ก็ไม่มีอะไรมาก แค่อยากมาอวดรูปทริปของพวกเรา ด้วย งบเบาๆ แต่ ภาพปัง ๆ เดี๋ยวงานนี้ จะมาเล่าให้ฟัง ตั้งแต่ สนามบินดอนเมือง ยัน กลับเลยละกันนะ หลายๆ คนชอบบอกว่า ไต้หวัน มีอะไร ไปทำไม คะมะบอกเลย 9 วัน 8 คืน ยังรู้สึกน้อยไปกลับประเทศนี้ คะมะคิดว่ายังมีอะไร ให้น่าค้นหาน่าไปเที่ยว น่าไปกิน น่าไป check in น่าไปถ่ายรูป อีกมากมาย

ตารางการเดินทางของพวกเรา 9 วัน 8 คืน แน่นทุกวัน มันทุกที่

Day 1: Bangkok (Don Mueang International Airport) - Taipei (Taoyuan international Airport)

Day 2: Taipei Main station - HSR Taichung – Nantou

Day 3: Swiss Garden – Spring Ground Resort

Day 4: He Huan Shan – Cingjing Farm – Around Nantou

Day 5: Sun Moon Lake – Xuanzang – Monster Village – Rainbow Village - Taipai - Ximending

Day 6: Taipai - Ximending - Chiang Kai-shek Memorial Hall – Taipai 101

Day 7: Jiufen Old street – Raohe Street Night Market

Day 8: Sun Yat Sen Memorial Hall - Chuan Tang Hot Spring – Sogo Shoping Mall

Day 9: Bye Bye Ximending- Taipei - Taiwan (Taoyuan international Airport) - Bangkok (Don Mueang International Airport)

ค่าเสียหายในทริปนี้ สรุปรวมแล้วประมาณ ....... เท่าไรนั้น ติดตามจนจบ จะรู้ครับ ว่ามันคุ้มค่ามากกก 555555

สามารถไปดูรูปเพิ่มเติมและทริปอื่นๆได้ใน

แฟนเพจ: นักจ้องเที่ยว(เพราะทุกวันคือRunWay)

Facebook : https://web.facebook.com/AreYouCrazyThailand/

Hashtag : #นักจ้องเที่ยว #เพราะทุกวันคือRunway #KamaKung

ทริปนี้เราไปกัน 4 คน มาๆ ลุยๆ

ปล. รีวิวนี้ เหมาะกับคนชอบเที่ยว ด้วยงบเบาๆ แต่ ภาพปังๆ แล้วมาดูกันว่าทริปผมมันขนาดไหน
Day 1: Bangkok (Don Mueang International Airport) - Taipei (Taoyuan international Airport)

ไปครับ ได้เวลาเดินทางแล้ว พวกเราเดินทางโดยสารการบิน

Tiger Air Flights: IT 506 Depart to BKK 8.00 PM and Arrive to TPE 12.30 AM

ป๊าดดด ถึงไต้หวัน ตี 1 เลยหรออออDay 1: Bangkok (Don Mueang International Airport) - Taipei (Taoyuan international Airport)

ขึ้นเครื่องแล้ว หาอะไรลองท้องหน่อย มีเมนูเยอะ พอสมควร

Day 1: Bangkok (Don Mueang International Airport) - Taipei (Taoyuan international Airport)

ถึงแล้วววว สนามบิน Taoyuan international Airport ทริป นี้เรามากัน 4 คน (รวมช่างภาพ)ตอนนี้ก็ เกือบ ตี 1 แล้ว ง่วงแล้วสิ

Day 1: Bangkok (Don Mueang International Airport) - Taipei (Taoyuan international Airport) ไหนๆ ก็ไหน Where Where is Where Where นอนสนามบินละกัน ประหยัด เดี่ยวก็เช้าแล้ว 555

ตามคอนเซป กินอยู่อย่างไพร่ แต่ถ่ายแบบปังๆ ขอนอนพักแป๊บ เดี๋ยวเช้าเราจะมุ่งหน้าไปเมือง Taichung เป้าหมาย ของเราคือ He Huan Shan – Cingjing Farm ไปรับลมหนาวแรกของปีนี้ เราอยากไปสัมผัส ดินแดนที่ได้ชื่อว่า " สวิตเซอร์แลนด์แดนไต้หวัน" ฝันดีทุกคนนน ......

Day 2: HSR Taoyuan - HSR Taichung – Nantou

เราเดินทางกันแต่เช้า เดินลงมาด้านล่างจะเป็น จุดขายตั๋ว ถ้าจำไม่ผิด คือเรา นั่งรถบัส U-Bus ราคา 30 NT ใช้เวลา 20 นาที ไปลงที่สถานี THSR Taoyuan. เพื่อทำการต่อรถ HSR ไป THSR Taichung ครับ ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 53 นาที (132.4 กม.) สำรวจเส้นทางด้วยรถจากไทเป ไป หนานโถ โหห โครตไกล แต่ ใช้ HSR ประหยัดเวลาไปได้เยอะ

ไปครับได้ตั๋วละ Go Go

Day 2: HSR Taoyuan - HSR Taichung – Nantou

ผ่านไป ชั่วโมงกว่าๆ เราก็ ถึง สถานี Taichung เราเอากระเป๋าลากฝากไว้ที่ นี้ เพื่อสะดวกในการขึ้นรถบัส ไปฟาร์มแกะ เพราะมันหน้าจะไม่มีที่วางกระเป๋า แนะนำให้ฝากไว้ แต่บอกเลยว่าค่าฝากตกวัน ละ 300-400 เลย แพงมากกก

พอถึงเราก็ลงมาด้านล่าง จะมีจุดขายตั๋ว เพื่อไปยัง Cingjing Farm ครับ แต่แนะนำว่า ต้องเช็คตารางเวลาด้วยนะครับ เราเลือกไปรอบ 8.45 วิ่งยาวตรง ผ่านที่พักที่เราพักเลย และพวกเราซื้อตั๋วแค่ขาไป ไม่เอากลับ นะครับ เพราะเราคิดว่าขากลับ เราจะเหมารถเที่ยว

ค่ารถขาไปเที่ยวเดียว ประมาณ 260 บาทต่อคน ไปครับรถมาแล้ว ขึ้นรถกัน

รถมาตรงเวลมากๆนะครับ ค่อยฟังดี เขาจะมาเรียก และเราก็นั่งรถมาได้สักพัก วิว นี้ แจ่มมากกกก เอาวิวมาฝาก ......

ปล. กระทู้อวดรูป สาระน้อย ใครไม่อ่านก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ ไม่เข้าใจว่าทำไม ต้อง .....ด้วย ผิดไหม มาโพส ว่าไปเที่ยวมา จะต้องมีสาระอะไรกันมากมาย กับการไปเที่ยวอะ ว่าไหม!!!



มาต่อนะครับ หลังจากที่เรา นั่งรถผ่านแล้ว ประมาณชั่วโมง นิดๆ สุดท้ายก็เลยครับพี่น้อง ที่พักของเราคือ Spring Ground Resort ที่พักเราติดกับโรงแรมที่เป็นปราสาท มีหอนาฬิกาใหญ่ๆ สั่งเกตุ ไว้ นะครับ จริงๆแล้ว ตรงที่เราพัก มีป้ายรถเมย์ แต่สุดท้าย ผมก็นั่งเลยจนได้เพราะลังเล เราเลยไปถึงจุด พักรถ เราก็เลยลงรถตรงนี้

ตรงจุดนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวถ่ายรูปได้เช่นกัน นั้นคือ Swiss Garden มี 7-11 ทุกอย่างเราก็ลง แล้ว พวกเราก็เหมา taxi มาที่พักประมาณ 200 NT มั่ง เลยต้องเสียค่าความลังเลไปอีกกกก

เราเข้าที่พัก พักผ่อน ก่อนนะครับ แล้ว ที่พักเรา เป็นห้องพักแบบ เตียงใหญ่ 2 เตียง 4 คน คือละ 4,XXX เรานอนสามคืน ก็ จัดไป 12,150 ได้ หาร 4 คนก็พอรับได้ ห้องพักโอเค มีอาหารเช้า เตียงปรับอุณหภูมิ ได้ แจ่มเลย เพราะมันหนาวมากกกก มาๆดูห้องกัน

บรรยากาศรอบๆ ที่พัก เก็บภาพรอบๆ ที่พักมาฝาก

Day 3: Swiss Garden – Spring Ground Resort

เราสามารถ ถ่ายรูปเห็น หอฬิกาแบบนี้ได้ จากที่พักของเรา

ตัวอย่าง 5555

Day 3: Swiss Garden – Spring Ground Resort

วันนี้เราตั้งใจ เก็บบรรยกาศ รอบๆ ที่พัก และ เดือนถ่ายรูป ตามจุด ต่างๆ ที่เราเดินไปถ่ายรูปได้ จะบอกว่า จุดดีที่พักที่นี้คือ มุมถ่ายรูป แต่ถ่ายวิว ของที่พัก ที่เป็นปราสาท ข้างๆ เขาบอกว่า ที่พักค้างๆ นี้คือละ เป็นหมื่นเลย

ข้อดี ของ Spring Ground Resort ที่เราพักคือ

- ราคาพอรับได้

- ได้รูปมุม ปราสาท มีความเป็นยุโรป

- ได้มุม เป็นมุมสูง ของขั้นบันได มีความเป็นระเบียง บนภูเขา

- เจ้าหน้าที่ ภาษาอังกฤษดี บริการดี พาเราไปฟาร์มแกะ ด้วย และ ช่วยเราหา Taxi พาเที่ยว แนะนำ สถานที่เที่ยว

ข้อเสีย ละ มีไหม

- ไกล 7-11 และ ร้านสะดวกซื้อ แต่ถ้าว่ามีไหม มีคับ เดินไปประมาณ 900 เมตร เกือบกิโล ได้แต่ ก็นะ อากาศดี ไม่ร้อน ก็เดินพอไหวอยู่

- ใครได้ที่พัก ไกล ก็เดินเหนื่อย เพราะไม่มีลิฟ เดินเหนื่อยหน่อย แต่ได้วิวสวย

Day 3: Swiss Garden – Spring Ground Resort

บรรยากาศรอบๆ ที่พักของเรา เราสามารถ ได้รูปแบบนี้ ได้ จาก โรงแรมของเรา

ทางนี้ ก็ได้อีกมุม

หรือจะเป็นมุม โรงแรมข้างๆ


ใบไม้ร่วง ก็มี

Day 3: Swiss Garden – Spring Ground Resort

พอละ ที่พัก ไปถ่ายข้างนอกกันบ้าง เราก็มาเก็บบรรยากาศ ของ Swiss Garden เราไม่ได้เข้าไปด้านในนะครับ เพราะเสียตัง 555 ถ่ายข้างนอกก็ได้ สวยเหมือนกัน มาดูบรรยากาศด้านนอก นี้แค่จุดพักรถ นะเนี้ยย

เวลาขณะนี้ เที่ยง แต่หมอกยังเต็มมากกกกก (ช่างภาพบ่น ถ่ายรูปยากมาก มีแต่หมอก)

อย่างที่บอกครับ จุดนี้ มีหลายๆอย่าง ร้านของทานเล่น กาแฟ ขนมหวาน ร้านน่ารักๆ มาๆ ถ่ายรูปกัน

เห็นแมวดำไหม

ตามคอนเซป อีกสักภาพ เพราะทุกวัน คือ Runway

มาอวดรูปเพียงเท่านี้ กลัวคนมากัด ว่ากระทู้ หาสาระไม่ได้ แต่ก็บอกเลยครับ ไม่มีสาระจริงๆ เป็นกระทู้อวด รูปครับ ใครชอบก็ไปเที่ยวกับพวกเราต่อ............


Day 4: He Huan Shan – Cingjing Farm – Around Nantou

นอนพักเอาแรง เพราะ พรุ่งนี้ต้องขึ้นเขา He Huan Shan ตั้งแต่ ตี 3 ครึ่งได้ เป้าหมายวันต่อไปของเรา คือ ขึ้น He Huan Shan เราคาดหวังว่าพวกเราจะเจอหิมะ เราสามารถ ซื้อทัวร์ นี้ที่ โรงแรมของเรา ค่าเสียหายถ้าจำไม่ผิด คือ คนละ 400 NT แล้วจะมีรถมารับเราหน้าโรงแรมเลย เจ้าหน้าที่ทางโรงแรมแจ้งว่า รถมาตรงเวลา ให้มารอหน้าโรงแรมตามเวลาที่กำหนด และ รถจะมาส่งที่โรงแรมกลับในตอน 8 โมงนิดๆ หมายความว่าเราก็เที่ยวก่อนค่อยกลับมาทานอาหารเช้า นั้นเอง

รวม เที่ยว 4 ชม. เอง แต่ก็นะ อยากเห็นหิมะ มันก็ต้องลองดู และแล้วรถก็มารับ ประมาณ ตี 3.45 ได้ ปะ ๆ ได้เวลาตะลุย He Huan Shan จะบอกว่าทั้งหนาวทั้งง่วงงงงงง

Day 4: He Huan Shan – Cingjing Farm – Around Nantou

รถจะแวะรับ คนแต่ละจุด จะบอกว่า เสมือนมาทัวร์ จีนมากกกก เพราะบนรถเขาจะบรรยาย จุดแต่ละจุด เป็นภาษาจีน อารมณ์แบบ จุดนี้อยู่เหนือระดับน้ำทะเล บลาๆๆ แต่เป็นภาษาจีนนะ ก็ฟังๆ ไปดูวิว ไป บอกเลยว่าอากาศ ฟินมากกก มาลุ้นกันว่าจะมีหิมะไหมมมมม

Day 4: He Huan Shan – Cingjing Farm – Around Nantou

นั่งไปสักพัก รถก็จอดแล้วก็ บรรยายภาษาจีนเหมือนเดิม ไหนๆ รถจอดแล้ว ก็ลงไปถ่ายรูปกะ ป้ายสะหน่อย ถึงว่าจะไม่รู้อะไรก็ตาม 5555

พอรถวิ่งขึ้นยอดเขาไปเรื่อยๆ สภาพอากาศวันนี้เราคงไม่เจอหิมะ เพราะมีฝนตกเบาๆ ตลอดทาง แอบเซ็งนิดๆ มีคนบอกว่าถ้าอยากเห็นหิมะ ต้องมาปลายๆ มกราคม ไม่ก็ ช่วงกุมภา ครับบ ไม่เป็นไร เราก็ฟินกะ หมอก ไปก็ได้

Day 4: He Huan Shan – Cingjing Farm – Around Nantou

พอวิ่งไปสักพัก รถก็จะหยุดให้เราลงไปเก็บภาพ เขาบอกว่าจุดนี้ เปรียบได้กลับ จุดมังกร อะไรสักอย่างจำไม่ได้ นะ แต่ บอกเลยว่า สวยๆมากๆ เพราะ เริ่มใกล้เช้าแล้ว เหมือนเราไปดูพระอาทิตย์ขึ้นอะไรประมาณนั้นนน

ได้เวลาเก็บภาพ

Day 4: He Huan Shan – Cingjing Farm – Around Nantou

และแล้วก็ได้เวลากลับ ไปครับ เสียใจ หิมะก็ไม่เจอ แต่ไม่เป็นไร ไว้มาใหม่แต่ไม่เอาซื้อทัวร์แบบนี้แล้ว เพราะรู้สึกไม่คุ้มครับแนะนำว่า ถ้าใครมากัน 4-6 คน ให้เหมารถ Taxi เที่ยวคุ้มกว่า แจ้งทางโรงแรมให้หาและต่อลองราคาให้ได้ หาข้อมูลไปว่าจะไปไหน ทาง โรงแรมจะช่วยประสานงานให้ ไปครับ ลงๆ เช้าละหิวๆ เก็บภาพบรรยากาศยามเช้ามาฝาก

รถมาส่งเราถึงที่พัก ประมาณ แปดโมงเช้านิดๆ ได้เวลาอาหารเช้าพอดี ขอพักทานข้าวแพ๊ฟฟฟ เติมพลังต่อ เพื่อไปลุย Cingjing Farm อยากไปชิว กะน้องแกะ 555 อาหารเช้าเป็นข้าวต้ม มีกับข้าวหลากหลายครับ

Day 4: He Huan Shan – Cingjing Farm – Around Nantou

พออิ่มแล้วก็เที่ยวต่อ เราก็เลยไปแจ้ง ทางที่พัก เราอยากไปฟาร์มแกะ ทางโรงแรมใจดีมากก ขับรถไปส่งเราด้วยแต่!!!! มันไม่ได้โชคดีทุกอย่าง พอเราไปถึงฟาร์มแกะ ฝนตกหนักพอสมควร หมอกลงจัด ทำให้เราเสียดายมากๆ และ เราก็ต้องเปลี่ยนแผน ไปถ่ายรูปที่อื่น รอบนี้เราไป แวะ กันอีกที่เป็นจุดพักรถ เช่นเดิม แต่มาถ่ายอีกฝั่ง หนึ่ง จะบอกว่า บรรยากาศ เหมือนอยู่ ญี่ปุ่นเลยได้เวลาอวดรูปละ ตามคอนเซปครับ เพราะทุกวัน คือ Runway

คู่หูคู่ฮา

มาเลี้ยงแกะ ปลอมๆ 555

ตามจุดพัก มีร้านอาหารด้วย

ตู้กดตุ๊กตาก็มี เห็นแล้ว ก็พลาดไม่ได้ หมดไปเกือบร้อย ไม่ได้สักตัว 555

Day 4: He Huan Shan – Cingjing Farm – Around Nantou

เราก็ถ่ายรูป กันไปเรื่อยๆ จนหมดวัน เก็บที่พัก ที่ต่างๆ เดินถ่ายกันมันมาก เข้าทุก โรงแรม ที่สวยๆ ใบไม้เปลี่ยนสี สวยมากๆ

ผ่านโรงแรมนี้ ถ่ายๆ

ถ่ายพอละ กลับโรงแรมเตรียมลุยพรุ่งนี้ต่อ

ไต้หวัน มีอะไรที่หลายๆคน ไม่คาดคิด ผมมานี้ ผมชอบมากๆ เลย พรุ่งนี้ เตรียมกลับไทเป แต่ โปรแกรมเราพรุ่งนี้ คือ Taichung ที่นี้มีอะไรให้เราเก็บบ้าง ไว้มาดูกัน


Day 5: Sun Moon Lake – Xuanzang – Monster Village – Rainbow Village - Taipai - Ximending

จากที่ได้ปรึกษาทางโรงแรมแล้ว เราเหมารถ Taxi เลย ทั้งวัน ถ้าจำไม่ผิดคือ 3,000 NT คือพาเที่ยวทั้งวัน และพาพวกเราไป ส่งที่ HSR Taichung เพื่อ มุ่งหน้าสู่ Taipai - Ximending วันนี้เราออกจากโรงแรมประมาณ 9 โมงเช้า พี่ Taxi ก็มารอรับเราถึงโรงแรมเลย จะบอกว่า อัทยาศัยดีมากๆ บริการดี มีน้ำให้ด้วย อยากจอดไหนก็บอก และวางแผนการเดินทางให้เราเรียบร้อย รู้สึกว่าคุ้มมากกกก

จุดแรกที่เราไปคือ Sun Moon Lake

จะบอกว่า ตอนแรกเฉยๆ กะที่นี้จากที่อ่านรีวิว ว่าคนมากัน ดูรูปก็ไม่เห็นมีอะไร แต่!!! พอมาจริง เฮ้ยยย ทำไม ทะเลสาบมันสวยแบบนี้ น้ำเป็นสีเขียวอ่อนๆ ใส สวยมาก บรรยากาศก็ดี ไม่เห็นกับตาก็ไม่คิดว่า มันจะสวยแบบนี้

เราจอดถ่ายรูป ที่วัดเหวินอู่ หรือ Wenwu Temple

หลังจากที่ถ่ายมุมทะเลสาบ มาดูบรรยากาศมุมของวัดเหวินอู่ หรือ Wenwu Temple บ้าง สวยงามตามท้องเรื่องกันไป

มุมข้างๆ มีสิงโตตัวใหญ่

ได้เวลาเก็บภาพหมู่ บ้างง

ไปๆมาๆ ก็ใกล้เที่ยงแล้ว พี่คนขับ Taxi ก็บอกว่าเดี๋ยวพาไปหาของทาน บริเวณท่าเรือ ได้เวลาไปหาของอร่อยแล้ววว

ว้าวว วิวดีมากกก

ไปครับ เดินหาของทานกัน สถานที่ อารมณ์เหมือน ถนนคนเดินเล็กๆ มีร้านค้า ร้านขายอาหารทานเล่น

อันนี้เป็นน่องไก่ และยัดข้าวข้างใน เอาไปทอด

รชาติดีมากครับ น่าจะหมักด้วยสมุนไพร+พริก รถชาดเข้มข้น อร่อยมาก

อันนี้ คล้ายๆใส้กรอก กุนเชียงมีหลายรส 3 ไม้ 100 NT ไม้เดียว 40 NT จัดกันไปคนละไม้

อีกสักร้าน ร้านนี้ดูจะเป็นร้านดัง มีรูปรีวิว มากมาย เป็นคล้ายๆ ซาลาเปาทอด มีใส่ อันละ 40 NT ไหนๆ มาละ ก็ต้องจัดดดดด


เราซื้อกัน เดินทานเอาเพื่อ เซฟ เวลาในการเที่ยว เราซื้อกันานั่งทานตรงท่าเรือ ชม ทะเลสาบ ได้บรรยากาศไปอีกแบบ

พอทานเสร็จ ที่ต่อไปคือของพวกเราคือ หมู่บ้านปีศาล Monster Village ....

เรารู้จักที่นี้จากหนังสือเที่ยวไต้หวัน เดี๋ยวมาต่อนะครับ ขอพักชมทะเลสาบก่อน อิอิDay 5:Monster Village

หมู่บ้านปีศาจ นี้ฟังแล้วอาจจะดูน่ากลัว แต่อยากเชิญชวนให้ไปสัมผัสความน่ารัก และการอนุรักษ์ อิงประวัติศาสตร์ สมัยที่ญี่ปุ่นปกครอง ซึ่งเมือสมัยราชวงค์ชิง มีการตัดไม้เพือนำมาสร้างบ้านกันเยอะมาก พอญี่ปุ่นเข้ามาครอบครอง จึงอนุรักษ์ไม่ให้มีการตัดต้นไม้ จึงสร้าง รูปปั่นเจ้าปีศาจ Tengo ปีศาจแห่งผืนป่าขึ้นมา เพือเป็นการเตือนใจ พอหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นแพ้สงคราม จึงคืนพื้นที่นี้ให้กับเจ้าของเดิม คือ คุณซุงริ่ง ซึ่ง เขาเป็นคนญี่ปุ่นที่มาเกิดที่ประเทศไต้หวัน

จะมีปีศาจ ออกมาตอนรับพวกเราด้วย 555

บรรยากาศด้านใน

มีลานแสดงดนตรี ให้เรานั่งพัก และชม

ถ่ายรูปหมู่ กลายเป็นอันเสร็จภาระกิจ ไปต่อกันอีกที่ได้

ลืมบอกไปว่า ไม่เสียค่าเข้านะครับ ฟรี !!!!!!

Day 5: Rainbow Village

เราออกจาก หมู่บ้านปีศาลประมาณ บ่ายสามครึ่งได้ เพราะเราต้องไป หมู่บ้านสายรุ้งกันต่อก่อนที่ค่ำ เดี๋ยวแสงหมดอดถ่ายรูป ไปครับ ได้เวลาไปหา หมู่บ้านที่เต็มไปด้วยสีสัน ... พี่คนขับบอกว่า หมู่บ้านนี้ไม่ไกลจาก HSR Taichung เราสามารถถ่ายรูปได้ถึง หกโมงเย็น

ถึงเวลาหลับยาวว ใช้เวลาเดินทาง 1 ชม. ได้ ดูวิว ริมทางไปเรื่อยๆ สักพักก็ถึงแล้ววว

หมู่บ้านที่เติมไปด้วยสีสันสดใสน่ารักๆ

และแล้วเราก็มียอดมนุษย์มาจับพวกเรา 555

ยอดมนุษย์ตัวนี้ น่ารักมากๆ มาค่อยร้องเพลง ให้พวกเราฟัง

พระอาทิตย์จะตกดินแล้ว เราขอ Bye Bye Rainbow Village และเมือง Taichung ด้วยภาพนี้ แล้วเราจะคิดถึงเมืองนี้


Day 5: HSR Taichung- Taipai - Ximending

มาครับ เรามาต่อกัน เที่ยวกันจนหมดวัน มืดกันเลยทีเดียว พี่คนขับรถ พาเราไปส่งที่ HSR Taichung ได้เวลาพวกเราเข้าเมืองกันแล้ว แวะเอากระเป๋าที่ฝากไว้ ลุยกันต่อ จุดหมายต่อไปคือ Ximending ที่พักของเราที่เหลือ 4 คืน แล้วมาดูกันว่า ในไทเป เราจะปังหรือพัง 555

ไปครับรถไฟ มารับละ คู่หูคู่ฮา ประจำทริปของชาย หม่อม รอขึ้นย่านแล้ว 55555 รู้สึกเหมือนมาเที่ยวกับป้าเนา ยังไงไม่รู้ 55

Day 5: HSR Taichung- Taipai - Ximending

เรานั่ง HSR ไปลง ที่ Taipei main station เพื่อไปเปลี่ยน MRT และ ขึ้น MRT มาลง Ximending เพียง 1 สถานี


พอมาถึง Ximending แล้วเราก็มุ่งหน้าไปที่พักของเรา ที่พักของเรา คือ Diary of Taipei Hotel II, Zhonghua Branch

ที่พักเราทำเลดีมาก อยู่ใกล้ตลาดซีเหมิน ของกินเยอะ ออกจาก MRT ximen ทางออกที่ 6..

โรงแรมจะอยู่ตึกข้าง The North face แล้วขึ้นลิฟท์ไปชั้น3 ป้ายโรงแรมจะค่อนข้างมืด ป้ายเล็กหน่อยนะครับ สังเกตุดีๆ

อีก 5 วัน 4 คืน เราจะพักที่นี้ ห้องพักเป็นเตียงแยกมีห้องน้ำในตัวพร้อมอาหารเช้า ราคาโดยรวม 2 ห้อง 4 คือ 19,024 บาท จองผ่าน Booking.com

มาดูห้องกัน ห้องกันครับ

เข้าห้องเช็คอินเรียบร้อย ก็ออกไปหาอะไรทานก่อน เดินทางกันหมดวัน เราไปถึงก็เกือบ สี่ทุ่มแล้ว หิวมาก ร้านไหนก็น่าทานไปหมด เรามาแวะร้านนี้ละกัน จำชื่อไม่ได้ รู้แต่อยู่ซอย ตรงวงเวียนเลยร้านชาไข่มุกดังๆไปสองร้าน หิวละ ขอทานข้าวเย็นกันก่อน พรุ่งนี้ ลุยต่อ งานปังๆ ในไทเปรออยู่ 555

Day 6: Taipai - Ximending - Chiang Kai-shek Memorial Hall – Taipai 101

แป๊บเดียว วันที่ 6 แล้ว โอ้ยย ไวมากกก วันนี้พวกเราตื่นกันสายพักร่าง Plan ของเราคือชิวๆ ใน ไทเป เราทานข้าวเช้า แล้วออกจากโรงแรมเกือบ 10 โมงกว่าๆ ได้ครับ ไป ได้เวลาไปชิวกัน ย้ำ!!! ว่า ชิว 5555 ตาม คอนเซป ครับ

เพราะทุกวัน คือ RunWay ได้เวลา ตะลุยไทเปแล้วววว

งานตามแยกไฟแดง ต้องมา

หอแดง Ximending เราก็ต้องจัดดดดด


Day 6: Chiang Kai-shek Memorial Hall

วันนี้เราเน้น!! ชิวครับ อิอิ นี้คือความชิวของพวกเรา เราออกจาก Ximending เพื่อมุ่งหน้าไป Chiang Kai-shek Memorial Hall จากการศึกษาข้อมูลก่อนมา นี้ไม่ได้มาแค่เดิน Runway กันครับ สาระพอมีบ้าง สถานที่นี้เป็นหนึ่งสัญญลักษณ์ของประเทศไต้หวัน และสถานที่ท่องเที่ยวหลักที่ต้องมาของเมืองไทเป สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1976 เพื่อเป็นการรำลึกและเทิดทูนอดีตประธานาธิบดีเจียง ไคเชก เป็นอาคารสีขาวทั้ง 4 ด้านมีหลังคาทรง 8 เหลี่ยมสีน้ำเงินแบบสถาปัตยกรรมแบบจีน ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงกลางของจตุรัสเสรีภาพ(Freedom Square) มีบันไดด้านหน้า 89 ขั้นเท่ากับอายุของท่านประธานาธิบดี โดยภายในจะมีรูปปั้นทำจากทองสัมฤทธิ์ของท่านในท่านั่งขนาดใหญ่ที่มีใบหน้ายิ้มแย้มต่างจากรูปปั้นของท่านในที่อื่นๆ ซึ่งจะมีทหารยืนเฝ้าไว้ 2 นายตลอดเวลา และที่กำแพงด้านในหลังจะมีข้อความปรัชญาทางการเมืองการปกครองของท่านอยู่ 3 คำ คือ จริยธรรม ประชาธิปไตย และวิทยาศาสตร์ ครับ

ถึงแล้วววว Chiang Kai-shek Memorial Hall เห็นแต่ไกล

ออกจากสถานี ก่อนเข้าไปจัดสักรูปก่อน


อีกมุมด้านหน้า งานเล่นท่าต้องมา

ไปครับเดินเดิน เข้าด้านในจะเห็นเหมือนเป็นวังจำลอง ครับ อ้าวว มุมนี้ ก็ต้องจัด ให้หม่อม สักรูป

ฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นมุมประตู 5 ช่อง

ไปครับ เราเดินเข้าไปดู ด้านในกัน ข้างในเป็นรูปปั้นอนุสรณ์ ที่ระลึก ของท่าน เจียง ไคเชก นั้นเอง

มุมด้านบนอนุสรณ์ มองลงมาก็จะเป็นมุมภาพนี้ครับ

เรานั่งพัก เก็บภาพ ซึบซับประวัติศาสตร์กัน พักใหญ่ ครับ ก่อนกลับขอมุมนี้สักรูป 5555

เราออกจากที่นี้เกือบ บ่าย 3 ได้ เพราะเราถ่ายรูปกันเยอะมากๆ 555

จุดมุ่งหมายต่อไปของเราคือ ไปเดิน Runway ที่ Taipai 101 พร้อมไป Dinner DIN TAI FUNG ที่นั้นด้วย ไปครับ ลุยกันต่อ.....

Day 6: Taipai 101 ไปครับ ลุยกันต่อ สถานีต่อไป Taipai 101 Next station Taipai 101 เลย นั่ง MRT กันต่อ อย่าลืมเติมเงินบัตร Easy Card ด้วยนะครับ เติมได้ที่ ตาม สถานีรถไฟฟ้าและ 7-11 ชอบจริงๆ สะดวกสบาย เที่ยวง่าย บัตรเดียว เดินทาง ซื้อของ ได้ครบ ไปครับเดินทางกันต่อ

เดินออกจากสถานี ก็เห็นทางเข้าตึก Taipai 101

มาถึงแล้วทำไร อ้าววว ถ่ายรูปสิครับ มาถ่ายรูป 555

หาที่ถ่ายรูปรอบๆ ตึกก่อน แต่เราไม่สามารถถ่ายรูป ของตึกได้ แบบเต็มๆ เราเลยมาหาข้อมูล ว่าจะได้มุมไหน ที่ไหน จะเห็นตึกแบบเต็มๆ สวยๆ แล้วเราก็ได้ข้อมูลว่า ต้องไปที่ Sun Yat Sen Memorial Hall โอเค งั่น เราจะไปจัด ฟินนาเล่ ปิดทริปกันที่นั้น 555 วันนี้เอารอบๆ Taipai 101 ก่อนแล้วกัน

ตึกนี้ อารมณ์เหมือน ตึกใบหยก ผสม สยามพารากอน บ้านเราครับ ด้านล่างเป็นห้าง มีสินค้าแบรนดังๆ มากมาย ข้างบนตึกเป็น โรงแรม เราไม่ได้ขึ้นไปด้านบน เพราะเรามาถึง ก็ เกือบทุ่มแล้ววว ไปครับไปหาของกินกันดีกว่า เจอแล้วววว DIN TAI FUNG ไปๆ หิวแล้ววว

แต่โชค ก็ไม่ได้เข้าข้าง ครับ เพราะเราไม่ได้ ทาน DIN TAI FUNG เนื่องจากแถวยาวมากกกกกกกกกกกกก เราก็เลยเปลี่ยนใจ กลับไปหาอะไรทาน ที่ Ximending ย่านที่เราพัก Bye Bye Taipai 101

Day 6: Mala Hotpot Ximending

ไปครับ เดินหาของกินกันนน

คืนนี้เรามาปิดท้าย กันด้วย Mala Yuangyang Hotpot ร้านดังของย่านนี้ เป็นโชคดีของเรามาก ที่คิวไม่ยาว ได้เวลาจัดหนักแล้ว ที่นี้เป็นบุฟเฟ่ครับ

มีเรตราคาต่างกันที่ ชนิดอาหาร เราเลือกกันแบบ Full เลย ค่าเสียหายคนละ 699 NT มั่ง ก็ตีไปเลย คนละ 700 บาท จัดไป

การเดินทาง MRT Ximen, Exit 6 ออกมา เลี้ยวขวาเข้าไปในส่วนของซีเหมินติง เลี้ยวซ้ายตรง KFC จนถึงทางแยก เห็นป้าย KTV ใหญ่ๆ เลี้ยวขวาลงซอยนั้น จะเห็นป้ายร้าน Mala Yuangyang Hotpot สีแดง เดินขึ้นขั้น 2 เลยครับ

วันนี้พอแค่นี้ กินเสร็จแยกย้ายกลับไปพักผ่อน พรุ่งนี้โปรแกรมเราคือ

ไปเดิน RunWay กันที่ Jiufen Old street – Raohe Street Night Market 555ขอตัวนอนพักร่างกัน ก่อนนน .....


Day 7: Jiufen Old street – Raohe Street Night Market

ไปต่อกันครับ สำหรับ Jiufen ผมได้เขียนรีวิวไว้แล้ว เป็นกระทู้แยก สามารถ อ่านได้ ในกระทู้นี้ ครับ

http://pantip.com/topic/35451458

เราลงจากจิ่วเฟิ่น มาประมาณ 5 โมงเย็นได้ ขากลับเราแวะ ไหว้พระ และก็เดิน Raohe Street Night Market วันนี้เราเดินสายกินกันตัวแตกมากกก

การเดินทาง เรานั่งรถเมย์สายเดิม คือ 1062 แล้วเราลง ป้าย MRT Songshan ครับ ได้เวลา ลงเดินแล้ว ก่อนเราจะไปเดินกินให้ตัวแตก ขอแวะไปไหว้พระก่อน

จุดนี้จะติดกับวัดซิงเทียน (Qingtian Temple)เป็นวัดที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นอันดับต้นๆของไต้หวัน เลยนะครับ

ภายในวัดซิงเทียน (Qingtian Temple)

วัดนี้สร้างเพื่อบูชาเทพเจ้ากวนกง หรือ ที่คนไทยรู้จักกันใจชื่อ กวนอู ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งสงครามและศิลปะป้องกันตัว ความเชื่อ ที่คนมาขอพรกันก็จะเกี่ยวกับสุขภาพครับ


ไหว้พระเสร็จแล้ว ไปครับได้เวลาอาหารอีกแล้ววเดินสายกินกันต่อ......

Day 7: Raohe Street Night Market

ไปครับ ไหว้พระขอพรเสร็จแล้วก็ได้เวลา เดินกินให้ตัวแตกกันไปข้าง ประเทศนี้ ของกินเยอะมากๆ เดินไป กินไป ชิวไป ยาวไป... ลุยยยย!!!

งานนี้ละลานตา อีกแล้ว คะมะเก็บภาพบ้างส่วนมาฝากครับไปดูกันนนนนน

งานหมึกย่าง ตัวใหญ่ๆ ก็มา..

ใช่ปูอัดไหมหน้าตาแปลกๆ

แวะชิมกันสักร้าน มานี้กินปลาหมึกบ่อยมากๆ เพราะกินมันหอมน่าทานมากๆครับ ต้องจัด!!


แค่เดินก็อิ่มแล้ว บอกเลยย เสพด้วยภาพ สูดด้วยกลิ่น ก็ฟินแล้ววว ของหวาน สักไม้ไหมมม

เรามาแวะชิม อีกร้าน อารมณ์เหมือน ขนมว่าวมีหน้าพิสซ่า 55 ดูหน้าพ่อค้า งง กะ หม่อมมาก

จริงๆภาพของทานมีอีกมากมาย ใครอยากรู้ว่าเยอะขนาดไหนต้องลองไปเที่ยวดูนะครับ พ่อค้าแม่ค้า ที่นี้น่ารัก เป็นมิตร อัทยาศัยดี อาหารก็ราคาพอทานได้ไม่แพงมาก รสชาติโอเค หาอะไรเย็นๆ ทานแป๊บ เตรียมกลับที่พัก ละครับ ชักเหนื่อยแล้ววว

พรุ่งนี้เราจะไป ถ่ายภาพ มุมที่เห็น ตึก Taipei 101 สัญลักษณ์ของประเทศนี้ งานนี้ ต้องพีคสุดแล้วเพราะมันคือ ฟินนาเล่ ของทริปนี้ 5555แล้วเดี๋ยวมาดูกันว่า พรุ่งนี้ จะลง Runway ยังไง 555


Day 8: Sun Yat Sen Memorial Hall - Chuan Tang Hot Spring – Sogo Shoping Mall

ได้เวลาออกจากโรงแรม ฤกษ์งามยามดี 9.39 นาที 555 ลงมานี้ คนแตกตื่นกันเลยทีเดียว ไปครับได้เวลาไป มุ่งหน้าไป

Sun Yat Sen Memorial Hall นั่ง MRT สายสีน้ำเงิน ยิ่งยาวเลย

จุดหมายปลายทางแรกของเรา กับ วิว ตึก Taipei 101 ได้เวลาเดินทาง

ขอปังๆ กลาง Ximending สักภาพ ได้เวลาออกเดิน Runway แล้ว 5555

และแล้วเราก็มาถึง Sun Yat Sen Memorial Hall 5555 คือ หม่อมเต็มมาก จริงๆ ถามว่าคนมองไหม พวกเราไม่รู้ เพราะเราไม่ได้มองใครเลย 555

ไปครับ เราไปถ่ายรูปกัน ได้เวลาเก็บภาพ มุม Taipei 101 กับงานอารยธรรมในต่างแดนแล้ว 555

เราอนุญาติให้ copy มุมได้ นะครับ ไม่มีลิขสิทธิ์ เอาที่ ตามความชอบ ไม่ทำให้ผิดกฎหมาย บ้านเขาก็พอ 5555

อีกสักภาพ กับภาพความทรงจำ ที่ Taipei 101 ให้จดจำกันไปเลย 5555

มาอวดภาพเพียงเท่านี้ 555 เดี๋ยวเสร็จจากนี้เราจะไป อาบน้ำแร่ แช่ Onsen กันต่อครับ เสร็จแล้วเราจะไป Shopping ที่ Sogo กันต่อ วันนี้เป็น Relax ของพวกเรา งานนี้ แต่งไทย ทั่วไทเป เลยสินะ 555Day 8: Chuan Tang Hot Spring

เสร็จภาระกิจ ที่ Taipei 101 เรามุ่งหน้าเพื่อไปอาบน้ำแร่ แช่ออนเซ็น กันต่อ หิวด้วย คงไปหาอะไรทานที่นั้นเลย เพราะจากที่หาข้อมูล เขาบอกว่า ถ้าเราสั่งอาหารทานเกิน 400 NT ต่อคน ก็จะสามารถแช่น้ำแร่ฟรีเลยไม่มีค่าใช้จ่าย ได้เวลาเดินทางต่อครับ

การเดินทางเรา นั่ง MRT สายสีแดงไปลงที่สถานี Shipai นะครับ แล้วพอออกจากสถานีก็เลี้ยวขวา เดินไปเรื่อยๆจะเจอ China Trust Bank ป้ายสีเขียวอยู่ แล้วก็ยืนรอรถตรงนั้นครับ รถบัสสายที่จะขึ้นไปก็คือ 508, 535 หรือ 536 ครับ นั่งรถไปประมาณ 15 นาทีก็ถึงครับ ลงรถที่สถานี Xingyi RD #3 ครับ ซึ่งก่อนถึงมันจะมี Xingyi RD #1, Xingyi Rd #2 อยู่ครับให้ลองฟังดูดีๆจะได้เตรียมตัวลงได้ถูกสถานี พอลงรถแล้วก็เดินขึ้นไปอีกเล็กน้อย จะมีทางเข้าไปอยู่ด้านขวาของเรา (ดูเข้าไปจะเหมือนทีจอดรถ) เราก้เดินเข้าไปเรื่อยๆจนสุด เราจะเห็นป้ายเขียนว่า 川湯 ใหญ่ๆอยู่

แล้วทางเดินลงไป เราก็เดินลงไป (ปางเดินลงยังกะลงดอย บอกเลย) พอสุดปลายทางเราก็จะถึง บรรยากาศเหมือนอยู่ ญี่ปุ่นเลยครับ


เรากินอาหารครบ NT$400 ก็จะได้บัตรเข้าฟรี แต่ถ้ามาแค่แช่น้ำร้อนอย่างเดียว บัตรราคา NT$200 ครับ ซื้อบัตรที่เคานท์เตอร์พอได้บัตรแล้วก็เข้าโลดเลย ข้างในจะมีล๊อกเกอร์อยุ่ครับแต่ต้องหยอดเหรียญ NT$20 ต้องเตรียมเหรียญ NT$10 ไป 2 เหรียญนะครับ


ก่อนที่เราจะไปแช่ Onsen เราไปหาอะไรทานก่อน จะบอกว่า อันนี้คือฮามากก เพราะคนรับ Order พูดภาษาจีน พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ต่างคนต่างงง ด้วยความอัทยาศัยดี งั่นให้พวกเราทาน เมนู ยอดนิยม จับใจความได้แบบนั้น ก็เลย เอาก็เอา สรุปเราได้ไก่ดำตุ๋นยาจีน หน้าตาแบบนี้ 55

แต่เดี๋ยวๆ เขาบอกยังทานไม่ได้ต้องรอให้มันเดือดก่อน เราเลยชมบรรยกาศจากหน้าตาของร้านที่เรานั่ง คือมันดีมากก มึความเป็นธารน้ำแร่ไหลผ่าน


สักพักบอกทานได้แล้ว มีพนักงานเดินทางบอก แต่เดี๋ยว !! สักพักพนักงานมาจุดไฟ งานนี้ มีจุดไฟโชว์ด้วย


5555 คือตื่นเต้น สนุก ตกใจ อย่างนี้สิ ถึงเรียกว่า หมอไฟ ของจริง ไฟลุกสูงมากกกก 555

ส่วนรสชาติ มันแปลกๆ มันมีกลิ่นเหล้า และ รากอะไรเยอะไปหมดส่วนตัวบอกเลยไม่ถูกปากเท่าไร ไก่แบบเหนี่ยว 555 แต่ก็นะ หิวก็หิว ก็จัดๆ กันไป

รสชาติปังขนาดไหน ดูได้จากหน้าหม่อม 5555

พอเราทานกันเสร็จก็แยกย้ายไป แช่ Onsen กัน

สำหรับคนที่ไม่เคยไปออนเซน ก่อนจะลงก็ควรอาบน้ำก่อนนะครับ มันจะมีขวดอยู่ 2 ขวดเป็นแชมพูและสบู่ ดูดีๆนะ ขวดไหนขวดไหน 555 จะบอกถ้าใครไปแนะนำให้พกน้ำดื่ม และ พาเช็ดตัวไปด้วยนะครับ ที่นั้นไม่มีให้ แต่ข้างใน สะอาด แต่คนไม่เยอะมาก รีบล้างตัวลงแช่บ่อเลย 555 พอสักเวลา 6 โมงเราก็กลับครับ เพราะเราต้องไป Shopping กันต่อ ขากลับก็รอรถกลับจากจุดที่เราลงจะมีป้ายรถเมล์อยู่

Day 8: Sogo Shopping Mall

เรานั่งรถเมล์ กลับจากออนเซ็น มาลงป้าย MRT Shipai และนั่ง MRT ต่อไปที่ Zhongxiao Fuxing เพื่อไป ห้าง Sogo ครับไปครับ ได้เวลาเดินทางกันต่อ...

จุดประสงค์ของการมาห้างนี้ หลายๆคนคงรู้ว่าเพราะ อะไร มาที่นี้ต้องซื้อกลับ ขอเวลาชายพาหม่อม Shopping แพ๊พ 555

เดินดูของกันสักพัก 5555 ใครเห็นเรา ก็ถามว่า มาจาก ไทย กอ ช่ายไหม เราบอก เรามาจาก Thailand 5555

สิ่งที่ได้กลับมาก็คือ คู่นี้นั้นเอง ถามว่าถูกกว่าไทยไหม ถูกกว่านะครับ

และแล้วก็หมดเวลา เกือบ สามทุ่มกว่า ห้างจะปิดแล้ว เราก็เดินทางกลับโรงแรม เดี๋ยวนะ!! พรุ่งนี้ต้องกลับแล้วหรออ โห อะไรมาตั้ง 9 วันนะ ทำไมไวแบบนี้ งานหนักแล้วสิ จัดกระเป๋ากลับ ถึงเวลาปิด Runway แล้ววววววววว


Dayล 9: Bye Bye Ximending- Taipei - Taiwan (Taoyuan international Airport) - Bangkok (Don Mueang International Airport)

กลับแล้วนะ You... Bye Bye Ximending Bye Bye Taipei Bye Bye Taiwan ... I hope to com again. หมดเวลาสนุกของคนบ้าแล้วหรอเนี้ย แล้วเราจะกลับมาใหม่ เราสัญญา

ขากลับนี้ จะบอกว่าขี้เกลียดลากกระเป๋ากันมาก ขนอะไรกันมาหนักหนา 5555 หมดเวลาปิด Runway แล้วสินะ 5555

เราเดินทางกลับโดย นั่ง MRT จาก Ximending ไป Taipei main station เพื่อไปต่อรถบัส ไปสนามบิน แต่ เอาเข้าจริง

พอพวกเราไปถึง Taipei main station คุณพระ!!! คนเยอะมากๆๆๆ เราเลย นั่ง Taxi ไปเลย ค่าเสียหาย 1500 NT แต่เอาจริง จะบอกว่า ก็ไม่แพงนะ ครับ ถ้ารวมๆ ต่อ MRT รถ BUS และก็ไม่ต้องลากกระเป๋ากันด้วย ถ้าใครมา 4-6 คนแนะนำ Taxi เลย คุ้มกว่าประหยัดเวลาและ ไม่ต้องเหนื่อย ลากกระเป๋าด้วย ...

นักจ้องเที่ยว ขอปิดทริป Taiwan 9 วัน 8 คืน ด้วยงบ 2X,XXX บาท ของกลุ่มคนบ้ายกเสื้อผ้าไปถ่ายแบบ เพียงเท่านี้หวังว่าทุกคนจะสนุกและได้แรงบันดาลใจ กับการไปเที่ยวในสไตล์อย่างพวกเรา ใช้ชีวิตให้มีสีสัน เพราะทุกวัน คือ Runway อิอิ

มาๆ มาดูค่าเสียหายกัน .... บอกเลยว่า ราคาเบาๆ แต่ได้ภาพปังๆ จริงๆ We love Taiwan..

หวังว่าทุกคนจะสนุก กับการท่องเที่ยวในไต้หวันของพวกเราในครั้งนี้ ขอบคุณครับ

สามารถไปดูรูปเพิ่มเติมและทริปอื่นๆได้ใน เพจ: นักจ้องเที่ยว(เพราะทุกวันคือRunWay)

Cr: เพจตัวเองนิสส https://web.facebook.com/AreYouCrazyThailand/

นักจ้องเที่ยว

 วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 19.34 น.

ความคิดเห็น