ถ้าหากนึกถึงราชบุรี จะนึกถึงอะไร อย่างแรกเลย โอ่งราชบุรี , เที่ยวสวนผึ้ง , โรงงานตุ๊กตา , ตลาดน้ำดำเนินสะดวก
แต่หากจะพูดถึงแหล่งอาร์ตๆ ชุมชมคนอาร์ต คงจะไม่ค่อยคุ้นกันสักเท่าไหร่ ตัวเมืองราชบุรียังมีอะไรดีดีอีกเยอะ
ที่ทุกคนไม่ควรพลาด เพราะฉะนั้น ที่นี่จึงเป็นหนึ่งใน " 12 เมืองต้องห้ามพลาด" ศิลปะมีผสมผสานอยู่ทั่วทุกหนแห่ง
เดินทางเพียงแค่ 2 ชั่วโมง จากเมืองกรุง ก็ได้เสพงานศิลป์แบบชิคๆ ที่พักแบบอาร์ตๆกันแล้ว...ไปเลยค่ะ จะรออะไร
ฝากติดตามเพจน้อยๆน่ารักของลาเต้ปั่นเย็นๆด้วยนะค้าาา
https://www.facebook.com/lattepunyenyen/
เป็นโรงงานผลิตเซรามิคแห่งแรก หรือโอ่งมังกรราชบุรี ที่เรารู้จักกันดี
โดดเด่นไปด้วยเซรามิค สีสันสดใส ควรค่าแก่การมาแอคชั่นเริ่ดๆไว้อวดเพื่อนๆในโซเชียลสุดๆ
ภายในมีร้านกาแฟ และโรงงานทำเซรามิค ที่ให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปดูกระบวนการในการผลิตได้ด้วย
เดินเล่นถ่ายภาพอยู่ที่นี่ นานพอสมควร ได้เวลาทานข้าวเที่ยง
วันนี้เราเลือก " ร้านก๋วยเตี๋ยวไข่ คุณแหม่ม " อยู่ติดกับโรงพยาบาลพร้อมแพทย์ค่ะ
เมนูที่ต้องทานเลยคือ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำใส่ไข่ต้ม แบบยางมะตูม ไม่ต้องปรุงเลยค่ะ อร่อยจี๊ดใจ
ชอบเส้นอะไรก็เลือกได้เลยตามใจชอบ
หมูสะเต๊ะก็มีนะคะ ชุดเล็กในราคา 50 บาท
ตบท้ายด้วยขนมไทยของโปรดเราเลย ขนมใส่ไส้ ฟินลื้มมมมม
อิ่มแล้ว เดินทางต่อไปยัง " หอศิลป์ร่วมสมัย Tao Hong Tai d Kunst "
โดยเป็นหอศิลป์ร่วมสมัยแห่งแรกของจังหวัดราชบุรี เป็นอาคารไม้ทรงโบราณทรงมะนิลา 3 ชั้น
อยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติราชบุรี เป็นจุดเริ่มของศิลปะแถบนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ
ในส่วนของหอศิลป์นี้ไม่เสียค่าเข้าชมนะคะ ด้านในยังมีร้านกาแฟให้นั่งเสพงานศิลป์กันอีกด้วย
เดินลัดเลาะไปตามถนน ผ่านหน้าพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติราชบุรี วิถีชุมชนของที่นี่ยังไม่จางหายค่ะ
โดยเฉพาะสามล้อถีบ ช่วงเย็นๆ น่ามานั่งสามล้อชมวิวทิวทัศน์อย่างยิ่ง
จุดหมายต่อไป ไปอะไรเย็นๆดื่มให้ชื่นใจ คลายร้อน " อาตี๋โกปี๊ "
มีทั้งขนมหวาน ขนมปัง ติ่มซำ ข้าว เครื่องดื่ม มีครบในที่เดียวค่ะ
ติ่มซำเสิร์ฟมาแบบร้อนๆ ส่วนพวกกาแฟ โอเลี้ยง ชาต่างๆ รสชาติหอมดีค่ะ เข้มข้น
หลังจากเหน็ดเหนื่อยแล้ว เข้าที่พักกันดีกว่าค่ะ...ที่กล่าวไปแล้วข้างต้น ที่นี่คือที่พักหลักร้อยที่ชิคมากกก
ควรค่าแก่การมายืนนิ่งๆ ถ่ายรูปเก๋ๆ ศิลปะอาร์ตๆ ชิคๆ มีอยู่ทุกมุม สำหรับที่ " Space 59 " ที่พักของเราในวันนี้
ที่ Space 59 ก็ไม่ได้ออกแนวโรงแรมจ๋าเลยซะทีเดียว คล้ายๆกับ Service Apartment ที่มีให้เช่ารายเดือนด้วย
ในส่วนของ Lobby เล็กๆกระทัดรัด มีโต๊ะมากมายให้นั่งพักผ่อน อ่านหนังสือ
และในส่วนตรงนี้ยังเป็นที่ทานอาหารเช้าด้วยนะคะ...แค่ Lobby ก็อาร์ตขนาดนี้
บริเวณภายนอกยังมีโต๊ะให้นั่งเสวนาพาเพลินกันอีกด้วย...ตกแต่งได้ ดิบ เท่ ไปเลย
บางอย่างที่เราไม่คิดว่าจะเอามาเป็นพร็อพเท่ๆได้ เช่น ขอนไม้เก่าๆ นำมาใส่ล้อเลื่อน
เฮ๊ยย อยากมีแบบนี้ที่บ้านอ่ะ ฮ่าๆๆ
เดินเลาะๆไปด้านข้าง ไปเจอ Code ติดอยู่มันคืออะไร ??
ไปสืบทราบมาว่าเป็นพื้นที่ศิลปะชุมชน L.A.S. = Local Art Space
ซึ่งหนึ่งในนั้นมีที่ Space 59 ด้วย เป็นมุมชิคๆ เก๋ๆ ถ่ายภาพเท่ดีแฮะ
เดี๋ยวเราขึ้นไปห้องพักกันดีกว่า ส่วนตัวแล้วเราชอบการตกแต่งแบบนี้มาก
ตรงๆ ทื่อๆ เหลี่ยมๆ แบบ Industrial loft มาพักที่นี่ ได้แรงบันดาลใจไปตกแต่งบ้านอีกเป็นกองเลย
จะไม่ให้บอกว่าชิคทุกมุมได้ยังไงละ...ทางเดินระหว่างชั้นต่างๆ มีการตกแต่งแบบคูลๆไว้ให้เราตื่นตาตื่นใจตลอด
เดินขึ้นบันไดไปจนถึงชั้น 6 มีสิ่งทำให้หยุดได้ถ่ายรูปกันทุกมุม...ที่นี่มีลิฟท์นะคะ แต่เชื่อเถอะว่า ถ้าทุกคนได้มาแบบเรา
จะไม่อยากขึ้นลิฟท์ อยากจะเดินหามุมอาร์ตถ่ายรูปแน่นอน
เลขสีแดงตัวใหญ่ๆ เป็นเลขบอกชั้นค่ะ...ไม่ต้องกลัวจะหลงนะ เลขตัวใหญ่มากก
อยากจะยกทุกอย่างไปไว้บ้านจริงๆ...โคมไฟแต่ละชั้นนี่ไม่เหมือนกันเลย ชอบมากค่ะ
แต่ละชั้นก็จะมีมุมพระเอกเป็นของตนเอง
ชั้นนี้เป็นชั้นที่เราชอบเป็นพิเศษ ถ่ายรูปไปก็ทึ่งไป เอ้อ มันแปลกตาดีอ่ะ Interior เค้าออกแบบได้เก๋ดีแท้
ชั้นนี้จะเป็นชั้นของห้อง Type Duplex ซึ่งเป็นห้องแบบ 2 ชั้นค่ะ
เล่นเอาหอบแฮ่กกันเลยทีเดียว เดี๋ยวเราจะไปสำรวจห้องพักกันบ้างหละ
ที่นี่มีห้องพักทั้งหมด 3 ประเภทนะคะ
1. Superior
2.Duplex
3.Suit
โดยประเภทแรกคือ Superior เป็นห้องเริ่มต้น ราคาเพียง 700 บาทไทย !!!! แม่เจ้า คือมันดีงามค่า
ไปดูกันเลยดีกว่า ว่าจะชิคเหมือนข้างนอกที่เราเห็นกันรึเปล่า
เตียงนอนนุ่มสบายมากกกกกกกกกกกกกค่ะ ฝั่งนี้ชิวตรงมีรถไฟผ่านเก๋ๆด้วยนะ อิอิ
ประเภทที่ 2 คือ Duplex เป็นแบบ 2 ชั้นค่ะ ราคาอยู่ที่ 1,300 บาท แต่ก็ถือว่าไม่แพงอยู่ดี
( ขออนุญาติภาพจากทางโรงแรมนะคะ)
แบบสุดท้ายเป็นห้องแบบ Suit ค่ะ เป็น Signature ของที่นี่เลย เหมาะสำหรับคู่รักมาสวีท
จะมาเป็นครอบครัว หรือแกงค์เพื่อนๆก็ได้ พักได้ถึง 4 ท่านกันเลย สิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมค่ะ
ห้องนี้ขอบอกว่าสวยมากกกกก กับราคาเพียง 3,000 คุ้มมั๊ยคะ ดูเอาเองโลด
(ขออนุญาตภาพจากทางโรงแรมค่ะ)
ส่วนอาหารเช้าที่นี่จะขายแยกนะคะ เป็นเซต โดยสถานที่ทานข้าวชิคๆ ก็ตรงโซนของ Lobby ด้านหน้าเลยค่ะ
กว้างสบาย โปร่งดี...แถมมีพี่หมีจาก Teddy House มายืนต้อนรับด้วย น่ารักจัง
เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับทริปอาร์ตๆที่ราชบุรี เสาร์ อาทิตย์ ใครที่ไม่รู้จะไปไหน เบื่อภูเขา เบื่อทะเล
ลองขับรถวาร์ปมาราชบุรีได้ ใกล้ๆเพียงแค่ 2 ชั่วโมง ใช้ชีวิตชิคๆ สตรีทๆ เสพงานศิลป์กันสักคืนจะเป็นไรไป
ได้ประสบการณ์แปลกใหม่ดีเหมือนกัน....สำหรับทริปนี้ลาแล้วนะคะะะ เจอกันใหม่กับลาเต้ปั่นเย็นๆจ้าาา
https://www.facebook.com/lattepunyenyen/
ลาเต้ปั่นเย็นๆ
วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 21.38 น.