สวัสดีครับเพื่อนๆ ไม่ได้เจอกันพักใหญ่เลย แก้ว และ Mobile Photographer กลับมาแล้วครับผม ในทริปนี้
แก้วจะพาเพื่อนๆ หลบร้อน หลบฝน หลบเมือง ไปซ่อนตัวในพื้นที่ส่วนตัว สวยงาม เงียบสงบ เหมาะแก่การ
พักผ่อนเป็นที่สุด ซึ่งที่นั่นก็คือ PHUKET สวรรค์แดนใต้นั่นเอง จะดีงามขนาดไหน ไปชมกันเลยฮะ


เพื่อให้การไปเที่ยวครั้งนี้ มีเวลาพักผ่อนมากที่สุด แก้วเลยเลือกที่จะเดินทางด้วยเครื่องบินครับ แล้วเช่ารถขับเอา

วันที่ออกเดินทาง ประมาณปลายตุลาคม 2559 ฟ้าครึ้มมาก เมฆก็เยอะ แอบหวาดเสียว เบาๆ

กัปตันเก่งมากครับ เมฆหนา ลมแรงขนาดนี้ประคองเครื่องได้นิ่งสนิทมาก จนพ้นแนวของเมฆขึ้นมา บินสบายๆ

มาถึงแล้วครับ ถูกต้อนรับด้วย ฝนโปรยปรายเลย ในใจตอนนั้นนี่คิดว่า (..ิบหายแล้ว) จะเที่ยวสนุกมั้ยเนี่ย ?


พอถึงสนามบิน รับรถเช่า ที่จองไว้ก็เริ่มออกเดินทางเลยครับ แก้วตั้งใจจะไปที่ ที่พักสุดสวยของเราก่อน

พอมาถึงที่พักของเรากลับอากาศดีซะเฉยๆ เลย ดูสิแดดนี่ส่องมาอุ่นๆ เลย ไปดูข้างในกันดีกว่า

บริเวณนี้คือส่วนของ Lobby ครับ ตกแต่งไว้ได้แบบว่า ว้าววว มากเลย สวยงามครับ

เช็คอินเรียบร้อย ก็ไปห้องพักกันครับ ขอบอกไว้ก่อนว่า ห้องพักของแก้วนั้น อยู่บนภูเขา วิวสวยงาม แจ่มๆ เลยก็ล่ะ แต่เอ๊ะจะขึ้นยังไงล่ะ พี่ๆ พนักงานก็บอกว่า การขึ้นไปห้องพักของที่นี่นั้น มีด้วยกัน 2 ช่องทาง 1. คือโดยรถตุ๊กๆ 2. กระเช้า เฮ้ย !! เท่อะมีกระเช้าให้ขึ้นในโรงแรมด้วย

ตอนนี้แก้วขอใช้แบบแรกก่อนนะครับ นั่นก็คือ รถตุ๊กๆ แต่จริงๆ แล้วคือกระบะ ต่อหลังคานี่แหละครับ
ถามว่าทำไมต้องเรียกตุ๊กๆ ก็เพื่อให้แขกชาวต่างชาติ เรียกง่ายๆ จำง่ายๆ และก็ยังดูเท่อีกด้วย

ขึ้นมาถึงแล้วครับ สูงอยู่เหมือนกันนะเนี่ย ถ้าเป็นตามที่โรงแรมเรียก บริเวณนี้คือชั้น 4 ครับ

ที่เห็นอยู่ด้านหน้านั่น ก็คือห้องพักของแก้วเองครับ พี่พนักงานบอกว่าห้องนี้ใหญ่กว่าห้องทั่วไปนะ ( จะใหญ่ขนาดไหนน้า )

เปิดเข้ามาครับ โอ้ววว นี่ห้องรับแขกห้องเดียวหรอครับเนี่ย เอาจริงผมนอนห้องนี้เลยก็ได้นะครับ แซวพี่พนักงานเล่น

เข้ามาต่ออีกห้องนึง นี่คือห้องนอนครับ ด้วยเตียงขนาด King Size คืนนี้แก้วหลับฝันดีแน่ๆ อ๊าาา

เดินออกมาสำรวจกันต่อ ว้าววว ระเบียงห้องของเราหรอเนี่ย เริ่มคิดว่า เอาจริงๆ นอนอยู่นี่ทั้งวันก็ได้นะ ไม่ต้องเที่ยวเลย
สังเกตดีๆ มุมขวามีอ่างอาบน้ำกลางแจ้งให้ด้วยนะครับ หรูหรา สะดวกสบายทีเดียว

และนี่ก็คือวิว จากระเบียงห้องของแก้วครับ ด้านนึงจะเห็นวิวของโรงแรมและภูเขา อีกด้านจะเห็นวิวทะเล

แหม่เข้ามาในห้องน้ำ ทุกอย่างในห้องที่ เบิ้ล 2 หมดเลยนะครับ มีอ่างล้างมือ 2 ห้องอาบน้ำ 2 ตู้เสื้อผ้า 2 ไม่ต้องแย่งกันเลย

บรรยากาศของอ่างอาบน้ำนี่ เป็นมุมที่แก้วช๊อบบบบบ ม๊ากกก

เอาล่ะครับ เก็บของเข้าห้องเรียบร้อย ออกไปเที่ยวกันดีกว่า เดี๋ยวตอนเย็นไปเดินชมหาดส่วนตัวของโรงแรมกัน

ที่แรกที่แก้วตรงดิ่งไปเลยก็คือย่านที่เพื่อนๆ น่าจะคุ้นกันอยู่ดี ซึ่งก็คือ ย่านชิโนโปรตุกีส เมืองเก่าของภูเก็ตนั่นเองครับ

เมืองสวยขนาดนี้อดไม่ได้ แวะถ่ายรูปให้คุณแฟนนิดนึงครับ (ช่วงอวดแฟน)

แก้วก็เดินชมเมืองต่อไปเรื่อยๆ ครับ เป็นสถานที่ที่มีมนต์ขลังจริงๆ หันไปมุมไหนก็สวย คลาสสิคโดนใจมาก

Cafe แนวใหม่ กับ Cafe แบบคลาสสิคตั้งอยู่คู่กัน เป็นภาพที่แบบว่า ไม่นึกว่าจะเห็นได้ที่นี่ เท่ดี


แก้วเดินต่อมาจนพบกับสถานที่ที่น่าสนใจแห่งนึงครับ นั่นก็คือ พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว
ภายนอกนี่สวยงามจนดูดให้เราเดินเข้าไปหยิบเงินจ่ายค่าบัตรไม่รู้ตัวเลย

พอเข้ามาได้ใน ก็ได้ทราบว่า ที่นี้รวมรวบเรื่องราวความเป็นมาของภูเก็ตเอาไว้ตั้งแต่ช่วงที่เริ่มก่อร่าง สร้างเมืองนี้ขึ้นมา สมัยที่มีชาวจีนหลายก๊ก หลายเหล่าเข้ามาตั้งรกราก หยิบจับ อาชีพตามที่ตัวเองถนัด และเริ่มสร้างสังคม สร้างวัฒนธรรมขึ้น

เดินชมมานานครับ แก้วมาสะดุดเข้าไปห้องสุดท้ายในชั้น 1 กับสิ่งนี้ครับ แผนที่ลายแทงของกิน มาได้ถูกจังหวะมาก กำลังหิวเลย แก้วมองไปเห็นร้านนึงครับ เป็นร้านบะหมี่เกี๊ยวที่ผ่านมาหลายชั่วอายุคนแล้ว แต่ยังเปิดอยู่ และคงสูตรเด็ดเอาไว้ เห็นทีคงต้องไปชิมแล้วล่ะครับ แฮร่ 55 5


นี่เลยครับร้าน หมี่แป๊ะเกา Pehteow Noodle แค่เดินเข้าร้านมาก็กลิ่มน้ำซุปปะทะจมูกมาเลย
ว่าแล้วก็ไม่รอช้าครับ สั่งเลย เมนูเด็ดร้านนี้คือ บะหมี่ต้มยำแห้งสูตรพิเศษ

ดูลีลาการลวกเส้นของป้าเจ้าของร้านด้วยครับ มือขวาจัดถ้วย มือซ้ายลวกเส้น พริ้วขนาดนี้ ยิ่งทำให้เราอยากกินขึ้นไปอีก

มาแล้วจ้า น่ากินม๊ากกก มะนาวนี่ลูกเท่าเทนนิสเลย ในชามประกอบไปด้วย เกี๊ยวหมู กุ้งทอด หมูแดง
ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นหมู เรียกได้ว่าเครื่องนี่ใส่มาแบบจัดเต็ม ราคาก็เบาๆ ครับ ชามละ 70 บาทเท่านั้นเอง


เอาล่ะครับ กลับมาชิวที่โรงแรมของเราดีกว่า แดดร่ม ลมตก กับหาดทรายละเอียดๆ นุ่มๆ แบบนี้นี่ ฟินเลย

บรรยากาศแบบนี้คงไม่ได้หากันได้ง่ายๆ เหมาะแก่การมา Honey Moon ของคู่รักซะจริงๆ

สระน้ำของที่นี่ก็เป็นอีกไฮไลท์นึงที่พลาดไม่ได้เลย ด้วยสระขนาดใหญ่
ที่มีอนาบริเวณเรียกได้ว่าแทบจะส่วนกลางของโรงแรมเลย


เอาล่ะครับจบวันแรกแล้ว แก้วขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะครับ

ฮ๊ายยย เช้าแล้วครับ บรรยากาศริมชายหาดตอนเช้าของที่นี่ ชิวดีจริงๆ ลมเย็นสบาย

ถามว่าแก้วลงมาจากห้องพักได้ยังไง นั่นก็คือการใช้ กระเช้า หรือ Cable Car ที่แก้วเล่าให้ฟังก่อนหน้านี้


เช้า ๆ แบบนี้หิวสิครับ แก้วนี่รีบลงจากห้องพักมาหาอะไรทานเลย เพราะได้ข่าวว่าที่นี่มื้อเช้าอร่อยมาก

น่ากินไปหมดเลย เลยตักมาซะเต็มงาน มื้อเช้าจัดหนักกันไปครับ

เป้าหมายของเราวันนี้คือ Phuket Aquarium ครับ แต่ตอนเช้าขอแวะมาชม อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทรก่อน

เย้ มาถึงแล้วครับ สำหรับ Phuket Aquarium มีการปรับปรุงทัศนียภาพอยู่ เชื่อว่าถ้าทำเสร็จ ที่นี่ต้องสวยมากแน่ๆ เลย



ที่นี่ก็เต็มไปด้วยสัตว์น้ำน่ารักๆ นาๆ ชนิดเลย ปู ปลา เต่า หรือแม้กระทั่งฉลาม แถมยังมีโชว์การให้อาหารด้วยนะครับ

เอาล่ะเดินมาจนเหนื่อยรอบ Aquarium แล้วเราไปหาอะไรเติมพลังกันดีกว่า แก้วได้ยินมาว่าแถวนี้มีร้านเด็ดระดับ เชฟของโรงแรมศรีพันวา อันลือเลื่องมาทำให้ทานเลยนะ เป็นแบบนี้จะพลาดได้ไง ไปลุยกันเลยครับ

ขับรถหลงอยู่พักใหญ่ ด้วยความงงของตัวเอง ในที่สุดในแก้วก็มาถึงร้าน Tong Sam หรือ ตองสาม คาเฟ่นั่นเอง

ซึ่งก็มีพี่ๆ ที่น่ารัก ทั้งพี่บ่าวและพี่ปลา รอต้อนรับแขกผู้มาเยี่ยมเยียนอย่างอบอุ่น พร้อมอาหารอร่อยๆ

บรรยากาศภายในร้านเป็นสิ่งที่แก้วประทับใจมาก สวยงาม เป็นกันเอง อยากนั่งอยู่นี่ กินมันทั้งวัน 55 5

ระหว่างที่ผมกำลังเดินถ่ายรูปร้าน คุณแฟนผมก็จัดการสั่งอาหารเสร็จเรียบร้อย สงสัยต้องรอดูอย่างเดียวละครับ ว่ามีอะไรบ้าง

เมนูแรกเลยครับ พิซซ่า Signature ของร้าน ตองสาม คาเฟ่เลย มี 3 หน้า ในถาดเดียว

ต่อด้วยสปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล และสเปาเกตตี้เส้นดำ รสชาติกำลังดี กลมกล่อมไม่เผ็ดเกินไป


สลัดปลากรอบจานยักษ์ ซึ่งปลาที่นำมาใช้ในเมนูนี้สั่งมาไกล จากญี่ปุ่นเลยนะฮะ

รวมเมนูสุดอร่อยจากร้าน ตองสามคาเฟ่ ที่ทุกคนถ้ามาแล้ว ห้ามพลาดเลยจริงๆ อร่อยสุดๆ แก้วยืนยัน

มีคาวต้องมีหวานครับ ต่อด้วย ทีรามิสุ สไตล์ ตองสามคาเฟ่เท่านั้น หากินแบบนี้ไม่ได้ที่ไหนแน่นอน ต้องที่นี่เท่านั้น

พี่บ่าว Chef เจ้าของร้านแนะนำวิธีการกินให้แก้วลองทำตาม ราดกาแฟ เอสเปรสโซ่หอมๆ ลงบนตัว Biscuit ตักครีมสูตรพิเศษจากทางร้านราดลงไป แล้วโรยหน้าด้วยผงโกโก้ โอ้โห อร่อยอย่าบอกใครเลย แถมไม่เหมือนที่ไหนจริงๆ

ยังไม่จบครับ ต่อด้วย Chocolate Lava Cake นุ่มๆ ละมุนลิ้น


ปิดท้ายด้วย พานาค๊อด สุดหอมกับสตอเบอรี่ สดๆ และ Layer ของครีมนุ่มๆ ที่อยู่ในถ้วย เด็ดขนาดไหนต้องมาชิมเองครับ



ภาพหลุดขณะกำลังยัดพิซซ่าที่เหลือเข้าปากครับ เสียดายยย ใครอยากจะไปทาน หรือสำรองที่นั่ง อ๊ะๆ มีข่าวดีมาบอก ถ้าไปร้านนี้แล้วบอกว่า ตามมาจาก Mobile Photographer ลดทันที 10% นะฮะ ติดต่อไปได้ทาง Facebook ของร้าน : https://www.facebook.com/333Cafephuket/

จบทริปหนีร้อนของแก้วแล้วครับเป็นยังไงบ้างครับ อยากจะตามมากันใช่มั้ยล๊าา ทริปนี้ไม่แพงครับ
ปกติแล้วแก้วไม่ค่อยอยากบอกว่าใช้เงินไปเท่าไหร่ ในแต่ละทริป แต่คราวนี้จะแชร์ให้ฟังครับ

ค่าที่พักคือละ 4,000-6,000 บาท กับการบริการขนาดนี้ถูกมาก
ค่าเช่ารถขับเที่ยว วันละ 900 บาท + น้ำมันเต็มถึง 600 บาท
ค่าอาหาร 3000 บาท ตลอด 3 วัน 2 คืน
อื่นๆ 500 บาท (ค่าบัตรเข้าชมต่างๆ)



ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะครับ
[ เกี่ยวกับผู้เขียน ]

ชื่อ "แก้ว" ครับ ชอบ เดินทาง ท่องเที่ยว และชอบถ่ายรูปมาก ตั้งแต่จำความได้เลย

ปัจจุบันก็ทำงานประจำ วันว่างๆ ก็เป็น นักเขียน อะไรไปเรื่อย
นอกจากนั้นยังชอบถ่ายภาพ บางครั้งก็มีคนจ้างไปถ่ายด้วยนะ 55 5
พอดีอย่างแชร์สิ่งที่ตัวเองรัก ให้คนอื่นได้รักบ้าง เลยมาเขียน Blog นี้ครับ

ฝากติดตามผลงาน เป็นกำลังใจให้แก้วเขียนด้วยน๊า

IG : https://instagram.com/kaew.mobilefoto/
Fanpage : https://www.facebook.com/mobile.fotographer


Mobile Photographer

 วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 20.42 น.

ความคิดเห็น