วันหยุดเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาเมื่อไม่นานมานี้ ได้มีโอกาสพาครอบครัวไปเที่ยวพักผ่อนใกล้ๆ ที่ปากเกร็ด นนทบุรี โดยเป้าหมายของทริปนี้จริงๆคือการพาคุณพ่อคุณแม่(ของฝั่งสามี)ไปพักผ่อน พร้อมกับพาเจ้าตัวเล็กวัยกำลังซนไปเปิดหูเปิดตาครั้งแรก โจทย์วันนี้คือทริปโซน ปากเกร็ดเนื่องจากได้มีโอกาสเข้าพักที่โรงแรม Buddy Oriental Riverside Pakkred เพื่อความสะดวกสบายของสมาชิกในครอบครัวที่มีทั้งเด็กน้อย กับผู้สูงอายุ กลายเป็นประสบการ์ณพิเศษที่คุ้มค่าวันหยุดนี้มาก ยิ่งได้พัก Pool Villa ที่มี 2 ห้องนอน (คืนละ 12,000 บาท) ยิ่งเป็นอะไรที่สุดแสนจะพรีเมี่ยม อีกทั้งที่ตั้งของโรงแรมยังอยู่ไม่ไกลจาก "เกาะเกร็ด" มากนัก ขุ่นแม่เลยครีเอทแฟมิลี่ทริปเก๋ๆ พร้อมเอามาเล่าสู่กันฟังในวันนี้ค่ะ ตามไปดูกันเลย

สำหรับการเดินทางจากกรุงเทพไป ครอบครัวเราใช้รถส่วนตัวนะคะ หรือถ้าใครจะใช้รถประจำทางก็สามารถ แต่อาจจะลำบากนิดนึง การเข้าไปในตัวรีสอร์ตค่อนข้างลึก อยู่ติดกับริมแม่น้ำเจ้าพระยากันเลยทีเดียว วันที่ครอบครัวเราไปแอบร้อนนิดนึง พอขับรถเข้าไปถ้าเลือกพักที่นี่แนะนำว่าให้ปล่อยคนลงไปเช็คอินก่อนแล้วค่อยวนรถไปจอด จะมีพนักงานขับรถกอล์ฟไปรับและช่วยขนของมายังห้องพักของเราค่ะ สะดวกสบายสุดๆไปเลย



เกี่ยวกับตัวรีสอร์ต พอเข้ามาจะรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายความเป็นไทยในยุคสมัยโบราณ... ที่นี่ตกแต่งเป็นสไตล์ โคโลเนียลไทย ตัวโครงสร้างด้านนอกของตึกมีจุดเด่นคือ "ป้อมสิริเจ้าพระยา" เป็นการจำลองป้อมพระสุเมรุมาไว้ในบริเวณที่พัก แถมด้วยการตกแต่งด้วยบรรดาของเก่า ของสะสม ของหายาก ที่นี่เลยเปรียบเสมือนอาร์ตแกลเลอรี่เล็กๆให้คนที่มาพักได้สัมผัสความสุนทรีย์อย่างลงตัว สำหรับเวลาเช็คอินของที่นี่คือบ่ายสองโมงเป็นต้นไปค่ะ พอเช็คอินเสร็จก็มาสำรวจห้องนอนกันก่อนเลย


ห้องใหญ่น่ารักมาก เตียงเป็นแบบคิงไซส์ มีผ้าขนหนูพับเป็นรูปช้างไว้ต้อนรับด้วย ครีเอทสุดๆ ตัวห้องตกแต่งเป็นไม้ทาสีขาวดูสะอาดโล่ง กว้าง มีหน้าต่างพอให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้ มีโต๊ะเครื่องแป้งส่วนตัวด้วยนะห้องนี้ พร้อมกับที่เก็บของ และทีวีอีก 1 เครื่อง เรื่องปลั๊กก็หายห่วง มีหลายจุดให้เลือกใช้ได้อย่างสบายใจเลยล่ะ เราเลยยกห้องนี้ให้กับคุณพ่อคุณแม่ ท่านจะได้พักสบายๆ



อีกห้องนึงจะเล็กกว่ามาก อยู่ติดกับห้องทำงานที่แยกออกมาให้ได้ทำงานเงียบๆ พวกเราสามคนพ่อแม่ลูกนอนห้องนี้ ซึ่งจริงๆเป็นเตียงเดี่ยวสองเตียง แต่ดึงมาติดกันแล้วก็ขยับที่นอนนิดหน่อยค่ะ



ห้องน้ำนี่ถือเป็นไฮไลท์สำหรับเจ้าตัวเล็กเลย อ่างกว้างมาก มันคือจากุซซี่ดีๆนี่เอง ข้างๆเป็นห้องอาบน้ำฝักบัว ถ้าไม่ถือก็อาบพร้อมกันได้หลายคนค่ะ จริงๆอยากได้กระจกแบบที่จะขึ้นฝ้าเวลามีคนใช้ห้องฝักบัว จะได้กล้าอาบพร้อมกัน แต่นี่มันใสแจ๋ว เลยไม่กล้าไง ก็ผลัดกันเข้าห้องน้ำทีละคนอยู่ดี 55555



จบจากตรงนี้ก็แอบทิ้งหนุ่มๆไว้ที่โรงแรมแล้วก็พาคุณแม่ไปตะลุยเที่ยวเกาะเกร็ดกันค่ะ ตรงนี้คุณพ่อไม่ได้ไปด้วย เลยไม่มีภาพถ่ายสวยๆให้ดู ขออนุญาตแคปหน้าจอมาจากคลิปที่ลงไว้ในยูทูปนะคะ



ออกไปกันประมาณสี่โมงนิดๆ เดินไปขึ้นเรือข้ามฟาก โดยท่าเรือจะตั้งอยู่ในตัววัดที่ไม่ห่างจากโรงแรมมากค่ะ อันนี้นั่งแท็กซี่มาไม่เกิน 50 บาท แต่แอบจำราคาเป๊ะๆไม่ได้เหมือนกัน(ฮา)



ที่เก็บเงินจะอยู่ฝั่งเกาะเกร็ดแค่ฝั่งเดียวนะคะ จริงๆที่เกาะเกร็ดมีอะไรให้เที่ยวเยอะมาก แค่เดินสายไหว้พระก็น่าจะหมดวันแล้วเพราะมีมากกว่า 8 วัดตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆแห่งนี้ มีจักรยานให้เช่าปั่นทั้งวันในราคา 40 บาท แถมยังมีโรงปั้นดินเผา แล้วก็คลองขนมหวาน กับกิจกรรมล่องเรือที่หากมีโอกาสจะไปตามเก็บมาให้ครบ วันที่เราไปได้แค่เดินเล่นเซอร์เวย์นิดหน่อยค่ะ คนกรุงอย่างเราแอบตื่นตาตื่นใจกับของขายราคาถูก แล้วก็ของเก่าๆที่หาในเมืองไม่ค่อยมีแล้ว โดยราคาเริ่มต้นแค่ 10 บาทเท่านั้น มันยอดมาก ช้อปกันเพลินเลย



ของกินที่นี่ก็พีคค่ะ ทุกอย่างจะเป็น "มอญสไตล์" คนในชุมชนเล่าว่าเค้าเป็นมอญไทยนะ ไม่ใช่มอญพม่า อาหารการกินและภูมิปัญญาท้องถิ่นดั้งเดิมยังคงถูกรักษาสืบทอดกันมา กลายเป็นของกินของใช้แนวอนุรักษณ์เก๋ๆ ใครมีโอกาสอยากให้ลองแวะมาเที่ยวกันดูนะคะ สตรีทฟู้ดคือแจ่มมาก แวะร้านไหนก็อร่อยค่ะ พูดเลย



อยากหาของแจกปีใหม่ หรือของที่ระลึก ลองมาช้อปปิ้งที่นี่ดูได้นะคะ พวกเครื่องปั้นดินเผาสวยและน่าซื้อสุดๆไปเลย



อาหารบางอย่างมีการบรรจุใส่หม้อดินเผาแล้วให้เราซื้อกลับไปทั้งหม้อด้วยนะ อันนี้แอบเอาราคามาฝากค่ะ อิอิ



เดินไปเจอชุดไทยของเด็กแล้วก็อดไม่ได้ คุณย่าน้องเก้าต้องสอยกลับไปให้หลานสักตัว แล้วก็ได้ใช้ในงานโรงเรียนอย่างวันไหว้ครู วันตักบาตร เรียกว่าถ้ามีโอกาสมาอีกจะสอยอีกแน่นอน ใส่แล้วน่ารักสุดๆไปเล้ยยยย



พอกลับมาจากเกาะเกร็ดก็เป็นเวลาเย็นแล้ว เราเลยพาครอบครัวไปทานอาหารกันใกล้ๆที่พักกับร้านอาหารสองฝั่งคลอง ที่ค่อนข้างมีชื่อในแถบนี้อยู่แล้ว มาดูบรรยากาศร้านกันก่อนเลยค่ะ ถ้าอยากมาถ่ายรูปสวยๆ รอดูพระอาทิตย์ตกดินแนะนำให้มาช่วงห้าโมงครึ่งนะคะ แสงกำลังดีเลยทีเดียว ร้านจะมีคนคึกคักในช่วงค่ำๆด้วยค่ะ มาก่อนก็จะได้บรรยากาศโรแมนติกไปอีกแบบ



อาหารที่ทานมีด้วยกันทั้งหมด 4 จานค่ะ จานแรกคือปาท่องโก๋ยัดไส้ ราคา 180 บาท ทานกับน้ำจิ้มจิ๊กโฉ่วแบบขนมจีบปูหมูกุ้งอะไรประมาณนั้น ตัวอาหารจะเป็นแป้งปาท่องโก๋ยัดไส้ส่งที่คิดว่ามันน่าจะคือกุ้งสับ โรยปู กับสีส้มๆที่ไม่แน่ใจว่าคืออะไร แยกไม่ออก ไม่ค่อยทานอาหารทะเล(ฮา)



จานที่ 2 คือเมี่ยงก๋วยเตี๋ยว ราคา 250 บาท อารมณ์แบบก๋วยเตี๋ยวลุยสวนที่ยังไม่พันมาเป็นก้อน ให้เรามายัดไส้เองตามใจชอบอะไรประมาณนั้น รสชาติกลมกล่อมกำลังดีค่ะ แป้งมานุ่มๆ ไม่แข็ง ไม่เละ แอบทานลำบากนิดหน่อยแต่จัดว่าเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยก็ได้ ทานเล่นก็ดี ทานหมดนี่ก็มีอิ่มเหมือนกันค่ะ



จานที่ 3 คือเมนูแนะนำประจำร้านตอนนี้ ต้มยำเอ็นหมูตุ๋นไซส์เล็กราคา 190 บาท ทานกับข้าวสวยร้อนๆอร่อยเหาะอย่าบอกใคร รสชาติมันคล้ายๆก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นอะค่ะ แต่เป็นเกาเหลาต้มยำ หมูนุ่มและฉ่ำมากๆ ใช้คำว่าละลายในปากได้ไม่เกินความจริงเลย



จานสุดท้ายเป็นอีก 1 เมนูแนะนำ "ปลาช่อนผัดพริกขิง" จะบอกว่าไม่เคยทานที่ไหนอร่อยเท่าที่นี่เลยอะ ประสบการ์ณกินปลาช่อนผัดพริกขิงตามร้านอาหารคือน้อยมาก ปกติซื้อแบบเวอร์ชั่นแกงถุง แล้วนี่มันผิดกันลิบลับคนละโลกเลย ปลาช่อนทอดมาจนกรอบ ผัดเครื่องแกงกลมกล่อมได้ที่ ทานคู่กับข้าวสวยไข่เค็มนี่เป็นที่สุดแห่งความฟินจริงจัง อ่านมาถึงตรงนี้คงสังเกตุได้นะคะว่าจู่ๆภาพก็กลับมาสวยอีกครั้ง... ต้องยกความดีความชอบให้คุณพ่อของสามีเลยค่ะ มีคุณพ่อมาด้วยถ่ายมุมไหนก็ออกมาสวยทุกรูปจริงๆ ร้านนี้มีดนตรีสดด้วยนะคะ คือครบมากๆ จะมากับใครก็ได้ไม่ผิดกติกา งานครอบครัวก็ดีงาม งานคู่ก็โรแมนติก หรือจะสังสรรค์ชิลๆกับเพื่อนๆก็เหมาะเหมือนกัน



กลับไปที่รีสอร์ต ตอนกลางคืน สำหรับในส่วนของสระว่ายน้ำกลางจะมีเวลากำหนดนะคะว่าเล่นได้ตั้งแต่กี่โมงถึงกี่โมง ดังนั้นจะไม่มีเสียงคนมาว่ายน้ำรบกวนตอนนอนกลางคืนแน่นอน แต่เราไม่แคร์ เพราะเรามีสระว่ายน้ำส่วนตัว ฮี่ๆ



เมื่อยู่พูลวิลล่า เราก็ต้องใช้สระว่ายน้ำให้คุ้ม ดูลูกชายจะคุ้มมาก เล่นทั้งอ่าง เล่นทั้งสระ เล่นทั้งกลางวัน เล่นทั้งกลางคืน ตื่นเช้ามาก็เล่นอีก!! แถมลากให้ผู้ใหญ่รอบตัวลงไปเล่นด้วยนะ(ฮา) ที่ห้องไวไฟแรงมากด้วยค่ะ คุณแม่อัพรูปสนุกสนานเลย บอกว่าเนทไวกว่าที่บ้านเยอะ จนคุณพ่อแอบแซวว่ามาพักบ่อยๆเพราะเนทแรงมันแพงเกินจำเป็นน้า... 5555555 สระว่ายน้ำที่นี่จริงๆลงไปเล่นทั้ง 5 คนยังมีพื้นที่ให้แหวกว่ายได้สบายมากเลยค่ะ ตอนกลางคืนสามารถโทรไปขอให้เปิดไฟสระว่ายน้ำลงเล่นได้ด้วย ส่วนกลางวันก็มีความเป็นส่วนตัวสุดๆ จะใส่ชุดว่ายน้ำบิกินี่มาว่ายก็ไม่ต้องอายสายตาใครเป็นต้น



เช้ามาตื่นมาเล่นน้ำได้สักครึ่งชั่วโมงก็เริ่มหิว เลยต่างทยอยไปอาบน้ำแล้วก็ไปทานข้าวเช้าที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ให้ เป็นสไตล์อเมริกันบุฟเฟต์ที่มีอาหารไทยๆผสมอยู่ด้วย เลือกทานได้หมดเลยค่ะ จะเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงวัย ชอบรสไหน ที่นี่มีให้เลือกครบทุกอย่างจริงๆ


ห้องอาหารจะอยู่ติดกับร้านสองฝั่งคลองนะคะ เค้าจะแยกเป็น Terrace กับ Restaurant ก็ลองเลือกทานตามชอบได้ค่ะในมื้ออื่นๆ แต่มื้อเช้าของโรงแรมจะจัดในห้องอาหารที่เดียวเลย ทุกอย่างรสชาติอยู่ในเกณฑ์ดีค่ะ ไม่แย่ ทานกันได้ทุกคนจนอิ่มแปล้ แนะนำสิ่งที่ห้ามพลาดถ้าได้มาพักคือน้ำฝรั่งค่ะ อร่อยมากๆจนต้องเติมไป 4 แก้วอย่างต่ำ



ก่อนเที่ยงตรงก็ถึงเวลาเช็คเอ้าท์เตรียมตัวกลับบ้านกัน โทรไปเรียกให้เค้ามาช่วยขนกระเป๋าจากที่ห้องได้เลย ลูกชายดูไม่ค่อยอยากกลับ ตื่นเต้นตลอดเวลา ตั้งแต่ตื่นมาไม่ยอมนอนเลยทั้งที่ปกติเวลาอยู่บ้านจะนอนกลางวันก่อนเที่ยง 1 รอบ อันนี้วิ่งวุ่นไปหมด จนถึงเวลาเช็คเอ้าท์ก็ยังแวะเล่นตามจุดต่างๆ ไม่ยอมเดินไปขึ้นรถแต่โดยดี กว่าจะพาขึ้นรถได้ก็เล่นเอาผู้ใหญ่เหนื่อยไปตามๆกัน สำหรับทริปนี้ให้คะแนนโรงแรม Buddy Oriental Riverside Pakkred ไปรัวๆ สารภาพว่าไม่เคยมาพักทริปพรีเมี่ยมขนาดนี้ แถมยังตอบโจทย์ทุกคนในบ้านได้ครบครันสุดๆ คุณพ่อมีงานอดิเรกชอบถ่ายภาพก็ได้หามุมกันจนเหนื่อย (พื้นที่กว้างใหญ่มากจริงๆ) คุณแม่ชอบเดินดูของโอท็อปก็ได้ไปเดินเกาะเกร็ดช้อปปิ้งกันจนเมื่อย ส่วนคุณสามีชอบการชาร์จแบตบนเตียงนุ่มๆก็เกือบจะฟินแล้วถ้าไม่ติดว่าเจ้าตัวเล็กวิ่งไล่จับตลอดเวลา ข้าวสวยเองเป็นคนชอบประสบการ์ณอะไรใหม่ๆ วันนี้ก็ได้ไปจนเต็มล้นปรี่



เป็นอีก 1 สถานที่อยากแนะนำให้มาลอง ถ้าคุณมีครอบครัว อยากพาผู้ใหญ่มาพักผ่อน พร้อมลูกน้อย ที่นี่ตอบโจทย์ได้แบบทะลุมาตรวัดสามมิติ ใครมีโอกาสมาพักที่นี่ก็อย่าลืมค้นหาชุมชนใกล้ๆเพื่ออกไปผจญภัยหาประสบการ์ณใหม่ๆกันด้วยนะคะ ข้าวสวยเชื่อว่าแถบนี้ยังมีอะไรให้ค้นพบอีกเยอะแยะแน่นอนค่ะ ^^



ใครอยากดูภาพประมวลผลกิจกรรมทั้งหมดแบบเป็นวิดีโอ เรามีแบบคลิปให้ชมกันด้วยน้า


ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ สามารถติดตามอัพเดทความเคลื่อนไหวกับข้าวสวยเพิ่มเติมได้ที่

https://www.facebook.com/kaosuaylunladiary

บทความนี้ได้รับสปอนเซอร์ที่พักและอาหารแต่ไม่ได้รับค่าจ้างในการเขียนรีวิว ซึ่งความเห็นทั้งหมด 100% มาจากประสบการ์ณของข้าวสวยและครอบครัวค่ะ สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่พักและกิจกรรมต่างๆได้ที่

แฟนเพจ Buddy Oriental Riverside Hotel



สวัสดีค่า ^^



Kaosuaylunla

 วันพฤหัสที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 11.00 น.

ความคิดเห็น