“ ขึ้นเหนือกันไหม? ขับรถไป "



....เสียงจากพี่คนนึงชวนเราขึ้นมากลางออฟฟิต....



ไปภาคเหนือหน้าฝนหรอ แถมขับรถไปอีกด้วย เอาจริงๆคิดไม่ออกเลยว่าเป็นไง คือถ้าไปจะเจอแต่ฝนรึป่าว จะอันตรายไหม แล้วไปทำอะไร ไปไหนบ้าง ขึ้นดอยด้วยป่าว(ขึ้นดอยเราเคยขึ้นแค่ภูกระดึง ฮ่าๆ) แต่ด้วยความว่างของเรา เลยตอบแบบไม่คิดเลยว่า
“ ไปสิ! อยากไปๆ "
เพราะโอกาสที่จะได้ไปแบบนี้คงไม่ได้หาง่ายๆแน่นอน และเราก็มีเพื่อนร่วมทริปทั้งหมด 6 คน เป็นบุคคลว่างงานทั้งนั้น โดยเช่ารถที่สามารถบรรทุกพวกเราทั้งหมดทุกคนและกระเป๋าทั้งหลายอีก และเราก็มาลิสกันว่า เราจะไปที่ไหนกันบ้าง ไปๆมาๆ เราจะใช้เวลาทั้งสิ้น 10 วัน! เหมือนจะนานแต่เอาเข้าจริง แปปเดียวมากก ทริปนี้ของเราเป็น Roadtrip จุดเริ่มต้นของเราคือกรุงเทพ แวะพักที่ลำปาง ขับต่อจนถึงเชียงรายแล้วค่อยลงมาที่เชียงใหม่ หลังจากนั้นเราถึงจะกลับกรุงเทพ ความสนุกของ Roadtrip คือพวกเราสามารถปรับเปลี่ยนสถานที่และเวลา
สำหรับไปที่ต่างๆ ได้ตลอดเวลา หรืออยากจะแวะอะไรก็แวะ



เรามาดูแผนคร่าวๆของเรากันว่า 10 วันเราไปไหนบ้างดีกว่า



วันที่ 1 : กรุงเทพ – ลำปาง

วันที่ 2 : ลำปาง – เชียงราย

วันที่ 3 : เที่ยวในตัวเมืองเชียงราย

วันที่ 4 : ภูชี้ฟ้า

วันที่ 5 : ดอยผาตั้ง

วันที่ 6 : ดอยอ่างขาง

วันที่ 7 : แม่กลางหลวง เชียงใหม่

วันที่ 8 : เที่ยวในตัวเมืองเชียงใหม่

วันที่ 9 : เที่ยงในตัวเมืองเชียงใหม่

วันที่ 10: กลับกรุงเทพ



ตอนแรกเรามีแผนจะไปปายกับแม่ฮ่องสอน แวะนอนที่ปางอุ๋ง
แต่ดันมีน้ำท่วมก่อน เราเลยเปลี่ยนแผนไปภูชี้ฟ้ากับดอยผาตั้งแทน(เสียใจมากกกก แต่ไม่เป็นไร สวยเหมือนกัน!)



และเนื่องจากรูปของเราเยอะมากกกกกก เราจะขอแบ่งเป็น 3 ตอน

ตอน 1 : ลำปาง - ในตัวเมืองเชียงราย

ตอน 2 : ขึ้นดอยทั้งหลาย ภูชี้ฟ้า ดอยผาตั้ง อ่างขาง แม่กลางหลวง

ตอน 3 : ในตัวเมืองเชียงใหม่



ถ้าพร้อมแล้วไปลุยกันเลยยย แล้วจะรู้ว่าภาคเหนือหน้าฝน มีความดีงามที่เราไม่เคยเห็นอยู่อีกเยอะมากกกกกกกก หน้าฝนก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบนึงนะ



สามารถติดตามเราเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/theforgetfulman/
#สิ่งมีชีวิตที่ชอบลืม



เริ่มการเดินทาง... ก็เปิด pokemon go เอ้ยยยย ไม่ช่ายยย google map กันเลยดีกว่า


เรานัดกันที่สนามบินสุวรรณภูมิตอน8 โมง ยังๆ ยังไม่เปลี่ยนใจเป็นขึ้นเครื่องบินนะ ฮ่าๆ ยังขับรถไป นัดเจอกันประมาณ 8 โมงเช้าแต่กว่าทุกคนจะมาถึงพร้อมออกเดินทางก็เกือบๆ 9 โมงแล้ว และด้วยความที่ขับรถไปไง ชิวเลยทีนี้แวะเกือบทุกปั๊ม ตอนแรกกะว่าจะถึงลำปางประมาณ 5-6 โมง เอาเข้าจริงคือเกือบๆสองทุ่ม หิวมากกตอนนั้นน

ลำปาง เป็นที่แวะพักคืนแรกของพวกเรา มาดูกันเลยดีกว่า


LADA HOUSE : ที่พักของเราที่ลำปาง ทางเข้าก็น่ารักขนาดนี้แล้ววว คืนนี้นอนฝันหวานแน่นอน

อีกสักมุมของที่พักคืนแรกของเรา มีชิงช้าให้นั่งเล่นเหมือนอยู่บ้านจริงๆ


บรรยากาศข้างในกันบ้าง น่ารัก เหมือนนอนเล่นบ้านเพื่อนมากกว่า ทุกคนใจดีมากเลย


บรรยากาศอีกซักรูป โต๊ะเก้าอี้เวลานั่งแล้วรู้สึกเหมือนอยู่โรงเรียนตอนเด็กๆ มีเบาะรองนั่งลายน่ารักๆ ชอบจัง


นี่รูปคุณยายลัดดา หรือ คุณป้า เรียกไม่ถูก ฮ่าๆเนื่องจากเช้านี้เราก็ยังคงคอนเซปไม่รีบร้อน ไปแบบชิลๆเหมือนเดิม ตื่นมาก็เตรียมเก็บของไปเป้าหมายต่อไป เชียงราย... ช่วงที่ระหว่างรอ สมาชิกทุกคนก็มีโอกาสได้นั่งคุยกับคุณยายลัดดา เจ้าของที่พักแห่งนี้ คุณยายน่ารักมากกก เล่าเรื่องแขกที่มาพักให้ฟัง เช่นครั้งนึงมีฝรั่งมาถามก็สื่อภาษาไม่เข้าใจ เช่น ตีนเขา คุณยาย ก็บอกว่า ฟูดเม้าเท่น ฝรั่งคนนั้นก็งง แต่ก้อมีแขกที่มาพักช่วยอธิบายให้ ดูเป็นกันเองมากสำหรับที่นี่ หรือฝรั่งที่มาพักครั้งแรกแล้วชอบก็จะกลับมาอีก 4-5 ครั้ง พาครอบครัวมาบ้าง ที่บริษัทมาบ้าง แถมคุณยายยังแนะนำสถานที่เที่ยวในลำปางว่าต้องไปไหน ไปกินอะไรดี และก็พยายามเขียนอธิบายเส้นทางให้ทุกอย่าง พอได้ฟังแล้วรู้สึกดีกับสิ่งที่คุณยายเล่ามา คุณยายมีความภูมิใจกับในจังหวัดของตัวอย่างมาก ช่วยสร้างข้อคิดดีๆอะไรหลายๆอย่าง ให้กับตัวเราเองด้วย อ๋ออ เกือบลืมคุณยาย อายุ 79 ปีแหละ กำลังจะ 80 แต่ดูแข็งแรงมากกก


ข้าวซอยโอมา : หลังจากสมาชิกทุกคนพร้อมเราก็ออกไปกินข้าวเช้ากัน ตอน 11โมง เช้ามากจริงๆ ฮ่าๆ ถือว่าใครมาลำปางต้องแวะกินเลยร้านนี้ และด้วยความหน้ามืด สั่งไปเยอะพอสมควร หมูสะเต๊ะไร้ควัน ขนมปังหน้าหมูไร้มัน ข้าวซอย


บรรยากาศในร้านกันบ้าง อาจจะดูไม่สวยหรู แต่ของดีอยู่ที่ข้าวซอย เด็ดมาก


สั่งมาเยอะมากกกกกก หิววว สั่งแบบครบทุกเมนู ข้าวซอยเนื้อ ข้าวซอยไก่ ข้าวซอยหมู แล้วก็เลี้ยวซ้ายเข้าซอย บ๊ะ!! ....


ข้าวซอยเนื้อ เด็ดสุด ได้กินแล้วลืมทุกสิ่ง (ปกติก็ชอบลืมอยู่แล้ว)


อันนี้ข้าวซอยหมู ใช่ไหมอะ.. (จำไม่ได้ ฮ่าๆ)


เมื่อท้องอิ่ม พลังงานเต็มเปี่ยม พร้อมจะเดินทางแล้ว!!! ไม่จริงอ่ะ ง่วงเลย ฮา คนขับก็ขับไป เราก็นอนสบายๆเกือบตลอดทาง ใช้เวลาไปประมาณ 3 ชั่วโมง ก็ถึงแล้วเชียงราย วันนี้เราจะนอนที่นี่


ไปถึงก็เก็บของเข้าที่พักก่อนเลย

Happynest inspiring hostel : วันนี้เรามานอน Hostel กัน แต่ไม่เหมือน Hostel เลย เหมือนนอนโรงแรมขนาดย่อมๆมากกว่า เรานอนรวมกันเลย 6 คน ใช้ห้องน้ำรวมของโรงแรม แต่ถือว่าสะอาดและสะดวกสบายเลยที่นี่ เราแนะนำเลย แถมอาหารอร่อย ราคาไม่แพง อยู่ใจกลางเมืองเชียงรายเลย มีของเล่นให้เล่นด้วย และเราแพ้ความคิ้วของที่นี่ คือน่ารักหลายมุมมากกก


ทางเข้าๆ เปิดโล่งๆ อากาศดีๆ ฟินไปคะ


บรรยากาศข้างใน มุมนี้ถือว่าเป็นมุมยอดฮิตของที่นี่เลย ตอนเช้าเราจะมากินข้าวที่นี่กัน


บรรยากาศข้างใน ส่วนเช็คอิน น่ารักทีเดียว


บรรยากาศข้างใน เครื่องพิมพ์ดีดพิมพ์ได้จริงๆเลย


มีของเล่นให้เล่นเต็มเลย หลังจากถ่ายรูปไปเยอะมากที่นี่ และเก็บของเสร็จเรียบร้อย เราจะไปหาร้านนั่งชิลกันดีกว่าาา


หลังจากที่เก็บของเรียบร้อยก็เริ่มออกหากินกันเลยทีเดียวว



The Wanderer : เป็นร้านใหญ่ติดริมแม่น้ำ ต้นไม้เยอะมากกก เจ้าของร้านใส่ใจกับเรื่องจัดสวนในบริเวณมาก ทำให้ร้านร่มรื่นสุดๆ ในแต่ละมุมของร้านตกแต่งให้ดูดีทั้งหมด ตัวอาคารเป็นทรงโมเดิร์น ปูนเปลือย ดูดีทีเดียว แถมยังเปิดช่องให้มีต้นไม้อยู่กลางร้าน อีกด้วย เหมือนเค้าเก็บต้นไม้เดิมของพื้นที่เอาไว้ ซึ่งดีมากๆเลยแนวคิดนี้ ที่นี่ยังมีส่วน outdoor นั่งกันไปเลยท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติไปอีกก และมีส่วนกลาสเฮ้าส์ด้วย เลือกนั่งได้ตามใจชอบเลย

ต้นไม้บริเวณหน้าทางเข้า เหมือนหลุดเข้าไปอยู่อีกที่นึงเลย


ที่นั่งภายนอก นั่งไปฟังเสียงธรรมชาติไป เสียงน้ำไหล หรือว่าจะเสียงใบไม้ไหว ดีอะะ เอาตัวเองมาอยู่กับธรรมชาติแบบนี้


บรรยากาศภายในร้าน แบบเท่ๆ


บรรยากาศภายในร้าน


บรรยากาศภายในร้าน กับ ต้นไม้ที่ทะลุไปนอกร้านเลย


ส่วนกลาสเฮ้าส์


บรรยากาศภายในส่วนกลาสเฮ้าส์


บรรยากาศภายในส่วนกลาสเฮ้าส์ อีกสักมุม


มาที่ขนม เรายืนดูอยู่นานมาก ที่ร้านเลยมาแนะนำให้ เค้กมะพร้าวเป็นขนมซิกเนเจอร์เลยของร้านนี้กันเลยทีเดียว ขาวๆฟูด้วยไข่ขาวเบาๆก่อนเลย


อีกอันที่สั่งเป็นพุดดิ้งคาราเมล มีความไหม้ของน้ำตาลขมๆ เราชอบ เห็นแบบนี้จริงๆ ถ้วยใหญ่มากก


อันนี้เป็น ลาซานญ่า มีความดีงามอะ


มีแมวด้วยยย ตัวนี้ชื่อคาราเมล น้องไม่ยอมเล่นด้วยเลยยย


ตัวนี้ชื่อ เทโพ น้องใจดีตัวนี้ เล่นด้วยได้


แอบถ่ายเพื่อนร่วมชะตากรรม 10 วัน ที่เราต้องอยู่ด้วยกัน จากด้านบน


ร้านที่ 2



ชีวิตธรรมดา : หลังจากกินของหวานไปแล้ว เรามากินข้าวที่ร้านนี้กัน(กินทั้งวันจริงๆ) ร้านนี้ร้านดังของเชียงรายเลยก็ว่าได้ ร้านอยู่ริมแม่น้ำกก ร้านจะเป็นบ้านสวยๆสีขาว พร้อมสวนแบบอังกฤษ มีต้นไม้ล้อมรอบร้านเลย ต้นไม้เยอะตั้งแต่ทางเข้า ข้างในร้านจะเป็นโถงสูงมากๆ จัดที่นั่งเหมือนนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น มีหนังสือและของกระจุกกระจิกเต็มร้าน ทั้งร้านจะมีหน้าต่างล้อมรอบ ทำให้ข้างในดูโปร่ง นั่งสบาย ถ้าใครไม่อยากนั่งข้างในเค้ามีที่นั่งข้างนอกให้นั่งกันด้วย จะนั่งในสวนหรือนั่งริมแม่น้ำก็ได้ เรานั่งร้านนี้อยู่นานมากกก บอกแล้วว่าชิล ฮ่าๆ พรุ่งนี้ไม่ต้องรีบมาก เพราะเราจะลุยเที่ยวในเชียงรายกัน เย้

เกือบลืมหน้าร้านจะมีรถ mini คันเขียวจอดอยู่หน้าร้านด้วยนะ

บรรยากาศทางเข้าร้าน น่ารักๆ


บรรยากาศภายนอก


มีน้องหมามาต้อนรับด้วยยย


บรรยากาศภายในร้าน


บรรยากาศภายในร้าน จะเห็นของสะสมเยอะมากเลย


บรรยากาศภายในร้าน ถ้วยชากาแฟของที่นี่เยอะมาก วางอยู่เต็มชั้นไปหมด


บรรยากาศภายในร้าน จานชามอีกสักรูป


บรรยากาศภายในร้าน เข้าไปในช่องนี้จะเป็นที่นั่งส่วนตัวมากๆ ถ้ามากับเพื่อนเยอะๆ น่าจะสนุกกันเลยทีเดียว


บรรยากาศภายนอก ด้านหลังร้านกันหน่อย มองไปจะเห็นสวน เขียวๆสบายตามากเลย


บรรยากาศภายนอก นั่งชิลๆจิบเบียร์เพลินๆ


บรรยากาศภายนอก ต้นไม้เยอะจริงๆบอกเลย


สวนที่อยู่ภายในร้าน


สั่งกาแฟไปเจิมก่อนเล็กน้อย


อาหารที่นี่เราสั่งมันฝรั่งทอด สปาเก้ตตี้ มีไส้อั่วด้วย สำหรับเรามันฝรั่งทอดอร่อยดี แต่เรื่องราคาที่นี่ถือว่าโหดพอสมควร ถือมาว่าเอาบรรยากาศ หลังจากกินอิ่มแล้ว เราก็กลับโฮสเทลนอนได้เลย ก่อนจะลุยเที่ยวในตัวเมืองเชียงรายกันพรุ่งนี้


อาหารเย็นไปแล้ว มาต่อด้วยอาหารเช้าเลยดีกว่า


ด้วยความที่วันนี้เที่ยวในเมือง เราก็ไม่ต้องรีบตื่นกัน อาบน้ำเสร็จ เราก็มากินข้าว เรากินในโฮสเทลเลย อาหารดูดีมาก เพิ่มจากค่าที่พักอีกคนละไม่เท่าไร อันนี้เราสั่งเฟรนโทสไป อร่อยด้วย เหมาะสำหรับคนขี้เกียจแบบเราที่ไม่อยากออกไปหาอะไรกินข้างนอก กินเสร็จเราจะไปลุยที่แรกของวันนี้กันเลย

เกือบลืม ไข่กระทะก็มีนะ ของสมาชิกที่มาด้วยกัน จริงๆมีข้าวต้ม และก็ไข่ดาวกับแซนวิชให้เลือกด้วย


แวะจอดรถถ่ายรูประหว่างทาง การขับรถเที่ยวดีตรงที่ เราอยากแวะตรงไหนก็แวะ ในทริปนี้มีหลายที่มากๆ ที่เราชอบระหว่างทาง ระหว่างทางก็สวยไม่แพ้จุดหมายปลายทางนะ


ไร่ชาฉุยฟง : ที่แรกของวัน เรามาที่นี้กัน มาตามล่าหนอน เก็บชา ไร่ชาที่นี่ใหญ่มากแต่สามารถขับรถไปจอดตามจุดต่างๆได้เลย แต่เราไม่ทำแบบนั้นกัน เราเดินนนเอา ชมรอบไร่ชาเลย บอกเลยว่าร้อนมากกก จะละลาย เดินสักพักไม่ไหวละ ขอพักแปป เราเลยไปนั่งพักกันบนร้านกาแฟข้างบนสุดของไร่ชาเลย สั่งชามากินดับร้อน เอาจริง ไม่ค่อยรู้สึกถึงชาเท่าไหร่ แงง จริงๆที่นี่มีคาเฟ่อีกที่นึงด้วยแต่เราไม่ได้แวะ แอบดูดี


คาเฟ่ที่เราไม่ได้ไปนั่ง ไว้กลับไปแก้ตัวใหม่นะ


เดินๆๆๆ จนมาเจอเค้าเก็บชาอยู่เลยย


เดินจนละลาย แวะถ่ายรูปแปปป พยายามจะมีชุดเป็นธีม แต่ทำไม่ได้ ฮ่าๆๆ


เดินขึ้นมาหาที่นั่งพักกันก่อนดีกว่า


บรรยากาศข้างในมีร้านขายของ ขายขนมด้วย


นั่งด้านนอกก็ได้นะ ถ้าหน้าหนาวนี่น่าจะชิล


ข้างในบ้าง


สั่งชาไป ขอความเย็นดับร้อนกันนิดนึงง


คาเฟ่แบบไกลๆ


ถ่ายมุมมาตรฐานกันบ้าง ต้องถ่ายนะมุมนี้ ดูดีไปอีกก


ยอดอ่อนใบชา


หลังจากพักถ่ายยอดอ่อนใบชากันไป พวกเราก็เริ่มหิวกันอีกแล้ว ทริปกินของแท้ กินตลอดเวลา ร้านถัดไปที่เราจะไปกันก็ดังอีกเช่นเคย


ร้านต่อไป



Melt in your mouth : ร้านสไตล์ขาวๆ มีสวนแบบอังกฤษ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำกก มีสวนให้เดินเล่นกันไป ที่นั่งมีหลากหลายโซนมาก ทั้งข้างนอก ข้างใน หรือว่ารูปท็อป ถ้ามาช่วงอากาศเย็นๆ แนะนำให้นั่งข้างนอกเลย ด้วยความหน้ามืดและความหิวของทุกคน คือสั่งเยอะมาก แต่ไส้อั่วคือดีงาม แกงฮังเลก็อร่อย เป็นสูตรของคุณแม่เจ้าของร้านเลย กินข้าวเสร็จก็ต่อด้วยขนม พานาคอตต้าคือดีมากกกก ต้องกินอีกแล้วอันนี้ กาแฟก็อร่อยไปอีก ส่วนตัวเราชอบร้านนี้ที่สุดในเชียงรายเลย เพราะอาหารเหนือและขนม เข้มข้น ดีสุดจริงๆ อยากให้ลองไปกันนะ ราคาก็โอเคคุ้มค่า

ทางเข้า เขียวชอุ่มมาก มาหน้าฝนก็ดีตรงนี้แหละ สบายตา


น้องหมามาต้อนรับที่ทางเข้า


บรรยากาศภายในร้านขาวๆ ดูน่ารักเหมาะกับสาวๆมานั่งถ่ายรูปกันมาก หน้าต่างกว้างแสงธรรมชาติเข้ามา ถ่ายแล้วสวยแน่นอนค่ะ


บรรยากาศภายในร้าน มีมุมให้นั่งถ่ายเยอะเลย แต่ของตกแต่งอาจจะไม่แน่นเท่าอีกร้านนะ แต่ก็ลงตัวเหมือนกัน


บรรยากาศภายในร้าน หน้าต่างเยอะจริงๆ บอกเลยยย


บรรยากาศภายในร้าน


บรรยากาศภายในร้าน ของตกแต่งที่นี่เน้นโทนออก ขาว-น้ำเงิน ดูสบายตามากๆ


บรรยากาศภายในร้าน อ้าวแอบมีน้ำตาลด้วย อิอิ


บรรยากาศภายนอกร้าน เป็นที่นั่งในสวนเห็นต้นไม้ และที่สำคัญเห็นแม่น้ำด้วยนะ


บรรยากาศภายนอกร้าน


บรรยากาศภายนอกร้าน เจอคุณลุงกับคุณป้านั่งเล่นโปเกม่อน ทำไมของหนูไม่ขึ้นอ่ะ อิอิ


อาหารที่เราสั่ง เยอะมากกกกกก หิวตาลาย ยังมีอีกนะแต่บอกเลย ถ่ายไม่ทัน 555 ด้วยความหิวของทุกคน


อันนี้ดีสุด ไส้อั่วคือเดอะเบสของทริปนี้เลย ถ้าดูดีๆสีข้างในจะไม่เหมือนกับที่อื่น เป็นสูตรของคุณแม่เจ้าของ ต้องลองๆ


ขนมมมม ดี๊ดี อัพรูปไป หิวไป หลังจากอิ่มกันแล้ว ไปเดินย่อยกันดีกว่าา


ที่ต่อไปที่เราไปได้กินกันอิ่มแล้วก็ไปเสพงานศิลป์ กันบ้าง



บ้านดำ อ.ถวัลย์ ดัชนี : บอกตรงๆว่าตอนแรกไม่มีความรู้เกี่ยวกับที่นี่เลย คิดว่าจะเล็กๆ แต่ของจริงคือที่นี่กว้าง และใหญ่มาก มีหลายส่วนมากๆ ส่วนหน้าสุดจะเป็นที่เก็บ อัตถิ ของอ.ถวัลย์ เดินเข้าไปจะมีบ้าน มีงานสถาปัตยกรรมเยอะมาก มีที่เก็บงานของอาจารย์ มีส่วนที่เค้ายังทำงานแกะสลักด้วย ใครชอบหรือสนใจด้านนี้ มาเลยที่นี่ ดีงามอยู่ ไม่เสียค่าเข้าด้วยค่า

ความอลังของที่นี่


เราก็เดินวนๆ ไป ที่มีหลายอาคารมากเลย


พี่ๆ หนูขอถ่ายหน่อยนะ เขินกันไปเลยนะพี่


แนวที่ดูโมเดิร์นขึ้นมาอีก (ความรู้เราเท่าหางมดเล็กกว่าหางอึ่ง)


ทรงแปลกๆเยอะดี


บรรยากาศแสงเงาสวยๆเต็มไปหมด


ร่มรื่น และร้อนมากในเวลาเดียวกัน


รวม รอบๆภายในบ้านดำ


หลังนี้แหละ ที่เก็บอัตถิ ของอาจารย์


ภายในของอาคารหลังนี้ เป็นส่วนของด้านหลัง


มุมมองจากภายใน ออกไปภายนอก


อาคารนี้เป็นหลังแรกที่เราเข้ามาแล้วจะเจอก่อนเลย เป็นที่นักท่องเที่ยวจะชอบมายืนถ่ายกัน


ต่อจากบ้านดำเราก็มาที่นี่กันเลย



ดอยดินแดง : ที่นี่จะทำเกี่ยวกับการปั้นหม้อ ใครชอบงานแนวนี้ ชอบงานแฮนเมด ต้องมา ดูฮิปมาก ข้างในน่ารักมากด้วย ร่มรื่นสุดๆ ตอนเราไปมีแค่กลุ่มเรากลุ่มเดียวเอง ที่นี่จะมีหลายโซนมาก ทั้งส่วนขายของ ทั้งจาน ชาม หม้อทั้งหลาย ใครชอบต้องเสียตังแน่นอน มีส่วนร้านกาแฟ และส่วนที่เค้าปั้นหม้อและเผากันตรงนั้นเลย

เรามาช่วงเย็นไปหน่อย อาจจะไม่ได้แสงสวยๆเท่าไรนัก


ภายในแต่ละหลัง ก็จะมีถ้วยชาม เรียงรายเต็มไปหมด


ภายนอกดูธรรมชาติมากๆ


ภายนอกกันอีกหน่อย


ต้องแอบถ่ายพี่ช่างกันอีกตามเคย


แม้แต่บันไดยังสวย


ภายนอกก็จะมี โอ่ง ไห กะละมัง หม้อ เต็มไปหมด


เดี๋ยวๆ กะละมังมาจากไหนไม่นะ.. ไม่มี ฮ่าๆ

หลังนี้เป็นส่วนคาเฟ่ แต่คิดว่าช่วงนี้ไม่ค่อยมีลูกค้าเลยเงียบๆไป


แก๊งสาวๆกันอีกสักรูป


เดินมาเหนื่อยๆ ไปหาร้านนั่งกันเถอะ



Ryukan Cafe : ไปต่อๆ ยังไม่หมด ร้านนี้ ถ้าไม่บอกจะคิดว่าอยู่ญี่ปุ่น คือมีความเป็นเจแปนสไตล์สุด ที่นี้จะมีทั้งส่วนร้านกาแฟและเป็นโฮสเทลด้วย แต่เรามาที่นี้เพราะตัวการ์ตูนญี่ปุ่นเลย มีเยอะมาก โดเรม่อน อันปังแมน และที่ห้ามพลาดเลยคือโตโตโร่ น่ารักไปอีก อ้อ อีกอย่างคือร้านนี้จะมีน้องหมาชื่อลักกี้ น้องตัวใหญ่มากเล่นกับน้องได้ น้องใจดี ชอบเล่นด้วย

ทางเข้าร้าน


มีส่วนโฮสเทลด้วย


ส่วนโฮสเทล น่ามาลองพักมั่ก


โดเรมอนนนนน ก็มาา หนูของประตูวิเศษโหน่ยยย จะได้ไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ อิอิ


ญี่ปุ่นไปอีกกก


บรรยากาศภายนอกร้าน


บรรยากาศข้างในกันบ้าง


น้องหมาชื่อลัคกี้ หน้าตาใจดีบอกว่า ป๋มอยากมีเพื่อนเล่นด้วยฮะ แฮ่ๆ


สั่งชาเขียวให้รู้สึกมีความเป็นยี่ปุ่ง


เห็นโตโตโร่ไหมมม ไปถ่ายรูปกันน


ถ่ายน้องจนหนำใจ ข้างๆเดินเข้าป่าไผ่ได้นะ


เริ่มตกเย็น มาถ่ายท้องฟ้าสวยๆ ระหว่างทางก่อนไปกินข้าวกัน วันๆนึงหมดไปเร็วจังเนอะ


หลู้ลำ : ร้านอาหารเหนือริมน้ำ ที่คนเยอะมาก มีเมนูแปลกๆ ให้ลองเยอะแยะเลย เราได้ลองกบทอดกระเทียม รสชาติคล้ายไก่แต่มีความกรุบกรอบกว่า โดยรวมแล้วรสชาติอาหารที่นี่จะติดหวาน แต่ราคาถือว่าโอเคเลย ไม่แพง


ภายในร้านกันอีกหน่อยนะ


มีส่วนนั่งด้านนอกด้วยนะ


อาหารมาแล้วๆ กินกันๆ ทริปนี้เอาแต่กิน 555


Laan-Tim's Cafe & Gallery : ร้านนี้อ่านว่า หลานติ๋ม มีใครอ่านว่า ลานติมเหมือนเราบ้าง ฮ่าๆ ตอนแรกนึกว่าขายไอติม แต่ไม่ใช่ ขายกาแฟ กาแฟแบบจริงจังด้วยนะ ร้านสังเกตได้ง่ายมากกก เพราะหน้าร้านมีโครงไม้ทำต่อออกมาจากข้างในเป็นบ้าน ที่นี่พยายามจะถ่ายรูปหน้าร้านแล้ว แต่ทำไม่ได้จริงๆ เลยวาดเอาซะเลยยย ร้านนี้เราแวะก่อนจะออกนอกเมืองกันแล้วว


ส่วนทางเข้าร้าน อยากถ่ายแบบเต็มๆนะแต่ติดรถที่จอดอยู่ ฮืออออ


โลโก้ร้าน หน้าทางเข้า


ระเบียง หน้าร้าน ก่อนเข้าไปนั่งจิบกาแฟกัน มาดูกันว่าเราจะกินไปกี่แก้วว


บรรยากาศในร้าน เงียบๆดี มานั่งทำงานก็โอเคเลย


คนนี้คือหลานติ๋มรึป่าว ฮา


ภายในร้านมีที่นั่งให้หลายแบบ เปลี่ยนบรรยากาศกันไป


แบบนั่งสูงๆ มาคนเดียวนั่งหล่อๆสวยกันไปค่ะ


อีกรูปๆ


ของตกแต่งน่ารักๆ


ชามะนาววว ไม่กินกาแฟก็กินชาได้


กาแฟแก้วที่ 1


กาแฟแก้วที่ 2


กาแฟแก้วที่ 3 คืนนี้ไม่ต้องนอน


Eat.sleep Cafe & bed : ร้านนี้เจอตอนมากินหลู้ล้ำเมื่อวาน เห็นว่าน่ารักดี เลยแวะกินข้าวซะเลย ที่นี่เป็นทั้งคาเฟ่และเกสเฮ้าส์ด้วย ร้านจะเป็นสีขาว ดูเรียบง่าย และมีสวนล้อมรอบร้านด้วย


ส่วนนั่งข้างนอก ถ้าอากาศเย็นๆชิลคงสบายแต่ตอนนี้ตัวละลายยยย


อยากจะออกไปนั่งรับแสงแดด อบอุ่นแบบเมืองนอก


หรือมาหลบร่มๆตรงนี้ดี แต่เราเลือนั่งข้างในห้องแอร์ดีกว่า หน้าหนาวค่อยว่ากัน


เจอน้องหมาอีกแล้วววว ตอนแรกน้องวิ่งมาเหมือนจะเล่นด้วย แต่ป่าวเลย น้องวิ่งมานอนน


ภายในร้านมีของจุกจิกขายด้วย


ส่วนที่เรานั่งกันห้องแอร์แน่นอน ร้อนม่ายหวายแล้วว


อีกสักมุม


อาหารที่นี่ถือว่าอร่อยและไม่แพง อันนี้เป็นข้าวผัดน้ำพริกสูตรเฉพาะของทางร้าน แต่จำชื่อเมนูไม่ได้ ฮาา


แกงฮังเลกับไข่เจียวร้อนๆ ฟินไปปป


หลังจากกินข้าวอิ่มกันเป็นที่เรียบร้อย เราก็จะออกนอกเมืองเชียงรายกัน ไปขึ้นดอยกันเถอะะะะะ เย้ๆ


ตอนแรก ขอจบเท่านี้ก่อน ตอน 2 เราจะขึ้นดอยกันแบบเต็มๆ รอติดตามกันอีกทีนะ

สิ่งมีชีวิตที่ชอบลืม

 วันพฤหัสที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 เวลา 22.50 น.

ความคิดเห็น