ช่วงวันที่ 1-2 ตุลามคม 2559 ที่ผ่านมา นาขั้นบันได ป่าปงเปียง ความฝันสังครั้งหนึ่ง ที่อยากมาถ่ายรูปมากๆ เห็นในรีวิว ก็เยอะแยะไปหมด ผ่านไปช่วงเวลาหนึ่ง ผมก็ลืมมันไปเลย ก่อนหน้านี้....หนึ่งอาทิตย์ ได้เห็นเพื่อนไปเที่ยวมา โอ้ว....สวยงามมาก ผมไม่รอช้ารีบเปิดดูรีวิวอีกครั้ง ยิ่งดูก็ยิ่งอยากไป.... ศึกษาเส้นทาง และการเดินทาง อ้าวว....อยู่บนเส้นทางดอยอินทนนท์ เหรอ.... ง่ายละ เพราะผมเคยลุยเดียวมาแล้ววว 2-3 ครั้ง แต่ตอนนั้นไม่ได้เก็บข้อมูลอะไรมากเท่าไหร เอาละ....ลุยอีกสั้งครั้ง จะเป็นอะไรไป ในเมื่อใจมันเรียกร้อง..... และครั้งนี้ก็จะลองมาเขียนรีวิวดูซะหน่อย สำหรับการเดินทางของผมจะใช้รถทัวร์ รถสองแถว กับ มอเตอร์ไซค์เนี้ยแหละ เพราะ......ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว.....ฮ่าๆ มีรถให้เช่านะ....แต่จะมันส์เหรอ.....อยากใกล้ชิดผู้คน ก็ต้องแบบนี้แหละ วันเวลาพร้อมก็ลุยเดียวกันเลยครับ........Let's go

เริ่มแรกเลยต้องไปขึ้นรถทัวร์ที่ ศูนย์สมบัติทัวร์ ถ.วิภาวดี เมื่อก่อนผมจะนั่งรถทัวร์ของ บขส. มีสายเดียวด้วยที่จะไปลง อ.จอมทอง นั่งสายนี้ก็ดีหน่อยไปถึงแล้วเช่ามอไซค์ไปขึ้นดอยอินทนนท์ได้เลย แต่ด้วยความอยากนั่งสบาย เอนนอนได้สบายหน่อย.....มะๆ....ไหนๆ แล้ว...ขอ VIP เลยแล้วกัน ราคาก็ 759 บาท แต่เสียอย่างเดียว...ต้องโทรจอง ไม่มีระบบจองออนไลน์ กว่าจะมีคนรับสาย...ก็นานพอสมควร...จากนั้นผมก็นั่งไฟฟ้าใต้ดิน มาโพล่ที่สถานนี พหลโยธิน หน้าเซ็นทรัลลาดพร้าว เดินข้ามสะพานลอยมาก็มาต่อรถเมลล์ สายไหนก็ได้มั้ง....!! น่าจะผ่านหมด ไม่ได้นั่งรถเมลล์ซะนานนนนนนนน พี่ครับเท่าไหรครับ....มองผมกันทั้งรถ...ฮ่าๆๆๆ


มาถึงแล้ว ศูนย์สมบัติทัวร์ ถ.วิภาวดี มีทั้งร้านกาแฟ, 7-11, ร้านอาหาร เยอะแยะไปหมดเลยครับ มีครบทุกอย่าง

ร้านกาแฟด้านนอก ก็ฟินดี.........ใครมาเร็ว หรือมารอรับเพื่อนก็ เพลินๆ กันไป ส่วนผมขอไป 7-11 ดีกว่า

ที่นั่งพักผู้โดยสาร...รอขึ้นรถ.....หรือมารอญาติ.....ได้แต่ยืนมองว่า ว่างเมื่อไหร เสียบบบบบบ ทันที !! กว่ารถจะออกก็รอบ 21.30 น. เล่นมาถึงซะยังไม่ถึงสองทุ่ม แต่มาเร็วก็ดีนะครับ....จะได้มีรีบร้อน....ชิวๆๆกันไป

ขึ้นรถแล้ว......มีหนังให้ดูด้วย.....ดูไม่เคยจบหลับก่อนตลอด...อยู่บ้านนี่ตาสว่างไม่หลับไม่นอน....ที่นั่งก็เอนได้สบายแต่ก็ยังไม่สบายมาก ถ้าได้นอนไปเลยจะดีมาก....ฮ่าๆๆ ผมเลือกชั้นล่างด้านหน้าสุด พอมีทีให้ยื้นขาบ้าง.....รถจะจอดให้แวะกินข้าวที่ ครัวต้นกำแพง จ.กำแพงเพชร ก็เป็นอันแสดงบอกว่า ครึ่งทางแล้ว....... รายการอาหารก็มีหลายอย่าง ข้าวต้ม ไข่เค็ม ยำผักกาดดอง ไช้โป้ผัดไข่ กระเพรา ถั่วลิสง ราดหน้า เยอะแยะหลายอย่างเลย........กินได้ไม่อั้น.....แต่เวลา 20 นาทีนะ ยัดๆ ก่อนลงจากรถ..!! จำเลขข้างรถให้ดี รถไม่ได้จอดที่เดิมนะ.....เคยหารถไม่เจอ...จนขึ้นรถคนสุดท้าย

จำได้ว่ามาถึงขนส่งอาเขตประมาณ 7:30 น.โดยประมาณ ขนม น้ำ ผ้าเย็น อะไรที่แจกบนรถทัวร์ ผมเก็บมาใส่กระเป๋าหมด เพราะคิดว่า มันจะต้องใช้ไว้เป็นสเบียงระหว่างเดินทางแน่ๆ...... ฟันไม่แปรง หน้าไม่ล้าง เดี๋ยวไปล้างหน้ากันที่วัดพระธาตุศรีจอมทอง และจะได้ไปกินข้าวที่นั้นด้วย จากอาเขตก็ต้องต่อรถสองแถวแดง เพื่อไปประตูเชียงใหม่ ค่ารถ 40 เคยอ่านมา เขาบอก 20 บาทก็ได้ แต่เอาน่าไม่ต่างกันมาก...... แต่มาติดใจตรงที่ว่าให้ 100 บาท ลุงแกบอกมีตังทอนอยู่ 50 บาท นั้นงัยผมโดนแล้ว...เป็นธรรมเนียม รถแดงเชียงใหม่ ฮ่าๆ จากนั้นผมก็ต่อรถสองแถวเหลืองไปลง อ.จอมทอง จอดแนบข้างกันเลยที่เดียว เพราะรถสองแถวเหลืองกำลังจะออกพอดี

รถสองแถวเหลืองไม่ได้ถ่ายเลย....... เศร้า แต่ราคาจากประตูเชียงใหม่ ไป ลงหน้าวัดพระธาตุศรีจอมทอง อ.จอมทอง อยู่ที่ 34 บาท ผมถามคนในรถที่โดยสารมาด้วย....ต้องรู้จักถาม รู้จักพูดคุย แต่ถามเยอะคุยเยอะไม่ได้นะ.....ลืมไปยังไม่ได้แปรงฟัน....ฮ่าๆๆ ไม่ได้แอ๋มหรอก...... รีบนับเงินให้ครบทันที

ถึงแล้ครับ....... วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร น่าจะถึงประมาณ 9-10 โมง อย่างแรกเลยผมก็ต้องไปแปรงฟัน ล้างหน้าก่อน จากนั้นผมก็เขาวัดมันเป็นเหมือนธรรมเนียมของผมอย่างหนึ่งคือ ผมจะต้องไปไหวพระขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้การเดินทางปลอดภัยทุกเส้นทาง........ มีซื้อหวยด้วย 1 ใบ เพื่อจะถูกรางวัล

อิ่มบุญแล้ว........ก็มาอิ่มอาหารกันดีกว่า............ร้านข้าวแกงอยู่ข้างๆกับวัดแถวๆ ตรงที่เขาขายพระเครื่อง ชุดนี้ 40 บาทครับ

นั้นงัยลุงตี๋ แกทำอะไรของแกอยู่ก็ไม่รู้....... ร้านนี้เป็นร้านมอไซค์เช่า ราคา 300 มัดจำ 1000 ร้านชื่ออะไรก็ไไปถึงประมาณ 11 โมง ลุงแกคิดเป็นเที่ยงเลย.....ดีจัง ร้านจะอยู่ตรงข้ามกับหน้าวัดเลย.....ตอนนี้ก็เริ่มมีร้านมาเปิดข้างๆกับร้านลุง แต่ผมก็ยังเลือกร้านลุง ในความคิดผม ผมคิดว่า ลุงจะต้องดูแลใส่ใจรถทุกคันที่ให้เช่า ด้วยความที่ลุงแกเป็นคนเจ้าถื่น เปิดมานาน รู้ว่ารถทุกคันที่จะขึั้นดอยต้องเป็นอย่างไร แต่ถึงอย่างไรถ้าขับประมาณเอง ก็ไปโทษใครไม่ได้....... ผมใช้บริการที่นี่มา 4 ครั้งแล้วผ่านมา 4 ปี

เอาละนะ..........รถพร้อม........ใจพร้อม......... อย่าลืมใส่หมวกกันน๊อค ด้วยนะครับ เวลาออกจากหน้าวัดก็น่าจะประมาณ 11:30 น. เติมน้ำมัน 60 บาท

ขับมาเรื่อยๆ ก่อนจะขึ้น ดอยอินทนนท์ ก็จะผ่านน้ำตก แม่ยะ แม่กลาง มาตามลำดับ แต่น้ำตก วชิรธาร ผมไม่เคยเข้ามาชมเลย บอกเลยว่าสวยมากกก จริงๆ แล้วผมก็พกกล้องตัวใหญ่มา แต่ถ่ายไม่ได้เลย ผมใช้เวลาอยู่ที่นี่ก็ประมาณ เกือบ ชั่วโมง ดื่มกาแฟ ชาร์ตแบตด้วย ชิวๆ ไม่ต้องรีบ

จากน้ำตกวชิรธาร ขับไปสักระยะ ก็จะผ่านน้ำตกสิริธาร แต่ผม ไม่ค่อยเห็นมีรถจอดแวะเลย แถมจอดแล้วยังต้องเดินเข้าไป ไม่เอาดีกว่า กลัวมอเตอร์ไซค์ หาย........ ขับๆ ต่อ ถึงแล้ว บ้านแม่กลางหลวง


ผมก็อาจจะถ่ายรูปไม่ค่อยเก่งเท่าไหรนะครับ............. จากบ้านแม่กลางหลวง ผมก็ไปต่อ เพื่อจะไปด่านตรวจจุดที่ 2 ระหว่างทางก็เริ่มมีฝนตกปอยๆ เสื้อกันฝนก็ไม่ได้เอา..... อากาศก็เย็นขึ้น ยิ่งสูง ยิ่งหนาว......... พอมาถึงด่านตรวจผมก็แวะจะเข้าห้องน้ำ ตายๆๆ แล้ว..!! กุญแจ !! เห้ยเอาแล้ว กุญแจ หาย หล่นไปไหน จะไม่ดับเครื่อง เหรอ แล้วไปต่อเหรอ แล้วจะสตาร์งัย ถ้าดับระหว่างทาง จากนั้นผมก็ยอมดับเครื่อง ก้มมอง เพื่อตกแล้วไปติดที่เครื่อง ก็ไม่เจอ คิดในใจ ซวยแล้ว..... ผมก็คิดเลยว่าโทรบอก ลุงตี๋ ก่อนดีกว่า.... ระหว่างนั้นผมก็คิดแล้วว่า ต้องต่อสายตรงแน่ๆ ลุงตี๋ ได้บอกว่า ให้หากุญแจอะไรก็ได้ที่คล้ายๆกัน ค่อยๆเสียบ ผมก็ว่างหูทันที คิดทันที่ หากุญแจ กุญแจบ้านที่ติดมา ก็เสียบได้แต่ก็หมุนไม่ได้ เอาละ ต้องไปพึ่งเจ้าหน้าอุทยานแล้ว เสียบเข้า ก็หมุนไม่ได้อีก เจ้าหน้าที่ก็บอกว่า ให้ต่อสายตรงเลย อืมมมมม......... ก็คงต้องเป็นแบบนั้น แต่ผมก็ไม่อยากให้มันบานปลาย....... พี่ผมขอยืมมอไซค์หน่อย ขอขับไปหากุญแจรถหน่อย จากตรงนี้ไป บ้านแม่กลางหลวง 11 กิโล ขับประมาณ 20 กม ฝนก็ตก เอาน่าเพื่อจะเจอ ชิวๆไป เวลาเหลือ....ฮ่าๆๆ ไม่เจอ ผมนี่ยอมแพ้เลย พี่ๆ ต่อสายให้ตรงให้หน่อยครับพี่......... พี่อุทยานเก่งมาก ชำนาญมากครับ ต่อแล้วก็มีสายไฟ ห้อยมากเอาไว้สตาร์ ส่วนน้ำมันก็ไม่ต้องห่วง ตั้งแต่ไปเติมน้ำมันมา ไม่ได้ปิดเบาะ........ ผมนี่รีบเอากระดาษยัดเลย เพื่อน้ำมันหมด จะได้เปิดเติมได้ ขอบคุณเจ้าหน้าที่อุทยานมากๆเลย ครับ ผมก็ได้ให้เงินพี่เขาเพื่อช่วยค่าน้ำมันรถที่ยืมไป แต่พี่เขาก็ไม่เอา ผมเลยต้อง ยัดเยียดให้ได้.....

ระบบใหม่........... จะสตาร์ก็เอาทองแดงมามัดไว้.......ผมก็หาหลอดมาพันไว้อีกที กลัวจะหลุดเข้าไป

เป็นไปได้..!!! อย่าลืมหาอะไรมาคล้องกุญแจผูกติดกับเอวไว้นะครับ................

เอาละลุยต่อ.......... จากด่านตรวจที่ 2 มานิดหนึ่ง ให้เลี้ยวซ้าย จะเป็นเส้นทางที่ไป อำเภอ แม่แจ่ม ระหว่างทางผมก็เห็นชาวบ้าน ก็เลยแวะไปถาม เขาบอกว่าให้วิ่งไปทางน้ำตกห้วยทรายเหลือง ผมก็ขับไป มองป้ายไป ขับไปเรื่อยๆ ก็จะผ่านเหมือนเป็นป้อมเจ้าหน้า แล้วก็มีเสียงตะโกนออกมาว่า จอดๆ ให้ถกกางขึ้น รองเท้าผ้าใบ ถอยออกเลย ไอผมก็งงซิ........ จะตรวจผมอะไรละเอียดขนาดนั้น........ ฮ่าๆ จริงๆ แล้วทางข้างหน้า เป็นดินโคลน เพราะฝนตกหนักมากที่ผ่านมา แต่ช่วงที่ผมไป ฝนหยุดพอดี ก็ถือว่าโชคดี และก็มาเจอพี่คนหนึ่ง ก็มาแบบเดียวกับผมเลย ลุยเดี่ยว ไปพี่... เราไปลุยเดียวกัน .........

นั้นงัยเจอแล้ว...... โคลน !! สายตาที่ต้องขยาย มือ แขน ขา ทำงานอย่างสมานฉันท์ อย่าๆ อย่าล้ม เด็ดขาด

พี่ครับบบบบบบบ................. รอผมด้วย........จะรีบไปไหน......ใจร้าย....^^!

คนอื่นไม่รู้จะมีเทคนิคแบบไหนนะ............... แต่ผมขอวิ่งตรงช่องที่รถวิ่งแล้วกัน....... แต่อย่าขับเร็วนะครับ ค่อยไป ไม่ต้องรีบ เพราะมีทั้งขึ้น และลง ตอนลงนี่ ลุ้นเลย ล้อหน้าล้อหลัง เริ่มไปคนละทางแล้ว...... สายเป็นงูเชียววววว

ตามสภาพ ขานี่สไลด์ สนุกสนาน เลย กางปีก เพิ่มการทรงตัว ฮ่าๆ แต่ระวังด้วยนะครับ เพราะเดี๋ยวไปเจอหิน........ ที่เท้าเปล่าก็เพราะว่า ผมไม่มีร้องเท้าแตะครับ ฮ่าๆ เข้าถึงธรรมชาติมาก

แสงเย็น แสงเย็น !! ผมรีบจอดทันที ได้ยินมาว่า แสงเย็นที่นี่สวยงามมาก โทรหาที่พัก เดี๋ยวค่อยโทรแล้วกัน...... มอเตอร์ไซค์ ก็ตามสภาพเลยครับ เละเทะ แต่ไม่ล้ม ก็โอเครแล้วครับ....... ลุงที่พักก็โทรหาผมตลอดเวลา ถามว่าถึงไหนแล้ว แกบอกว่าให้เขาไปที่บ้านก่อน เอาละ ไปที่พักก่อนแล้วกัน เดี๋ยวค่อยออกมาถ่ายใหม่ กว่าจะหาบ้านลุงแกเจอ หลงไป หลงมา ฮ่าๆๆ

ถ่ายรูปไม่สวยเท่าไหรนะครับ......... ภาพจาก Canon 40D เก่า.....แต่ถึก.... ไม่เก๋านะครับ....^^ มือสองอีกต่างหาก แล้วก็เอามาแต่งด้วย PS อีกทีครับ......

จะมืดแล้ว........ วันนี้พอแค่นี้แหละ ขอตัวไปกินข้าวก่อนดีกว่า หิวแล้ววววว.........

บ้านที่ผมพักไม่ได้เป็นบ้านแบบ ริ่มทุ่งนา หรือกลางนา ครับ แต่เป็นบ้านของลุงแกเลย....ลุงแกชื่อ ลุงเซ เจ้าของที่พักที่ชื่อว่า บ้านพักม่อนนา ครับ เบอร์โทร 096-445-5746 ก่อนหน้านี้ 2 วันโทรไปหลายที่ก็เต็ม ผมโทรหาลุง บอกลุงว่า ผมขอนอนไหนก็ได้ ขอให้ได้พักครับ บ้านลุงก็ได้... ห้องนอนลุงก็ได้ เบียดๆๆกันจะได้อุ่นครับ....ฮ่าๆๆๆ ลุงแกบอกว่ามาพักที่บ้านลุงแล้วกัน...... และก่อนหน้านี้ที่ผมกำลังจอดมอไซค์ ก็มีคนจะมาพัก 3 คน แกก็พยายามโทรหาผมให้ติด เพราะผมได้โทรหาลุงก่อน ไม่งั้นแกก็จะยกให้คนอื่น ผมว่านะ ถ้าเป็นที่อื่น ก็คงยกเลิกผมไปแล้ว เอา 3 คนดีกว่า นอนได้หลายคนเลย ขอบคุณลุงมากๆๆ ครับ ตามจริงเอา 3 คน มานอนกับผมก็ได้นะ... เบียดๆ กันอีกแล้ว...ฮ่าๆๆ

หิวแล้วทานข้าวดีกว่า.......... จะบอกว่า ลุงเขาคิดคืนละ 500 บาทครับ กับข้าว 3 มือ มั้ง แต่ผมได้กิน 2 มือ เย็น-เช้า แต่ผมไม่ซีเรียสครับ มีอะไรก็กินครับ.... จะบอกว่า ลุงเอากับข้าวมาทำไมเยอะจัง ผมขอข้าวเยอะๆๆดีกว่า ข้าวมาเป็นหม้อ หมดครับ..... อิ่มเลย...... ที่นี่ไม่มีไฟนะครับ และไม่มียุงนะครับ ไม่ต้องกางมุง อากาศเย็นกำลังดี แต่จะบอกว่า น้ำๆ น้ำๆ เย็นมากกกกกกก จะไม่อาบก็ไม่ได้ เอ้าๆ อาบก็อาบ อดสังสัย ผมถามลุงว่า ที่นี่ไม่มีไฟจริงๆ เหรอครับ ลุงบอกว่าอยู่แบบนี้แหละมา 50-60 ปีแล้ว มีไฟนะ แต่เป็นแสงโซล่าเซล ก็คงจะปั่นไฟไว้คราวจำเป็น แล้วนักท่องเที่ยวบ้างกลุ่ม ก็อยากให้เป็นแบบนี้ เขาว่ามัน คลาสสิค อิ่มก็นอนดีฟ่า พรุ่งนี้หวังว่าคงจะหมอก หรือไม่ก็แสงเช้าสวยๆ อย่าให้ฝนตกก็พอละครับ..........เสียดายไม่ได้ออกไปดูดาว...นึกถึงทางที่จะออกไปแล้วปวดใจขอพักดีฟ่า

เอ้ก....อี๊....เอ้ก...เอ้ก...เหลือบไปดูนาฬิกา โอ้ยยย จะตี 5 แล้ว ผมนี่รีบสะดุ้งตื่นเลยอย่างไว อย่างรีบ เปลี่ยนเสื้อ หยิบกล้อง สตาร์รถ......เห้ยฟันไม่แปรง.......(คิดในใจ) เอาน่ามันเป็นเรื่องปรกติสำหรับผมไปซะแล้วววว.........ฮ่าๆๆ

จำไม่ได้ว่ามาถึงประมาณกี่โมง..........เห็นมีหมอกเท่านั้นแหละ.......ผมก็กดๆ และกดชัตเตอร์ รั่วๆ เลย

บางช่วงก็มีหมอกฟุ้งๆ บาง แต่ผมก็ไม่หนีไปไหน จุดๆนี้ มาถึงขนาดนี้แล้ว ผมยืนอยู่ได้ทั้งวัน หันไปทางไหนก็สวยไปหมด

ด้านหลังของผมก็เป็นบ้านแบบโฮมสเตย์ อยู่ติดริมนาเลย ตื่นเช้ามาก็นั่งชมหมอก ทุ่งนา ได้สบายเลย แต่ว่า...บ้านริมนาแบบนี้ต้องจองกันเป็นเดือนๆ นะครับ อย่างไรใครจะนอนแบบนี้ก็ต้องจองล่วงหน้าหน่อยนะครับ.............เต็มตลอด

เดินลงมาเรื่อยๆ ตามขั้นบันได พยายามที่จะเดินไม่ทำให้ นาข้าวเสียหายมากที่สุด อย่างไรก็ช่วยๆกันระมัดระวังนาข้าวด้วยนะครับ....... เป้าหมายของผมก็กระท่อมหลังนี้แหละครับ.........ช่วงที่หมอกกำลังฟุ้งๆ แต่ผมว่าจะต้องมีหมอกอีกแน่ๆ รอได้ ไม่รีบ

นั้นๆ...!!! หมอกเริ่มหายฟุ้งแล้วววววว.......................เหมือจะเห็นทะเลหมอกอีกครั้ง.........

เดินผ่านตรงนี้ไป.........ข้างหน้าคือสวรรค์............เนี้ยเหรอเปล่าที่เขาเรียกว่า สวรรค์บ้านนา (อิจฉาสองคนนั้นจริง...ๆ)

อย่าๆพึ่ง....เบื่อกันนะครับ.........

หมอกเริ่มฟุ้งอีกรอบ......ดูเวลาแล้วก็จะสายเกินไปละ จะต้องกินข้าว อาบน้ำ เตรียมตัวกลับละ เพราะผมต้องคืน รถมอเตอร์ไซค์ไม่เกินเที่ยงครับ........ก็ยังไม่รู้ว่าขากลับจะเป็นอย่างไร รู้แต่ว่า ก็ต้องลุยโคลน กันต่อไป

หันไปด้านหลัง พระอาทิตย์ขึ้นมาแล้ว............แต่หมอกเยอะมากๆ ไม่เห็นแสงเลย........

จะได้ว่าก่อนจะได้ถ่ายภาพใบนี้...........ผมได้เข้าถึงธรรมชาติแล้วววววววววว (เดินตกทุ่งนาหายไปทั้งตัว) ไม่รู้พี่ที่ยืนข้างหน้าผมจะเห็นป่าว....แต่ที่รู้ๆ โชคดีข้างหลังไม่มีคนเดินตามหลังมา.....ฮ่าๆ

จบละครับ.....สำหรับการเดินครั้งนี้.......ข้อมูลชัดบ้างไม่ชัดบ้าง ภาพสวยบ้างไม่สวยบ้าง ก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ เป็นการเขียนรีวิว ครั้งแรกเลย ตั้งแต่ไปเที่ยวมา มีครั้งนี้แหละที่ผมเก็บรายละเอียดมากที่สุด และการเดินทางครั้งต่อไปผมจะมาเขียนรีวิวให้อ่านอีกนะครับ

Phubet Thitichaimongkol

 วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 22.44 น.

ความคิดเห็น