การท่องเที่ยวของผมในครั้งนี้เป็น ทริป 3 วัน 2 คืน ครับ โดยผมได้แพลนกับเพื่อนๆไว้แบบนี้



วันแรก มุดถ้ำหงส์

1.ลงเครื่อง แล้วไปเที่ยวน้ำตกพรหมโลก

2.รับประทานอาหารกลางวัน ซึ่งเน้นเป็นร้านขนมจีนเส้นสด (ขึ้นชื่อของเมืองคอน)

3.เข้าที่พักเปลี่ยนชุดไปถ้ำหงส์

4.ล่องแก่งคลองกลาย

5.แช่น้ำร้อน

พูดไปก็ไม่น่าจะมีใครเชื่อว่าทั้งหมดที่พูดมานั้นสามารถเก็บได้ครบหมดเลย ทำเวลากันได้ดีมากจริงๆ 555+


วันที่สอง ตะลุยกรุงชิง

1.ตื่นเช้าไปดูทะเลหมอกที่จุดชมวิว

2.กลับบ้านพักรับประทานอาหารเช้าแล้วเตรียมตัวเข้าน้ำตกกรุงชิง

3.เดินทางไปที่ ลานสกา เข้าหมู่บ้านคีรีวง

4.เข้าบ้านพักแล้วลงเล่นน้ำหน้าบ้าน


วันที่สาม เก็บคีรีวง

1.เที่ยวในหมู่บ้านคีรีวง ร้านกาแฟ ลำธาร และอื่นๆ ไหนๆก็เช่ารถแล้วก็ไปให้หมด

2.เข้าเมืองไหว้พระ

3.รับประทานอาหารที่ร้านโกปี๊

4.เตรียมตัวกลับ กทม



แพลนคร่าวๆก็มีเท่านี้ครับ เดี๋ยวไปดูกันครับว่าแต่ละที่เป็นยังไงบ้าง พร้อมกันหรือยังครับ ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปเที่ยวด้วยกันเล้ยยยย



สามารถติดการการท่องเที่ยวในแบบฉบับของผมได้ที่ Fanpage : เที่ยวทุกวันจันทร์-อาทิตย์

https://www.facebook.com/TravelEverythingEveryTime

ทริปนี้พูดเลยว่าเป็นทริปกระทันหันจริงๆ เนื่องจากเจอตั๋วเครื่องบินราคาถูกของ Thai Lion Air ครับ
ไปกลับ ดอนเมือง-นครศรีธรรมราช 900 บาท เจอของดีราคาถูกแบบนี้ ไม่ต้องรอแล้ว จอง จอง จอง แล้วก็จองสิครับ ไม่ต้องรอแล้ว ^^
ปล.จองก่อนเดินทางแค่ 1 สัปดาห์ อะไรจะโชคดีขนาดน้านนนน


หลังจากลงเครื่องที่นครศรีธรรมราชแล้วนั้น เราก็ทำตามแผนที่แพลนไว้เลยครับ รีบรับรถที่เช่าไว้ แล้วเดินทางต่อไปที่น้ำตกพรหมโลกเลย แต่หารู้ไม่ว่าฝนตกตั้งแต่เช้าจนเรามาฝนเพิ่งจะหยุดทำให้ไม่สามารถเข้าไปที่ตัวน้ำตกได้เนื่องจากเจ้าหน้าที่เกรงว่าจะเกิดน้ำป่า เพราะฉะนั้นเราต้องปฏิบัติตามนะครับ ห้ามก็คือห้าม ไม่งั้นอาจจะเกิดอันตรายได้ เราก็เลยถ่ายรูปเล่นกันที่ลำธารระหว่างแทนเอาล่ะกันครับ ซึ่งบริเวณนี้ดูรวมๆแล้ว ก็มีเสน่ห์ เอ้ยยย ไม่ใช่ ดูรวมๆแล้วก็สวยเหมือนกัน สามารถลงเล่นน้ำได้ด้วยนะ แต่เราถ่ายรูปเล่นก็พอ


และกิจกรรมต่อไปของเราคือไปลอดถ้ำหงส์ อย่าเรียกว่าลอดเลยต้องเรียกว่ามุดจะดีกว่า 5555 แต่เนื่องจากหิวเนี่ยสิ ก็เลยแวะร้านขนมจีนเส้นสดระหว่างทางซะหน่อยมีหลายร้านให้เลือกเลย



ขนมจีนที่นี่จะขายเป็นชุด โดย 1 ชุดจะประกอบด้วยเส้นขนมจีน (ขายเป็นกิโล) ส่วนน้ำยามีหลายแบบให้เลือกทาน สามารถเติมได้ไม่อั้น ผักก็เช่นกัน เติมได้ตลอดๆแถมสดมากๆอีกด้วยครับ


พอเราอิ่มกันแล้วก็มุ่งหน้าต่อไปที่พักเพื่อเปลี่ยนชุดเพื่อมุดถ้ำหงส์

ที่พักคืนนี้เรานอนกันที่ กรุงชิงโฮมสเตย์แอนด์รีสอร์ท ซึ่งที่นี่เจ้าของดูแลดีมากๆ แนะนำเลยครับ


หลังจากเราเปลี่ยนชุดเพื่อเตรียมตัวไปมุดถ้ำหงส์กันแล้วก็ไปกันเลยครับ

ถ้ำหงส์จะอยู่ที่ตำบลกรุงชิง อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขานัน เป็นถ้ำที่มีลำธารน้ำอยู่ตลอดเส้นทางการเดิน
และมีหินงอกหินย้อยรูปต่างแตกต่างกันออกไปอยู่มากมาย

อีกทั้งยังเป็นที่อาศัยของค้างคาวด้วยครับ


ที่สำคัญในถ้ำนี้มีน้ำตกให้ชมกันด้วยนะ


ซึ่งการเขาชมที่ถ้ำนี่จะต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางทุกครั้ง และต้องพกไฟฉายเข้าไปด้วยเพราะภายในถ้ำจะมืดมากๆ ระยะทางภายในถ้ำก็ประมาณ 300 เมตร ไม่ไกลมาก แต่สวยมากๆทุกจุดเลยครับ

หลังจากออกมาจากถ้ำแล้วเราไปล่องแก่งคลองกลาย กันต่อเล้ยยยย ถามว่าเหนื่อยไหมตอบเลยว่าไม่ เพราะเรื่องเที่ยวเราขยันกันมาก 555+

ล่องแก่งคลองกลาย วันนี้เราจะล่องกันที่ ปากคลองพิตำ-ลานหินดาน ระยะทาง 2.5 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
ซึ่งจะใช้เรือยางขนาดเล็กในการล่องแก่งโดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยพายเรือให้ ตลอดเส้นทางจะมีแก่งน้อยใหญ่สลับๆกันไป และสองข้างทางจะเต็มไปด้วยป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์มากๆเลยครับ


ทริปของเราในวันนี้ยังไม่จบนะครับ เราจะไปแช่ที่บ่อนำร้อนกันต่อก่อนเข้าที่พักเพื่อผ่อนคลายร่างกายจากที่เราตะลอนเที่ยวมาทั้งวัน แต่เสียดายไม่ได้เก็บภาพมาให้ชมกัน

วันที่ 2 เราเริ่มกันด้วยตื่นตั้งแต่ตี 5 เพื่อขึ้นไปดูทะเลหมอกที่จุดชมวิว กรุงชิง แต่เสียดายเช้านี้หมอกไม่มาตามนัด แต่ก็ได้เห็นวิวของที่นี่ก็สวยไปอีกแบบครับ

จากนั้นเราไปตะลุยน้ำตกกรุงชิงกันต่อ เส้นทางวันนี้ถือโหดเลยครับ เนื่องจากเราต้องเดินป่าเข้าน้ำตก ตะลุยดงทาก ระยะทางไปกลับประมาณ 8 กิโลเมตร

ถามว่ากลัวไหม ตอบเลยกลัวมากๆ เราเลยป้องกันกันด้วย พ่นสเปยร์กันยุงกัน ถึง 3 ชั้นกันเลยทีเดียว ชั้นแรกคือที่เท้าก่อนใส่ถุงเท้า ชั้นที่ 2 พ่นที่ถุงเท้า และชั้นที่ 3 คือพ่นที่ขากางเกง

ตลอดเส้นทางของที่นี่จะเป็นป่าที่ร่มรื่นมากๆ อากาศเย็นสบาย มีความสูงชันสลับๆกันไป

แต่ช่วงสุดท้ายเราจะต้องเดินลงไปด้านล้างเพื่อที่จะได้ชมน้ำตกที่ไหลลงมาครับ

และแล้วตลอดเส้นการเดินทางทั้งหมดมา 4 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ตลอดเส้นทางก็จะมีความสูงชันบ้าง สลับๆกันไป


ไหนๆก็เดินมาตั้งไกลขอถ่ายรูปกับน้ำตกซะหน่อยนะ

กิจกรรมของน้ำตกกรุงชิงก็มีเพียงเท่านี้ ส่วนใหญ่จะเน้นเดินป่าศึกษาธรรมชาติเป็นหลัก เพราะฉะนั้นใครที่อยากจะมาที่นี่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมเพราะคุณจะต้องเดินทั้งหมด ไป-กลับ ประมาณ 8 กิโลเมตร และจุดไฮไลท์ของที่นี่ก็คือน้ำตกกรุงชิงที่สวยงามมากๆ
ซึ่งถ้าถามผมว่าเหนื่อยแค่ไหน ขอให้ดูจากภาพนี้เอาล่ะกันครับ ออกมาจากน้ำตกถึงขั้นขอนอนพักร่างแพรบบบ 555+

บ่ายนี้เราต้องเดินทางต่อเพื่อไปนอนที่หมู่บ้านคีรีวง หมู่บ้านที่มีอากาศดีที่สุดในประเทศไทย จะดีแค่ไหนเดี๋ยวเราไปพิสูจน์กันครับ
วันนี้เราเลือกนอนกันที่ "หนำชายคลอง" ห้องพักจะเป็นลักษณะ เป็นกระต๊อบ ครับ เรียบง่าย ติดลำธาร

ที่พักที่นี่มีลำธารไหลผ่านหน้าบ้านด้วยครับสามารถเดินลงไปเล่นน้ำได้
เย็นนี้เราเลยลงเล่นน้ำกันที่หน้าบ้านก่อนเลยครับ แล้วพรุ่งนี้เราค่อยมา เก็บรอบๆหมู่บ้านกัน

น้ำที่นี่ใสสะอาดมากๆเหมาะสมแล้วที่ คีรีวง ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ที่มีอากาศดีที่สุดในประเทศไทย

หลังจากเราเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานแล้วก็อาบน้ำแต่งตัวไปรับประทานอาหารใต้กันต่อ ซึ่งที่นี่เค้ามีบริการครับ สามารถสั่งได้เลย
เมนูวันนี้เราเน้นหนักไปที่อาหารใต้ครับ มาถึงถิ่นแล้วจะพลาดได้อย่างไร

เช้าวันสุดท้ายที่คีรีวง เค้าบอกกันว่ามาที่นี่ต้องปั่นจักรยานเที่ยวรอบๆหมู่บ้าน แต่เราขอเปลี่ยนเป็นขับรถแทนละกันเพราะดูจากร่างกายตัวเองแล้วคงไม่ไหวแน่ๆ

วันนี้เราไปเที่ยวกันที่หนานหินท่าหากันก่อนเลย
ซึ่งที่นี่ก็มีหินเยอะมากๆสมชื่อเลยครับ

ซึ่งที่หนานหินท่าหานี้จะมีสะพาแขวนเล็กๆอยู่ด้วยครับสามารถขึ้นไปชมวิวกันได้

จากนั้นเราก็ไปเที่ยวกันต่อที่น้ำตกวังไม้ปัก แต่ระหว่างทางเจอป้ายนี้เลยแวะถ่ายภาพซะหน่อย

พอถึงที่น้ำตกวังไมปักแล้วเราจะพบว่าน้ำตกที่นี่ใสสะอาดมากๆ อีกทั้งยังมีปลาพลวงอาศัยอยู่เยอะมากๆเล้ยยย

ต่อกันด้วยร้านกาแฟบ้านนายทั่ง ณ คีรีวง

ถายในร้านจะมีมุมให้ถ่ายภาพค่อนข้างเยอะเลยครับ


มาถึงที่นี่แล้วเราจะไม่สั่งมารับประทานกันได้อย่างไร

และก็มาถึงจุดสุดท้าย นั่งคือสะพานคีรีวง ที่ใครมาเที่ยวที่นี่แล้วต้องแวะถ่ายรูปตรงมุมนี้ ไม่งั้นจะเรียกว่ามาไม่ถึงนะครับ

หลังจากนั้นก่อนกลับเข้าเมืองเราขอแวะรับประทานอาหารกลางวันกันที่ ขนมจีนร้านป้าเขียว ครับ

ก่อนที่จะกลับกรุงเทพกันบ่ายนี้เราไปไหว้พระกันที่ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร

และที่นี่มีมังคุดเสียบไม้ด้วย เกิดมาไม่เคยเห็นเลยจริงๆ ซึ่งเค้าเรียกว่ามังคุดคัดครับ รสชาติ ก็เหมือนมังคุดปกตินั่นแหละครับ แต่มันกรอบมากๆ

ต่กันด้วยไหว้ศาลหลักเมือง

แวะชมเมืองเก่าสักนิดก่อนที่จะเข้าสนามบินเพื่อเตรียมตัวกลับ กทม

แต่เอ๊ะ เราเหมือนจะลืมแวะไปอีกที่นึงนะ ร้านโกปี๊ ไง มาแล้วมีเหรอจะพลาด

นี่ก็คือเมนูที่เราสั่งกันมา ต้องบอกเลยครับว่า อาหารที่นี่อร่อยทุกอย่างเลยครับ

และพบกันในรีวิว ฉบับถัดไปนะครับ ซึ่งจะไปเที่ยวที่ไหนกันนั้น ต้องรอติดตามครับ ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ติดตามอ่านกันจนจบนะครับ



สามารถติดการการท่องเที่ยวในแบบฉบับของผมได้ที่ Fanpage : เที่ยวทุกวันจันทร์-อาทิตย์

https://www.facebook.com/TravelEverythingEveryTime

เที่ยวทุกวัน จันทร์-อาทิตย์

 วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 21.05 น.

ความคิดเห็น