MEMORIES at TRANG | เที่ยว ท่อง ล่อง...ตรัง
เที่ยว ท่อง ล่องใต้ ครั้งนี้ ปักหมุดที่ จังหวัดตรัง เพื่อนบ้านดินแดนฝั่งทะเลอันดามัน ที่ลือนักลือหนาว่ามี เสน่ห์ ล้นเหลือ ก็เลยเกิดเป็น Family Road Trip แบบปุบปับนี้ขึ้น นับเป็น ครั้งแรก ของเราเลยกับการไปเยือน เมืองตรัง ที่แค่...ครั้งเดียวก็ทำให้เรา ตราตรึง เชียวล่ะ :)
"...ทำความรู้จัก "จังหวัดตรัง" กันหน่อยเถอะ"
จังหวัดตรัง ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งความสุข สุขสมบูรณ์ไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ทั้งทางน้ำทางบก ทั้งอาหารการกิน และการใช้ชีวิตอย่างมีวัฒนธรรมจนเป็นที่น่าอิจฉา แต่ก่อนนั้น ตรัง รู้จักในนาม เมืองทับเที่ยง ซึ่งเดิมเคยเป็นเมืองท่า ศูนย์รวมทางการค้าขายและการคมนาคม เป็นเมืองที่มีอาณาเขตติดชายฝั่งทะเล มีป่า มีน้ำ และมีเขตติดต่อกับจังหวัดเพื่อนบ้านอย่าง...จังหวัดกระบี่ พัทลุง และนครศรีธรรมราช
หากจะไป ตรัง ก็เดินทางได้หลายวิธี ทั้งทางรถ เครื่องบิน และรถไฟ พูดได้ว่า... 'จะไปก็ง่าย จะมาก็ง่าย' จริง ๆ
'วันนั้น' วันที่ได้ยินแต่ชื่อกับแค่คำเขาเล่า จึงไม่เท่า... 'วันนี้' วันที่ได้มาเยือน เมืองตรัง ด้วยตัวเอง :)
"ป้ายหน้า...กันตัง"
เราเริ่มต้นจาก จังหวัดภูเก็ต มุ่งหน้าสู่ จังหวัดตรัง ด้วยเวลาสี่ชั่วโมงหย่อน ๆ (ไม่มากไม่น้อย) เป็นเส้นทางที่ขับกันยาว ๆ แบบเรื่อย ๆ ที่มีขุนเขาสลับกับสีเขียว ๆ ของต้นไม้ใบหญ้าให้นั่งมองไปตลอดทาง ตอนนี้ยังไม่ได้เข้าที่พักหรอก ขอเลยไป อำเภอกันตัง กันก่อน ที่นี่เขาว่า...มีสถานีรถไฟเก่าให้ดู ไม่ใช่แค่สถานีธรรมดา ๆ แต่เป็นสถานีรถไฟสายสุดท้าย สุดทางขบวนรถไฟสายใต้ฝั่งทะเลอันดามันไงล่ะ
> > การเดินทางจาก ภูเก็ต ถึง อ. กันตัง (~ 124 กิโลเมตร) โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4, ทางหลวงหมายเลข 4046, ทางหลวงหมายเลข 4008 จากนั้นให้เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 403 ก็ถึงที่หมายแล้วล่ะ
: : สถานีรถไฟกันตัง [ Kantang Station ] เป็นอาคารไม้ชั้นเดียวทรงปั้นหยา สีเหลืองมัสตาดคาดด้วยสีน้ำตาลเข้ม ๆ ที่ยังคงไว้ทางสถาปัตยกรรมด้วยเอกลักษณ์ดั้งเดิมสมัยรัชกาลที่ 6 และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานโดยกรมศิลปากร
วันนั้น...ผู้คนไม่พลุกพล่าน แม้ว่าสถานีจะยังเปิดใช้งานตามปกติ ภายในมีช่องบริการซื้อตั๋ว เก้าอี้นั่งรอรถไฟ ขบวนรถไฟเก่ากับชานชาลา ส่วนข้างในมีห้องทำงานขนาดย่อม ๆ โต๊ะ ตู้ที่รวบรวมข้าวของเครื่องใช้ในอดีตเอาไว้ให้ได้เดินดูเพลิน ๆ อีกด้วย
...จะว่าไปแล้ว การเดินทางโดยรถไฟอาจเป็นที่นิยมไม่เท่าแต่ก่อน ก็ด้วยมีทางเลือกอื่น ๆ เกิดขึ้นมากมายที่รวดเร็วและสะดวกสบายกว่า ถึงอย่างนั้น
สถานีรถไฟกันตัง ก็ยังให้ความรู้สึกของการคงอยู่ คู่ขนานไปกับการดำเนินชีวิตปัจจุบันของผู้คนในอำเภอกันตัง
> > สถานีรถไฟกันตัง อยู่ที่ถนนหน้าค่าย ตำบลกันตัง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง
> > ปัจจุบันเราสามารถโดยสารรถไฟจาก กรุงเทพฯ-กันตัง และจาก กันตัง-กรุงเทพฯ ได้วันละ 2 รอบ มีทั้งขบวนรถด่วนและขบวนรถเร็ว (~ 14 ชั่วโมง) หรือจะนั่งจาก อำเภอเมือง มายัง อำเภอกันตัง ในระยะทางใกล้ ๆ (~ 44 นาที : ตั๋วราคา 5 บาท) ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบนะ :)
"ถึง...สถานีรัก แล้ว 'รัก' มั้ย ?"
...ถึง
สถานีกันตัง ก็คือถึง สถานีรัก Love Station Cafe' ด้วย :)
: : สถานีรัก [ Love Station Cafe' ] เป็นคาเฟ่ไซส์มินิ เตะตาเราด้วยสีสันที่เข้ากันม๊ากมากกับ สถานีรถไฟกันตัง เป็นที่นั่งชิวล์ ชมบรรยากาศสถานีรถไฟกับชานชาลาแบบไม่เร่งรีบ หรือจะเข้าไปนั่งตากแอร์ให้เย็นใจ ก็มี Wifi พร้อมใช้ไว้บริการ
ภายในร้านตกแต่งไว้อย่างน่ารัก ด้วยบรรดาของเล่น ของสะสม และโปสการ์ด สนนราคาเครื่องดื่มไม่แพง ส่วนรสชาตนี่กลาง ๆ นะ
เย็นมากแล้ว เราออกจาก สถานีรถไฟกันตัง มุ่งหน้าหาร้านอาหาร (มื้อแรกที่ตรัง) ที่แถมมาด้วยวิวแม่น้ำยามเย็น ในตอนที่ฟ้าเริ่มคลายความสว่างลง เราก็ขับรถมาถึงสะพานยาว ๆ ที่มองเห็น แม่น้ำตรัง กำลังไหลเอื่อย ๆ โดยมีบ้านเรือนขนาบข้างสองฝั่ง ออกไปยืนสูดอากาศแล้วมองออกไปสุดสายตา จะเห็นท้องฟ้าหลัวเหนือทิวเขาไกล ๆ นู่น...
สายน้ำยามเย็นกับความงามของดวงอาทิตย์ตอนทอดตัวลงต่ำอย่างช้า..ช้า เป็นบรรยากาศระหว่างมื้อเย็นที่สุดยอดที่หนึ่งเลยล่ะ :)
"อร่อย...ริมแม่น้ำตรัง"
: : ครัว "ภู...ตรัง" [ ลมหายใจเก่า ในบ้านหลังใหม่ ] ตั้งอยู่เลียบแม่น้ำตรังพอดิบพอดี เป็นร้านอาหารแบบโอเพ่นแอร์ค่อนข้างกว้างขวาง รองรับแขกได้เป็นหมู่คณะ อาหารที่สั่งมาจะเป็นจานใหญ่ ๆ เหมาะกับการทานเป็นกลุ่ม แต่ละจานได้เนื้อได้หนัง มีรสชาตติดหวานนิด ๆ ส่วนอาหารทะเลก็สดน่าทานดีค่ะ
มื้อนี้ได้ชิมหลายเมนู เริ่มจากหอยนางรมสด ๆ ตัวโต๊โตพร้อมเครื่องเคียง ประเภทผัก เราเลือก...ใบเหมียงผัดไข่ ส่วนอาหารทะเล สั่งเนื้อปูผัดผงกะหรี่ ได้เนื้อปูเน้น ๆ ตามด้วยเอ็นหอยผัดฉ่ารสชาตร้อนแรง ปลากะพงทอดน้ำปลาตัวเบิ้ม..เบิ้ม และสุดท้าย แกงส้มปลาใส่ยอดมะพร้าว
> > ค่าเสียหายมื้อนี้ ~ 1,400 บาทเศษ ๆ เรียกว่า...อิ่มตื้อกันทีเดียว
> > ถ้ามาถึง อำเภอกันตัง ก็ต้องลองชิมอาหารใต้ที่ ครัว "ภู...ตรัง" สักครั้ง ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ตำบลบางหมาก ริมถนนใหญ่ ทางไปอำเภอกันตัง หาไม่ยากเลยค่ะ :)
...เตร่กันจนค่ำก็ได้เวลากลับเข้าที่พัก โดยต้องขับรถจากกันตังย้อนกลับไปอำเภอเมือง ระยะทางยี่สิบกว่ากิโลก็ถึง ก่อนเดินทางมาจองโรงแรมผ่านเว็บไซต์ไว้แล้ว คืนนี้ก็เลยไม่ต้องห่วงเรื่องตระเวณหาที่พัก :)
: : โรงแรมเรือรัษฎา [ Rue Rasada Hotel ] หรือ โรงแรมเรือ มีสถาปัตยกรรมภายนอกเป็นรูปทรงของเรือสำราญ ให้ความรู้สึกเสมือนผู้เข้าพักได้นอนอยู่ในเรือเดินทะเลอย่างไรอย่างนั้น :)
ภายในตัวโรงแรมโอ่โถงดี บริเวณ Lobby ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ส่วนภายในห้องพักตกแต่งไว้อย่างเรียบหรู สะอาดสะอ้าน มีเตียง ตู้แบบบิวท์อินกับชุดโต๊ะเครื่องแป้งครบ ส่วนของห้องน้ำถูกแบ่งไว้เป็นสัดส่วน กว้างและมีผนังด้านหนึ่งเป็นกระจก พร้อมกับเครื่องอาบน้ำไว้บริการ
> > ห้องพักสำหรับคืนนี้ ราคาคืนละ 1,800 บาท (ไม่รวมอาหารเช้า) ถือว่าเหมาะสมค่ะ
> > โรงแรมเรือ เป็นโรงแรมเก่าแก่และเป็นที่รู้จักในจังหวัดตรัง โรงแรมตั้งอยู่ในอำเภอเมือง ใกล้กับห้างโรบินสันและสวนสาธารณะ ถือเป็นโรงแรมใหญ่ ได้มาตรฐานและน่าเข้าพักคะ
จากระเบียงห้องพักจะมองเห็นตัวโรงแรม วิวตึก บ้านเมืองกับที่ไกลออกไปเป็น...ทิวเขา
บรรยากาศเช้านี้สบาย ๆ นะ อากาศไม่ร้อนจนเกินไป จากที่บุ๊คกิ้งโรงแรมมาในราคาไม่รวมอาหารเช้า คณะเราก็เลยตื่นแต่เช้าหน่อยจะได้ออกไปตระเวณกิน เอ้ย! เที่ยว ดูนู่น...ดูนี่ไปด้วยพร้อมกัน :)
บรรยากาศในตัวเมืองสงบดี ผู้คนกับรถราอยู่ในระดับขวักไขว่ (แต่ไม่มาก) ก็น่าจะด้วยความน่าสนใจที่ดึงดูดให้นักเดินทางพากันมาท่องเที่ยวกันมากขึ้น
เรามาเป็นครั้งแรกก็เลยอาศัยขับรถเวียนไปเวียนมาให้ได้เห็นตึกแถว ร้านค้า ถนนหนทาง ขับผ่านวงเวียนปลาพะยูน และเห็นอาคารที่ยังรักษาความเป็นเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมได้ไม่แพ้ที่อื่น กับที่ขาดไม่ได้มาแล้วต้องเจอก็คือ เจ้าตุ๊กตุ๊กหัวกบ ที่ยังโลดแล่น รับ-ส่งคนอยู่ตามท้องถนนในเมืองตรัง
เขาว่ากันว่า...มาถึง จังหวัดตรัง ทั้งที ต้องห้ามพลาด อาหารเช้า มื้อสำคัญและเป็นมื้อเริ่มต้นของวัน ได้ยินมาว่าคนตรังกินอาหารกันวันละ 5-6 มื้อเชียวนะ ไหน ๆ เราก็มาถึง 'บ้านเขา' แล้ว เราก็เลยต้องกิน ต้องอยู่ตามอย่างเขาสักหน่อยล่ะนะ
แฮร่...งานนี้พุงบานก็ไม่ว่ากันนะ (เต็มใจจริง ๆ)
: : ร้านแรกที่ไปชื่อ
เลตรัง 2 นับเป็น Landmark หนึ่งในบรรดาร้านอาหารเช้าของที่นี่ ภายในร้านเป็นห้องกระจกกับด้านนอก ส่วนของ Outdoor ก็นั่งทานได้ ร้านอาหารถูกตกแต่งไว้ด้วยต้นไม้กับไม้เลื้อยไว้จนร่มรื่น น่านั่งดี :)
อาหารเช้าแบบเน้น ๆ ของที่นี่ก็ต้อง
'ติ่มซำ' ซิ มองเห็นควันฉุย ๆ จากถาดใส่ติ่มซำ ที่พอไปจิ้ม ๆ เลือก ๆ เขาก็ยกมาเสิร์ฟแบบร้อน ๆ เร็วทันใจ ถือเป็นอาหารหลักที่ขาดไม่ได้ของคนตรัง กินคู่กับน้ำจิ้มสูตรเฉพาะของร้าน มันช่างเข้ากัน!!!
มาถึง
ร้านเลตรัง 2 เราอยากชวนให้ชิม ห้อยจ้อปู ชิ้นโต ๆ เน้นเนื้อปูม้าแน่น ๆ แล้วยังมีก๋วยเตี๋ยวหลอดกุ้ง สุกใหม่ ๆ เสิร์ฟร้อน ๆ หมูย่างรสชาตกลมกล่อมที่ต้องลอง ร้านนี้นับเป็นหนึ่งใน 'ยุทธจักรความอร่อย' ที่มาถึง เมืองตรัง ต้องชวนให้มาชิมกันสักครั้งจริง ๆ :)
> > งานนี้...ติ่มซำ ฮะเก๋า ขนมเปี๊ยะ ซาลาเปา จีบปู จีบกุ้ง หมูย่าง เรียงหน้ามาเต็ม!!!
> > ร้านเลตรัง 2 อยู่ในอำเภอเมือง ถนนไทรงาม ซอยไทรงาม 1 นี่เอง (ร้านอยู่ในซอยหลังโรงพยาบาลราชดำเนิน) ค่ะ
วัฒนธรรมการกินอาหารเช้า จิบกาแฟ หรือที่เรียกว่า "โกปี๊" อยู่คู่กับคนตรังมานมนาน เขานิยมกินอาหารกันวันละหลาย ๆ มื้อและแต่ละมื้อก็นิยมกินกาแฟด้วย เราจึงเห็นร้านกาแฟกระจายตัวอยู่ทั่วเมือง ให้นั่งจิบกาแฟไปด้วย กินเครื่องเคียงที่เป็นติ่มซำ หมูย่าง และอีกสารพัด
นี่ล่ะ ที่พูดได้ว่า
เมืองตรัง เขาสุขสมบูรณ์ไปด้วยอาหารการกินจริง ๆ :)
: : เรือนไทยติ่มซำ ร้านที่ครบเครื่องเรื่องติ่มซำ (เข่งละ 20 บาท) มีรสชาตแบบสูตรต้นตำรับ อร่อยแบบดั้งเดิม มีติ่มซำให้เลือกหลากหลาย ทั้งของทอด ของนึ่ง หรือจะเป็นของร้อนอย่าง...บะกุดเต๋ ใส่เครื่องยาจีนก็มี ที่นี่มี 'ปาท่องโก๋' ที่เรียกว่า 'อิ่วจาก้วย' แทนที่จะเป็นปาท่องโก๋แบบที่เราคุ้นเคย ที่นี่เขากินคู่กับสังขยา ส่วนปาทังโก๋เมืองตรังตามแบบชาวจีนก็จะมีหน้าตาอีกอย่างหนึ่ง อันนี้ก็แปลกดีนะ
> >
เรือนไทยติ่มซำ ตั้งอยู่บนถนนเพลินพิทักษ์ อำเภอเมืองตรัง เป็นอีกร้านหนึ่งที่ชิมแล้วอยากบอกต่อค่ะ
เอิ่ม...เรื่องกินยังไม่จบ อิ่มท้องแล้วแต่ยังขาดของฝาก ที่ เมืองตรัง เขามีของฝากให้เลือกหลากหลาย ทั้งหมูย่างเจ้าดั้งเดิมที่ต้องไปซื้อตอนเช้าหน่อย ไม่อย่างนั้นอด เค้กตรัง เค้กมีรูที่เป็นเอกลักษณ์ของ จังหวัดตรัง ให้เลือกซื้อกันตามอัธยาศัย
ส่วนเราแวะไปที่ร้านนี้ก่อน เขาว่า...มีเค้กมะพร้าวอร่อย :)
: : Richy Bakery & Restaurant เป็นร้านน่านั่งที่บริการอาหาร เค้ก กาแฟ และของฝากด้วย ภายในร้านให้บรรยากาศสบาย ๆ ตกแต่งไว้ในสไตล์หวาน ๆ เราแวะไปชิม 'เค้กมะพร้าวอ่อน' ทำเสร็จใหม่ ๆ ชิมแล้วละมุนนุ่มลิ้น ถือว่าอร่อย ไม่ผิดหวัง
ก่อนกลับซื้อ
ขนมเปี๊ยะ ลูกโต ๆ ไส้เผือกหอมแบบล้น ๆ ด้วย อันนี้ก็อร่อยสมคำเขาเล่านะ
> > ร้าน Richy ตั้งอยู่บนถนนรัษฎา อำเภอเมืองตรัง ใกล้กับสนามกีฬาตรัง ใครไปใครมา...แวะมาชิมด้วยตัวเองนะ :)
Next Station | Phatthalung
จาก
เมืองตรัง มุ่งสู่ จังหวัดพัทลุง อีกหนึ่งจังหวัดที่ยังไม่เคยไปเยือนสักหน (ระยะทาง ~ 60 กิโลเมตรเศษ ๆ)
: : Trang Andaman Gateway เขาพับผ้า ระหว่างการเดินทางไป จังหวัดพัทลุง จะผ่าน "ตรัง...ประตูสู่อันดามัน" ที่ตั้งอยู่บน ถนนสายเขาพับผ้า ตรัง-พัทลุง เป็นจุดพักรถที่มีประติมากรรมโขลงช้างเป็นสัญลักษณ์ น่าจะด้วยเหตุผลที่ว่า...ในอดีตช้างเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยลากจูง ขนถ่ายวัสดุ เดินลากล้อรถบด ลากก้อนหินไปใช้ในการก่อสร้างต่าง ๆ จนทำให้งานสำเร็จ จึงได้สร้างประติมากรรม 'ช้าง'ไว้เป็นอนุสรณ์สถาน ณ เขาพับผ้า
> > Trang Andaman Gateway ตั้งอยู่บน ถนนทางหลวงหมายเลข 4 หมู่ที่ 7 ตำบลเขาช่อง อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง
...ถึง จังหวัดพัทลุง เมืองที่ทำให้รู้สึกถึงความสงบเงียบ เรียบง่าย และคลายจากความโกลาหล เป็นอีกหนึ่งเมืองที่เหมาะแก่การหลีกลี้ความวุ่นวาย มาสู่...การพักผ่อนจริง ๆ
ครั้งนี้มีโอกาสไปที่ ถนนเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาศเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม พ.ศ. 2550 เป็นถนนยาว ๆ กั้นกลางระหว่าง ทะเลน้อย กับ ทะเลหลวงของทะเลสาบสงขลา อีกทั้งเป็นสะพานข้ามทะเลสาบที่มีความยาวมากที่สุดในประเทศไทย
สะพานเฉลิมพระเกียรติ แห่งนี้ นอกจากจะเส้นทางคมนาคม ยังเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่มีสัตว์หลายชนิดอาศัยอยู่ เช่น ควายและนกสายพันธุ์ต่าง ๆ ลองขับรถไปเรื่อย ๆ แล้วพาตัวเองไปหยุดอยู่ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบของทะเลสาบ จะรู้สึกว่า...ชีวิตดีจัง :)
> > ถนนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม เดิมคือ ถนนสายบ้านไสกลิ้ง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง - บ้านหัวป่า อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ใครอยากชมวิวและศึกษาธรรมชาติ ดูสัตว์ ก็ไปที่นี่ได้เลย :)
"ไม่รู้จักฉัน (ยัง) ไม่รู้จักเธอ"
พัทลุง อาจไม่ได้อยู่ใน ตัวเลือก แรก ๆ เมื่ออยากออกเดินทางของหลาย ๆ คน เมืองเงียบ ๆ เรียบสงบที่เราเองก็ไม่รู้มาก่อนเช่นกันว่าซุกซ่อนอะไรดี ๆ ไว้บ้าง และด้วยเวลาอันน้อยนิดทำให้ไม่อาจค้นหาได้ทั้งหมด แต่ที่รับรู้ได้โดยไม่ต้องอยู่นานเห็นจะเป็นวิถีชีวิตเรียบง่าย ไม่วุ่นวาย ไม่อึกทึกอย่างที่เมืองท่องเที่ยวอื่น ๆ เขามีกัน
จังหวัดพัทลุง ยังรักษาความเป็นตัวตนไว้อย่างสมบูรณ์ และคงจะมีโอกาสให้เราได้ค้นหา...ในครั้งหน้าอย่างแน่นอน
: : ค่ำนั้นยังอยู่ที่พัทลุง และเข้าพักที่ The Centris Hotel จองห้องพักสำหรับ 3 คน (ไม่รวมอาหารเช้า) ไว้
ห้องพักมีขนาดพอเหมาะ ไม่คับแคบและสะอาดดี สภาพโดยรวมยังใหม่ มีคอฟฟี่ช้อปที่ชั้น 1 ของโรงแรม และมีลานจอดด้านหน้าโรงแรมเป็นสัดส่วน ถ้าเดินออกมาหน่อยจะเจอถนนและตึกแถว ร้านค้าต่าง ๆ ก็ถือว่าสะดวกสบายดีสำหรับคนที่เพิ่งเคยมาครั้งแรกอย่างเรา
> > การเดินทางมาก็ไม่ยากนะ โรงแรม The Centris ตั้งอยู่ที่ถนนโพธิ์สะอาด ตำบลคูหาสวรรค์ อำเภอเมือง อยู่ในซอยข้าง ๆ ร้านท็อปเจริญ มีป้ายบอกไว้ชัดเจนค่ะ :)
Coffee, Along The Way
ก่อนกลับแวะจิบกาแฟสักแก้ว ร้านตั้งอยู่ระหว่างเส้นทาง ณ ตำบลพนมวังก์ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง นี่เอง
: : ROUTE 41 [ Cowboy Town Phatthalung ] เป็นจุดพักรถข้างทางที่ดึงดูดสายตาจนต้องเลี้ยวเข้าไปสักหน่อย น่าจะด้วยลักษณะของร้านที่ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังก้าวเข้ามาในชุมชนคน Cowboy บริเวณเดียวกันมีทั้งร้านกาแฟ ร้านสเต็ก และห้องน้ำสะอาดไว้คอยบริการ
ไม่ว่าจะเครื่องดื่มร้อนหรือเย็นก็รสชาตเข้มข้นใช้ได้ เหมาะกับสายขับยาว ๆ อย่างเรา อยากชิมกาแฟเข้ม ๆ สักแก้วก็แวะที่นี่เล้ย :)
...ไม่ว่าจะออกเดินทางมาแล้วกี่ครั้ง จบทริปลงเมื่อใด 'ความรู้สึก' ที่ได้กลับมาไม่เคยเหมือนกันสักที
บางที่...ตราตรึงด้วยความงดงาม ฟ้าใส หมอกสวย ภูเขาสูง บางที่...อากาศดี อาหารอร่อยจนต้องยกนิ้ว
บางที่...ผู้คนน่ารัก บางที่...สร้างประสบการณ์ที่หาที่อื่นไม่ได้ สร้างการจดจำได้ไม่ลืมเลือนจนทำให้เราเผลอนึกถึงอยู่เสมอ ๆ
หากว่าการเดินทางไปต่างที่ ยังมีสิ่งที่คล้าย ๆ กัน นั่นคือ...สถานที่เหล่านั้น มักจะเปลี่ยนตัวเองจาก
'ประสบการณ์ใหม่' กลายไปเป็น 'เพื่อนเก่า' ที่คอยกวักมือชวนเรา ให้กลับไปพบหน้ากันอย่าง 'เพื่อนสนิท'
เที่ยว ท่อง ล่อง ใต้ [ เมืองตรัง พลัส พัทลุง ] ครั้งนี้ก็เช่นกัน ที่นี่อาจเป็นแค่เมืองธรรมดา ๆ ไม่หวือหวา หากร่ำรวยไปด้วยเสน่ห์ ที่จะชวนให้เรากลับไปเยือนที่นั่น...อีกครั้ง
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เพราะ 'การเดินทาง...ไม่มีวันจบ' ฝากติดตามการเดินทางครั้งหน้าของเราด้วยนะคะ แล้วพบกันเร็ว ๆ นี้ :)
: : ย้อนอ่าน 'บันทึกเดินทาง' ของเราได้ที่นี่เล้ย (คลิกๆ) : :
"ภูเก็ต" ชวนรักเลย | Falling In Love [Food] at PHUKET
PHUKET Street Art | ศิลปะที่ต้องตามหา | 8 Check in Graffiti Point @ Phuket
Green Space กลางกรุง | TOWN TREE by Coffee Tripper
Wang Nam Khiao Trip | เพลิน..เพลินโอโซนแลนด์
ทริปใกล้กรุง | ชมวิว ฟินกุ้ง ดูอาร์ท | Ayutthaya and Singburi Trip
Coffee Tripper | 'หนีร้อน' ไปพัก...WOOD Cafe'
เหนือสิบแสน สู่แดน...ภูลังกา ตอนจบ | ทริปเหนือ เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน
เหนือสิบแสน สู่แดน...ภูลังกา ตอน 1 | ทริปเหนือ เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน
Chanthaburi Trip | เมื่อฉันเผลอใจไป 'จันท์'
Stay Alive!! เกาะติด...ชีวิตติด 'เกาะ' | ท่องทะเลอันดามัน กินลม ชมชิวล์ ภูเก็ต - กระบี่
ซาปา เมืองที่ทำให้เรารัก 'เขา' ตอน 1 | Vietnam Trip : Ha Noi - Sapa EP#1
ซาปา เมืองที่ทำให้เรารัก 'เขา' ตอน 2 | Vietnam Trip : Ha Noi - Sapa EP#2
ซาปา เมืองที่ทำให้เรารัก 'เขา' ตอน 3 | Vietnam Trip : Ha Noi - Sapa EP#3
: : ถ้าเราเป็นคนชอบเที่ยวเหมือน ๆ กัน แวะพูดคุย แบ่งปันและแชร์เรื่องเที่ยวด้วยกันได้ ที่เพจ MINDJourney นะคะ : :
GO OUT THERE
วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 เวลา 20.57 น.