กว่าจะมีเวลามาทำรีวิวต่อก็นะ...นานพอสมควร เลยยังคงค้างอยู่ที่การเที่ยวพัทยาเดือนเมษายน 2567 มาต่อกันเลยดีกว่า มื้อเย็นของวันที่ 11 เมษายน 2567 เรายังคงทานอาหารทะเลกันเหมือเดิม รอบนี้ไปทานที่ร้านปูเป็น ซีฟู๊ดแถวหาดจอมเทียน ร้านเปิดทุกวันเวลา 10.00-22.00 น. (ตอนแรกกะว่าจะขับรถไปแถวสะพานยาว นาเกลือ แต่ก็เบื่อกับการหาที่จอดรถริมถนน) ไปถึงร้านตอน 17.00 น. คนยังไม่เยอะ และที่สำคัญคือ ยังอิ่มอาหารกลางวันกันอยู่จ้า เลยเดินกินลมชมวิว หาดนาจอมเทียนไปพลางๆ ก่อน
ร้านหาง่าย เลาะหาดจอมเทียนไปจนเกือบสุด
บรรยากาศในร้านดูโล่งๆ โปร่งๆ เพราะยังไม่ถึงเวลาที่ทัวร์นักท่องเที่ยวมาทานอาหาร ฮ่าๆๆ
เราเดินเล่นกันที่หาดแถวร้านอาหารได้สักพัก พอถึงเวลา 17.30 น. เราก็ตัดสินใจว่าเข้าไปสั่งอาหารทานก่อนดีกว่า เดี๋ยวช่วงใกล้ค่ำคนจะเยอะ (แล้วก็จริงตามคาดการณ์ พอถึงเวลา 18.00 น. รถบัสนักท่องเที่ยวทยอยกันเข้ามาไม่ขาดสาย ทัวร์ลงแล้วจ้า) แต่ก็มีคนไทยมาทานอาหารที่ร้านนี้ด้วยนะ มีสั่งกลับบ้านให้ไรเดอร์มารับก็มี
อยากนั่งโต๊ะไหนเดินเลือกเองได้เลยจ้า หาที่นั่งได้แล้วก็ค่อยเรียกพนักงานให้นำเมนูมาให้ด
เนื่องจากยังคงอิ่มกับอาหารมื้อกลางวันเลยตัดสินใจกันว่าจะสั่งแต่กับข้าวมาทานเล่น จัดเมนูโปรดคุณพี่มาก่อนเลย เนื้อปูผัดผงกะหรี่ จานละ 320 บาท (ไม่ต้องตกใจกับราคาอาหารร้านนี้นะจ๊ะ ราคาสูงอยู่แล้วเพราะเน้นขายนักท่องเที่ยว) แต่...พิจารณาดูเมนูแล้วราคาอาหารก็พอๆ กับร้านอาหารทะเลเจ้าหนึ่งที่อยู่บนห้างในกรุงเทพฯ
รสชาติดีอยู่นะ หวาน มัน เค็ม ครบรส เราชอบตรงที่ร้านนี้ทำออกมาไม่เลี่ยน น้ำมันไม่เยิ้ม ถ้าทานคลุกข้าวสวยร้อนๆ นะ น่าจะฟินอยากบอกใคร
แกงส้มปลาดุกทะเลใส่ยอดมะพร้าว หม้อเล็ก ราคา 200 บาท
ทาน 2 คน กำลังดี ให้เยอะอยู่นะ
เนื้อปลาดุกแน่น รสชาติน้ำแกงปรุงออกมาได้ดี เด็ดดวงมาก รสจัดจ้าน ไม่เผ็ดมาก เปรี้ยว เค็ม หวาน ครบรส เรากับคุณพี่ซดกันหมดหม้อ
หมึกผัดน้ำดำ จานละ 310 บาท (น้อยไปนะ น้อยกว่าร้านอื่นที่เคยไปทาน) แต่วันนั้นคุณพี่ร่ำร้องจะทานให้ได้ พอลองเขี่ยๆ ชิ้นปลาหมึกดู เออ..หั่นชิ้นใหญ่อยู่
ทานแล้วก็ชอบเล่นกันแบบนี้ ยิ้มฟันดำ เพราะหมึกผัดน้ำดำ
เนื้อปลาหมึกสด หวาน เนื้อกำลังดี กรุบๆ ตอนแรกเราไม่ปลื้มกับเมนูนี้ เพราะดูให้มาน้อย แต่รสชาติร้านนี้เขาผัดออกมาได้ว้าวมาก หอมกระเทียมพริกไทยรากผักชี เป็นหมึกผัดกระเทียมพริกไทยแต่น้ำดำ (ร้านอื่นที่เคยทานเขาจะผัดออกรสหวานๆ เค็มๆ เท่านั้น)
มื้อนี้จ่ายไป 887 บาท
ภายในร้านยังแบ่งพื้นที่ออกมาทำเป็นร้านขายขนม ของหวาน ของที่ระลึกอีกด้วย ชื่อว่าร้านปูหวาน
ดูขนมแต่ละอย่างน่าซื้อเป็นของฝาก เพราะทำแพ็คเก็จออกมาสวย น่ารัก
ชายหาดนาจอมเทียนที่ถมทรายใหม่
บรรยากาศต่างจาก 20-30 ปี ที่แล้วมาก ตอนนี้มีแต่คอนโดมิเนียมเต็มไปหมด
ริมหาดมีเล่นว่าวด้วย ชอบน้องปลาหมึกน่ารักมาก (จำได้ว่าตอนเด็กชอบร้องให้แม่ซื้อว่าวให้เล่น แล้วก็วิ่งโต้ลมเอา อย่างสนุก แต่ กทม. มีต้นไม้และสายไฟเยอะ ว่าวขึ้นสูงแป๊ปเดียวก็ขาด เราก็ร้องไห้อย่างเซ็ง ตอนเด็กชอบมากคือว่าวงู หางยาวๆ)
หาดลมแรงจนแสบตา ผมปลิว ที่ทรายมีเศษเปลือกหอยเยอะ เดินเท้าเปล่าแล้วเจ็บ ทรายเนื้อไม่ละเอียดเท่าไร
เอาเมนูอาหารบางส่วนมาฝาก
ความเห็นส่วนตัว
1. ที่จอดรถกว้างขวางดี แต่...พอรถบัสเข้ามาจอดเยอะๆ ที่แคบลงไปทันที แต่ก็มีพนักงานคอยโบกรถและบริการถอยรถจอดให้
2. ราคาอาหารค่อนข้างสูง
3. รสชาติอาหารดี บางอย่างอร่อยเลย (อย่างปลาหมึกน้ำดำคือสด เราทานแล้วไม่แพ้คือโอเค ปกติเราแพ้สารฟอร์มาลีน ถ้าร้านไหนไม่โอเค เราจะเกิดผื่นลมพิษขึ้นคันไปทั้งตัว ทานแล้วท้องไม่เสียด้วย)
4. ช่วงใกล้ค่ำคนจะเยอะมาก เพราะคนจะทยอยกันมาทานอาหารเย็น
5. วันที่เราไปรออาหารไม่นาน เสริฟ์กันมาร้อนๆ เลย
Emmy Journey
วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 14.31 น.