13 - 19 กันยายน 2559



เป็นทริปที่เท่าไรไม่รู้ในรอบปี 59 นี้

ไม่ได้วางเเผนอะไรมากมายครับ ดู ศึกษาข้อมูลคร่าวๆ ก็เก็บเสื้อผ้ายัดใส่เป้ สะพายไปยัง บขส.ตรัง

ดูข่าวจากทีวี มีพายุดีเปรสชั่นเข้าภาคเหนือ จ.น่าน ฝนตกหนักมาก เเต่ก็มิหวั่น ในเมื่อเลือกที่จะไปเเล้ว 555

ทริปนี้เลือกนั่งรถทัวร์เพราะต้องการความชิลล์ (ค่าเครื่องมันเเพง 555+)

แปลนคร่าวๆไว้ ปัว-บ่อเกลือ-ดอยเสมอดาว-น่านนคร

13 ก.ย.59

16.30 น. เดินทางไป บขส.ตรัง รอรถเที่ยว 17.30 น.

คืนเเรกผ่านไปกับการหลับๆ ตื่นๆ บนรถทัวร์ ป.1 ตรัง - กรุงเทพ รถมาจอดที่หมอชิต ตี 5.30 น. ก็จัดการทำภารกิจส่วนตัว เสร็จสิ้นก็ไปรับตั๋วที่หมอชิต อยู่ด้านหน้าเลยครับ



กรุงเทพ - น่าน เลือกเดินทางกับ บขส. เพราะมีรถเที่ยวเช้า

เลือกนั่งชั้นบน หน้าสุด ยังดีที่เบาะนวดไฟฟ้า พอช่วยได้หน่อยครับ


มือเช้า กินที่หมอชิต ข้าวเเกง 40 บาท อยากบอกว่าข้าวเเข็งมาก

ก่อนรถออก สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับ Backpack นั่นก็คือ ขนมปัง น้ำ ไว้ติดกระเป๋าไว้คับ

เข้า 7-11 ได้เเซนวิสทูน่ามา 3 ชิ้น น้ำไม่ได้ซื้อ รถทัวร์เเจกเมื่อคืนยังไม่ได้เเกะ

8 โมง มารอขึ้นรถช่อง 112 ครับ รถออก เเวะรับผู้โดยสารตลอดเส้นทางเลย

เกือบๆเที่ยง รถก็เเวะพักให้ทานข้าวที่ จ.พิษณุโลก ใช้หางตั๋วเเลกข้าวได้ 1 อย่าง (ไข่ดาว + 10 บาท)

รสชาดก็ดีกว่าเมื่อเช้านิดนึง


เดินทางกันต่อ เข้าสู่จังหวัดพิจิตร ฝนตกตลอดเส้นทางเลย จนเวลา 20.00 น. รถก็มาถึง บขส.น่าน

เดินสิครับ เปิดกูเกิ้ลเเม็พ (จอง สุดฤทธิ์อาร์ตแกลลอรี่ไว้ทาง บุคกิ้ง) ราคา 180.- เป็นห้องรวมครับ

มาถึงก็เซ็นชื่อ คุณป้าใจดีมากครับ เปลี่ยนเป็นห้องเดี่ยวให้ เนื่องจากคืนนี้ไม่มีลูกค้าเข้าพัก


ที่นอนนุ่ม หอม มาก อาบน้ำ เอนตัวลงนอน โครตสบาย หรือเพราะนั่งรถมา 25 ชม. 5555




เช้าวันที่ 2

ตื่นเช้ามาอาบน้ำ ลงมาหาไรทาน สั่งเป็นชุดอาหารเช้า 100 บาท

ไข่คน + ขนมปังปิ้ง + สลัด สดมาก กรอบ


จากนั้นโทรหารถเช่าที่จองไว้เมื่อคืน ให้มาส่งที่พัก

ราคา 250.-/วัน (สกู๊ปปี้) มัดจำ 1000 บาทครับ ของ Tono carrent (searh หาได้ใน facebook ครับ มีรถหลายเเบบ หลายราคา)

มุ่งหน้าไปยัง "ปัว" ระยะทางเกือบๆ 60 กิโลเมตร

สภาพเส้นทาง มีการก่อสร้างช่วงท่าวังผา ครับ


ใช้เวลาเดือนทางประมาณ 1 ชั่วโมง มาถึงเมืองปัว

สร้างเเลนมาร์ค

เที่ยงกว่าๆ หามื้อเที่ยงกิน ผ่านร้านกาเเฟไทลื้อ ที่โด่งดัง เลยเเวะ


มื้อเที่ยงเป็นอเมริกาโน่เย็น 1 เเก้ว 35.-

(ปกติถ้าผมเดินทางคนเดียว ไม่ค่อยซีเรียสเรื่องการกินสักเท่าไรครับ มีไรนิดไรหน่อยก็พอประทังไปได้ 5555+

นอนเล่นบนเเคร่แปปนึง หาข้อมูลที่พักในปัว

ทางเข้าร้าน


มุมนี้จากเเคร่ที่นอน


ไม่ค่อยอยากเดินเท่าไร อากาศร้อนมาก


เขียวสุดตา


เลือกได้ตามใจชอบครับ จะนอนหลังไหน ถ้าไกลๆจากเคาเตอร์ เน็ตไม่ถึง


นอนดูกังหันหมุน


ศาลากลางน้ำก็มีครับ


ชิมฟรีครับ ยาดอง


เม็ดกาเเฟ เครื่องบดพร้อม


วิวจากห้องน้ำ


หลังจากงีบไปแปปนึง หาที่พักคืนนี้ มาเจอ โรงเรียนชาวนา โทรไปสอบถามรายละเอียด พี่เขาบอกคืนนี้ไม่มีลูกค้า

นอนได้มั้ย เข้าไปเลือกห้องได้ตามใจชอบ ขับมาถึง โรงเรียนชาวนา ที่พักคืนนี้

เดินเล่น ชมบรรยากาศไปเรื่อยๆครับ

โรงเรียน ก็ต้องมีธงชาติสิครัช


ทางเข้า โรงเรียนชาวนา


เนื่องจากวันนี้ไม่มีลูกค้า พี่เขาบอกเลือกห้องได้ตามใจชอบ 5555


ได้หลังนี้ครับ

เปิดประตูเข้ามา ร้อง ว้าวววววววว



มีม้าโยกให้นั่งด้วย


ห้องน้ำครับ กลางคืน เปิดหน้าต่างอาบน้ำใต้เเสงจันทร์ได้เลย


มีทางเดินเชื่อมไปยังศาลาให้นั่งสังสรรค์กันด้วย


จากนั้นเก็บกระเป๋าเข้าที่พัก ขับรถเล่นๆ ถ่ายรูปไปเรื่อยครับ


จับเจ้าสกู๊ปปี้ มาเป็นแบบซะเลย


ข้าว กำลังออกรวงครับ


มองไปเห็นที่พักเราด้วย


แชะไปเรื่อยๆ


จากนั้นก็กลับที่พักครับ พี่นาเตรียมกับข้าวเสร็จพอดี


ออ อยากกินไร ไม่กินไร บอกพี่นาได้เลยครับ ใจดีมาก

มื้อนี้มีผัดเห็ดโคน อร่อยมาก ต้มยำเห็ด ลาบ น้ำพริก หน่อไม้ ต้มซุปไก่ ข้าวกล้อง ข้าวเหนียว พุงกางเลย


ออ พี่นาบอกว่าบ้านที่ผมพัก กลางคืนจะมีหิ่งห้อยให้ดูด้วยครับ

กินข้าวเสร็จ นั่งโม้ พูดคุยกัน ทุ่มกว่าๆ ไปอาบน้ำ นั่งดูหิงห้อยระเบียงหลังห้อง ตัวใหญ่มากครับ

สักพักก็ปิดประตู ล้มตัวนอนบนที่นอนนุ่มๆ หลับ



เช้าวันที่ 3

ตื่นเช้ามา รีบ้ปิดหน้าต่างเลยครับ

หมอกลงนิดหน่อย ตรงระเบียงหลังห้องเปียก ไม่รู้ฝนหรือว่าหมอก

ล้างหน้า แปรงฟัน ขับรถเข้าไปในหมู่บ้าน ผ่านวัด คนไปวัดเยอะมาก

หญิงชราใส่ผ้าถุง เสื้อสีขาว ถือขันใบใหญ่คนละใบ เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปไว้

ขับไปเรื่อยๆเจอทุ่งนาเขียวสุดลูกหูลูกตาเลย

บรรยากาศ 2 ข้างทาง


เห็นวัด หมู่บ้านอยู่ไกลๆ


พอหอมปากหอมคอ กลับมาที่พัก


พี่เขากำลังเตรียมมื้อเช้าอยู่ครับ


ทานมื้อเช้า มีข้าวต้มปลากระพง กาเเฟ ขนมปังปิ้ง ผลไม้

จากนั้นพี่เขาก็ไปทำงาน ผมก็นอนเล่นแปนนึง ออกเดินทางต่อ


ตามแปลนที่วางไว้คือไปนอนบ่อเกลือ เล็งไว้ที่อุ่นไอมาง ครับ

เปิดจีพีเอส ไปดอยภูคา ขับไปเกือบๆ 20 กิโลเมตร ไปออกหลังดอยครับ ไม่มีทางขึ้น

กลับทางเดิม ตั้งพิกัดใหม่เป็น อท.ดอยภูคา

มาถึงดอยภูคาเเล้ว เข้าไปติดต่อเดินศึกษาธรรมชาติ พี่เขาบอกว่าต้องเดินเป็นครึ่งวัน


มาตอนนี้ไม่ทันเเล้ว

เลยขับรถไปจุดชมวิว จุดเเรก จุดกางเต๊น ลานดูดาว หมอกเยอะ มองไรไม่ค่อยเห็น วางเป้ หามื้อเที่ยงมากิน

ไปต่อ จุดที่ 2 ครับ 1715


มุ่งหน้าไปยังบ่อเกลือ เป้าหมายคือ ไปดูเขาต้มเกลือ


มาถึงบ่อเกลือเเล้วครับ เเวะเติมน้ำมัน ถามป้าว่าเขาต้มเกลือกันตรงไหน


ป้าเเกบอกว่าตอนนี้ไม่ได้ต้ม เขาต้มอีกทีหลังออกพรรษา สักพักฝนก็ดปรยมาเล็กน้อย
ขับรถถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆครับ

[img]http://f.ptcdn.info/206/046/000/oe0hod7zbY4l4Nj7Fwf-o.jp

ต่อครับ


หลังจากนั้น จะไป อท.ศรีน่าน เเต่เจอฝน เลยเเวะศาลาริมทาง คิดไปคิดมา จะกลับไปนอนปัว

เลยกลับเส้นทางเดิมครับ ออกจากบ่อเกลือ ร้อนเหมือนเดิม ไม่มีฝนเลย

อยากไปตรงสันเขานั้นมาก เเต่หาทางไปไม่เจอ


ก่อนถึงจุดชมวิว เจอหมอกครับ หนามาก


มาเรื่อยๆครับ ผ่าน ดอยภูคา เจอฝนอีกเเล้ว เเต่ไม่ได้หยุดรถครับ เปียกเล็กน้อย


กะว่าจะเข้าเมืองปัวหาที่พักคืนนี้ เเล้วออกมามานั่ง นอน ที่ร้านกาเเฟไทลื้อ

ได้ปางดอยรีสอร์ท อยู่ในตลาด มีราคา 300-600 บาท

ได้ห้องนี้มา แอร์ ทีวี น้ำอุ่น 500.- คุยไปคุยมาเหลือ 400.-


มีระเบียงด้วยคับ


อาบน้ำเสร็จ ไปร้านกาเเฟ เเวะจ่ายตังค์ค่าตั๋วรถทัวร์กลับกรุงเทพพรุ่งนี้


ถึงร้านกาเเฟ 5 โมงเย็น ปิดซะเเล้ว กลับเข้ามาในตลาด

อยากกินข้าวซอย เจอร้านริมถนนหน้าไทยประกันชีวิต กำลังจัดข้าวของอยู่ครับ

เลยไปนั่งเล่นที่สวนสาธารณะ ค่ำๆ กลับมาที่ร้าน สั่งข้าวซอย 1

เยอะมากครับ อิ่มเลย 35.-


กลับห้อง นอนดูทีวี



เช้าวันที่ 4 ตื่นเช้าเก็บของใส่กระเป๋า กะว่าจะซื้อมื้อเช้าไปนั่งกินที่บ้านกาเเฟไทลื้อ

ผ่านตลาดปัวเลยเเวะ

เดินดูไปทั่วตลาด วัมนธรรมการกิน


ลูกไรก็ไม่รู้


ได้มื้อเช้ามา


ไก่อบ 30.- ข้าวเหนียวนึ่ง 10.- เยอะมาก ข้าวเหนียวกวนหน้ามะพร้าว 10- ข้าวเหนียวหน้าสังขยา 5.- ขนมกล้วย 5.-

อเมริกาโน่ ไม่ใส่น้ำตาล 35.-

กินไม่หมดครับ ห่อเก็บไว้มื้อต่อไป


ยามเช้า สวยไปอีกแบบครับ วิวตากผ้าทอ


เเวะไปชมวิววัดภูเก็ต


เที่ยงกว่าๆ กลับเข้าเมืองครับ


จุดหมาย ข้าวซอย ของหวานป้านิ่ม

ผ่านร้านของหวานเลยเเวะก่อนครับ

บัวลอยมะพร้าวอ่อน + ลูกเดือยมะพร้าวอ่อน 50.- อิ่มเลยไม่ได้กินข้าวซอย


จากนั้นเเวะไปเดินงานเเข่งเรือ

ร้อนมาก เลยหาร้านกาเเฟเย็นๆนั่งตากเเอร์แปปนึง


สั่งโกจิเบอรี่ปั่น 65.- จำชื่อร้านไม่ได้



ตกเย็นก็ไป บขส. เเวะ 7-11 จ่ายตังค์รถทัวร์ กรุงเทพ - ตรัง 625.- เเล้วก็คืนรถ

นั่งรถทัวร์บุษราคัมกลับกรุงเทพ

รอบหน้าจะไม่ใช้บริการบุษราคัมเเล้ว ทรมานมาก



เช้าวันที่ 5 ถึงหมอชิต ตี 4 กว่าๆ กะว่าจะงีบสักพัก คนเยอะมากครับ

เลยไปห้องน้ำ ทำภารกิจส่วนตัว ไปรับตั๋วกลับตรัง รถรอบ 17.30 น.

กินข้าวเสร็จ กะว่าจะไปร่วมกิจกรรม Car free day ที่สนามหลวง เเต่เป้ใบใหญ่เกิน

เลยเปลี่ยนเป้าหมายเป็น วังหลัง ท้องฟ้าจำลอง จตุจักร

เเบปเป้ขึ้นหลัง เดินไป BTS จตุจักร แลกบัตรโดยสาร ลง ที่สยาม เเล้วเปลี่ยนขบวนรถ ไปลงสะพานตากสินครับ

รอขึ้นเรือธงส้ม ไปวังหลัง ลงที่พรานนก เดินไปถึงวังหลังเลย (รอบก่อนลงที่ศิริราช เดินไกลอยู่ครับ)

เกือบๆเที่ยง หิว เเวะกินข้าวก่อน เเกงเป็ด ไข่ดาวราดไก่สับ 65.-

เดินไปเรื่อยๆ เจอร้านชูชิ เเวะเข้าไป

นั่ง ชั้นบน ดูเมนู สั่งอาหาร


ยังอิ่มข้าวเมื่อกี้อยู่ เลยได้มาเเค่นี้


มื้อนี้ 69.-


จากนั้นก็เดินเล่นไปเรื่อยๆครับ

พิซซ่า น่ากิน อยากลองมาก เเต่อิ่ม


ขนมถ้วย สายตาป้าเเกอ้อนวอน ช่วยซื้อป้าหน่อย 555


ร้านขนมปังขึ้นชื่อ เเห่งวังหลัง


ใส้เเกงกระหรี่ไก่


จากนั้นก็นั่งเรือกลับ

มาเดินจตุจักรต่อ เย็นขึ้นรถกลับตรัง ถึงตรังรุ่งเช้าอีกวัน


จบทริป

ค่าใช้จ่าย

ค่ากิน 700.-

ค่าที่พัก 1180.

ค่าเช่ามอเตอร์ไซด์ + น้ำมัน 930.-

ค่ารถไป-กลับ ตรัง - น่าน 2200.-

ค่าเรือไปวังหลัง 15+15

ค่าบีทีเอส 170

มอไซด์รับจ้าง จตุจักร - หมอชิต 40

ค่ากิน 69+65 +50



รวม 5434 บาท

ความคิดเห็น