ทริปนี้พวกเราวางแพลนกันไว้

ว่าจะเข้าไปป่าที่หลายคนบอกว่าเป็นที่ปราบเซียน

ป่าที่ได้ชื่อว่าเป็นหลังคาดาวที่สูงที่สุดในเมืองกาญจน์

ที่นี่ครับ "สันหนอกวัว"




เราออกเดินทางกันด้วยรถตู้ที่กรุงเทพฯ

จุดหมายปลายทางอยู่ที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม จ.กาญจนบุรีครับ

เราถึงกันราว ๆ ตี 2 ด้วยสภาพที่ง่วงสุดๆ

มาถึงพวกเราเข้าเต็นท์นอนซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เตรียมไว้ให้แล้ว

แล้วเราจะเริ่มเดินเข้าป่ากันแต่เช้าครับ



อรุณสวัสดิ์ยามเช้า

อากาศที่นี่หนาวกำลังดีครับ




วิวยามเช้าของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมครับ



กินข้าวเช้ากันเสร็จเรียบร้อย

ได้เวลาแบกเป้เดินทางออกจากอุทยานแห่งชาติเขาแหลม

เพื่อขึ้นรถกระบะไปยังจุดเริ่มเดินครับ



ถึงแล้วครับจุดเริ่มเดิน

เราจะเดินป่ากันราว ๆ 9 กิโลเมตร

ใช้เวลาประมาณ 6-7 ชั่วโมงครับ



การเดินป่าที่นี่ตัวคุ่นกับเห็บลมค่อนข้างเยอะ

ใส่เสื้อแขนยาวกางเกงขายาวให้มิดชิด

จะช่วยป้องกันได้ดีในระดับหนึ่งครับ

เพราะถ้าโดนตัวพวกนี้เข้าไปกว่าจะหายคันกันเป็นเดือน ๆ เลยครับ


เส้นทางที่นี่จะค่อนข้างชัน

ทางราบจะมีอยู่น้อยมาก

ใครจะมาที่นี่ฟิตร่างกายกันให้ดีครับ




ป่าที่นี่ค่อนข้างสมบูรณ์เนื่องจากมีพื้นที่ติดกับผืนป่าในเขตทุ่งใหญ่นเรศวร

ระหว่างทางจะรายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่สลับกัน

ด้วยสภาพป่าที่ต้นไม้ขึ้นกันอย่างหนาแน่น

ทำให้ร่มเงาของต้นไม้ผสมกับลมพัดเย็น ๆ ตลอดการเดินทางนี้

ไม่เหนื่อยอย่างที่พวกเราคิดไว้เลยครับ


กล่องที่ติดไว้กับต้นไม้ต้นนี้

ข้างในเป็นกล้องที่เจ้าหน้าที่ติดเอาไว้ส่องดูสัตว์ครับ



เดินไปได้ครึ่งทาง

เราแวะกินข้าวเติมพลังกันหน่อยครับ


ออกเดินทางกันต่อครับ

เส้นทางต่อจากนี้ต้องออกแรงกันเยอะกว่าเดิม

พวกเรากำลังเข้าสู่เนินหมาถอยครับ


เราต้องปีนเชือกกันขึ้นไปแบบนี้ครับ

ออกแรงกันหน่อย ฮึบๆๆๆ



ผ่านด่านนี้ไปได้เราใกล้เข้าสู่จุดหมายแล้วครับ

มองไปข้างทางเราจะเห็นเขาหัวโล้น หรือที่เรียกกันว่า เขาเรดาร์

ที่เรียกเขาเรดาร์ เนื่องจากปัจจุบันได้มีการสร้างสถานีเรดาร์ของทหารอากาศขึ้นข้างบน

ด้วยเหตุผลเพื่อดูแลความปลอดภัยทางอากาศครับ



ที่เราเห็นสายน้ำที่ไหลมารวมกันอยู่ตรงนี้

นั่นคือ เขื่อนเขาแหลม หรือที่เรียกกันว่า เขื่อนวชิราลงกรณ์ครับ



เส้นทางต่อจากนี้เราต้องระมัดระวังกันหน่อย

เนื่องจากทางเดินค่อนข้างแคบ

เราต้องเดินเลียบเชิงเขากันไปแบบนี้ครับ



ตลอดทางจะมีป้ายบอกทุกระยะ


สัญลักษณ์ที่ทำไว้กับต้นไม้ชัดเจนดี

เดินยังไงก็ไม่หลงครับ


อีกไม่ไกลเราจะถึงที่หมายแล้ว

ยังยิ้มกันได้สบายๆ ครับ



ถึงแล้วครับจุดกางเต็นท์ของพวกเรา


ถึงแล้วครับจุดกางเต็นท์ของพวกเรา

เพื่อที่นอนของพวกเราในคืนนี้ครับ


มีคนขึ้นมาบนนี้กันไม่ถึง 30 คนมีคนขึ้นมาบนนี้กันไม่ถึง 30 คน

บรรยากาศโล่งสบายครับ


นั่งพักให้หายเหนื่อย

แล้วเตรียมอาหารมื้อเย็นกันครับ


ข้าวร้อน ๆ รอพวกเราอยู่ครับ


พี่มานะสุดหล่อ

เชฟมือทองของเราในทริปนี้ครับ


โฉมหน้าลูกหาบครับ

ผู้ที่คอยแบกวัตถุดิบอาหารการกิน

ผู้ที่คอยก่อกองไฟอุ่นๆ ให้เราคลายหนาวกันในคืนนี้ครับ



ได้เวลาเดินไปดูพระอาทิตย์ตกดินกันแล้ว


วิวทิวทัศน์บนยอดเขาของที่นี่

เราจะได้เห็นภูเขาสลับเรียงกันไปตามแนวเขา

ตัดกับวิวทะเลสาบจากเขื่อนวชิราลงกรณ์ครับ



ใครได้มาเห็นวิวแบบนี้

เชื่อได้เลยว่าจะยิ้มให้กับธรรมชาติ

โดยที่เราไม่รู้ตัวเลยครับ



เดินจากจุดกางเต็นท์ไปไม่นาน

พวกเราเดินมาถึงแล้วครับ สันหนอกวัว ยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี

มีระดับความสูงที่ 1,767 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลางครับ




สองสาวขอกระโดดถ่ายรูปกับป้าย

เอ้า โดดเล้ย!!!!



ธรรมชาติที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขา

ไม่ว่าจะกี่ครั้งที่เราได้มานั่งมอง

มักจะเต็มไปด้วยความอิ่มเอมใจครับ



ทริปนี้มีคู่รักมาด้วย

ให้พวกเราหลายคนได้อิจฉากันเล่นครับ


แสงเย็นวันสุดท้ายของวันนี้

กำลังจะลาลับขอบฟ้าไปครับ



เริ่มมืดแล้ว

ได้เวลากลับไปกินข้าวเย็นกันแล้วครับ



อากาศที่นี่ค่อนข้างหนาวลมพัดแรงมากจนเต็นท์แทบปลิวครับ

ไฮไลท์ของที่นี่พลาดไม่ได้เลย

กับการดูดาวทั่วท้องฟ้าแบบ 360 องศา

หลังคาดาวของเมืองกาญจน์ที่นี่งดงามมากครับ



มีส่วนหางของช้างเผือกโผล่มาให้เราเห็นในค่ำคืนนี้ครับ



ดูดาวกันเสร็จมานั่งคุยกันต่อพร้อมกับบรรยากาศดีจากขุนเขา

ยิ่งดึกแต่ละคนก็ยิ่งทยอยกลับไปนอนเต้นท์ทีละคน ๆ

เหลือไว้เพียงแต่กองไฟที่ค่อย ๆ มอดดับลงด้วยความหนาวเย็น



เราตื่นกันแต่เช้าเพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้น

อุณหภูมิเช้านี้ที่เราวัดได้ 12 องศาครับ



ต่างคนต่างเฝ้ารอเวลากับแสงแรกของเช้าวันใหม่



แล้วแสงนั้นก็โผล่ออกมาให้เราเห็น

ลำแสงสีส้มค่อย ๆ ทะลุออกมาจากก้อนเมฆครับ




แสงแรกของวันใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

ความสดชื่นบนยอดเขาที่เราได้รับ

เป็นสิ่งที่ทำให้เราอิ่มเอมใจกับธรรมชาติเป็นที่สุดแล้ว



" เราต่างผ่านวันที่สุขที่สุด วันที่เศร้าที่สุด

ทุกอย่างล้วนตั้งอยู่บนความไม่แน่นอน

ในทุกวันที่เริ่มต้นใหม่

กระตุ้นเตือนเราอยู่เสมอ

ว่าชีวิตเรายังสนุกได้ในทุกวัน "



รายละเอียดค่าใช้จ่าย

ไปกับทัวร์เดินป่า

ค่าใช้จ่ายทั้งหมดคนละ 3,400 บาท

อาหาร 6 มื้อ นอนกางเต็นท์ 2 คืน

รวมค่ารถตู้ไปกลับจากกทม. ถึงอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จ.กาญจนบุรี


FB : Bean Skullflied

Bean Skullflied

 วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 เวลา 19.08 น.

ความคิดเห็น