พอได้ทราบข่าวกับน้องๆ ว่า มูมู่ คาบาเร่ท์ โชว์ จะเปิดให้บริการในวันที่ 29 กันยายน จะรีบเครียร์งานต่างๆ เพื่อที่จะบึ่งรถไปยัง เขาหลัก จ.พังงา เพื่อร่วมชมการแสดงโชว์ครั้งแรกของ Season การท่องเที่ยวทะเลอันดามัน ที่กำลังจะเริ่มอีกเพียงไม่กี่วัน .... ถามว่าทำไมต้องมาดู??? อลังการเหรอ??? สนุกเหรอ??? ผมขออธิบายว่า มูมู่ คาบาเร่ท์ โช เป็นโรงคาบาเร่ท์เล็กๆ ในเขาหลัก จ.พังงา เป็นที่รวมของสาวๆ (ประเภทสอง) ในพื้นที่ อาจไม่อลังการอย่างโรงคาบาเร่ต์ใหญ่ๆ ไม่ได้สวยงามมากมาย แต่ในภายในโรงโชว์คาบาเร่ท์นี้ ก็สามารถเรียกเสียงหัวเราะและความสนุกสนานให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเขาหลักได้ทุกๆ วันตลอด Season .... เพราะอะไรนั้น ... ตามผมมาดีกว่า เดี๋ยวผมพาไปชมครับ

เมื่อเดินทางมาถึง "เขาหลัก" ช่วงบ่ายยังมีเวลาอีกเหลือเฟือที่จะรอชมโชว์คาบาเร่ท์ รอบนี้ผมเลือกที่พักที่อยู่ตรงข้ามคาบาเร่ท์เลย เพราะคิดว่าสะดวกในการเดินทางในช่วงนี้ที่ฝนตกทั้งวันทั้งคืน ที่พักชื่อว่า K2 Backpacker Hostel [สำหรับคนที่เดินทางบ่อยๆ ถ้าได้ยินคำว่า Hostel ส่วนใหญ่ราคาต่อคืนก็มักจะไม่ถึง 1,000 บาท]

ฝั่งตรงข้ามเป็น มูมู่ คาบาเร่ท์ เลย


ยังดูเงียบเหงาเพราะฝนตกหนัก ผมเลยอาศัยเวลานี้ถ่ายภาพ K2 Backpacker ไปเพื่อฆ่าเวลา


ที่ K2 Backpacker มีห้อง 2 -3 แบบ มีทั้งแบบห้อง Dorm (Share Bed นอนรวมกับคนอื่น) และ ห้องที่เป็นห้องส่วนตัว ... ส่วนตัวกระผมนั้นเลือกห้องส่วนตัวเพราะราคาเพียง 600 บาท และ ช่วงนี้ลดเหลือ 500 บาท เท่านั้น


ขนาดห้องพักไม่ได้ใหญ่มากมาย แต่ก็ไม่รู้สึกอึดอัด ถึงแม้ว่าจะมีคนเพิ่มมาอีกสักคน


ห้องน้ำขนาด 1x1 เมตร โดยประมาณ ดูเล็กไปสักหน่อยสำหรับคนตัวใหญ่ๆ และ ไม่มีอ่างล้างหน้า (ถ้าใส่อ่างน้ำไปคงหมุนตัวไม่ได้ ฮ่าๆๆๆ)


แต่สำหรับผมก็ไม่ค่อยสนใจสักเท่าไหร่ ฮ่าๆๆ และ ราคาก็ประหยัดขนาดนี้ ถือว่าสมน้ำสมเนื้อแล้ว


มี Cable TV ให้ดูด้วยนะ


ระบบ Key Card ด้วยนะเอ้อ


Wifi Free ก็มีใช้


500 บาท!!!! OMG !!! นี่ผมว่าก็ครบเหมือนโรงแรมทั่วไปแล้วนะ ขาดแต่ ตู้เย็นและมินิบาร์


ห้องครัวมีไว้เป็น Share Kitchen ให้ทุกคนสามารถใช้ได้เหมือนบ้าน

ถ่ายไปถ่ายมาพร้อมกับหลับไป 1 ตื่น ฟื้นขึ้นมาก็พลบค่ำพอดี เดินออกมานอกที่พักก็พบ มูมู่ คาบาเร่ท์ เปิดไฟเรียบร้อยแล้ว


ขอไปรับประทานข้าวเย็นก่อนนะครับ เดี๋ยวมาต่อ

ถึงแม้ เขาหลัก จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติและมีโรงแรมแพงๆ เยอะ แต่ เราก็สามารถหาอาหารง่ายๆ ราคาไม่แพงได้ เพราะ ส่วนใหญ่สังคมแถวนี้ยังมีชาวบ้านเป็นส่วนมาก 40 บาทก็หาอาหารจานเดียวรับประทานได้ครับ

กินอาหารเย็นง่ายๆ เสร็จเรียบร้อย ก็โชคดีที่ฝนหยุด พร้อมกับเจอ "พี่หมู" หรือ ชาวบ้านแถวนี้เรียกว่า "คุณแม่หมู" ผู้ให้กำเนิด มูมู่ คาบาเร่ท์ ออกมาจากครรภ์ตัวเอง (คุณแม่บอก ฮ่าๆๆๆ)


คุณแม่บอกว่าให้เข้าไปชมข้างในได้ก่อน เลยถือวิสาสะ เข้าไปถ่ายภาพซะเลย


ข้างนอกดูเล็กๆ แต่ภายในก็ดูกว้างขวางดี (เก้าอี้เต็มเลย)


แต่ ฝนตกแบบนี้ จะมีคนมามั้ยนะ .......... นี่คือ คำถามในใจ แต่ก็ภาวนาให้วันแรกคนเยอะๆ นะครับ



ระหว่างรอลูกค้ามาดูโชว์ เลยบอกให้คุณแม่หมู ขอถ่ายรูปนางโชว์ทั้งหลายมาให้เพื่อนๆ ดูกันหน่อย

ถ่ายรูปเพียงไม่เท่าไหร่ แขกมากมายก็ทยอยมากันเต็มร้าน


โชว์เตรียมเปิดม่านแล้ว


อีกไม่กี่นาทีนางโชว์จะออกมาโชว์ให้เราชม ... สักครู่นะครับ

Let's Show


เพียงโชว์แรกที่ออกมา ก็เรียกเสียงปรบมือและเสียงหัวเราะกันดังสนั่นทั้งร้าน

[อย่าถามชื่อเพลงเพราะเป็นเพลงโชว์ที่เราไม่ค่อยได้ยินในชีวิตประจำวันเลย ฮ่าๆๆๆ ]

เพราะภายในโรงคาบาเร่ท์นั้นค่อนข้างมีแสงน้อยและสลับกับแสงไฟหลากสี ผมซึ่งไม่ใช่มืออาชีพ ทำได้แค่กดรัวๆ เพื่อหวังจะให้ได้รูปดีๆ สัก 2-3 ภาพ


แม้จะเป็นเพียง "ลิปซิงค์" แต่ตัวเอกแต่ละคน ก็พยามเต็มที่ทั้งเรื่องปากที่ต้องตรงกับเพลงและอารมณ์ที่จะสื่อถึงเพลงนั้น


บางโชว์นักแสดงแต่งกายเป็นตัวตลก เพียงแลกให้ลูกค้ามีเสียงหัวเราะ


โชว์ดำเนินต่อไปสลับสับเปลี่ยนไปหลายต่อหลายฉาก แต่ นักท่องเที่ยวก็ไม่มีวี่แววว่าจะลุกออกจากที่นั่งเลย


นักแสดงเพียงไม่กี่คน สลับสับเปลี่ยนกันขึ้นมารอบต่อรอบ ชุดต่อชุด


และจบด้วยเพลงช้าแบบสวยๆ


มีแต่ภาพอาจไม่ได้อรรถรส ลองชมใน Clip VDO บางฉากของการแสดง



จากการนั่งดูอยู่ 1 ชั่วโมง โดยประมาณนั้น ทุกๆ นาทีมีแต่เสียงหัวเราะ กรีดร้องอย่างสนุกสนาน และ ปรบมือเป็นระยะๆ ของนักท่องเที่ยว

" โชว์ไม่ใหญ่ แต่ใจส่งไปถึง นี่แหละ โชว์ของ มู มู่ คาบาเร่ท์ "


Hello Phang-Nga

 วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 18.54 น.

ความคิดเห็น