สวัสดีครับทุกท่าน รีวิวฉบับนี้ SOtraveler นำพรีเมี่ยมซันเดย์บรันช์ ที่จัดเต็มบอสตั้นล็อบสเตอร์ หอยนางรม ฯลฯ
ให้แบบไม่อั้นในมื้อสายวันอาทิตย์กับ Sparkling Sunday Brunch ห้องอาหารสกาลินี่ (Scalini)
โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท ในซอยสุขุมวิท 24
ซันเดย์บรันช์มื้อนี้ จะมีทุกวันอาทิตย์ เริ่มตั้งแต่เวลา 12.30 – 15.00 น.
Sparkling Sunday Brunch มื้อนี้ยังมีเมนูที่น่าสนใจอีกหลายเมนู
SOtraveler อยากนำมาเล่าให้สมาชิก Pantip.COM ทุกคนได้อ่านกัน
ขอเชิญติดตามรับอ่าน รับชมภาพกันได้เลยครับ
การมารีวิวครั้งนี้ ตัวผมเองมีอาการตาโต กับสิ่งที่ได้เห็น แทบจะเรียกว่า ยั้งใจไม่อยู่กันเลยทีเดียว
เพราะสิ่งที่เห็นเต็มๆ ตาวันนี้ก็คือบอสตันล็อบสเตอร์ตัวใหญ่ ที่เรียงรายกันอยู่เต็มพื้นที่บนโต๊ะ
จนแทบไม่เห็นอย่างอื่นเลย และยังขนกันมาแบบบุฟเฟ่ต์เติมกันตลอดเวลาอีก
กองทัพอาหารทะเลหลากหลาย นำทีมโดยบอสตันล็อบสเตอร์, ก้ามปูอลาสก้า, กุ้งลายเสือ, หอยนางรม Fine De claire
นี่คือพระเอกของเราในวันนี้นะครับ ซึ่งสามารถนำมาปรุงเมนูต่างๆ ได้อีก เดี๋ยวจะได้เห็นกันในรีวิวต่อ ๆ ไปนะครับ
เห็นรูปนี้แล้วแทบไม่ต้องบอกเลยใช่มั้ยครับ ว่าสิ่งนี้ใช้ทานคู่กับอะไร
เป็นเมนูโปรดของใครหลาย ๆ คนเลยทีเดียว น้ำจิ้มซีฟู๊ดแซ่บมาก
หอยนางรม Find de Claire หอยนางรมเลื่องชื่อจากฝรั่งเศสตัวใหญ่ แค่เห็นภาพก็รู้ถึงความสด และความอวบอิ่มของตัวหอย
จนคิดไปเองเลยว่า บางครั้งไปทานหอยนางรมริมหาด ยังไม่ได้ใหญ่ขนาดนี้เลยนะเออ
ยิ่งเห็นเชฟกำลังทำการแกะทีละตัว แล้ววางเรียงไว้ให้ มันช่างเย้ายวนใจเสียจริงๆ
พามาดูล็อบสเตอร์กันใกล้ๆ ที่มีเชฟคอยเติมอยู่เรื่อยๆ ตลอดเวลา สมกับคำว่า "ไม่อั้น" จริง ๆ
พอถึงช่วงก็มีคนมาหยิบจนล็อบสเตอร์ใกล้หมดจนแทบจะเหลือเป็นเกาะน้ำแข็งเปล่า
เชฟก็จะเริ่มนำล็อบสเตอร์ชุดใหม่มาขึ้นอยู่ตลอด ใครที่โปรดปรานล็อบสเตอร์มาก ๆ
ซันเดย์บรันช์ มื้อนี้ต้องเป็นมื้อในดวงใจแน่นอน
เมื่อเลือกล็อบสเตอร์ และหอยนางรม ที่ถูกใจแล้ว ก็ส่งต่อให้เชฟช่วยปรุงให้
แต่ละโต๊ะจะมี TAG หมายเลขโต๊ะที่ระบุเมนูอาหารไว้พร้อม
เมนู Lobster สามารถทำ
- Lobster Garlic Butter
- Lobster Thermidor
- Lobster Grilled
จานนี้คือ Lobster Thermidor ล็อบสเตอร์ตัวใหญ่ นำมาอบกับชีสเหลือง หอมฉุย
รสชาติหวานเนื้อล็อบสเตอร์ เค็ม ๆ มัน ๆ กับชีสที่อบมากับความหอม เป็นเมนูพระเอกสุดฮิต
หอยนางรม สามารถนำมาปรุง Oyster Rockfeller ได้ด้วยเช่นกันนะครับ
ครัวเปิด เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของห้องอาหาร สกาลินี่ (Scalini) สิ่งหนึ่งที่ขอชม Sunday Brunch ที่นี่คือ
เชฟออกอาหารไวมาก และยิ่งเป็นครัวเปิด ก็ยิ่งเห็นความขมักเขม้นในการปรุงอาหารของเชฟแต่ละท่าน
จากมุมนี้ จะเห็นถึงการเคลื่อนไหวอยู่แทบจะตลอดเวลาของเหล่าเชฟที่อยู่ด้านหลัง เชฟมีการแบ่งหน้าที่
ในการปฏิบัติงานกันได้เป็นอย่างดี ของถูกนำเสิร์ฟในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันตลอด ใครสั่งอะไรไว้ ไม่นานเกินรอแน่ๆ ครับ
เสียดายที่ไม่สามารถส่งผ่านความอุ่นของ Lobster Thermidor ให้กับทุกคนได้
อยากให้ทุกคนมาลองสัมผัสกันดูด้วยตัวเองกับ ล็อบสเตอร์เสิร์ฟอุ่นๆ มีควันเบาๆ
กลิ่นหอมม ๆๆๆ มันช่างน่าเย้ายวนใจ ชวนน้ำลายไหลอยู่ตลอดเวลา
เมื่อล็อบสเตอร์ เริ่มพร่องเหลือน้อยลง เชฟก็นำมาเติม ให้ความอลังการของล็อบสเตอร์ เกิดขึ้นมาอีกครั้ง
เหมือนกับการดูภาพยนตร์วนซ้ำไปซ้ำมา เมื่อรายการอาหารเริ่มพร่องลงไป ก็จะถูกนำมาเติมตกแต่งขึ้นมาใหม่เสมอ
สมกับที่เป็นพระเอกของงานจริงๆ ที่จะคอยปรากฎโฉมให้กับทุกคนได้เห็นอยู่ตลอดเวลา
เรียกได้ว่าถ้าใครเดินมาแถวนี้แล้วอยากเห็น จะต้องได้เจอ !!!
หอยนางรม Find de Claire อันที่ขึ้นชื่อเรื่องความหวาน ของเนื้อใส ๆ หนักหนา
เมื่อจัดมาไม่อั้น เราก็จัดไปไม่อั้นเช่นเดียวกัน แถมยังมีเชฟคอยแกะให้ อยู่เรื่อย ๆ
Sauteed Black Mussels หอยแมลงภู่ตัวใหญ่ เนื้อหวาน สด แน่น
ปรุงรสด้วย Espelette Chilly และ ซอสไวน์ขาวเรียบร้อยพร้อมทาน
ความอร่อยของอาหารที่นี่ เข้ากันได้ดีกับ Champagne และ ไวน์ Prosecco คุณภาพดี สัญชาติอิตาเลียน
ที่ขึ้นชื่อมากในเครื่องความหอม ตั้งแต่ขั้นตอนการริน ก็ชวนให้หลงไหลไปกับสีเหลืองอ่อน ประกายทอง
พร้อมฟองใส เหมาะมากกับการทานคู่กับซีฟู๊ด
เมื่อ Sparking นี้เต็มไปด้วยฟองใส ชวนทุกคนมาอร่อยและหลงไหลไปกับความซ่าส์
ด้านหน้าห้องอาหาร มีน้ำผลไม้ให้เลือก
ผมชอบเมนู Smoothie มากที่สุด
นอกจากในส่วนอาหารซีฟู๊ดหลักแล้ว ก็ยังมีส่วนของอาหารอิตาเลียนในรูปแบบ Cold cut
ให้ได้รองลิ้มชิมรสอีกด้วยนะครับ
มุมสลัด ก็มีให้บริการเช่นเดียวกัน
ตามๆ กันมาครับ อีกโซนก็เป็นอาหารญี่ปุ่นตามสมัยนิยมให้ได้เลือกทานด้วยนะครับ
เป็นซูชิพรีเมี่ยมเลยล่ะครับ
Foie Gras Tasting ฟัวกราส์ขนาดพอดีผ่านการย่างให้ด้านนอกกรอบเกรียมเล็กน้อย
เสิร์ฟพร้อมขนมปังกรอบ ราดด้วยซอสสตอเบอรี่และบัลซามิค
วางคู่กันกับ Foie Gras Brulee ถ้วยเล็ก ๆ
สปาเก็ตตี้ Alla Chitarra โฮมเมด ที่ห้องอาหารสกาลินี่ทำเส้นเอง
ชื่อ Chitarra นั้นมาจากเครื่องทำเส้นสปาเก็ตตี้ ที่เป็นรูปเหมือนกีตาร์
เป็น Signature ของอาหารอิตาเลียนอย่างนึง นำเส้นมาผัดกับเนื้อล็อบสเตอร์ ซอสหอมหวาน
Egg benedict ไข่ต้มสุกนอกด้านในไข่แดงยังนุ่มเยิ้ม เสิร์ฟพร้อมแซลมอนรมควัน กับขนมปังอบ
Tournedos Rossini เมนูเนื้อสุกไม่มากเสิร์ฟพร้อมฟัวกราส์ชิ้นพอดีคำ
ตัวซอสที่ราดมีความเข้มข้น
ของหวานที่นี่ ก็จัดได้ดีไม่แพ้กัน
เริ่มต้นกันกับ Mango mascarpone crepes, pandan coconut sauce เครปมะม่วงกับซอสใบเตย
อร่อยมาก ๆ ครับ
ตามด้วย White Chocolate Berry Macaroon หอมและมีรสเปรี้ยวเล็กน้อย
Chocolate crispy choux
Cream cheese parfait
Parmesan Cheese Panna Cotta With Cinnamon Pear Compote
Milk Chocolate Mousse with Caramelized Orange
พิกัดของโรงแรมนะครับ
11 Sukhumvit Soi 24, Sukhumvit Road, Khlong Ton, Khlong Toei, Bangkok, Thailand 10110
BTS Sky Train: สถานีพร้อมพงษ์ ทางออกที่ 4
สำหรับราคาค่าเสียหาย Sparkling Sunday Brunch มีให้เลือก 2 แบบคือ
Sparkling Sunday Brunch with free flow of Prosecco, White/Red wine & Fruit Juices 2,500.- net
Sparkling Sunday Brunch with free flow of Champagne, Prosecco, White/Red wine & Fruit Juices 3500.- net
สำหรับคนที่ไม่ถนัดซ่าส์กับ สปาร์คกลิ้ง ก็มีราคาเบา ๆ
Brunch with Free Flow Fruit Juices 1,800.- net
เป็น Sparkling Sunday Brunch ที่เน้นหนักจัดเต็ม Lobster มากจริง ๆ
เมนูอื่นๆ ก็หลากหลายไม่แพ้กัน บริการระดับโรงแรม 5 ดาว อีกด้วย
ถือว่า Scalini ทำ Sunday Brunch นี้ออกมาได้ดึงดูดใจมาก ๆ
ท้ายนี้ขอขอบคุณ HILTON SUKHUMVIT BANGKOK และขอบคุณทุกท่าน
ที่ติดตามอ่านกันเสมอมา ขอบคุณครับผม
SOtraveler.COM
วันพฤหัสที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 เวลา 22.57 น.