เค้าว่ากันว่า “ยิ่งสูง ยิ่งหนาว" แต่สำหรับการท่องเที่ยวนั้นฉันคิดว่า
“ยิ่งเดินทางลำบาก ธรรมชาติยิ่งสมบูรณ์ ความงดงามก็มากเกินคำบรรยาย"
If you never try, you'll never know.
หากคุณไม่ลองทำดู คุณก็ไม่มีวันได้รู้
ทริปนี้เป็นทริป ที่เหมาะสำหรับคนทำงาน เพราะเราใช้เวลาเพียง 2 วัน 3 คืน ศุกร์-อาทิตย์ (ไม่ต้องลางานค่ะ)
ออกศุกร์กลางคืน กลับถึง กทม. ตี 2 ของวันจันทร์
สำหรับ "ดอยม่อนจอง" การเดินทางนั้นจัดอยู่ในประเภท Trekking ใช้เวลาเดินเท้าขึ้นดอยประมาณ 3-4 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน
วันแรก...จุดหมายอีกไม่ไกล
การเดินทางของทริปนี้เราเลือกที่จะเหมารถตู้ไปค่ะ เพื่อความรวดเร็วและสะดวก วันจันทร์ (29/12/57) หลายคนต้องกลับไปทำงาน
จุดนับพบของพวกเราคือ ประตูพหลโยธิน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์บางเขน เวลา 20.00 น. เมื่อทุกอย่างพร้อม ก็ออกเดินทาง รถตู้จอดเติมแก๊สประมาณ 3-4 รอบ ก็เลยได้แวะยืดเส้นสายและเข้าห้องน้ำไปในตัว
รถตู้คันนี้ที่จะพาพวกเราไปตามฝัน ผู้ร่วมทริป 9 คน นะ มีทั้งสาวออฟฟิศ หนุ่มวิศวกร พนักงานราชการ และสาวแบงค์
อายุก็ตั้งแต่เลข 2 กลาง ไปจนถึงเลข 3 ปลาย แต่พวกเรารักในสิ่งเดียวกัน คือ ...รักในการเดินทาง... ค่ะ
วันแรกของเรานอนกันบนรถคันนี้แหละค่ะ ฮ่ะๆๆ
วันที่สอง...หัวใจสะพายเป้
Station 1 ของทริปนี้คือ สถานีวนวัฒนวิจัย บ่อแก้ว กรมป่าไม้ หรือที่รู้จักกันนาม "สวนสนบ่อแก้ว" นั่นเองสถานที่แห่งนี้ไม่เสียค่าเข้าชมนะ ถึงที่นี่ประมาณ 8 โมงกว่าๆ ค่ะ อากาศดีมาก คนก็ยังไม่เยอะ ถ่ายภาพกันได้ชิวๆ เลย
เราใช้เวลาที่นี่ประมาณ 45 นาที ก็ออกเดินทางกันต่อ ชักจะเริ่มหิวกันแล้วหละสิ
Station ที่ 2 ร้าน 7-11 และตลาดสดอมก๋อย
แม่ครัว (เจ๊อี๊ด ผู้ร่วมเดินทาง) ประจำทริปก็จัดเตรียมหาซื้อเสบียงที่จะนำขึ้นดอยกันที่นี่ รวมถึงมื้อเช้าของวันนี้ด้วยนะคะ ราคาก็ปกติทั่วไป
จุดนี้จะมีร้าน 7-11 ร้านค้าราคามาตราฐาน ร้านอิ่มสะดวกของคนไทย หิวเมื่อไหร่ก็แวะมาอยู่ด้วย ขาดเหลืออะไร เซเว่นพึ่งได้จ้า
ร้านกาแฟสดก็มี รสชาดดีใช้ได้
station 3 จุดหมายของเรา "ดอยม่อนจอง"
นั่งรถต่อมาสักพักก็จะถึง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย (หน่วยมูเซอ) ค่ะ
เราต้องจอดรถตู้ไว้ที่นี่ จุดนี้ก็จัดสัมภาระกันอีกรอบ ใครอยากอาบน้ำก่อนขึ้นดอยก็สามารถอาบที่นี่ได้เลย
แต่ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นนะ น้ำนี่เย็นอย่างกะน้ำในช่อง Freez ยึ๋ยยยยย นึกถึงความเย็นของน้ำตอนนั้นก็ สยิวว หวิววๆๆ
จากนั้นก็ต่อรถ 4x4 เข้าไป ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากหน่วยฯ มูเซอ ก็จะถึงปากทางขึ้นดอย
สนุกสิครับงานนี้ ระหว่างทาง มีรถสวนด้วย ฮ่าๆๆๆ
ทางก็จัดว่าทุลักทุเลเลยค่ะ อวัยวะภายในแทบจะมากองรวมกัน แต่ก็สนุกสนานดี ไม่มีใครอ้วกแตกนะค่ะ ฮ่าๆๆ
1 คัน นั่งได้ประมาณ 12 คน กำลังดี เพราะต้องเผื่อที่ไว้สำหรับสัมภาระของเราด้วย
รถจะแวะรับพี่ลูกหาบระหว่างทางที่หมู่บ้านมูเซอ ทริปนี้เราจ้างลูกหาบ 3 คนนะคะ (อึดมาก เดินเร็วมาก)
ส่วนคนนำทางไม่มีค่ะ จนท.ของหน่วย เข้าทำงานในพื้นที่หมด แต่ไม่ต้องกลัวหลงนะคะ พี่ลูกหาบเราก็ชำนาญทางมากเช่นกัน
คณะพี่ลูกหาบของเราค่ะ
และแล้วถึงจุด start ของการ trekking ครั้งนี้แล้ว
จุดนี้จะมีพระพุทธรูปให้เรากราบไหว้เอาฤกษ์เอาชัยก่อนออกเดินทางด้วยนะค่ะ (เค้าไม่ได้ถ่ายรูปมา T_T)
เอ้าลุย!! ไปกันเลยดีกว่า
เดินขึ้นมาสักระยะก็จะเจอกับไม้เท้าที่คณะก่อนๆ วางเอาไว้ให้ ขากลับเราก็เก็บกลับมาวางไว้ให้คณะต่อไปด้วยนะ
ปล.ตอนเริ่มเดินก็หน้าตาชื่นมื่นอยู่ร๊อกก เดี๋ยวดูๆๆ โปรดติดตามตอนต่อไป หึหึหึหึหึ
เดินมาประมาณชั่วโมงนึงก็ต้องพักกันบ้าง
สังเกตหน้า จากชื่นมื่นเป็นเหนื่อยไปแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ
เดินต่อมาสักพักก็จะเจออีกหนึ่งไฮไลต์ของที่นี่ "ภูหินช่อ" เป็นกองหินสูงๆ ขึ้นไปยืนถ่ายภาพได้
อธิบายไม่ถูกดูภาพดีกว่า เน๊าะๆ
ถ้าดูภาพไม่สะใจตามลิงค์ไปดู VDO แบบสามมมมมมมมมมมมมร้อยหกสิบองศากันเลยจ้า
https://www.facebook.com/video.php?v=5908164210530...
เปิดมุมแปลก
ทัศนียภาพระหว่างทางก็ตามนี้เลยจ้า
โอ๊ย!! ภาพบรรยากาศนี้ฟินอ่ะ จขกท.นี่อิจฉาเล้ย
โอ๊ย!! อิจจจจจจ
สีทองตัดกับเขียวเข้ากั๊นเข้ากัน
จุดหมายอีกไม่ไกลอยู่ข้างหน้านู้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
มากัน 9 คน แต่ทำไมถึงรั้งท้ายอยู่สองคนล่ะเนี่ย
"พี่ๆๆ เราไม่ได้เหนื่อยเน๊าะ วิวมันสวยเลยต้องแวะพักเพื่อเก็บภาพประทับใจนานหน่อย 555" น้องไก่กล่าว
เราใช้เวลาเดินประมาณ 4 ชั่วโมง (แต่คนอื่นสาม 555)
และแล้วก็มาถึงจุดกางเต้นท์ของเรา (สีหน้าจากเหนื่อยก็ปรากฎรอยยิ้มขึ้นมาทันที)
จุดกางเต้นท์ของที่นี่อยู่ในหุบเขาต้องเดินลงเนินมานิดหน่อยๆๆๆๆๆ จริงจริ๊งง
แหมะ!! ตอนเดินจากเต๊นท์ขึ้นมาชมวิวทำไมต้องหอบหละ ฮ่ะๆๆๆๆ
พักผ่อนจัดเต้นท์ จัดของ กันสักพักก็รีบเดินขึ้นมาดูพระอาทิตย์ตกดิน
ฟินมากพูดเล้ยย
เพราะโลกมันกว้างคนข้างๆ จึงสำคัญ อร๊ายยยย
พระอาทิตย์จะตกแล้ว
อย่าลืมพกไฟฉายกันมาด้วยนะ เพราะขากลับจะมืดมาก
กลับมาถึงเต้นท์ก็กินข้าวเย็นกัน เป็นอาหารที่ทำง่ายๆ มาม่านั้นเอง และก็มีข้าวเหนียวหมูกะผัดหมี่จากตอนเช้าด้วย
ต้องขอบคุณเจ๊อี๊ดกะน้องแนน ที่เสียสละไม่ขึ้นไปดูพระอาทิตย์ตกดินแต่อยู่ทำกับข้าวให้พวกเรา
อ้อๆๆ เตรียมเสบียงไว้สำหรับพี่ลูกหาบด้วยนะคะ ตลอดทุกมื้อที่พี่เค้าอยู่กับเรา
เค้าช่วยเรากางเต้นท์ และก็ก่อกองไฟต้มน้ำให้ด้วยนะ
ถึงเวลานอนและ เช้าวันใหม่ไปพิชิตยอดดอยม่อนจองกัน
วันที่สาม...Mission Complete
เฮ้ยยยย!!! 5.30 น. แล้ว ตื่นๆๆๆๆ เด๋วไม่ทันดูพระอาทิตย์ขึ้น
ระยะทางจากที่พักถึงยอดหัวสิงห์ใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมง
อุณหภูมิเช้านี้ประมาณ 20 องศา ไม่หนาวมาก แต่เจอลมพัดก็มีสะท้านกันบ้างล่ะ
ไฟฉายเป็นสิ่งสำคัญนะค่ะ พร้อมแล้วไปกันเลย
หมอกหนาจัดเราก็เลยไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ แต่บรรยากาศที่อยู่ท่ามกลางหมอกจัดๆ นี่ก็ฟินไปอีกแบบ
นึกว่าอยู่ดินแดนลอยฟ้า ทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่เกิน 5 เมตร
มีกุหลาบพันปีด้วยนะคะ ที่นี่
ใช้เวลาบนยอดดอย รวมไปกันประมาณ 3 ชั่วโมง
จากนั้นก็ค่อยๆ เก็บของและกินอาหารเช้ากัน
ถึงเวลาเดินทางกลับกันแล้ว อย่าลืมนะเดินขึ้นแล้วก็ต้องเดินลง
พอเห็นทางลงก็คิดดังๆ ว่า "กูขึ้นมาได้ไงเนี่ย" เฮ้ย!! เจ๋งหวะ เก่งเหมือนกันพวกเรา
วิวขากลับค่ะ หมอกลงตลอดเวลา
ตลอดทางเดินได้พบกับทุ่งหญ้า ทุ่งเฟิร์น และไม้ใหญ่ สลับกันไปกัน
นึกว่าอยู่ในยุคจุลลาสสิค
ขากลับเราใช้เวลาแค่ประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆ ค่ะ ถึงประมาณเที่ยงกว่าๆ
นี่รองเท้ากลายเป็นสีเดียวกันเลย
ต้องนัดรถกับคนขับโฟล์วิลล์ดีๆ นะ เพราะคณะเราโดนพี่มูเซอเบี้ยวค่ะ รอตั้งนาน สรุปต้องให้คันอื่นออกไปส่ง
กลับมาถึงหน่วยมูเซอก็ล้างหน้าล้างตา อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อไปกันไป
เสร็จแล้วก็ออกไปทานมื้อบ่ายันที่แถวตัวเมืองอมก๋อย
แล้วก็ยาวไปสถานที่เที่ยวสุดท้ายของทริปนี้ "ออบหลวง" นั่นเอง
แต่เราไม่ได้เข้าไปในส่วนของอุทยานนะ
จุดนี้เป็นส่วนของรีสอร์ทล้าง Private สุดๆ สังเกตทางซ้ายมือนะ ก่อนถึงทางเข้าอุทยานประมาณ 500 เมตร
จบทริปนี้แล้วจ้าาาา
สรุปการเดินทาง "ดอนม่อนจอง"
ทริป trekking 2 วัน 2 คืน ออกศุกร์เย็น กลับถึง กทม. ตี 2 ของวันจันทร์ โปรแกรมแบบนี้เหมาะสำหรับคนทำงานค่ะ
ความยากในการเดิน : ระดับ 3 เต็ม 10 เดินขึ้นเขาลงเขาประมาณ 3 ลูกใหญ่
ช่วงที่เหมาะสม : ธ.ค.-ม.ค.
การเดินทาง : ทริปนี้เหมารถตู้กันไปค่ะ ไปกัน 9 คน เป็นรถติด gas เส้นทางที่ใช้ ลี้ ดอยเต่า อมก๋อย
วันแรก : สวนสนบ่อแก้ว ตลาดอมก๋อย ดอยม่อนจอง
วันที่สอง : ดอยม่อนจอง ออบหลวง กทม.
ค่าใช้จ่าย : เฉลี่ยคนละ 2,050 บาท รวมทุกอย่างตลอดทริป
รถตู้ 2,200 บาท (3 วัน)
ลูกหาบ 300 บาท : วัน : คน (ใช้ 3 คน 2 วัน) ทริปเพิ่มคนละ 100 บาท
โฟล์วิล 3,000 บาท (ไป-กลับ)
อาหาร เชื้อเพลิง และอื่นๆ 6,750 บาท
คำแนะนำ
การแต่งกาย : เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว รองเท้าผ้าใบ หมวก
สิ่งที่ต้องเตรียม : ของใช้ส่วนตัว อุปกรณ์กันหนาว เต้นท์ ถุงนอน และที่สำคัญไฟฉายค่ะ
ห้องน้ำ : มีอยู่ห้องเดียวค่ะ (ไม่พูดถึงดีกว่า) ^_^
การเตรียมตัว : นัดพรรคพวกให้พร้อม ตกลงวันกัน ได้วันแล้วก็โทรไปจองวันขึ้นกับทางหน่วยฯ มูเซอ
โทร. 085 708 7441 (คุณสมบัติ) แจ้งจำนวนรถโฟล์วิล และลูกหาบที่ต้องการให้พร้อมเลยนะ
ข้อร้อง
ไปเที่ยวแล้วอย่าลืมเก็บขยะกันมาด้วยนะคะ
เห็นดอกไม้ที่สวยงามก็อย่าไปเด็ดมัน เก็บไว้ให้คนอื่นได้ดูบ้าง
รักษาความงามของมันไว้บนต้นนะค่ะ
เวลาไปเที่ยวที่ไหนก็ฝากไว้แค่รอยเท้ากับรอยยิ้มนะ และก็นำกลับมาแต่ความประทับใจ
ปล่อยให้ธรรมชาติสร้างสมดุลในแบบที่ควรจะเป็นต่อไป
Facebook Page : Travel Together / คนเดินทาง
Click Here >> http://on.fb.me/1RhXIGk
IG : YaiiFai
https://instagram.com/yaiifai/
ขอบคุณค่ะ
7 กุมภา
วันเสาร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 14.58 น.