ทะเลหน้าร้อนนี่มันช่างสวย และร้อนได้ใจกันจริงๆ นะคะ ด้วยความที่พวกเราและชาว The Gang ได้รวมตัวกันอีกครั้ง เนื่องจากเพื่อนที่ไปอยู่อเมริกากลับมา เราและเพื่อนเลยจัดทริปเที่ยวหน้าร้อนกัน ไปเที่ยวทะเลแบบใกล้ๆ กทม. เลยมาเป็นทริปเกาะสีชังในครั้งนี้

เราเดินทางจากกทม.กันคนละจุดสองจุด แล้วไปรวมตัวกันที่ท่าเรือเกาะลอย เพื่อที่จะซื้อตั๋วแล้วนั่งเรือไปที่เกาะสีชัง ซึ่งมีเรือหลากหลายแบบ พวกเราเลือกที่จะนั่ง Speed Boat เพื่อความสะดวกรวดเร็ว และที่สำคัญเราไปกันหลายคน ก็หารค่าใช้จ่ายได้สบายๆ และก็ใช้เวลาแค่ประมาณ 20 นาทีก็ถึง และพอไปถึงก็เห็นประภาคารสวยงามบนเกาะสีชีง แผนทีบนเกาะจะบอกถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แล้วก็รถสกายแลป (ซึ่งคล้ายตุ๊ก-ตุ๊กของที่นั่น) จอดให้บริการนักท่องเที่ยวมากมาย รอบเกาะเหมา 250 บาท นั่งได้ประมาณ 4 คน

โปรแกรมในวันนี้เราเที่ยวแบบชิล ไม่รีบร้อน ไม่มีแพลนใดๆ และที่สำคัญตอนถึงก็ใกล้เที่ยงแล้วด้วย เลยต้องทานอาหารเที่ยงกันก่อน งานนี้เป็นโอกาสพิเศษที่เรา ได้ไปทานอาหารที่ปารีฮัท ซึ่งปรกติแล้วที่นั่นจะเป็นแค่ที่่พัก ใครพักที่นั่นก็ถึงจะได้ทานอาหารที่นั่น เราถือว่าโชคดี เลยได้เก็บภาพสวยๆ มาฝาก เผื่อจะได้ไปพักในโอกาสต่อไป ขอบอกว่า มันเป็นความรู้สึกที่คิดว่า...อยากติดเกาะอยู่อย่างนี้มากมายเลย ชมภาพสวยจากมุมต่างๆ กันนะคะ


มุมฮิต..ถ่ายรูป ตามรอยละครกานไปนะคะ


สงบ มุมสวย มุมชิล มุมที่ไม่คิดว่า...การมีแค่เก้าอี้ 1 ตัว มันจะทำให้ได้ภาพที่สวยงาม และได้ความรู้สึกสดชื่น ทั้งๆที่นั่งอยู่ท่ามกลางแดดร้อนเปรี้ยง แต่ลมพัดมาตลอด เลยทำให้รู้สึกว่า..เป็นมุมที่อยากนำเสนอให้ทุกคนได้รับรู้ถึงความรู้สึกเหล่านี้..ลองไปสัมผัสดูนะคะ

เราใช้เวลาทานอาหารและเดินเล่นถ่ายรูปนานมาก อาหารที่นี่ ขอบอกว่า อร่อยและสดมาก วิวและมุมถ่ายรูปคุ้มค่าจริงๆ


แล้วเราก็เรียกรถสกายแลปมารับไปเที่ยวจุดอื่น...เริ่มจาก พระจุฑาธุชราชฐาน พระราชวังบนเกาะ แห่งเดียวในประเทศไทย และที่นี่ก็ต้องใช้เวลาเดินค่อนข้างนาน เพราะมีให้เลือกระหว่างรอบเล็ก กับรอบใหญ่ ซึ่งจะเดินชมเองหรือให้น้องมัคคุเทศก์น้อย พาชมก็ได้ พวกเราเลือกให้น้องมัคคุเทศก์น้อยพาชมรอบเล็ก เพราะเราต้องไปเที่ยวต่ออีก

เริ่มต้นจากสักการะพระบรมรูปเสด็จปู่ ร.5 เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตด้วย

มุมกว้างของพระราชวังแห่งนี้ เท่าที่เราจะเก็บภาพได้ และเท่าที่เราจะเดินเล่นกันในวันนี้

ต้นลีลาวดีที่สวยงาม เกือบทุกจุดของพระราชวังแห่งนี้


ลานสรงน้ำ ในสมัยก่อน

สระอโนดาต ที่ถ้ามองจากด้านบนจะเห็นเป็นรูปหัวใจ แต่มองจากด้านล่างจะเหมือนรูปหยดน้ำ


แล้วก็เดินต่อกันไปเรื่อยๆ ตามที่มัคคุเทศก์น้อยบรรยายและพาเดินชมสถานที่ตามจุดต่างๆ แต่ที่นี่เขาก็มีป้ายบอกทางนะคะ

เรือนวัฒนา ซึ่งเป็นเรือนที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกระณาโปรดเกล้าฯ เพื่อเป็นที่พักฟื้นสำหรับชาวไทยและต่างประเทศ ต่อมาใช้เป็นเรือนประทับของพระราชวงศ์

เรือนไม้ริมทะเล

ฐานพระที่นั่งวิมานเมฆ ในปัจจุบัน

เรือนพักเจ้าบ่าว-เจ้าสาว ที่นี่มีคนมาถ่าย pre wedding กันหลายคู่

สะพานอัษฏางค์ เป็นสะพานไม้สีขาว ยืนไปทะเล ถือเป็นเสมือนแลนด์มาร์คที่เกาะสีชัง

อีกมุมของสะพานอัษฏางค์

แล้วหลังจากนั้นเราก็เรียกรถสกายแลป ให้มารับเพื่อไปเที่ยวต่อ เราก็ไปเที่ยว ที่ช่องเขาขาด จุดชมพระอาทิตย์ตกดินของเกาะสีชังที่สวยงามเลยทีเดียว แต่ตอนเราไปถึงนั่นยังไม่เย็นพอ แดดเปรี้ยงไปนิดค่ะ แต่ก็สวยไปอีกแบบนะคะ



และก็ไปต่อกันด้วยการทำบุญ ปิดท้ายทริป ที่ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ เพื่อสร้างความสิริมงคลให้กับชีวิตก่อนกลับนะคะ

เห็นอย่างนี้ บันไดประมาณ 159 ขั้น (ถ้านับไม่ผิดนะ) เล่นซะเหนื่อยกานเลยทีเดียว


เจ้าพ่อเขาใหญ่ ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล

มุมบนมองเห็นวิวเกาะสีชัง โดยรอบ ขอบอกว่าสูงมากมายเลย



และแล้วก็มาถึงช่วงเวลาที่ต้องอำลาเกาะสีชัง ความชิลในหนึ่งวันที่เกิดขึ้น

เรือลำนี้รับ-ส่งพวกเราตลอดการเดินทางในทริปเกาะสีชังนี้



และก่อนจะจบทริปนี้ เมือถึงเกาะลอย พวกเราก็ไปทานอาหารกันที่ร้าน มุมอร่อย ศรีราชา ด้วยบรรยากาศที่นั่งดูพระอาทิตย์ตกน้ำทะเลอย่างสวยงาม เลยเก็บภาพ Sunset มาฝาก ด้วยความรู้สึกดีๆ ของมิตรภาพเพื่อนเก่าที่เกิดขึ้นมากมาย ทำให้ทริปเกาะสีชังครั้งนี้เป็นทริปที่ประทับใจ เป็นการใช้ชีวิตแบบชิลๆ ง่ายๆ สบายๆ แต่มีความพิเศษในตัวเองตามแบบฉบับการสร้างความสุขด้วยตัวเอง ลองหาเวลาท่องเที่ยวกันบ้างนะคะ 1 วันเราก็เที่ยวได้นะคะ

Once Chill Life

 วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 เวลา 16.15 น.

ความคิดเห็น