หลังจากรีวิวบล็อก 10 ร้านกาแฟ / ร้านอาหาร แม่กำปอง ต้องปักหมุด!! ไปแล้ว
มีคนสนใจถามถึงที่พักกันเป็นจำนวนมากค่ะ จริงๆ แล้วเราแยกหมวดแม่กำปองออกเป็นสองรีวิวนะคะ
รวมร้านอาหาร ร้านกาแฟ 10 ที่เผื่อเป็นข้อมูลให้ใครได้ตามรอยกันง่ายหน่อย และรีวิวนี้จะมาเอ่ยถึง ฮิมดอยโฮม แม่กำปอง
โฮมสเตย์ริมธารแห่งหนึ่งในแม่กำปอง ที่เราได้ไปใช้ชีวิต Slow Life กันช้าๆ แบบเนิบๆ ที่นี่มาคืนนึง เพียงคนละ 580 บาท รวมอาหารเช้า
เรื่องนี้ต้องขยายจ้าาาา ว่าคุ้มค่ามากมายแค่ไหน อิอิ
จริงๆ แล้วก่อนที่เราจะไปเยือน ฮิมดอยโฮมแม่กำปองในครั้งนี้ เรามักจะหาข้อมูล ฟิตแบ็ค เรื่องราวเกี่ยวกับฮิมดอยโฮมมาก่อนด้วยนะคะ เราไปเปิดอ่านหน้าเพจ ฮิมดอยโฮม ดูโพส ดูคอมเม้น แต่ละคน รวมถึงเจ้าบ้านเอง นั่นคือพี่อ้อ เห็นปากต่อปาก
พูดกันหลายเสียงว่า พักที่ฮิมดอยโฮมหลังนี้ มีความรู้สึกเหมือนมาเที่ยวบ้านญาติๆเลย มาแล้วมีความสบายใจ
พี่อ้อ เป็นกันเองอย่างที่สุด แนะนำสถานที่หลายอย่างให้รู้จักกันมากขึ้น
เมื่อรับรู้เป็นแบบนี้ ทำให้เรามองว่า นี่คือเสน่ห์อย่างหนึ่งของฮิมดอยโฮมหลังนี้ค่ะ
ที่ๆ เรากำลังพาเพื่อนๆ ไปเยือนกัน เราไปเยือนมาแล้ว มาตอกย้ำมาการันตีให้ว่ามันจริงมั้ย ที่ใครๆ เค้าได้เอ่ยถึง
ฮิมดอยโฮม แม่กำปอง ที่นี่กันอย่างแพร่หลาย
เอาลงก่อนๆ เบอร์โทรพี่อ้อค่า 095-448-3935 //
Line >> @himdoi
บ้านหลังนี้เราเห็นภาพจากเฟสบุ๊ค ฮิมดอยโฮม แม่กำปอง ที่พัก โฮมสเตย์
มาตั้งนาน และวันนี้ เราได้มาเยือนสถานที่จริง และภาพถ่ายจากสถานที่จริงมาแล้วน้าาา
อัพเดทเรื่องท่องเที่ยวกับเราได้นะคะ เราทำเพจเล็กๆ อยู่ที่นี่ หากมีข้อซักถามเพิ่มเติม สามารถมาพูดคุยกันได้น้าา
>>> https://www.facebook.com/RinsaYoyoliveTravelBlogger/
การเดินทางมา ฮิมดอยโฮม ในครั้งนี้ของเราใช้รถยนต์ส่วนตัวมาค่ะ มาด้วยกัน 4 คน แน่นอนว่า การเดินทางทุกครั้ง
ความสุข ความสนุกมันสำคัญอยู่ที่ว่า เรามากับใครมากกว่า ที่จอดรถใน ฮิมดอยโฮม มีให้นะคะ จริงๆ แม่กำปอง
มีภูมิทัศน์ด้านพื้นที่ หาที่จอดรถค่อนข้างยาก หากมาช่วงเทศกาลวันหยุหรือหยุดยาวมักจะเป็นปัญหานี้ตลอด
แต่ที่จอดรถเฉพาะของโฮมสเตย์หลายที่จะมีให้ค่า รวมทั้ัง ฮิมดอยโฮม ด้วย สบายใจเราล่ะ
จริงๆ หากไม่ได้เอารถมาเพราะปัญหาเรื่องที่จอด ตอนนี้แม่กำปองเดินทางได้ง่ายสะดวกด้วยรถตู้เอกชนที่ขึ้นจากกาดหลวงแล้วนะคะเห็นว่าเพิ่งเปิดบริการเมื่อ 9 กันยายน 2559 นี่เอง ในราคาคนละ 100 บาทค่ะ ประหยุดขึ้นไปได้อีก
เผื่อใครสนใจ ที่เพจ รถตู้น้ำพุร้อนสันกำแพง โทร. 083-325-4965
ตอนนี้เรามาอยู่ปากประตูเข้าสู่ ฮิมดอยโฮม โฮมสเตย์ริมน้ำแล้วค่า
เดี๋ยวจะงงกันๆ ว่า ฮิมดอยโฮม อยู่ตรงไหนของบ้านแม่กำปอง ถ้าขับรถเข้ามาภายในหมู่บ้าน ให้นับป้ายชื่อหมู่บ้าน ที่มีผ้ายเยอะๆฝั่งขวามือ ขับเข้ามาสัก 150 เมตรค่ะ ฮิมดอยโฮม จะอยู่ฝั่งซ้ายมือ เรียกว่า อยู่แม่กำปองเหนือนะคะ จะมีป้ายเล็กๆ บอกไว้ เรามาครั้งแรกเจอเลย ^^
เปิดประตูเข้าไป จะเป็นทางลงบันไดไปเรื่อยๆ จะเจอสีเขียวของต้นไม้
ที่มาพร้อมกับบ้านไม้สองชั้น หลังใหญ่ของ ฮิมดอยโฮม
เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้หลายคนคอมเม้นต์ชม รวมทั้งเราด้วย คือชอบมาก
ริมธารข้างบ้านของ ฮิมดอยโฮม เค้าค่ะจะมีธารไสไหลเย็นตลอด พูดแล้วบอกเลยว่า น่านั่ง Slow Life กันอย่างที่ซู๊ด
มีความรู้สึกแบบว่า สบายกาย สงบใจเป็นอย่างมากกับโฮมสเตย์หลังนี้ค่ะ
ได้อยู่กับธรรมชาติ ได้อยู่กับสายน้ำแบบนี้มันฟินที่สุดแล้วนะว่ามั้ยๆ
บ้านพักของพี่อ้อ ก็น่าสน รู้มาอีกว่า ใครๆ ต่างก็จองพักบ้านหลังนี้เช่นกันค่ะ
เพราะเช้าๆ เย็นๆ มาลงเดินเล่นน้ำกันได้สบายเล้ย
บ้านพี่อ้อ ฮิมดอยโฮม หลังนี้มี 2 ชั้นค่ะ โดยชั้นบนจะเป็นส่วนของเจ้าบ้าน พี่อ้อเอง
และชั้นล่างจะเป็นห้อง เป็นโฮมสเตย์ให้เช่า หน้าตาไม่ขี้เหร่แต่อย่างใด
พื้นที่หน้าบ้านเอาไว้นั่งเม้าท์มอยกันค่ะแบบว่าพี่อ้อ พูดเก่งด้วยนะ 555
อันนี้ยืนยันได้ อ้อ ที่นี่จะมี WiFi ฟรีค่ะเริดมากกก เพราะมือถือเรายังใช้ Dtac ก็คือตายสนิทตั้งแต่ต้นดอยล่ะ 555
อย่างน้อยมาพักที่นี่ยังได้มีภาพอวดลงโชเชียลบ้างไง
ภายในห้องพัก บ้านหลังแรก พักได้ 2 คน มีพื้นที่ให้เสริมที่นอนเพิ่มได้อีกเช่นกันค่า
เห็นว่าหลังนี้ ราคาคนละ 1000 บาทรวมอาหารเช้านะคะ
เราไม่ได้พักหลังนี้น้าา เราได้พักบ้านหลังใหม่ เดี๋ยวพาไปดูกันต่อ
ดูภายในห้องของบ้านหลังแรกกันก่อน แบบว่า ชอบบรรยากาศรอบๆ บ้านฮิมดอยโฮมเค้าจัา
ห้องน้ำภายในตัวเป็นแบบปูนเปลือยสาดสีแบบเก๋ๆ ค่ะ กว้างเหมือนกันนะเออ ไม่อึดอัด
พอเปิดประตูระเบียงบ้านข้างๆ ห้องมาเท่านั้นแหละ ฟินอีกล่ะเธอเอ้ย
เจอริมธารสายเดิมอีกแล้วจ้า
เมื่อเจอริมธารมุมนี้ นางแบบก็มาๆ 555 ริมธารสายนี้กั้นกับโฮมสเตย์หลังอื่นๆ ด้วยค่ะ
แต่ทางลงจากบ้านพี่อ้อ ฮิมดอยโฮม ฝ่ั่งนี้จะสะดวกค่า
เดินออกมาจากบ้านหลังแรกกันแล้วหลังจากฟินกันไปเต็มๆ กับบรรยากาศของริมธาร
เรามาพัก ฮิมดอยโฮม คืนวันอาทิตย์ค่ะ หมู่บ้านนี้เงียบมาก นานๆ ทีจะมีรถวิ่งผ่านสักคัน
นี่แหละ วิถีชีวิตของการ Slow Life ในขณะนี้ของเราแล้วล่ะค่า
เดินขึ้นมาอีกนิดนึงริมถนนจะเป็นบ้านหลังที่สองและหลังนี้เป็นบ้านหลังใหม่ของพี่อ้อที่สร้างขึ้นมาค่ะ
ดูด้วยตาเปล่าเหมือนชั้นเดียวแต่พอเข้าไปภายใน บ้านหลังนี้ 3 ชั้นนะเออ
ใกล้กับถนนมาก แต่ทว่าปลอดภัยค่ะ เสียงรถไม่ค่อยมากวนใจเพราะนานๆ จะผ่านมาสักคันหนึ่ง
ดูระเบียงหน้าบ้านรู้เลยว่า หลังใหม่เค้าจริงๆ นะเออ ลงแลคเกอร์จนเงาวับ อิอิ
เปิดภายในห้องกันแล้วจ้า มีทั้งฝังซ้ายขวา ด้านหลังจะเป็นระเบียงให้นั่งชิลอีก
ห้องนี้เรานอน แต่เอ๊ะ ตอนแรก เห็นแค่นี้เราก็คิดในใจนะว่า เรามากันสี่คนนะคะ จะนอนยังไงล่ะ
แต่ๆ ด้านในห้องข้างๆมีบันไตขึ้นไปยังชั้นใต้หลังคาด้วยนะเออ ความเก๋อยู่ตรงนี้ได้อีก
อ้อ ราคาโฮมสแตย์ที่นี่ คนละ 580 บาทพร้อมอาหารเช้าค่ะ หากเทียบกับที่พักแบบนี้ บรรยกาาศแบบนี้แล้วล่ะก็
บอกได้เลยว่าคุ้มมากกก
ดูกันต่อๆ ภายในทีพัก
มุมชิลๆ ระเบียงด้านหลังห้องมานั่งรับลมชิมวิวกัน
มองลงไปด้านล่างจะเห็นริมธารสายเดิมไหลผ่านอีกแล้วจ้า
เห็นพี่อ้อบอกว่า รอฝนหยุดจะทำทางลงเชื่อมจากบ้านหลังที่ 2 มายังหลังแรกนะคะ
ตอนนี้เป็นช่วงเติมน้ำฝนกันทุกวันก่อนนะยู 555
เราเปลี่ยนใจ มานอนห้องใต้หลังคาบนนี้แหละค่าา ชอบมาก ข้างบนนี้พักได้อีก 3 คน
ห้องใต้หลังคามีสองฝั่ง สรุปว่าบ้านหลังใหม่ของ ฮิมดอยโฮม พักได้ 14 คนในราคาคนละ 580 ค่า
นอกบ้านยามเย็นทางลงด้านขวามือจะลงไปห้องพักชั้นกลาง และเป็นห้องครัวค่ะ
เย็นนี้เราลงบันไดมายังห้องครัว หลังใหม่ของพี่อ้อ ภายนอกบรรยากาศดีมาก หลังฝนตกพอดี อากาศเย็นสบายสุดๆ
พร้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ เขียวขจีรอบทิศทาง
ว่าแล้วเครื่องดื่มเย็นๆ ก็วางไว้ให้พร้อมแย้วววว สำหรับเย็นนี้
ดูจากภายนอกแสงไฟประทบไม้สวยจริงๆนะคะ ห้องครัวของ ฮิมดอยโฮม
เห็นว่าเป็นครัวที่พีอ้อรักมากด้วยเช่นกัน
ภายในห้องครัวที่เราสามารถมาทำอาหารที่นี่ทานได้ด้วยตัวเอง เพราะมีอุปกรณ์หลายอย่างให้เลือกใช้
สะดวกมาก
และมื้อเย็นนี้เราก็ฝากท้องไว้กับครัวบ้านพี่อ้อเช่นกันค่า ในราคาคนละ 80 บาท สำหรับอาหารเย็น
แต่ต้องจองล่วงหน้าด้วยนะคะ เพื่อที่พี่อ้อจะได้เตรียมวัตถุดิบมาให้ค่า
ถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึกกันหน่อย แบบว่า โฟกัสให้อยุ่คนที่สวยสุดนั่นเอง ชัดเจนๆ อิอิ
อาหารเย็นนี้มาเป็นขันโตกเลยค่า ทั้งไข่เจียว น้ำพริกหนุ่ม แคปหมู ไส้อั่ว และมะระหวานผัดไข่
พร้อมด้วยข้าว 2 สี เราเพิ่งได้กินข้าวรวมๆ แบบสองสีแบบนี้ก็อร่อยดีเหมือนกันนะคะ สำหรับมื้อเย็นนี้
พร้อมทั้งอากาศดีดี ที่ทำให้เรา Slow Life แบบปล่อยเวลาผ่านไปช้า ที่ฮิมดอยโฮม
อากาศค่ำคืนนั้น ดีมากก เย็นสบายมาก กับแอร์ธรรมชาติ พร้อมด้วยเสียงฝนตกเกือบตลอดคืน
ตื่นเช้ามาวันนั้น จึงสดชื่นเป็นพิเศษ กับการพักผ่อนที่ฮิมดอยโฮม
ไม่หรูหราเหมือนรีสอร์ท 5 ดาว แต่อบอุ่นเป็นธรรมชาติจริงๆ ค่า
Good Morning ณ แม่กำปอง คืออากาศที่นี้เย็นสบายตลอดทั้งวันทั้งคืนจริงๆ
ยามเช้าวันนั้นเราเดินไปชมดอกไม้รอบๆ ฮิมดอยโฮมกันค่า
สายตาไปปะทะกับดอกนี้ๆๆๆๆ น่ารักน่าชังเชียว
ดอกนี้ชื่อว่าตุ้มหูนางฟ้า / โคมญี่ปุ่น / Fuchsia ออกเสียงได้ทั้ง ฟุคเซียและฟิวเซียค่ะ
ส่วนเราน่ะ เรียกภาษาไทยล่ะกันไม่คุ้นๆ ตุ้มหูนางฟ้านี่แหละค่า สวยเชียว
และดอกไม้อื่นๆ ที่ฮิมดอยโฮม เก็บภาพมาฝากกันค่า
Relax เบาๆ ยามเช้าที่ ฮิมดอยโฮม แม่กำปอง
กับอาหารมื้อเช้าที่นี่ อากาศแบบนี้ เปิดหม้อมาซาลาเปานึ่งอุ่นๆ ให้เราคีบไปชิมกันค่า
ตามด้วยข้าวต้มร้อนๆ เครื่องดื่มร้อนๆ แนะนำให้นั่งตรงระเบียงริมธารนะคะ เห็นสายน้ำไหลผ่านไปด้วย ฟินเฟอร์เลยอะแกร
เราชอบครัวที่นี่ คือทำหใ้มีส่วนร่วมทำอาหารไปด้วย สำหรับใครหลายๆ คนที่ไปเป็นกลุ่มได้มีเวลาและทำกิจกรรมร่วมกันด้วย
เหมือนดั่งเช่นภาพนี้ ผู้ร่วมทริปของเราแต่ละคนต่างอยุ่คนละทิศละทาง ต่างประเทศบ้าง
กว่าจะได้มาเจอกันต้องนัดหมายล่วงหน้าที่จะมาพักที่นี่ ถือเป็นโมเม้นต์ดีดี ที่ได้มีส่วนร่วมด้วยกัน
กับที่พักแห่งนี้ ฮิมดอยโฮม แม่กำปอง
ก่อนกลับออกจาก ฮิมดอยโฮม แม่กำปอง ในครั้งนี้ เราๆ ขอไปฟินๆ กันอีกครั้งที่บ้านริมธาร
เราชอบ กับการนั่งเล่นปล่อยสายน้ำให้ไหลผ่านไปเรื่อย แบบนี้ รู้สึกดี และดีมากๆ เลยแหละ
ชอบความเงียบสงบ ชอบการพักผ่อนที่นี่ ชอบธรรมชาติและอากาศดีดีแบบนี้ ทำให้เราไม่แปลกใจเลยว่า
กระแสการท่องเทียวในแม่กำปอง และความนิยมในการพักโฮมสเตย์ที่นี่ เป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ คือเรื่องจริงค่ะ
ฮิมดอยโฮม แม่กำปอง โทร 095-448-3935 //
Line @dgb1621q
พักที่นี่แล้วเราไปเที่ยวไนนกันต่อกับ หมู่บ้านแม่กำปอง
เราได้รวบรวม 10 ร้านกาแฟ / ร้านอาหาร แม่กำปอง ต้องปักหมุด!!
ไว้ทีนี่แล้วค่าาา >> http://pantip.com/topic/35662507
แล้วคอยพบกับรีวิวการเดินทางของเราในพื้นที่แห่งนี้อีกเช่นเคยนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามชมค่าาา
https://www.facebook.com/RinsaYoyoliveTravelBlogger/
RinSa YoyoLive
วันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 09.01 น.