibashi) ,อเมริกา-มูระ (America-mura) ,โดทงโบริ (Dotonbori) ,นัมบะ (Numba) ,เดนเดนทาวน์ (Denden Town) ทุกคนก็คงจะร้องอ้อทันที ย่านนี้เป็นย่านที่เต็มไปด้วยความครบครัน ไม่ว่าจะเป็นแหล่งช้อปปิ้งสตรีทแฟชั่นยันไฮเอน ร้านอาหารชื่อดังต่างๆ มีให้เลือกสรร สถานบันเทิงยามค่ำคืน หรือแม้แต่โรงแรมระดับหนึ่งดาวยันห้าดาว ผมพูดไปเต็มปากได้เลยว่าย่านนี้จะทำให้คุณเพลินเพลินความสุขเกินร้อยแน่นอน แต่ระวังกระเป๋าสตางค์ของคุณไว้ด้วยละ เพราะที่นี่มีทุกอย่างล่อตาล่อใจอย่างมาก

5.1 นับบะ (์Numba)

นับบะ เป็นอีกหนึ่งที่ที่เป็นศูนย์รวมด้านคมนาคมขนส่งทางรางเลยก็ว่า ไม่ว่าใครจะมาจากสนามบินด้วยรถไฟ ก็มาสุดสายที่นี่ รวมทั้งรถไฟฟ้าใต้ดินก็สามารถมาเปลี่ยนสายได้ที่นี่เช่นกัน ด้วยจำนวนผู้คนที่วนเวียนเข้าออกพื้นที่จำนวนมาก จึงทำให้ที่นี่ดูครึกครื้นตลอดทั้งวัน อีกทั้งในสถานีรถไฟยังเป็นถนนแห่งการช้อปปิ้ง ด้านบนก็มีถนนให้ช้อบแบบเมามัน ผับ บาร์ต่างๆ มีให้เพรียบ แถมที่ตั้งยังติดกับชินไซบาชิ โอแม่เจ้าเว้ยยย!! ไม่รู้จะพูดอะไมากกกไปกว่า คือต้องมาเดินดูเอง!!


Namba Walk

ช้อปปิ้งกันแบบไม่ต้องกลัวแดด กลัวฝน หรือลมหนาว กันไปเลย กับถนนที่ทอดยาวใต้ดินให้คุณช้อปจนลืมเหนื่อยไปเลย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า หน้าผม กระเป๋า รองเท้า เครื่องสำอางค์ ถูกยันแพง รวมไปถึงร้านอาหาร คาเฟ่ เบอเกอร์รี่ ก็มีไว้ให้ลองท้องเวลาเหนื่อยจากการช้อปไปอีก

How to get there

1) Osaka Municipal Subway

Sennichimae Line ====>>> ลงสถานี Numba
Midosuji Line ====>>> ลงสถานี Numba
Yotsubashi Line ====>>> ลงสถานี Numba
2) Private Lines
Nankai Main Line ====>>> ลงสถานี Numba
Hanshin Numba Line ====>>> ลงสถานี Osaka-Numba

ค่าเข้า : ฟรี


5.2 ชินไซบาชิ (Shinsaibashi)

คงคุ้นหูค้นตาคนไทยเป็นอย่างยิ่ง กับถนนสายนักช้อป ตั้งแต่เสื้อผ้าราคาถูก ยันร้านแบรนด์เนมต่างๆ ขนมนมเนย เครื่องสำอางค์ ร้านขายยา ก็มีมาให้ให้นักช้อปชาวไทยอย่างเราได้ขนกลับบ้าน แถมที่นี่ผู้คนยังหนาแน่นครึกครื้นตลอดทั้งวันทั้งคืน นักช้อปที่ได้มาที่นี่ไม่มีคำว่าเบื่อเลยแน่นอน

How to get there

1) Osaka Municipal Subway

Nagahori Tsurumi Ryokuchi Line ====>>> ลงสถานี Shinsaibashi Exit 5,6
Midosuji Line ====>>> ลงสถานี Shinsaibashi Exit 5,6

ค่าเข้า : ฟรี


5.3 โดทงโบริ (Dotonbori)

ย่านนี้น่าจะดูครึกคักที่สุดในโอซากก้าละ ไม่ว่าจะกลางวันกลางคืนที่นี่ก็จะเต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมาก มายืนเบียดเสียดแชะภาพ เช็คอินกันที่นี่ ก็แน่ละมันเป็นที่ตั้งของป้ายกูลิโกะอันขึ้นชื่อของเมืองเค้านี่ รวมไปถึงร้านปูยักษ์ขยับไปมาที่กลายเป็นแลนด์มาร์คของโดทงโบริไปเป็นที่เรียบร้อย แถมยังมีร้านดองกี้โอเต้ให้ได้ช้อปปิ้งแบบ Tax Free อีก โอยแก!!! จึงไม่แปลกใจเลยที่นี่หนาแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

How to get there

1) Osaka Municipal Subway
Sennichimae Line ====>>> ลงสถานี Numba Exit 14
Midosuji Line ====>>> ลงสถานี Numba Exit 14 หรือ Shinsaibashi Exit 5,6
Yotsubashi Line ====>>> ลงสถานี Numba Exit 14
Nagahori Tsurumi Ryokuchi Line ====>>> ลงสถานี Shinsaibashi Exit 5,6

ค่าเข้า : ฟรี


6. สุมิโยชิ (Sumiyoshi)

ตั้งอยู่นอกเมืองไปทางด้านทิศใต้ เหตุผลที่แนะย่านนี้ และใครที่ไม่เคยนั่งรถรางแนะนำให้มา ที่นี่ยังมีศาลเจ้าที่มี่ชื่อเสียงอีกสถานที่ที่ต้องนะนำ และต้องบอกต่อเลย เพราะน้อยคนนักของนักท่องเที่ยวไทยจะไปกัน แต่บอกได้เลยว่าที่นี่สวยมากครับ

6.1 ศาลเจ้าสุมิโยชิ ไทฉะ (sumiyoshi taisha)

เป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงและสำคัญที่สุกของโอซาก้า และยังเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น มีสถาปัตยกรรมเฉพาะตัว โดยภายในนั้นจะเป็นที่ตั้งของเทพคามิ (เทพเจ้าชินโต) ซึ่งคอยให้ความคุ้มครองแก่นักเดินทาง ชาวประมงและชาวเรือ ดังนั้น เราจึงสามารถที่จะพบศาลเจ้ารูปแบบนี้ได้โดยมากที่บริเวณใกล้ท่าเรือ

How to get there
1) Private Lines
Nankai Main Line ====>>> ลงสถานี Sumiyoshitaisha Exit East
Hankai Tramway Uemachi Line ====>>> ลงสถานี Sumiyoshikoen (12)
Hankai Tramway Hankai Line ====>>> ลงสถานี Sumiyoshi-toriimae

ค่าเข้า : ฟรี


7. นาคาโนชิมา (Nakanoshima)

ย่านนี้เป็นอีกหนึ่งย่านที่สำคัญต่อโอซาก้ารวมไปถึงประเทศญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นย่านที่สำคัญทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนาธรรมของเมือง สิ่งที่จะได้เห็นในย่านนี้ก็คือ อาคารสำนักงานใหญ่ บริษัทแม่ยักษ์ใหญ่ต่างๆ ธนาคาร พิพิธภัณฑ์ ห้องสมุด หอประชุม เป็นต้น


7.1 พิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นเซรามิกแบบตะวันออกโอซาก้า (The Museum of Oriental Ceramics)

ศูนย์รวมงานเซรามิกของประเทศ ที่รวบรวมงานเครื่องปั้นของญี่ปุ่นไว้ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้

How to get there

1) Osaka Municipal Subway
Sakaisuji Line ====>>> ลงสถานี Kitahama Exit 1-A
2) Private Lines
Kaihan Nakanoshima Line ====>>> ลงสถานี Naniwabashi Exit 1
Nagahori Tsurumi Ryokuchi Line ====>>> ลงสถานี Shinsaibashi Exit 5,6

ค่าเข้า : 300-500 เยน


7.2 สวนนาคาโนะชิมา (Nakanoshima Park)

ที่นี่เป็นสวนสาธารณะแห่งแรกของโอซาก้า และมีความสำคัญกับเมืองเป็นอย่างยิ่งนอกจากนั้นที่นี่ยังเป็นสถานที่จักกิจสำคัญต่างๆ และยังเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองโอซาก้าอย่างแท้จริง ที่นี่ต้นไม้ค่อนข้างเยอะ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ผมว่าคงสวยงามมากครับ

How to get there

1) Osaka Municipal Subway
Sakaisuji Line ====>>> ลงสถานี Kitahama Exit 1-A
2) Private Lines
Kaihan Nakanoshima Line ====>>> ลงสถานี Naniwabashi Exit 1
Nagahori Tsurumi Ryokuchi Line ====>>> ลงสถานี Shinsaibashi Exit 5,6

ค่าเข้า : ฟรี


7.3 หอประชุมเมืองโอซาก้า (Osaka City Central Public Hall)

อาคารรูปทรงคลาสสิกที่ดูแปลกตาไปจากความเป็นญี่ปุ่น ทำให้กลายเป็นสถาปัตยกรรมที่น่ามองและชวนหลงไหลได้ไม่ยากนักกับอิฐสิแดงที่ตัดกับต้นไม้สีเขียวที่ล้อมรอบอาคาร ภายด้านในอาคารเป็นห้องประชุม และมาร้านอาหารชิคๆ ให้คุณได้ซึมซับบรรยากาศ

How to get there

1) Osaka Municipal Subway
Sakaisuji Line ====>>> ลงสถานี Kitahama Exit 1-A
2) Private Lines
Kaihan Nakanoshima Line ====>>> ลงสถานี Naniwabashi Exit 1
Nagahori Tsurumi Ryokuchi Line ====>>> ลงสถานี Shinsaibashi Exit 5,6

ค่าเข้า : ฟรี


8. อิซุมิซะโนะ (Izumisano-shi)

เป็นย่านหรือเมือง ที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของโอซาก้า และใกล้กับท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ เหตุผลที่แนะนำย่านนี้ ก็เพราะมีสถานที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น สวนริงคุ หาดมาร์เบิ้ล แต่ที่อยากจะแนะนำและน่าจะถูกจริตนักช้อปทั้งหลายคงจะเป็น "ริงคุ พรีเมี่ยม เอาท์เล็ท" บอกได้เลยต้องกริ้ดสนั่นอ่าวโอซาก้าแน่นอน และที่เอาท์เล็ทแห่งนี้ยังมีอะไรน่าสนใจ เดินทางยังไง ผมได้รวบรวมการเดินทางมาให้ไว้ด้านล่าง ดังนี้

8.1 ริงคู พรีเมี่ยม เอาท์เล็ท (Rinku Premium Outlets)
ตั้งอยู่ที่ชายฝั่งด้านตรงข้ามท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ นักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก ขาช้อปทั้งหลาย บอกได้เลยที่นี่คุณจะเต็มไปด้วยความรู้สึกแบบรีสอร์ทเมื่อมาเยือน แถมที่นี่ยัง Tax Free เพราะเอาท์เล็ทแห่งนี้ มีแบรนด์เนมต่างๆ ในทั้งในและนอก ครบวงจร มากกว่า 200 ร้านค้าชั้นนำ ได้แก่ onitsuka tiger ,CK,Coach,Diesel,D&G,Dunhill,Gap,Hugo Boss,Nike เป็นต้น สามารถดูรายชื่อแบรนด์ต่างๆ ได้ตามลิงค์ http://www.premiumoutlets.co.jp/th/rinku/brands/?tab=1

ที่มา : http://business.simon.com/leasing/rinku

How to get there
1) Private Lines
Nankai Airport Line ====>>> ลงสถานี Rinku-Town Exit 2
Kansai Airport Line ====>>> ลงสถานี Rinku-Town Exit 2

ค่าเข้า : ฟรี


9. ย่านอ่าวโอซาก้า (Osaka Bay Area)

ย่านนี้ไม่มีอะไรมากจริงๆ ยกตัวอย่างเช่น คอสโม ทาวเวอร์ (Cosmo Tower),พิพิธภัณฑ์กีฬาซูโม่ (Mizuno Sportology Gallery),ชิงช้าสวรรค์เทมโปซัง (Tempozan Ferris Wheel),อุทยานสัตว์น้ำไคยูคัง (Osaka Aquarium Kiayukan) เป็นต้น นอกจากที่กล่าวมาแล้วยังไม่จุใจใช่ไหม ที่นี่ยังสวนสนุกขนาดใหญ่ระดับโลก ที่สาวกแห่งโลกภาพยนต์ชื่อดังคงจะชอบแน่นอน แถมยังมีโซนหนังชื่อดังอย่างแฮร์รี่ พอตเอตร์ ใช่แล้วผมกำลังพูดถึง สวนสนุกระดับโลกอย่าง ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์ โอซาก้า ซึ่งรายละเอียดมี ดังนี้

9.1 ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์ (Universal Studios Japan)
สวนสนุกระดับโลกที่จะทำให้คุณตื่นตาตื่นใจไปกับโซนต่างๆ ที่ถูกจัดถึงขึ้นเมืองชื่อดัง รวมไปถึงภาพยนต์สุดฮอดตหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Newyork,San francisco,Hollywood,Jurassic Park,Hello Kitty,Harry Potter เป็นต้น อีกทั้งที่นี่ยังมีเครื่องเล่นมากมายให้คุณได้ตื่นตาตื่นใจ โชว์โอ่อ่าอลังการณ์เอาไปดาวล้านดวง และของที่ระลึก ที่จะทำให้คุณไม่อยากกลับเลย

ที่มา : http://mini-angels.blogspot.com/2015/08/universal-studios-japan-concert.html

How to get there
1) JR Line
Yumesaki Line ====>>> ลงสถานี Universal-City

ค่าเข้า : เริ่มต้น 3,900-11,740 ขึ้นอยู่กับจำนวนวัน


เป็นอย่างไรบ้างสำหรับย่านต่างๆ ที่ได้แนะนำมา หวังว่าจะเกิดประโยชน์แก่ผู้อ่านให้ท่านได้สามารถเที่ยวโอซาก้าได้อย่าง "เซียน" ข้อมูลอาจจะมีตกหล่นบ้าง แต่ผมก็พยายามรีวิวข้อมูลที่จำเป็นต่างๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ที่ต้องการข้อมูลและสนใจเมืองโอซาก้า และหากผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ และหลังจากอ่านหรือเก็บข้อมูลจบจนแล้ว ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณ จะเป็น "เซียนโอซาก้า" เที่ยวได้ด้วยตัวเองอย่างมีความสุข และเพลินเพลินไปตลอดทริปการเดินทางของคุณ สุดท้ายนี้ หากรีวิวนี้เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านหรือสน ไลด์แอนด์แชร์ได้เลยนะครับ ไม่มีกักไม่มีตุน ผมขอให้ทุกท่านที่มีแพลนจะไปโอซก้าได้เที่ยวอย่างครบเครื่องเรื่องโอซาก้า อย่างที่ได้กล่าวข้างต้นและมีความสุขไปกับมันครับ


ติดตามข้อมูลข่าวสารท่องเที่ยวได้ที่

เพจทัศนัยใช้ใจเดิน : https://www.facebook.com/cbellethaionly/
IG : golffyprince4755


รีวิวต่างๆ นอกเหนือจากนี้

HIMEJI JAPAN [ฮิเมจิ..กาลครั้งหนึ่งในหนึ่งวัน]
http://pantip.com/topic/35501337
ปี นั ง...ตั ง ค์ นิ ด...เ ที่ ย ว จ ริ ง ไ ม่ ห ล อ ก
http://pantip.com/topic/35422412
สบายดีหลวงพระบาง (10 things to do in Luang Prabang)
http://pantip.com/topic/35241767
Life Cycle [ท ริ ป สู ด ด ม...ช ม บ า ง ก ะ เ จ ้า]
http://pantip.com/topic/35139760
หมู่เกาะพีพี ทริปเดี่ยวเที่ยวครบ (INSIDE OUT PHI PHI)
http://pantip.com/topic/35116292
สุ ข เ พ ลิ น ว า น ณ "บ้านข้างวัด" เ ชี ย ง ใ ห ม่
http://pantip.com/topic/34567637
ป รุ ง ใ จ ใ ห้ สุ ข แ ล้ ว ไ ป บุ ก..." คี รี ว ง " [งบ 2,000฿]
http://pantip.com/topic/34425815
[ สิงคโปร์ l มาเถอะ..อยากเจอ l 10 สถานที่ WANNA BE ON TOP l งบ 3,700 ฿ ]
http://pantip.com/topic/34234896
ตะลุย กัวลา(ลัมเปอร์) มะละกา ชีวิต 360 องศา ตลกโปกฮา ณ “มาเลเซีย" [งบเบาๆ แค่ 5,200 บาท]
http://pantip.com/topic/34157305
"48 ชั่วโมง เอนกายพักพิง ไหล่อิงธรรมชาติ" ณ บ้านแม่กำปอง แม่ออน เชียงใหม่
http://pantip.com/topic/34128509



" ส วั ส ดี ท วี สุ ข "


ทั ศ นั ย ใ ช้ ใ จ เ ดิ น

 วันพุธที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เวลา 14.57 น.

ความคิดเห็น