"พักสมอง นอนมองทะเล เที่ยวภูเก็ต ดำน้ำ Similan"
สำหรับทริปนี้ของเราเป็นการเดินทางท่องเที่ยวแบบสบายๆ โดยเน้น กิน นอนพักผ่อนที่ The Charm resort Phuket และ One day trip ดำน้ำหมู่เกาะสิมิลัน ซึ่งหมู่เกาะสิมิลันนั้น เพิ่งจะเปิดเกาะให้นักท่องเที่ยว ได้ไปเที่ยวชมความงดงามของท้องทะเล เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา(เท่าที่ทราบนะค่ะ) ทริปที่เราเดินทางนี้เป็นการเดินทางประมาณปลายเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่เกาะเพิ่งเปิดใหม่ๆ ปกติไม่ค่อยมีโอกาสได้ไปภูเก็ต ช่วงเกาะเปิด ไปภูเก็ตทีไรก็ไปเอาช่วงเกาะปิดเกือบทุกที คราวนี้เลยไม่รอช้า ที่จะต้องไปชมความงามของ หมู่เกาะสิมิลันให้ได้ เคยแต่ได้ยินใครๆ ก็บอกว่าสวย ๆ ๆ ตั้งแต่เด็กจนโต จนทำให้อยากไปเห็นด้วยตาตัวเองว่าจะสวยขนาดไหน และก็ไม่ผิดหวังจริงๆ ค่ะ
ขอเริ่มทริปการเดินทางที่ สนามบินดอนเมือง ซึ่งการเดินทางครั้งนี้เราใช้บริการ สายการบิน Airasia
ที่มีสโลแกนว่า " บินคุ้ม คุณภาพครบ"
ตอนนี้สนามบินดอนเมือง ผู้โดยสารที่เดินทางภายในประเทศ จะอยู่ที่ เทอมินอล 2 ซึ่งเป็นเทอมินอลที่ เพิ่งได้รับการปรับปรุงตกแต่งให้สวยงาม กว้างขวาง และเปิดให้บริการ เมื่อไม่นานมานี่เอง หลังจากที่เมื่อก่อนต้องใช้ เทอมินอล 1 ทั้งโดยสารภายในประเทศ และต่างประเทศ ดังนั้น หากใครเดินทางภายในประเทศ ก็ ตรงดิ่ง มาที่ เทอมินอล 2 ได้เลย
สำหรับสายการบิน Airasia นั้นสามารถที่จะ Check in กันได้จาก เวปไซด์ และ แอพพลิเคชั่น ของ Airasia แล้วปริ้นท์ Boarding pass จากที่บ้านมาได้เลยนะคะ หรือจะมา Check in ที่เครื่องเช็คอินน์ภายในสนามบินบริเวณใกล้ๆเคาร์เตอร์ของ สายการบิน Airasia ก็ได้ สะดวกและรวดเร็วมาก ไม่ต้องไปยืนรอแถวที่เคาร์เตอร์เช็คอินน์
และใครที่ต้องโหลดสัมภาระ ก็เอาสัมภาระมาที่เคาร์เตอร์ Baggage Drop เพื่อโหลดกระเป๋า
และ รีปริ้นท์ บอร์ดดิ้งพาส ที่เคาร์เตอร์ได้เลย ขั้นตอนนี้เจ้าหน้าที่จะใช้เวลาไม่นาน เพิ่มความรวดเร็วได้อีกเยอะค่ะ
บรรยากาศของ Terminal 2 เช้านี้ ดูไม่แออัด โล่งโปร่งสบาย
ผ่านขั้นตอนการตรวจกระเป๋าเรียบร้อย ก็เข้ามาสำรวจ gate และที่นั่งพักรอขึ้นเครื่อง ต้องขอบอกว่า Terminal 2 นี้กว้างขวางและสะดวกสบายกว่าเดิมมาก มีร้านอาหารตลอดทางเกือบทุก gate ที่นั่งรอก็เยอะขึ้นมาก มีตู้เอทีเอ็มไว้คอยบริการอีกด้วย
ทางเดินในแต่ละ Gate กว้างมากๆ มีที่นั่งรอขึ้นเครื่องก็เยอะ
วันนี้เราได้ Gate 54 เรียกได้ว่าเป็น Gate ท้ายๆ เลยก็ว่าได้ แต่ก็เดินชมร้านค้าภายในสนามบินกันมาเพลิน
นั่งรอสักพัก ก็ได้เวลา เครื่องบินของสายการบิน Airasia ก็มา พร้อมขึ้นเครื่องบิน
บรรยากาศบนเครื่อง เราเช็คอินน์ล่วงหน้ามาก่อน 1 วัน ค่ะ คราวนี้ โชคดี ได้ที่นั่งแถวหน้าๆ แถว BC
ตั้งแต่ มีสายการบิน low cost แบบ Airasia ทำเอาเราเสียนิสัย ไม่ชอบนั่งรถนานไปเลย เพราะ เราคิดว่า เดินทางสะดวกรวดเร็ว ในราคาค่าใช้จ่ายที่ไม่ต่างกันมาก นั่งบนเครื่อง airasia เส้นทาง ดอนเมือง ภูเก็ต ประมาณชั่วโมงเดียว ก็ถึงสนามบินภูเก็ตแล้ว
พอเครื่องลงแล้วก็มารอรับกระเป๋า รับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ก็ไปรับรถเช่า จาก Avis ที่ได้จองเอาไว้
เคาร์เตอร์ของ Avis นั้นอยู่ตรงกับประตูทางออกพอดีเลย สะดวกหาง่ายมากๆ ไม่ต้องเสียเวลาเดินหา
มาที่เคาร์เตอร์รถเช่า ของ Avis มีคนมาใช้บริการเยอะเลย แต่ก็รอไม่นานค่ะ แป๊บเดียวก็แจ้งรับรถจากเจ้าหน้าที่ได้แล้ว
สำหรับ รถเช่า Avis นั้น สามารถที่จะซื้อคูปอง จากงานท่องเที่ยวต่างๆ ได้อยู่บ่อยๆ มีราคาโปรโมชั่นมาให้ซื้อได้ตลอด
ซึ่งรถเช่าของ Avis นั้น ก็ไม่ใช่มีแค่ที่ ภูเก็ต ยังมีบริการให้เช่ารถอีกหลายจังหวัด ลองเข้าไปดูได้ที่ http://www.avisthailand.com/ มีทั้ง ภูเก็ต เชียงใหม่ เชียงราย กรุงเทพฯ กระบี่ ตรัง หาดใหญ่ สมุย อุบลฯ อุดรฯ ขอนแก่น น่าน พิษณุโลก หัวหิน พัทยา เป็นต้น
ส่วนใครที่ไม่ได้ใช้คูปอง ก็สามารถจองรถเช่า ของ Avis ได้จาก เวปไซด์ http://www.avisthailand.com/ ซึ่งเราก็ใช้บริการเช่ารถจากเวปไซด์หลายครั้ง เคยจองแบบได้ราคาถูกมาก วันละ 590 บาท เจอราคานี้รอช้าอยู่ใย จองเลย สบายใจ เพราะการเดินทางในภูเก็ตนั้น ส่วนตัวของเรา เราคิดว่าเช่ารถเป็นอะไรที่สะดวกและคุ้มค่ามากที่สุด ตอนแรกเราคิดว่าจะนั่งรถ shutter bus ไปป่าตอง แล้วหามอเตอร์ไซด์ เช่าเอาเหมือนที่สมุย ก็น่าจะประหยัดดี แต่พอเช็คข้อมูล แล้ว กว่าจะนั่งรถไป แล้วเวลากลับอีกหล่ะ เช่ามอเตอร์ไซด์ ก็ต้องมีมัดจำเป็นเงินสด มีทิ้งบัตรประชาชนไว้ ซึ่งตรงจุดนี้เราไม่ชอบที่จะทิ้งบัตรประชาชนไว้ เลยคิดว่าเช่ารถจากบริษัทที่ไว้ใจได้นี่แหละ สะดวกและสบายใจสุด
จัดการเอกสารเช่ารถเรียบร้อยแล้ว ก็ออกมาลานจอดรถด้านข้างๆของสนามบิน
เพื่อมาขึ้นรถตู้ของ Avis ที่จะพาไปยังลานจอดรถเฉพาะของ Avis ที่อยู่ตรงข้ามกับสนามบินภูเก็ต
รถของเราที่จองมาครั้งนี้เป็น รถโตโยต้า Altis รถสะอาดใหม่เอี่ยมอ่อง ภายในรถสะอาด หอม ไม่เหม็นอับ
บรรยากาศหลังจาก ออกมาจากสนามบินได้สักพัก แค่เห็นถนน ก็เริ่มมีความสุขกับการท่องเที่ยว
จุดหมายแรก ของเราคือการไป กินข้าวเที่ยงที่ร้าน โกซ้ง คนโบราณ ในตัวเมืองภูเก็ต
มาถึงร้านแล้ว เชิญชมเมนุบนกำแพง ซึ่งจะติดไว้เต็มกำแพงร้าน ไม่อ่าน แค่ชี้รูปก็สั่งได้เหมือนกัน
มาดูเมนูแต่ละเมนูที่เราสั่งมาทานกัน
ร้านโกซ้ง คนโบราณ เป็นร้านอาหารที่บรรยากาศอาจจะไม่ได้สวยงามมากนัก เป็นร้านสไตล์บ้านๆ อยู่หลังตลาด ที่สำคัญตัวร้านยังตรงข้ามกับที่ทิ้งขยะอีกต่างหาก แต่ พอเข้าไปในร้านแล้ว ไม่รู้สึกว่าอยู่ในตลาด ลมพัดเย็นในร้านสบายๆ บรรยากาศเหมือนร้านอาหารตามสั่งทั่วๆไป แต่อาหารนั้น เรียกได้ว่่าอร่อยระดับภัตตาคาร ไม่บรรยายมาก ดูภาพ แล้วไปพิสูจน์เอาเอง
อิ่มแล้ว เดินทางไปป่าตอง รถมาติดตรงแยก เซ็นทรัลฯ ภูเก็ต เลยเห็นว่าตอนนี้กำลังสร้างเซ็นทรัลฯ ขึ้นอีกฝั่งนึงด้วย
ขับรถมาเรื่อย เส้นทางไปหาดป่าตอง ขับตาม GPS. ที่ตั้งไว้ที่ The Charm Resort phuket แล้วก็ขับรถมาเรื่อยๆ
มาถึงถนนเส้นริมหาดป่าตอง แล้วก็สังเกตุป้ายทางเข้าให้ดีๆ พอเห็นแล้วก็เลี้ยวรถเข้าไปโลด
โรงแรม The Charm resort patong เป็นโรงแรมที่แม้จะไม่อยู่ติดหาด แต่ก็เข้าซอยนิดเดียว จากโรงแรมก็เดินไปหาดสบายๆ ซึ่งหน้าหาดของโรงแรมนั้น ก็ค่อนข้างจะสงบร่มเย็น ผู้คนไม่พลุกพล่านจนเกินไป
Check in ที่ Lobby เลยจ้า บรรยากาศ Lobby แบบโปร่งๆสบายๆ
ที่นั่งรอ Check in แต่รอไม่นาน ก็ได้ห้องแล้ว
มาดูห้องพักกัน ไหนๆ ก็ไหนๆแล้ว เลยขอ แนะนำห้องพักของ The Charm Resort Patong Phuket สักหน่อย
ห้องแรกที่แนะนำ คือ ห้อง Junior Suite
สำหรับใครสนใจก็สามารถกดดูเพิ่มเติมในเวปไซด์ของโรงแรม ตามลิ้งได้เลยจ้า http://www.thecharmresortphuket.com/
ห้อง Junior Suite จะเป็นห้องแบบ one bed room
คือแยกสัดส่วนระหว่างห้องนั่งเล่น และห้องนอน
ภายในห้องนั่งเล่น ก็จะมีโซฟา ทีวี และเครื่องเล่น CD โต๊ะทานอาหารไว้บริการอีกด้วย
ระเบียงด้านนอก ก็จะมีเก้าอี้ไว้ให้นั่งเล่นชมวิวได้ และก็ยังมี pantry ครัว เล็กๆ ให้ด้วย
ตู้เย็นก็เป็นตุ้เย็นขนาดใหญ่ซื้อผลไม้แช่ของได้สบายๆเลย
บรรยากาศภายในห้องนอน ซึ่งก็จะมีทีวี จอใหญ่ และโต๊ะเขียนหนังสือไว้ภายในห้อง เรียกได้ว่า เป็นห้องพักที่หรูหรา พักแล้วสบายร่างกาย ไม่แพ้ที่ใดๆ
ห้องน้ำ จะแยกโซน Shower และ อ่างอาบน้ำ ที่ดีไซด์ มาได้อย่างทันสมัย น้ำร้อน น้ำเย็น มีพร้อมไว้ให้นอนแช่อาบน้ำชำระล้างร่างกาย และผ่อนคลายความเมื่อยล้า
ห้องต่อไป คือห้อง Deluxe
ห้องดีลักษ์นี้ แม้ว่าจะเป็นห้องเริ่มต้น ของ โรงแรม เดอะชาร์ม รีสอร์ท ป่าตอง ภูเก็ต แต่ก็เป็นห้องที่เรียกได้ว่าหรูหรา น่านอนเอามากๆ เหมาะกับครอบครัว ที่มีลูกๆ มาด้วย เพราะห้องนี้จะเป็นห้อง ที่มีเตียงใหญ่ และ เตียงเล็ก อยู่ในห้อง นอนกัน 3 คนสบายๆ
ถ้าหากใครมาพักที่ห้องนี้ แล้วมีเด็กมาด้วย ทางโรงแรมจะคิดแค่ค่าอาหารเช้า สำหรับเด็ก ซึ่งก็เป็นราคาที่ไม่แพง และไม่โหดร้ายสำหรับพ่อแม่อีกด้วย ยังไงลองสอบถาม กับทางโรงแรมอีกนะค่ะ
มาดูกันที่ห้องน้ำของห้อง Deluxe ก็แสนจะดีงาม เพราะมีทั้งอ่างอาบน้ำ และ Rain Shower แยกส่วนเปียกส่วนแห้งอ่างอาบน้ำก็อาบน้ำไป นอนมองทีวีในห้องไปได้ด้วย หรือจะปิดม่านลงมาก็ได้ แจ่มเจ๋วมากๆเลย
ส่วนตัวแล้วเป็นอะไรที่เห็นแล้ว ชอบมากๆจริงๆ
นอกจาก จะมีเตียงใหญ่ เตียงเล็กให้แล้ว ก็ยังมี แพลนทริ ครัวเล็กๆ และระเบียงที่มี เก้าอี้นั่งชมวิว ด้านนอก
ให้เหมือนกับห้องอื่นๆ อีกด้วย คือจริงๆแล้ว โรงแรม The Charm Resort Patong นั้น จะมี เคาร์เตอร์ครัวเล็กๆ แบบนี้สำหรับล้างจาน ล้างแก้ว และก็มีระเบียง แบบนี้ให้ทุกๆห้องเลยค่ะ
มาถึงอีกหนึ่งห้องที่แนะนำ สำหรับคนชอบสระว่ายน้ำที่สามารถลงไปว่ายน้ำจากห้องพักกันได้เลย
ห้องนี้คือ ห้อง Junior Suite Pool Access
ภายในห้องพัก ก็แบ่งเป็นห้องนั่งเล่น และห้องนอนอีกเหมือนกัน
มีโซฟา โต๊ะทานอาหาร ทีวี เครื่องเล่น CD และเพลนทริครัวเล็กๆ ให้อีกเหมือนกันด้วย
ด้านนอกสระว่ายน้ำ เป็นสระว่ายน้ำ หน้าห้องพัก ที่สามารถลงไปเล่นน้ำจากห้องพักได้เลย
ในส่วนของห้องนอน ก็สามารถเปิดประตูออกไปนั่งห้อยขา เท้าจุ่มน้ำ นั่งชิลๆริมขอบสระจากห้องนอนได้เลย
ห้องนอน และห้องน้ำ ของห้อง Junior Suite และ Junior Suite Pool Access นั้นจะคล้ายๆกันค่ะ
และห้องนี้ คือห้องที่เรามาพักในครั้งนี้ ค่ะ
คือห้อง Executive suite + outdoor Jacuzzi
ห้อง Executive suite + outdoor Jacuzzi นี้ มีความพิเศษตรงที่เป็นห้องสองชั้น ชั้นบนเป็นห้องนั่งเล่น
และชั้นล่าง เป็นห้องนอน ในส่วนของห้องนอน จะเป็นเตียงขนาดใหญ่ และมี day beds ไว้นอนดูทีวีได้ด้วย
นอกจากนั้นแล้ว ยังมีทีวี และ เครื่องเล่นแผ่น ไว้ให้ ทั้งชั้นล่าง และชั้นบน
บริเวณระเบียงของห้องชั้นล่าง มีชุดเก้าอี้ไว้นั่งชมวิว สวยๆ วิวจากห้องพัก แม้ว่าจะเป็นอาคารของตึกตรงกันข้าม แต่ก็เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียว และยังมีลมทะเลพัดเย็นสบายตลอดเวลา
ชั้นบนของห้อง เป็นชั้นนั่งเล่นนอนเล่น ดูทีวี มีโต๊ะอาหาร ครัวเล็กๆ ที่มีกาต้มน้ำ ชา กาแฟ ตู้เย็นขนาดใหญ่
และ เตาไมโครเวฟ บริเวณที่ดูทีวี ยังมี ทีวี พร้อมทั้งเครื่องเล่นแผ่น:ซีดีให้ด้วย
โซฟา ก็เป็นโซฟา ที่นั่ง นอน สบาย เหมาะกับการพักผ่อนในวันหยุด
บรรยากาศของห้องนั่งเล่นชั้นบน เนื่องจากอยู่ชั้นสูงสุด ทำให้สามารถชม วิว ภูเขา และท้องฟ้า
จากมุมนี้ได้สวยงาม ไม่มีอะไรมาบดบัง
บริเวณระเบียงแสนกว้างขวาง ซึ่งเป็นไฮไลท์ของห้อง Executive suite + outdoor Jacuzzi คือ อ่างจากุชชี่ขนาดใหญ่ ที่สามารถลงไปนอนเล่น ได้ถึง 2-3 คน อ่างจากกุชชี่ กว้างมาก นอนแช่อ่าง นวดตัวหลังกลับจาก ดำน้ำ กันเพลินๆ แช่แล้วสบายเนื้อสบายตัวเอามากๆ เราดูภาพจากใน FB: The Charm Resort Patong แล้วบางท่านมีเด็กเล็กๆใส่ห่วงย่างเล่นน้ำในอ่างเป็นสระน้ำกันได้เลย
ชา กาแฟ กระติกน้ำร้อนในห้อง ซึ่งอยู่ชั้นบน
ผลไม้ต้อนรับสำหรับผู้เข้าพัก
ห้องน้ำของห้อง Executive suite จะเป็นห้องน้ำแบบ Rain Shower ซึ่งจะอยู่ชั้นล่าง บริเวณห้องนอน น้ำร้อนไหลแรงดี อาบน้ำสบายมาก มี ครีมอาบน้ำ แชมพู และ ครีมนวดผม แยกให้อย่างละขวด ไม่ได้เอามารวมกัน ปกติบางโรงแรม จะเป็นแชมพูครีมนวดผมผสมกัน เป็นอะไรที่ไม่ชอบเลย เพราะสระผมไปแล้วผมแข็งกระด่าง ต้องเตรียมครีมนวดผมไปเองตลอด
ชมห้องพักเสร็จแล้ว มาชมสระว่ายน้ำที่แสนสวยงาม และทำให้เราอยากมาพักที่ The Charm resort patong กันดีกว่า
สระว่ายน้ำ จะอยู่ที่อาคาร 4 ต้องบอกก่อนว่า โรงแรม เดอะ ชาร์ม รีสอร์ท ป่าตอง จะมีอยู่ 4 อาคารด้วยกัน กดลิฟท์ขึ้นมาชั้น นี้จะเป็น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และห้องซาวน่า
ในส่วนของสระว่ายน้ำ จะเป็นแบบ Infinity pool ซึ่งสามารถว่ายน้ำไปชมวิวสวยๆ
ของท้องทะเล บริเวณหาดป่าตองไป
บรรยากาศเตียงนอนริมสระว่ายน้ำ นอนสบายลมพัดเย็นสบายมากๆ ลมพัดจากริมหาดป่าตองมาตลอดเวลาเลย
นั่งสบายๆ ดื่มค๊อกเทล สักแก้ว นี่แจ๋วเลยนะ
ถัดมาที่ฟิตเนสของโรงแรมซึ่งอยู่ชั้นเดียวกันกับ สระว่ายน้ำ ก็เป็นฟิตเนสที่เป็นกระจกโปร่ง ออกกำลังกาย ไปชมวิวทะเลไป ได้ด้วย มีจอทีวีให้ออกกำลังกายพร้อมดูทีวี อีกหลายจอ
ถัดจากฟิตเนส ก็จะเป็นห้องอบซาวน่า ซึ่งถือว่าครบจริงๆ คือ ออกกำลัง ว่ายน้ำ อบซาวน่า
เป็นการพักผ่อน ที่แสนวิเศษจริงๆเลยนะ
ก่อนเข้าซาวน่าก็จะเป็นโซนเตรียมตัว
ห้องอาบน้ำ ซาวน่า แล้ว ก็ต้องออกมาล้างตัวด้วยน้ำเย็น แล้วกลับเข้าไปใหม่ถ้าไหว ช่วยกระตุ้นการเต้นหัวใจ และเร่งการเผาพลาญร่างกาย เหมาะกับการลดน้ำหนัก
มาชมวิวยามเย็นของสระว่ายน้ำ ที่ถือว่า เป็นไฮไลท์ ของทุกๆวันคือ ชมพระอาทิตย์ตกดิน บริเวณสระว่ายน้ำ จะนอนรับลมริมสระ หรือจะว่ายน้ำ ชมวิวทะเล รอพระอาทิตย์ตกดินก็ได้
ตะวันเริ่มคล้อยลงแล้ว ยามเย็นแสนสุขโสภา
นอกจากเตียงริมสระแล้วยังมีโซฟา นั่งเล่น ซึ่งสามารถสั่งเครื่องดื่ม สั่งอาหาร มานั่งทาน มาปาร์ตี้เล็กๆ กันบนนี้ก็ได้ เพราะชั้นนี้ เวลาเย็น พระอาทิตย์เริ่มตก นอกจากจะเห็นวิวของท้องทะเลยามพระอาทิตย์ตกดินแล้ว ยังจะได้เห็นวิว ภูเขา และเมืองป่าตอง แบบ 360 องศา กันเลยทีเดียว บริเวณภูเขา ก็จะได้เห็นไอหมอกจางๆ บนยอดเขาอีกด้วย
เราอยู่บริเวณสระว่ายน้ำ นอนเล่นริมสระว่ายน้ำ จนพระทิตย์ค่อยๆตกดิน กันเลย บรรยากาศดีสุดๆเลยขอบอก
บริเวณหน้าบาร์เครื่องดื่ม จะเป็นบาร์จากุชชี่ด้วย สามารถสั่งเครื่องดื่มมาดื่ม พร้อมกับแช่จากุชชี่
ให้แรงดันน้ำนวดตัวให้สบายๆ ตรงนี้ได้ด้วย
ว่ายน้ำเสร็จนั่งแช่จากกุชชี่ ชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน นอนมองทะเล เป็นความสุขที่อยากให้มาสัมผัสกันด้วยตัวเอง
นอกจากสระผู้ใหญ่แล้ว ก็ยังมีสระเด็กๆ ไว้ให้ผู้ครองพาเด็กเล่นน้ำ ชมวิวทะเลตรงนี้ด้วยค่ะ
บรรยากาศยามเย็น เป็นช่วงเวลาที่สดชื่น และมีชีวิตชีวา เอามากๆ พระอาทิตย์เริ่มตกดินลาลับขอบฟ้าจนเห็นท้องฟ้า จากสีฟ้าเริ่มเป็นสีเหลือง และก็กลายเป็นสีแดง เราเห็นแต่รอยยิ้มและความสุขจากทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทั้งต่างชาติ และคนไทย
"ความสุขที่ได้รับไม่แบ่งเชื้อชาติ ไม่แบ่งภาษา ทุกๆคนสามารถสัมผัสได้"
บรรยากาศวันนี้ ท้องฟ้าเป็นสีเหลืองส้มไปทั้งฟ้าเลยจริงๆ ถ่ายภาพออกมายังไงก็ได้สีนี้ ฟ้าสีสวยมาก
ชมพระทิตย์ตกดินเสร็จ วันนี้ตั้งใจทานข้าวต้ม แปีะอ้วน แต่ขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายภาพบรรยากาศร้านมาให้ชม มัวแต่เม้าท์มอย กับเพื่อน จนลืม เลยขอบรรยายให้ฟังแทนแล้วกัน นะคะ
ร้านข้าวต้มแป๊ะอ้วนเป็นร้านข้าวต้มซึ่งเป็นกับข้าวเหมือนร้านข้าวแกง ราคาสบายกระเป๋ามาก เป็นร้านที่คนท้องถิ่นแนะนำมา รู้สึกว่าจะมีแต่คนท้องถิ่นมาทานกัน แต่ต้องบริการตัวเอง คือ สั่งอาหารแล้วเจ้าของร้านตักใส่จาน ไม่ว่าจะเป็นกับข้าว ข้าวต้ม ยำ ต่างๆ ต้องยกเอง บริการตัวเอง อาหารทุกอย่าง ราคา 25 บาท
ผัดผัก ต่างๆ จะผัดให้ร้อนๆ จะใส่หมูกรอบ หรือ ปลาเค็มก็ให้แจ้งแม่ครัว แม่ครัวจะผัดสดๆ ใส่จานให้ จานละ 25 บาท
ตุ๋นต่างๆ นี่รู้สึก จะ 35 บาท อย่าง มะระตุ๋นกระดูกที่เรา สั่งมา โดยรวมแล้วอร่อยดี เราสั่งอาหารมา 5 อย่าง ข้าวต้มคนละ 2 ถ้วย
จ่ายเงินมื้อนี้ไป ร้อยกว่าบาทเอง กินข้าวต้มเสร็จอิ่มเบาๆ สบายใจ กลับห้อง เตรียมพร้อม พรุ้งนี้ไปดำน้ำ สิมิลัน
ถึงเวลาสำหรับการไปเที่ยว สิมิลัน ที่รอมานาน ก่อนเดินทาง เจ้าหน้าที่ของ Love Andaman โทรมาแจ้งเวลารถมารับ ว่าจะมารับกี่โมง พอรถมารับเราก็หลับตลอดทาง เพราะตื่นเช้ามากๆ หลับๆตื่นๆ สักพัก ก็มาถึงท่าเรือทับละมุ เพื่อทำการเช็คอินน์ หรือแจ้งชื่อว่ามาพร้อมแล้ว แล้วเจ้าหน้าที่ ก็จะ ให้ ริชแบรนด์ ตามสี ตามกรุ๊ปที่จัดเอาไว้
เคาร์เตอร์ Check in ของ Love Andaman ตอนนี้พัฒนาไปอย่างมากมาย มีเคาร์เตอร์เช็คอินน์สวยงามให้เห็นไม่ต้อง งง ว่ามาถึงท่าเรือแล้วต้องทำอะไร แจ้งใคร ยังไง ? เดินเข้าไปเช็คอินน์กันได้เลย
เช็คอินน์แล้ว ก็มานั่งรอ หาที่นั่งกันตามสะดวกเลย มาเช้าๆแบบนี้ ไปหาอะไรทานกันก่อนได้
ตอนนี้ในส่วนต้อนรับของ Love Andamanสำหรับรอไปเกาะ จะเป็นของ Love Andaman โดยเฉพาะไม่ปนกับบริษัทอื่น และตอนนี้ ทาง Love Andaman เค้าปรับปรุงส่วนต้อนรับใหม่ใหม่ให้สวยงามสะอาดเรียบร้อยมาก มีที่นั่งที่สะดวกสบาย มีอาหารต้อนรับก่อนเดินทางให้พร้อมพรั่ง ไปดำน้ำกับ Love Andaman ไม่ต้องกลัวอดเพราะจะมีอาหาร ขนม ผลไม้ และน้ำบริการให้ตลอดการเดินทาง บริการดีแสนประทับใจจริงๆค่ะ
Good Morning เช้านี้ เชิญทานข้าวต้ม ขนม นม เนย ผลไม้ ขนมปัง แซนวิส
ข้าวต้มวันที่เราไป เป็นข้าวต้มปลา กับข้าวต้มไก่สับ อร่อยมาก
ขนมและแซนวิส
กล้วยก็มี เป็นกล้วยหอมซะด้วย
ถัดมาอีกด้าน จะเป็นฝั่งของ เครื่องดื่ม ทั้งร้อนเย็น ซีเรียล ก็มี เรียกว่า เช้านี้ Love Andaman บริการเต็มที่เลยค่ะ
ยาแก้เมาเรือ ทานแล้วอาจง่วงนิดๆ ทานแล้วเล่นเอาหลับจนถึงเกาะเลย
จัดมาอย่างละนิดหน่อย อร่อยได้ใจ โดยเฉพาะแซนวิสแฮมซีส ส่วนใครยังไม่พอใจ
มีข้าวเหนียวหมูปิ้ง ขายอยู่ด้านหน้าอันนี้จ่ายตังค์ซื้อเอง อร่อยดีเหมือนกัน
ทานอิ่มแล้ว มาเดินสำรวจร้านขายของใช้ และของที่ระลึก ของ Love Andaman จัดมาเป็น Shop อย่างสวยงาม มีทั้งหมวก แว่นตากันแดด กระเป๋ากันน้ำ เสื้อผ้า และอีกสารพัด ใครขาดเหลือหรือลืมอะไร ก็มาซื้อกันได้ที่ท่าเรือเลยค่ะ
หมวกกับตุ๊กตา สวยมาก ซื้อไปฝากคนที่บ้านกันได้ค่ะ
แวะมาชมห้องน้ำสักนิด ห้องน้ำสะอาดมีบริการกันหลายห้อง นอกจากห้องน้ำแล้วอีกฝั่งตรงกันข้ามยังมีห้องอาบน้ำให้ด้วย
พอกลับมาจากดำน้ำ แล้วสามารถมาอาบน้ำล้างตัวเปลี่ยนเสื้อผ้ากันที่ห้องอาบน้ำได้เลยค่ะ เพราะฉะนั้นอย่าลืมเตรียมเสื้อผ้ามาเปลี่ยน ก่อนขึ้นรถกลับนะค่ะ จะได้สบายตัวกันค่ะ
ถัดเข้ามาด้านใน บริเวณที่นั่งด้านใน สำหรับให้นั่งฟัง ชี้แจงรายละเอียด กันก่อนเดินทาง
พอถึงเวลาอันสมควร ไกด์จะเชิญ ทุกคนให้มานั่งที่นั่งด้านหลัง เพื่อที่จะชี้แจ้งรายละเอียดการเดินทางของวันนี้ แต่ก่อน ต้องยืนล้อมวงกันฟัง แต่เดี๋ยวนี้นั่งฟังกันสบาย ไกด์จะแยกกันชี้แจ้ง สำหรับต่างชาติ และคนไทย เป็นอีกหนึ่งการบริการ ของ Love Andaman ที่สร้างความประทับใจให้กับเราเป็นอย่างมาก
แผ่นป้ายชี้แจ้งหมู่เกาะ similan ว่ามีเกาะไหนบ้าง
ชี้แจ้งรายละเอียดแล้วก็เดินไปท่าเรือที่อยู่ไม่ห่างกัน แวะถ่ายรูป เตรียมพร้อมรอขึ้นเรือ
บรรยากาศพร้อมขึ้นเรือ เดินทาง ไปหมู่เกาะสิมิลันแล้วค่ะ เพื่อนร่วมทริปในวันนี้
นั่งเรือมาประมาณ ชั่วโมงนิดๆ หลับตลอดทางอีกเช่นเคย มาตื่นเอาตอนใกล้ๆจะถึงเกาะ 8 เลยไม่รู้สึกว่าจะนานขนาดไหน
พอถึงเกาะแปด แล้ว ภาพที่เห็นของท้องทะเล คือสวยจริงๆ หินเรือใบ เป็นสิ่งสวยงามจากธรรมชาติ น้ำทะเลใสแจ๋ว ใสมากๆ
ตรงเกาะแปดนี้ ไกด์จะถามความสมัครใจ ว่าใครอยากดำน้ำก็ไม่ต้องลง ส่วนใครยังไม่อยากดำน้ำ อยากไปเดินเล่นชายหาด ขึ้นไปชมจุดชมวิว ก่อนก็ได้ แล้วตอนเที่ยง ค่อยมาทานข้าวกัน เราเลยเลือกที่จะไม่ไปดำน้ำ เพราะเดี๋ยวช่วงบ่าย ก็ต้องไปดำน้ำอยู่ดี ยังไม่อยากตัวเปียก เลยขอ ลงไปเดินเล่นชายหาด ขึ้นไปถ่ายรูปบนจุดชมวิวก่อน
ทางเดินขึ้นไปจุดชมวิวหินเรือใบ Sail Rock
ข้ามสะพาน ผ่านชะง่อนหิน รู้สึกว่าเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ ก็เก่งนะ ทำทางเดินไว้ให้สะดวกเลย ก่อนที่จะทำทางเดินนี่ กว่าจะขึ้นไปบนจุดชมวิว คงปีนป่ายกันน่าดู
ช่วงแรกๆ มีบันไดและเชือกให้จับ ขึ้นได้สบาย
สักพัก ก็ค่อยๆไต่เชือก ผ่านชะง่อนหิน มุดลอดร่องหิน สนุกดี ช่วงที่ขึ้นเป็นจังหวะคนขึ้นพร้อมกันพอดี คนเลยเยอะหน่อย แต่ก็ถือว่าไม่ได้ลำบากมากมายอะไร เดินขึ้นนิดเดียวก็ถึงจุดชมวิว สวยๆ ด้านบนแล้ว
ขึ้นมาสักพัก ก็มองเห็นวิวสวย น้ำทะเลใสๆ แล้ว แต่จุดนี้ยังไม่ถึงที่สุด แต่ก็สามารถแวะถ่ายรูปได้
มาถึงจุดชมวิวด้านบนแล้ว ก็พบกับความสวยงามของท้องทะเล วิวด้านบนนั้นสวยมาก ยืนอยู่ริมผา ถ่ายรูป ข้างล่างเป็นท้องทะเลสีฟ้า มองเห็นผืนทราย และปะการังใต้น้ำได้ชัดเจน น้ำทะเลใสมากๆ
ถ่ายรูปตัวเองสักหน่อย เป็นจุด เซลฟี่ ที่ใครๆมาแล้ว ต้องอย่าพลาดที่จะต้องถ่ายรูปตัวเองกับจุดนี้ เก็บภาพความประทับใจว่า ครั้งหนึ่งในชีวิต ก็เคยมาเที่ยวหมู่เกาะสิมิลัน สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก
อีกมุมหนึ่งที่สวยงามไม่แพ้กัน
จากจุดชมวิว มองเห็น จุดดำน้ำ ที่เค้าไปดำน้ำกันจากตรงนี้เลย
เรายืนถ่ายรูปอยู่บนนี้ นานมากๆ หลบอยู่ใต้ชะง่อนหินชมวิวกันเพลินเลย เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก มองนาฬิกาอะไรกันจะเที่ยงแล้ว คนอื่นเค้าลงไปกันเกือบจะหมดแล้ว เลยพากัน ค่อยๆ มุดลอด ชะง่อนหิน ไต่บันไดไม้ เดินลงมา
บรรยากาศตอนเดินลง คนไม่ค่อยมีแล้ว เดินลงสบาย
เที่ยงแล้วมาทานอาหารกัน อันนี้เป็นของอีกสีนึง ถ่ายมาให้ดูเฉยๆ
อาหารกลางวัน วันนี้ ตรงนี้เป็นสีของเรา มีต้มยำอร่อย รสชาติดีเชียว สปาเก็ตตี้ผัดขี้เมา แต่เราไม่ได้ทาน ผัดผักรวมมิตร ปลาอินทรีย์ทอดกระเทียม อันนี้ไฮไลท์ อร่อยเลย
พนักงานของ Love Andaman คอยช่วยตักอาหารให้
อิ่มแล้ว เดินสำรวจ อุทยานกัน ด้านในที่ไม่ใช่ริมหาด เป็นอะไรที่ร่มรื่นมาก มีต้นไม้ใหญ่ไว้ให้หลบแดดอยู่มากมาย เป็นสิ่งที่เราชอบมาก ทำให้รู้สึกสดชื่น ไม่ร้อนอบอ้าวจนเกินไป
ไม่ถ่ายรูปกับตรงนี้ เดี๋ยวจะคิดว่าไม่ได้มา สิมิลัน ประเทศไทย จริงๆ
บรรยากาศริมชายหาดบริวเณนี้เรียกว่าอ่าวเกือก วิวสวยมากๆ เป็นอ่าวที่มีทรายหาดละเอียดสีขาว
วันนี้น้ำทะเล และท้องฟ้าสวยงามจริงๆ
ซูมขึ้นไปบนหินเรือใบ ที่เราเพิ่งขึ้นไปชมวิวด้านบนเมื่อสักครู่
นอกจากจุดชมวิว กองหินเรือใบแล้ว ยังสามารถ มาเล่นน้ำ หรือปีนขึ้นไปถ่ายรูป บนเนินหิน ด้านล่างของกองหินเรือใบได้อีกด้วย น้ำทะเลตรงนี้ใสแจ๋ว นักท่องเที่ยวบางคนก็มาดำน้ำ เล่นน้ำกันบริเวณนี้
ปีนขึ้นมาแล้ว ก็มาถ่ายรูปกันบนนี้ได้ วิวสวยเหมือนกัน
ถ้าชอบ ดำน้ำ เล่นน้ำทะเล แถวนี้ เป็นอะไรที่แจ๋วมาก น้ำทะเลใสมากๆ มีกองหิน โขดหินเรียงราย เป็นปะติมากรรมของธรรมชาติ เรียงกันสวยงาม มองดูแล้ว ก็ต้องขอบคุณธรรมชาติ ที่สร้างสิ่งสวยงามแบบนี้ให้ได้ชมกัน
ได้เวลา อำลา กองหินเรือใบที่สวยงาม ไปดำน้ำ กันที่ เกาะ 7 และเกาะ 4
จุดดำน้ำ เกาะ 7 วันนี้คลื่นแรง เลยไม่ได้ลงไปดำน้ำกัน ไกด์เลยพาเราไปดำน้ำกันที่ จุดดำน้ำ เกาะ 4
จุดดำน้ำ บริเวณ เกาะ 4 มาชมบรรยากาศใต้น้ำกัน ไปเพลินๆ
ปลาเยอะมากๆ ฝูงปลาว่ายกันเป็นขบวนเลย
โขดหินใต้น้ำ บริเวณนี้ เต็มไปด้วยประการัง และก็ฝูงปลา หลากหลายชนิด เห็นกันชัดๆเลย
ดอกไม้ทะเล(ใช่รึเปล่าไม่แน่ใจ) มีเยอะเลย บริเวณจุดนี้
บรรยากาศใต้ทะเล ดำน้ำกันสักพัก ไกด์ก็เรียกขึ้นเรือ ถือว่าเป็นจุดดำน้ำที่สวยงาม ปลาเยอะมากๆค่ะ
จากจุดดำน้ำก็มาพักผ่อนกันที่เกาะเมี่ยง ซึ่งก็คือ เกาะ 4 นั่นเอง
เกาะเมี่ยง บรรยากาศร่มรื่น ต้นไม้เยอะเหมือนเกาะแปด มีที่ให้นั่งพัก นั่งเล่นอยู่หลายจุด หลบแดด หลบร้อนกันได้
บรรยากาศริมหาด น้ำทะเลใสมากๆ นักท่องเที่ยวพากันเล่นน้ำสนุก สนาน บางคนก็เอาแว่นตาดำน้ำ ไปดำน้ำตื้นกัน
เดินสำรวจหาด ก็มาเห็น เจ้าหน้าที่อุทยานฯ จะมีหอคอย ไม่สูงมาก ไว้คอยเฝ้าระวังความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวด้วย
ส่วนต้นมะพร้าว ต้นใหญ่ๆ อยู่ด้านโน้น ก็มี นักท่องเที่ยวต่างชาติ มาปูผ้า นอนหลบแดด กันเยอะเลย
สุดหาด จะเป็นกองหิน บริเวณปลานี้มีปลาเยอะ น้ำใสแจ๋ว มีหลุมที่เกิดจากน้ำทะเลพัดมาขังไว้ มีปลาอยู่ด้านในด้วย มีปูอยู่ตามซอกหินเยอะมาก เราเดินสำรวจ ตรงนี้ตั้งนาน สนุกดี ใครมาสิมิลัน มาหลบแดดนั่งแช่น้ำเล่นแถวนี้ได้นะค่ะ สนุกดีมากค่ะ
ชมบรรยากาศริมหาดแล้ว มาชมบรรยากาศด้านในของอุทยานหมู่เกาะสิมิลัน กัน ด้านในต้นไม้เยอะและร่มรื่นมาก
มีทางเดินไปห้องน้ำ มีต้นไม้ใหญ่ๆ อยู่หลายต้น เป็นเกาะทีอุดมสมบูรณ์ ไปด้วยป่าไม้บนเกาะ
บางคนเล่นน้ำเสร็จแล้ว ก็มาล้างตัวด้วยน้ำจืด จะมีจุดอาบน้ำจืดให้ด้วย แล้วก็มาหลบแดด หลบร้อน นอนเล่นใต้ต้นไม้กัน ลมก็พัดเย็นๆ ริมหาด ถ้ามีโอกาสมานอนพักค้างคืน บนอุทยานฯ สักคืนก็คงจะดี
ได้เวลาต้องกลับแล้ว อำลา หมู่เกาะสิมิลันแสนสวยงาม ด้วยภาพนี้ ภาพนักท่องเที่ยวกำลังเดินขึ้นเรือ กลับฝั่ง ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง กว่าๆ ก็มาถึงฝั่งอย่างปลอดภัย ตอนอยู่บนเกาะ ฟ้าใสมาก ไม่มีเมฆครึ้ม ไม่มีฝนเลย แต่ระหว่างทางใกล้ๆ จะถึงฝั่งพังงา ฝนกลับตก ซะงั้น ตอนก่อนมา ที่ภูเก็นฝนก็ตกทั้งคืน ตอนแรกก็กลัวๆว่า มาถึงหมู่เกาะสิมิลันแล้วฝนจะตกรึเปล่า กลัวจะหมดสนุก แต่พอถึงเกาะแล้ว ฝนไม่มีเลยสักนิด ฟ้าแจ่มแจ๋ว แดดจ้า กันเลยทีเดียว
กลับมาถึงฝั่ง แนะนำ กันว่าอย่าลืมเอาชุดมาเปลี่ยนกันได้ เพราะบนฝั่งท่าเรือต้อนรับของ Love Andaman มีห้องอาบน้ำ ที่สะอาดมาก มีน้ำไหลแรง เอาไว้ให้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันก่อนกลับ อย่าใส่เสื้อเปียก ขึ้นรถตู้กลับกันนะค่ะ เดี๋ยวจะไม่สบาย
อาบน้ำเสร็จ ก็มาทานอาหารว่างก่อนกลับกันได้ค่ะ เพราะขากลับก่อนขึ้นรถตู้กลับ ทาง Love Andaman ก็ยังมีอาหารเครื่องดื่มไว้บริการให้ก่อนขึ้นรถกลับกัน บางคนต้องนั่งรถนานๆ เผื่อว่าจะหิว แต่เอาจริงๆนะ เราอิ่มกันตั้งแต่อยู่บนเรือแล้ว ขึ้นเรือปุ๊บขนมน้ำ ขนม ผลไม้ น้ำ ตลอดเลย ค่ะ
ตลาด
ฺBanzaan Market
หลังจาก กลับจากการเดินทางไปเที่ยวสิมิลันแล้ว ด้วยความที่กว่าจะกลับถึงโรงแรม เดอะชาร์ม ป่าตอง ก็มืดแล้ว เราจึงคิดว่าน่าจะหาอะไรทานแถวหาดป่าตองดีกว่า นั่งรถนานเพลีย นิดหน่อย เลยขับรถออกมาจากโรงแรม ว่าจะแวะไปทานอะไรที่จังซีลอน แต่มาเจอกับ ตลาด BanZaan เห็นนักท่องเที่ยวและร้านอาหารเยอะเลย เลยหาที่จอดรถแล้วตัดสินใจ เดินหาอะไรง่ายๆทานที่ตลาดดีกว่า
สำหรับพิกัดของตลาด เราขอแคป ภาพแผนที่จาก google มาให้ชมกันว่าอยู่ไม่ไกลจากที่พักเลย
ตลาด BanZaan พิกัดก็อยู่หลังจังซีลอน เดินข้ามถนนมาก็จะเจอกับตลาดซึ่งถามแม่ค้าบอกว่าตลาดมีทุกวัน เอาเป็นว่า มาวันไหนก็มาเดินซื้อของทานเล่น ราคาไม่แพง สมเหตุสมผล กันที่ตลาดนี้ได้ทุกวันเลยนะ
ถ่ายรูปตัวอย่างร้านแต่ละร้านมาให้ชมกันนิดหน่อย ซึ่งจริงๆแล้วมีร้านเยอะกว่านี้มาก วันนี้เราเลยได้ไก่ทอด ปลาทอด อร่อยๆมาทานกัน ร้านของทอดที่ถ่ายมาให้ดูนี้ เราชอบมากเลย ราคาไม่แพง แล้วก็อร่อยด้วย แนะนำเลยไปป่าตองตอนเย็นๆ แวะไปซื้อมาทานกันได้
หลังจากเดินซื้อของทาน ซื้อโน้นนี่นั่น กินไอติม กินน้ำปั่น จากตลาด Banzaan แล้ว ก็ขอสบายตัวด้วยการเปิดน้ำอุ่นๆ นอนแช่จากุชชี่ ชมแสงไฟ และท้องฟ้ายามค่ำคืนสักหน่อย บอกเลยว่า อ่างจากุชชี่อันนี้ทำให้มีความสุขสุดๆ คลายเมื่อยล้าจากการเดินทางได้ดีมาก
เช้าวันใหม่ มาดูอาหารเช้ากัน บรรยากาศห้องอาหารเช้าค่ะ
อาหารเช้าถือว่ามีหลากหลายเลยทีเดียว ผลไม้ สลัด ข้าวต้ม ชา แฟ ขนมปัง ไข่ดาว และ อีกหลายๆอย่าง
โยเกิต กับ ฟรุ๊ตสลัด ก็มี
อาหารเช้าของเราวันนี้ค่ะ
ทานอาหารเช้าแล้ว ก็กลับห้องพัก พักผ่อน แช่อ่างจากุชชี่ กันก่อนกลับ วันนี้อากาศดี ฟ้าสวย แช่จากุชชี่กันเพลินเลยค่ะ
สบายมากๆ อาบน้ำ สบายตัวแล้ว ก็ได้เวลาเช็คเอ้าท์ แต่ก่อนกลับก็ไปชมหาดป่าตองกันก่อน
หาดป่าตองบริเวณหน้าโรงแรม บรรยากาศดีมากๆ มีเตียงนอนแบบนี้ ไว้คอยบริการอยู่ริมหาด หาดทรายก็ขาวสะอาด มีนักท่องเที่ยวมานอนอาบแดด กันไม่เยอะนัก แค่พอให้คึกคัก ไม่เงียบเหงามีชีวิตชีวา เสียดาย มีเวลาน้อยไปหน่อย ไม่งั้นจะมานอนเล่นริมหาดป่าตอง ท่าทางจะสบายน่าดู วิวสวย บรรยากาศดีจริงๆ
จากนั้นเราก็ขับรถเข้าเมือง เพื่อไปทานอาหารกลังวัน ก่อนที่จะบินกลับบ้าน รู้สึกว่ารถ Altis ที่เช่าจาก Avis คันนี้ขับดีจริงๆ เวลาขับขึ้นเขา แรงไม่ตกดี ตอนขากลับ แวะเติมน้ำมันก่อนส่งมอบรถคืนให้กับ Avis จ่ายค่าน้ำมันไปแค่ 300 บาท เอง
ก่อนกลับบ้าน ยังมีเวลาเหลือ เลยอยากหาร้านสบายๆ บรรยากาศดี นั่งทานอาหารสบายๆแอร์เย็นๆ ก่อนกลับ ถามเพื่อนที่ทำงานที่ภูเก็ต เพื่อนจึงแนะนำให้มาทาน ที่ "ร้านพิเศษ" เป็นร้านอาหารแนะนำ ของภูเก็ต มีที่นั่งสบายและบรรยากาศดีมากๆ มีอาหารให้เลือกทานหลายอย่าง จะนั่งทานอาหารกลางวัน อาหารเย็น หรือจะมานั่งสบายๆ ชิลๆ ทานไอศครีม เครื่องดื่ม นมเย็นและชานมแก้วยักษ์ บิงชูแสนอร่อย ในบรรยากาศ สดใส สวยงาม ท่ามกลางบรรยากาศเมืองเก่า ของภูเก็ต ก็ได้
ที่ตั้งของร้านพิเศษ จะอยู่ถนนเยาวราช เปิด GPS. ค้นหาพิกัด นำทางไปได้สบายๆ หรือจะ คลิ๊กลิ้ง
พิกัดร้านพิเศษภูเก็ต อันนี้ก็ได้ คลิ๊กแล้ว นำทางไปได้เลย เดินทางไปที่ร้านสะดวก หาไม่ยาก อยู่ติดกับโรงแรมสิริภูเก็ต
ถ้าขับรถมาก็จอดรถข้างๆ ร้านได้เลย มีที่จอดรถเยอะอยู่ วันนี้เราไปถึงตั้งแต่ร้านเพิ่งเปิด
ตรงข้ามร้านเป็นตึกเก่า สไตล์ชิโนโปตุเกส มีเขียนว่าบ้านช่างทอง ดูแล้วคลาสสิคดีจัง
บรรยากาศหน้าร้าน ของ " ร้านพิเศษ" จะเป็นร้านที่ตกแต่งร้านได้น่ารัก สดใส กิ๊บเก๋ มีชิงช้า ให้นั่งเล่นหน้าร้านด้วย ใครมาทานอาหารที่ร้านพิเศา ก็อย่าลืม แวะ ถ่ายรูป Check in กับได้ที่มุมนี้นะคะ
บรรยากาศภายในร้านก็แสนสบาย มีที่นั่งหลายแบบ เลือกนั่งเอาตามความชอบ ภายในร้านตกแต่งน่ารัก หลากหลายสีสัน ให้ความรู้สึกสดใส กระชุ่มกระชวย นั่งทานอาหารแล้วจะสบายใจ มีความสุข เจริญอาหาร
มุมนี้เป็นที่นั่งกับพื้นแต่ตกแต่งด้วยการยกพื้นสูงกว่าพื้นปกติ ซึ่งเป็นที่โปรดปรานของใครหลายๆคน ตอนที่เรานั่งทานอาหาร เราไปถึงร้านตอนร้านเปิดใหม่ๆ ประมาณก่อนเที่ยง พอเที่ยงปั๊บลูกค้าของทางร้าน ก็มานั่งมุมนี้จนเต็ม ผลัดกันเข้ามานั่งมุมนี้ตลอด
อาหารกลางวัน วันนี้ เราเลือกแต่อาหารแนะนำของทานร้าน อร่อยทุกอย่าง มาดูกันค่ะ ว่าเราสั่งอะไรกันไปบ้าง
เมนูที่เราสั่งมาในวันนี้ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเมนูแนะนำของทานร้าน เมนูแรกคือ หม้อไฟหมูสไตล์พิเศษ มาพร้อมกับโมจิหยดน้ำ
- หม้อไฟหมู เป็นเซ็ทหมูชาบู มี บะหมี่ไข่เส้นบาง น้ำจิ้ม พริก กระเทียม มะนาว เนื้อหมูสดสะอาด สไลด์บางๆ ทานคู่กับบะหมี่ไข่ จิ้มกับน้ำจิ้มแสนอร่อยเหาะ
- โมจิหยดน้ำ เป็นลักษณะเหมือนวุ้นเย็นๆราดด้วยน้ำเชื่อมน้ำตาลทรายแดง รสชาตินุ่มๆพร้อมหอมน้ำตาลทรายแดง
เมนูต่อไปมีชื่อว่า "ยำย่านัด หรือยำยานัด หรือยำสับปะรดภูเก็ต " ตอนแรกเราจะไม่สั่งเมนูนี้ เพราะไม่ค่อยชอบทานสับปะรดเอามาทำเป็นกับข้าวของคาว แต่น้องพนักงานของทานร้านแนะนำบอกว่า เมนูนี้อร่อยนะค่ะ เป็นเมนูแนะนำของทานร้านเลยค่ะ ก็เลยสั่งมาลองทานดู ปรากฏว่า อร่อยมาก เป็นยำสับปะรดภูเก็ต คลุกเคล้า มากับกุ้งเสียบ ปลาฉิ่งฉ่างกรอบๆหวานๆ เม็ดมะม่วงหิมพาน และน้ำยำแสนอร่อย พอเอามาทำเป็นยำคลุกเคล้ากันแล้ว เข้ากันดีมากๆ รสชาติดี อร่อยกลมกล่อม กรุบๆ กรอบๆ มันๆเค็มๆ หวานๆ เมนูนี้ หากใครมาทานอาหารที่ร้านพิเศษ แนะนำ เลยนะค่ะ
"ลาบปลาแซลมอน" รสชาติจัดจ้าน หอมกลิ่นข้าวคั่ว ปกติเคยทานแต่ ลาบหมู แต่เมนูนี้เป็นปลาแซลมอนหั่นเป็นชิ้นเล็ก เอามาทำเป็นลาบ ทานกับผักสด อร่อยเข้ากันดีมากๆเลย
เมนูต่อมาคือ "ข้าวผัดน้ำซุปหยำกุ้งสด กับ เกี๋ยวน้ำหมู" เมนูนี้เป็นแนวอาหารจานเดียว เป็นข้าวผัดน้ำพริก คล้ายน้ำพริกกระปิกุ้งเสียบ โรยหน้ามาด้วยกุ้งตัวโตๆ และไข่เจียวฝอยๆ ทานกับน้ำพริกกุ้งเสียบ และเครื่องเคียงผัดสด ข้าวผัดหอมกระปิ กระเทียมรสชาติจะเข้มข้นและอร่อยกว่ากว่าข้าวคลุกกระปิ ทั่วไป นึกแล้วหิว อยากกลับไปทานอีก
ต่อไปคือ " บะหมี่หมูย่างจิ้มแจ่ว" หมูย่างหวานๆ หอมๆ จิ้มน้ำจิ้มแจ่ว ทานกับบะหมี่ รู้สึกว่ามันเข้ากันมากๆ บะหมีไข่เส้นเล็ก โรยด้วยไข่ปลา เมนูนี้เรายังไม่เคยทานที่อื่นมาก่อน เพิ่งมาทานที่ร้านพิเศษ อร่อยมากมีโต๊ะข้างๆ เหลือบไปเห็นตอนน้องพนักงานกำลังเอามาเสริฟ สั่งมาเป็น "บะหมี่ปลาแซลมอนย่าง" ก็น่ากินเหมือนกัน แซลม่อนชิ้นโตเลยค่ะ
ถัดมาคือ เกี๋ยวน้ำ พร้อมน้ำซุบร้อน เสริฟมาพร้อมกับ ข้าวผัดน้ำซุปหยำกุ้งสด ซดร้อนๆคล่องคอมาก
เมนูต่อไป เป็นอีกเมนูที่ห้ามพลาด คือ " ลูกชิ้นปลาภูเก็ตทอด" ลูกชิ้นปลาภูเก็ตเป็นของดีของขึ้นชื่อของเมืองภูเก็ต เพราะลูกชิ้นจะทำจากเนื้อปลาอย่างดี แป้งไม่เยอะ ไม่คาว พอนำมาชุบแป้งทอดกรอบๆ ทานกับ ลาบปลาแซลมอน ยำย่านัด แล้ว อร่อยเข้ากันมาก แก้เผ็ด กรอบๆ หนุบหนับ กลมกล่อม อร่อย ทานแล้วก็ ติดอก ติดใจ
ต่อไปคือ เมนูเครื่องดื่ม ที่ขอแนะนำ ย้ำนะคะ ว่า Recommend คือ นมชมพู กับ ชาเย็นโคตรพิเศษ ความพิเศษ ของนมชมพู และ ชาเย็น คือเสริฟมาด้วยแก้วใบโต ราดมาด้วยวิปครีมอย่างหนา นมชมพูจะโรยวุ้นไข่ปลา ชาเย็นก็ราดมาด้วยน้ำเชื่อมไซรัปหอมๆ วิปครีมนี่หนามาก ดูดแล้วดูดอีก ดูดแทบไม่หมด แค่มานั่งทานชานมโคตรพิเศษ กับนมชมพูโคตรพิเศษ ตอนบ่ายๆ ก็มีความสุขแล้ว สำหรับ ร้านพิเศษ บรรยากาศดีแสนสบายแบบนี้
เทียบกับหน้าดูว่าแก้วจะใหญ่ขนาดไหน
แต่ถ้าใครอยากดื่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ก็ขอแนะนำ " ย่านัดน้ำผึ้งลูกนาว หรือ น้ำสับปะรดภูเก็ตน้ำผึ้งมะนาวปั่น" รสชาติเข้มข้น เปรี้ยวหวาน ถึงเครื่องน้ำผึ้ง มะนาว ดื่มแล้วชุ่มคอชื่นใจ ทานหลังอาหารช่วยย่อยอาหาร ได้ดีมากๆเลย
ปิดท้าย ก่อนกลับกรุงเทพฯ ด้วย " บิงชูนมชมพู" หวานเย็นชื่นใจ โรยหน้าด้วยวุ้นไข่ปลา ที่เวลาเคี้ยวแล้วหนุบๆ กรุบๆ เวลาเคี้ยวแล้ว น้ำหวานในไข่ปลาจะแตกใส่ปาก แต่ถ้าใครชอบหวานเพิ่มขึ้น ทางร้านก็เสริฟนมชมพูหวานๆ มาเพิ่มให้ ราดลงไปบนบิงชูน้ำแข็งเกล็ดหิมะเย็นๆ วันไหนอากาศร้อนๆ ลองแวะมาทาน บิงชูนมชมพูที่ร้านพิเศษกันได้ คล้ายร้อน สบายจิต ได้ทุกเวลา
สำหรับใครที่มาภูเก็ต แล้วเคยเห็นรถติดๆ เพราะกำลังก่อสร้าง อุโมงค์ลอดทางแยก ตอนนี้อุโมงค์ทำเสร็จแล้วนะค่ะ รถไม่ติดแล้ว ขากลับไปสนามบิน ใช้ทางลอดอุโมงค์ลอดทางแยก ได้สบายมาก ไม่ต้องกลัวตกเครื่องบิน
พอมาถึงสนามบิน ก็ส่งมอบรถคืน ตรงจุดที่ขึ้นรถตู้ จะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจเช็ครถ และ เอกสารอยู่แถวนั้น แล้วก็เดินเอาเอกสาร มาแจ้ง รับสลิปคืนเงินมัดจำ กันได้ที่อฟฟิศของ Avis ซึ่งอยู่ ชั้น 1 ของสนามบินภูเก็ต อยู่ก่อนขึ้นลิฟท์ไป Check in โหลดกระเป๋า ชั้นบนค่ะ
เคาร์เตอร์ Check in ของ Airasia ในวันนี้คนไม่เยอะ ต่อแถวไม่นาน บริการรวดเร็ว แต่เราเช็คอินน์เรียบร้อย มาจากเวปไซด์แล้ว แค่มา ดร๊อปกระเป๋าเพื่อโหลด รับบอร์ดดิ้ง พาร์ท ก็เข้าไปรอที่เกทได้เลย
ก่อนขึ้นเครื่อง แวะถ่ายรูปเครื่องบิน ของสายการบิน Airasia กันอีกสักหน่อย เพราะเที่ยวบินขากลับวันนี้ ได้นั่งเครื่องบินลาย Amazing Thailand เป็นกราฟฟิคผสมผสานลายไทย สีสันสดใส สวยงามน่ารักดี เห็นแล้วสะดุดตา อดใจไม่ไหวที่จะต้องถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก
จบท้ายรีวิวของเรา ด้วย ภาพบนท้องฟ้า จากสายการบิน Airasia ตั้งแต่อยู่ที่ภูเก็ต เห็นเกาะเล็กๆ อยู่เบื้องล่าง บินมาสักพัก ไม่รู้อยู่ตรงไหนแล้ว แต่เมฆปุกปุย สวยดี นึกถึงบิงชูจากร้านพิเศษ ถ้าราดนมชมพูเข้าไปด้วยคงจะอร่อยดี บินมาเรื่อยๆ จนเครื่องบินเริ่มลดระดับลง เห็นวิวแม่น้ำของกรุงเทพมหานครแล้วงดงาม Amazing Thailand ดี เที่ยวเมืองไทย สุขทั่วถิ่น อร่อยทั่วไทยค่ะ
Pear_Plean
วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 เวลา 01.28 น.