สวัสดีค้าาา วันนี้ว่างๆ มารีวิวแก่งกระจานกัน


การเดินทางครั้งนี้ ... จขกท.เดินทางทั้งสิ้น 4 ท่านคะ
เดินทางวันที่ 14-16 ธันวาคม 2558 (ดองจนเค็ม)
ค่าใช้จ่ายในการเดินทางประมาณ 1,500 - 2,000 คะ รวมทุกอย่างแล้ว



วิธีเดินทาง

1. จขกท. เดินทางจากกทม.คะ โดยขึ้นรถตู้ด้านข้างเซ็นจูรี่ ล๊อคแรกบอกคนขายว่าจะเข้าแก่งฯ (เคยอ่านในห้องบลูมีพี่ท่านนึงแนะนำให้ขึ้นที่นั่นคะ เพราะรถตู้จะพาเราเข้าแก่งเลยไม่ต้องต่อรถอีก) ค่ารถ 200 บาท +50 บาทเข้าแก่งฯ

2. จากแก่งกระจาน ขึ้นเขาพะเนินทุ่ง จขกท.เหมารถของเจ้าหน้าที่อุทยานแก่งกระจานขึ้นไปคะ ราคาเหมาอยู่ที่ 1,200 บาท / 4 คน ค้างข้างบน 1 คืน (โชคดีคะวันนั้นได้รถพี่แจ๊คกี้ ซึ่งพี่เค้าเป็นเจ้าหน้าที่อุทยานอยู่แล้ว เจอสัตว์เล็กสัตว์น้อยพี่แกจอดพาแวะชมตลอดคะ)



ค่าที่พัก 2 คืน

1. คืนที่ 14 นอนเต้นท์ หลังละ 500 บาท / 2 คน รวมชุดนอน

2. คืนที่ 15 นอนเต้นท์ หลังละ 800 บาท / 4 คน รวมชุดนอน



ปล. ถ่ายจากกล้องสด ไม่ปรับแต่ง

มาถึงละต้องร้อง ตู๊ววววหู๊ววววว เลยคะ เพราะวิวสวยมากกกกกกกกกกกกกบรรยากาศดีเลิศเลอ

ถึงอุทยานแล้ว ก็ต้องรีบไปเช่าเต้นท์กับเจ้าหน้าที่คะ เพราะ 4โมงเย็นพี่ๆเค้าจะเลิกงานกันแล้ว (ตรงเวลามาก 5555+)

ได้มาก็มานั่งให้กำลังใจป้าๆเค้าคะ




มาที่นี่ มีอะไรให้ทำบ้างมาดูกัน



1. ถ่ายรูปกะนกเงือก



2. สำรวจร้านอาหาร


สำคัญมากฮ่ะ เพราะเรามาแต่ตัวทัวร์ยกแก้งค์
(แอบอิจฉาคนมาแบบครอบครัวนะคะ มีเตาปิ๊กนิ๊กมาด้วยอ่ะ กินหมูกะทะท่ามกลางอากาศเย็นๆแบบนี้)



อาหารที่นี่ ออกหวานหน่อยๆเกือบทุกจานคะ สำหรับราคาก็แพงกว่าข้างนอกไม่มากเท่าไหร่ โดยรวมโอเคคะ


3. ชมวิวกลางน้ำ


ปีนี้แล้งหนักมากคะ ทำให้น้ำบริเวณเขื่อนลดลงอย่างมาก
ดูสิ ลดจนถึงกลางสระเลย



4. ถ่ายรูปชิค-ชิค บนสะพานแขวน



5. นั่งชมพระอาทิตย์ตกแบบสวยเว่อร์วัง



หลังจากชมพระอาทิตย์ตกน้ำป๋อมแป๋มแล้ว ก่อนอาบน้ำ เราก็ไปซื้อเสบียงมาตุนไว้เป็นอาหารค่ำคะ เสร็จก็รีบไปอาบน้ำ
ห้องน้ำสะอาดอยู่ไม่ไกลจากเต้นท์คะ ห้องน้ำรวมแยกชาย-หญิง ชัดเจน น้ำแรงดี ปลอดภัย ไม่น่ากลัว

ในคืนอันมืดมิด ยิ่งมืดมากเท่าไหร่ ยิ่งเห็นดาวชัดเจน .... เราทั้ง 4 ออกมานอนนอกเต้นท์ นอนดูฝนดาวตก
วันนั้น นับได้เกือบ 10 ดวงแหน่ะ .... ☆ ★ ☆ ★ ☆ ★ ☆ ★ ☆ ★ ☆ ★



อรุณสวัสดิ์ด้วยภาพนี้คะ ..... เต้นท์นี้แบบว่า ตื่นก่อน - นอนทีหลัง คุยกันทั้งคืนเบยยยยย


ตื่นสายๆ อาบน้ำ รอรถขึ้นพะเนินทุ่ง
อ้อ ตอนมาถึงเราได้แจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานไว้แล้วคะ ว่าจะขึ้นไปค้างที่เขาพะเนินทุ่ง 1 คืน
หากมีกรุ๊ปส์นักท่องเที่ยวกรุ๊ปส์ไหนขึ้นไปบ้างเราจะขอร่วมจอยด้วยคะ เราทิ้งเบอร์ไว้
แต่ปรากฎว่า ไม่มีใครขึ้นไปเลย



ช่วงเวลาการขึ้นเขาพะเนินทุ่ง

ขึ้นจากบ้านกร่าง


รอบที่ 1

05.30 น. - 07.30 น.

รอบที่ 2

13.00 น. - 15.00 น.

การขึ้นลงพะเนินทุ่งแบ่งออกเป็น 2 ช่วง

โดยการขึ้นพะเนินทุ่งสำหรับผู้ที่ไม่ได้ค้างคืน จะอยู่ที่เวลา 5.30 - 7.30 น.

ส่วนผู้ที่ต้องการค้างคืนนั้นสามารถขึ้นได้ในช่วง 13.00 - 15.00 น.



ช่วงเวลาการลงจากเขาพะเนินทุ่ง


รอบที่ 1

09.00 น. - 10.00 น.

รอบที่ 2

16.00 น. - 17.00 น.



สำหรับ จขกท. นั่งๆนอนๆ ชาร์ตแบตโทรศัพท์รอเพื่อนร่วมทริปส์ อยู่ราวๆบ่ายนิดๆเพื่อร่วมจอยขึ้นเขาพะเนินทุ่ง แต่รอแล้วรอเล่าก็ยังไม่มีใครขึ้นเลยคะ (สงสัยเพราะวันนั้นเป็นวันธรรมดาด้วยคะ นักท่องเที่ยวไม่เยอะ)

สุดท้ายจึงต้องจำใจเช่าไปเอง 1 คัน ราคา 1,200 บาท / 4 คน ค้าง 1 คืน

เมื่อสรุปตกลงกับเดอะแก๊งค์แล้ว ว่าเราจะไม่รอจอยกับคนอื่น เราก็เลยแจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานว่าขอเช่า 1 คัน นอนค้างข้างบน
พี่ๆเจ้าหน้าที่ก็จัดการเอกสารให้เรียบร้อย มีทะเบียนรถที่จะขึ้น รายละเอียดของนักท่องเที่ยว สัมภาระว่ามีอะไรบ้าง แจ้งเต้นท์กี่หลังที่จะเช่าข้างบน
รอไม่เกิน 15 นาที เจ้าของรถที่เราเช่าไว้ก็มารับคะ



ก่อนออกเดินทาง แวะไหว้หลวงปูซักหน่อย


ขณะเดินทาง สารถีของเราก็เงียบๆ ขรึมๆ พวกเรา 4 คนก็เลยชวนคุยนี่นั่น ถามไปถามมาปรากฎว่าพี่เค้าเป็นเจ้าหน้าที่ของอุทยานคะ
มาขับรถให้เนื่องจากเวลานั้นไม่มีรถเอกชนขึ้นไปพะเนินทุ่งซักคันเลย พี่ๆจนท.ข้างล่างเลยโทรเรียกให้แกมารับเหมาแทน
พี่เค้าชื่อแจ๊คกี้คะ น่ารัก แนะนำทุกอย่างเลย แถมพาพวกเราแวะดูดอกบัวผุด กับดูรอยเท้าของสัตว์ป่าข้างบนด้วยคะ

คิดอีกที... ถือว่าเราโชคดีมากๆ ที่ได้พี่แจ็คกี้มาขับรถให้ เพราะนอกจากจะขับมาส่งแล้วนางยังชี้ให้ดูนกดูไม้สายพันธุ์ไหนๆรู้จักหมด เพราะว่านางเป็นวิทยากรเกี่ยวกับนกอยู่แล้วแถมเป็นนักเขียนเกี่ยวกับนกด้วย (ที่สำคัญ สนิทกะพี่สาวพี่ก้อง สหรัฐด้วยค่าาาาาาาาา)
ถ้าสมมุติมากะรถเอกชนรายอื่น ไม่รู้ว่าเค้าจะพาเราทัวร์แล้วก็แนะนำอะไรดีๆแบบนี้มั้ย

ก่อนขึ้นพะเนินทุ่ง เราต้องแวะให้เจ้าหน้าที่แคมป์บ้านกร่างตรวจสอบและเช็คจำนวนคนก่อนนะคะ
วันนั้นที่ไป ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเลยคะ พี่แจ๊คกี้เล่าว่า ช่วงหน้าหนาว อากาศตรงแคมป์บ้านกร่างจะหนาวเย็นกว่าบนเขาพะเนินทุ่งเยอะเลย
เพราะว่าบริเวณนี้เป็นหุบเขา ........... หนาวแค่ไหน ต้องหาโอกาสไปลอง



หลังจากผ่านทางอันทรหดมาได้ซักพัก เราก็มาถึงละคะเขาพะเนินทุ่ง รีบเก็บสัมภาระเพื่อจะไปถ่ายรูปบนจุดชมวิว ที่กม. 30 และ กม. 36
(เต้นท์เราสีน้ำตาลด้านขวาศาลา8เหลี่ยมคะ นี่ถ่ายมาตอนเช้า)

ข้างบนน้ำไม่ไหล ห้องน้ำไม่มีน้ำอุ่น คืนนี้เรา 4 คนจึง ........... ซักแห้งคะ 5555 ก็มันหนาวนี่ 10 กว่าองศา ใครจะอาบบ หลัง 5 โมงเย็นก็ไม่มีไฟแล้วคะ


เก็บของแล้วไปชมวิวกัน จุดนี้คือ กม. ที่ 30 มีหมอกจางๆ บรรยากาศช่วง 4 โมงเย็น


จุดชมวิว กม. 36 ต้องขับรถต่อออกไปอีกนิดนึงคะ วิวสวยมากกกก




หลังจากชมวิวได้ไม่นานก็ต้องรีบกลับคะ เพราะร้านค้าสวัสดิการจะปิดแล้ว คือ ต้องรีบไปสั่งอาหารเย็นไว้อะคะ
เดี๋ยวนานกว่านี้จะไม่มีอะไรทาน ซึ่งขณะที่ทำการกลับรถเพื่อกลับเต้นท์ทันใดนั้นก็มีรถคันนึงสวนทางเรามาแล้วก็หยุดจอด
พร้อมลดกระจกลงและยิ้มหวานนนนนมาให้ 1 ที แล้วก็ขับผ่านไป ทุกคนบนรถต่างอ้าปากค้าง พร้อมเปล่งเสียงออกมาพร้อมๆกันว่า
" พี่ ก้ อ ง !!! " 555555+++ ไม่เว้นแม้แต่พี่แจ๊คกี้นะ นางก็จำพี่สาวพี่ก้องไม่ได้ 5555+ นี่ถ้าเราอยู่ต่อช้ากว่านี้คงได้เซลฟรี้กะพี่ก้องละ
คนอะไรก็ไม่รุ๊ .... ยิ้มหล๊อหล่อ 555+




กลับมาเล่าถึงอาหารที่เราสั่งไว้ดีกว่าคะ .... วันนั้นสั่งไป 4-5 อย่าง รสชาติอร่อยมากพ่อครัวที่นี่ฝีมือดี
พอเราเริ่มลงมือจะทาน พี่ก้องกับครอบครัวก็ขับรถมาถึงพอดีคะ .... ตอนนั้นครัวปิดแล้ว แฟนพี่ก้องก็เลยลงมือทำเองเลย

นี่หน้าตามื้อเย็นของเรา ถ่ายมาไม่หมด ... อากาศข้างบนมืดเร็วมาก ต้องกินกับตะเกียงอะ บางเต้นท์เอาหมูกะทะมาทานข้างบน ฟินน์กันไป


ก่อนทานข้าว เราได้เปลี่ยนเสื้อผ้าล้างบนล้างล่างนิดหน่อย เพราะน้ำไม่ไหลอากาศก็เย็นมากกอยู่แล้ว
ลมนี่พัดตลอด ตกดึกมาต้องขอชุดนอนเพิ่มคะ เพราะทนหนาวไม่ไหว
แต่ช่วงตี 3 ดาวสวยมากกกกกกกกกกกกกคะ ลุกมาเข้าห้องน้ำกับเพื่อนตาสว่างเลย
สวย ใส ดวงโตมากก




เช้าวันถัดมา เราตื่นค่อนข้างเช้า เพื่อที่จะตาล่าทะเลหมอก
แต่พี่แจ๊คกี้บอกไม่ต้องรีบบบบบบบบบบ เพราะน้องหมอกจะมาสายๆ
ประมาณ 8-9 โมงเช้านู๊น ปล่อยให้คนอื่นเค้าดูไปก่อน
โอเค ... งั้นเรารอก็ได้ ... รอไป รอมา ปรากฎว่า
น้องหมอกไม่มาตามนัดเบยยยย



จุดชมวิว กม. 30


จุดชมวิว กม. 36
น้องหมอกฟุ้งงงงงงงงกระจายยย


แต่ยังงัยก็ต้องขอบคุณพี่แจ๊คกี้มากๆนะคะ เพราะถึงแม้ว่า หมอกจะมีหรือไม่มียังงัยพี่ก็ยังอุตส่าห์พาน้องๆมา
ไม่เหมือนกับรถเช่าบางคันที่เราเห็นเค้าคุยกับนักท่องเที่ยวว่า
" วันนี้หมอกไม่มี ไม่ต้องไปหรอกเสียเวลา ... "
คือ ถ้าเราเหมาขึ้นมาแล้ว หมอกจะมีหรือไม่มียังงัยก็ต้องพาเราไปปะคะ รถเหมาที่ดีไม่ควรปฎิเสธผู้โดยสารเน้ออ

ขาลง พี่เค้าพาแวะดูลิงข่าง บ่างชะนี เยอะแยะเลยคะ



พาเรามาแวะมุดดู " ดอกบัวผุดจากดิน " ด้วยคะ
หน้าตาสวยเลย ..... นี่เป็นอาหารของน้องกวางคะ
พิกัดอยู่แถวๆ แคมป์บ้านกร่าง ใกล้ๆบ่อน้ำให้สัตว์ป่าคะ



เรามาถึงแก่งกระจานประมาณสายๆคะ พี่แจ๊คกี้แนะนำให้นั่งเรือชมวิวในเขื่อน
เราก็เลยถามว่า อยากดูแพหนังเรื่อง คิดถึงวิทยา ตอนนี้ยังมีอยู่มั้ย ?
พี่เค้าก็เลยบอกว่า " เค้ารื้อทิ้งหลายปีแล้วคับ " ........... อดเลย
แต่สุดท้ายก็ไปคะ เหมาราคาอยู่ที่ 800 มั่งคะ ลืมแล้วอะ



หลังจากกลับมาจากล่องเรือ ก็มาเก็บภาพกับสะพานอีกหลายช๊อตส่งท้าย



ขากลับ พี่แจ๊คกี้พาเราไปส่งคิวรถตู้หน้าอำเภอคะ .... แต่ถ้าจะขึ้นตรงอุทยานแก่งกระจานก็ได้นะคะ แต่ต้องโทรบอกรถตู้เค้าก่อนคะ
เค้าจะได้แวะเข้ามารับ ละก็จ่ายเพิ่มอีกคนละ 50 บาท



บ๊ายบาย แก่งกระจาน ............. โอกาสดีๆเราคงได้เจอกันใหม่
จบทริปนี้ด้วยความประทับใจล้นหลาม ... มิเสียแรงที่เฝ้าหาโอกาสมา




Whatdayistoday Playplern

 วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 15.08 น.

ความคิดเห็น