เ ซี่ ย ง ไ ฮ้........ดี ต่ อ ใ จ ใ ค ร ๆ ก็ ช อ บ ขึ้นหัวข้อมาแบบนี้เนี่ย



ไอ้เซี่ยงไฮ้ที่เราหมายถึงน่ะ ไม่ใช่เวเฟอร์เคลือบชอกโกแล็ตยี่ห้อเซี่ยงไฮ้นะ

แต่มันคือ เมืองเซี่ยงไฮ้ในประเทศจีนต่างหากล่ะ อย่าเข้าใจผิด หุหุ



จากหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ เมื่อหลายร้อยปีก่อน พัฒนามาเป็นมหานครที่ยิ่งใหญ่ติดอันดับโลก

" เซี่ยงไฮ้" เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน ผสมผสานกับวัฒนธรรมตะวันตกในสมัยที่ฝรั่งเศสปกครอง

ทำให้เซี่ยงไฮ้ มีเสน่ห์และมนต์ขลังชวนดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยือนมหานครแห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย



[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/littlegirlinabigworld2/


http://www.girlinabigworld.com/



กระทู้เก่า



ไปตรัง....ไปทำอะไรดี?

http://pantip.com/topic/35393978



ย่างกุ้ง พม่า 4 วัน 3 คืน ในราคา 4,641 บาท

http://pantip.com/topic/35475890



โอ่ โอ "สงขลา" บ้านเรา แม่น้ำ ภูเขา ทะเลกว้างไกล

http://pantip.com/topic/35630902



ห้ามพลาด Adventure Activity ที่ Flying Hanuman ภูเก็ต

http://pantip.com/topic/35161192



ไปปีนผาจำลองกันเถอะ Rock Domain Climbing Gym

http://pantip.com/topic/33916354เซี่ยงไฮ้ อยู่ในประเทศจีน เวลาคนไทยเข้าจีน ต้องขอวีซ่าก่อน ข้างล่างนี้เป็นข้อมูลสำหรับการขอวีซ่าท่องเที่ยวประเทศจีนค่ะ



[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.girlinabigworld.com/2016/11/blog-post.html



เราเดินทางไปเซี่ยงไฮ้โดยสายการบิน Thai Air Asia X

บินตรงจากกรุงเทพฯ (DMK) สู่ท่าอากาศยานผู่ตง (PVG) มหานครเซี่ยงไฮ้

ไฟลท์ขาไปเครื่องออกจากดอนเมืองตอน 12.15 AM (เที่ยงคืนสิบห้า) ถึงเซี่ยงไฮ้ตอน 5:40 AM

ส่วนไฟลท์ขากลับ ออกจากท่าอากาศยานผู่ตง 6:55 AM ถึงท่าอากาศยานดอนเมืองเวลา 10:15 AM



เมื่อเครื่องบินใกล้จะถึงจุดหมายปลายทาง เหล่าบรรดานางฟ้าทั้งหลายก็เตรียมแจกใบขาเข้าให้เรากรอก



ถึงสนามบิน ผ่าน ตม. รับกระเป๋าเรียบร้อย เดินออกมาแล้วเลี้ยวซ้ายเพื่อไปซื้อตั๋วรถไฟความเร็วสูง Maglev (Magnetic Levitation) ก็จะเจอกับป้ายนี้ เดินตามป้ายไปเรื่อยๆ



ระหว่างเดินไปขึ้น Maglev เรามองไปทางขวา เห็นเค้าเตอร์ขายบัตร Metro พอดีเลยแวะซื้อบัตร Metro



เราซื้อบัตร Metro เป็น แบบ3 Days pass ในราคา 45 หยวนค่ะ บัตรน่ารัก น่าสะสมมาก



เดินตามป้ายมาเรื่อยๆ ก็จะเจอ ที่ขายตั๋ว Maglev Ticket Center



ตอนซื้อก็อย่าลืมโชว์ Boarding Pass นะคะ คุณจะได้ส่วนลด 10 หยวน จากราคาปกติ 50 หยวน ก็จะเหลือเพียง 40 หยวนเท่านั้น



บรรยากาศภายในรถไฟค่ะ



และแล้วก็มาถึงสถานี Longyang Rd.ซึ่งเป็นสถานีเชื่อมต่อกับ Metro Line 2



จากนั้นเราก็เดินทางเข้าที่พักโดยการต่อ Metro Line 2 ลงสถานี People's Square



ระหว่างทางเดินไป Hostel ผ่าน All days Minimart พอดี


ซื้อน้ำมา 1 ขวด ราคา 2.5 หยวน



ที่พักที่เราจองมา ชื่อว่า Shanghai Mingtown Peoples Square Youth Hostel ซึ่งเป็น Hostel ที่อยู่ในกลางเมืองเซี่ยงไฮ้ ห่างจาก รถไฟใต้ดิน สถานี People's Square เพียง 10 นาทีเท่านั้น



เมื่อเดินมาถึงหน้า Hostel ก็จะเจอกับบรรยากาศแบบนี้ ตกแต่งด้วยไม้เลื้อยสวยงาม



พนักงานต้อนรับพูดภาษาอังกฤษได้ แต่อาจจะมีงง ๆ บ้างต้องพูดช้าๆชัด ๆ



เรามาถึงที่พักประมาณ 8 โมงเช้า เมื่อทำการเช็คอินเสร็จ ยังเข้าห้องพักไม่ได้ จึง ขึ้นบันไดไป ชั้น 3 ของ Hostel จะมี Cafe ไว้ให้นั่งรอ



นั่งๆ นอนๆ รอจนได้เวลาเข้าห้องพักสักที ห้องที่เราจองเป็นห้อง Standard twin room ห้องน้ำในตัว จองมา 4 คืนในราคา 4,632.80 บาท ตกคืนละ 1,158 บาท หารกับเพื่อนสองคน



บรรยากาศในห้องสะอาดพอสมควร เต็ม 10 เราให้ 7 คะแนน ตอนที่เข้าห้องไปกลิ่นคลอรีนคลุ้งมาก แม่บ้านที่นี่ทำความสะอาดโดยใช้คลอรีนราดพื้นห้องกันเลยทีเดียว



ประตูห้องพักจะใช้เป็น Key Card เหมือนโรงแรมทั่วๆไป


ส่วนห้องน้ำภายในห้อง ความสะอาด เราให้ 6.5 เต็ม 10 ยังมีคราบดำๆ อยู่ตามขอบ แต่ไม่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์



มีไดร์เป่าผมไว้ในห้องน้ำและชอบตรงที่แม่บ้านจะเปลี่ยนผ้าเช็ดตัวให้ใหม่ทุกวัน



รีวิวฉบับเต็ม สำหรับ Hostel ค่ะ เผื่อใครคิดจะพักแบบ Dorm เราถ่ายบางส่วนมาเผื่อ



[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.girlinabigworld.com/2016/11/shanghai-mingtown-peoples-square-youth.htmlหลังจากเก็บของและพักผ่อนกันมาพอประมาณแล้ว เราก็อาบน้ำแต่งตัวสวยๆ ออกไปหาอะไรกิน

และหนึ่งในอาหารที่ต้องห้ามพลาดเวลามาเซี่ยงไฮ้ นั่นก็คือ เสี่ยว หลง เปา

เราไม่รอช้า รีบเสริจหาร้านขาย เสี่ยว หลงเปา ที่เค้าว่าเด็ด ที่เค้าว่าดัง แล้วรีบไปตามรอยทันทีทันใด

ร้านที่เราไปคือร้าน Jia Jia Tang Bao ตั้งอยู่ ที่ 90 Huanghe Rd, Huangpu Qu



บรรยากาศภายในร้าน ลูกค้า เต็มแทบทุกโต๊ะ


มาถึงตอนสั่งอาหาร คนรับออเดอร์ ชี้ป้ายให้ดู ว่าจะสั่งแบบไหน

แต่ขอโทษ ป้ายทุกอย่างเป็นภาษาจีนแบบ No sub เรากับเพื่อนอ่านออกกันแค่ตัวเลข

สรุปคือ ชี้มั่วๆ สั่งมาลองสองแบบ 30 หยวน กับ 70 หยวน



ทาด้า!!!! มาแล้วค่า เข่งแรก ลองกินดู มันคือ เสี่ยง หลง เปา ไส้ปู อีกเข่งคือไส้หมูผสมกุ้ง


ส่วนรสชาติ เราว่ายังเฉยๆ ไม่ได้กินแล้วว้าว อู้หู ไรเงี้ย

ถ้าเทียบกับร้านอื่นที่เราลองกิน ตลอดทั้งทริป

เราว่าร้านนี้ราคาแพงสุดและรสชาติธรรมดาสุดค่ะ



นั่งกินไป ดูพนักงานห่อแป้งไป ก็เพลินดี



กินเสร็จ ก็เดินสำรวจละแวกใกล้ๆ ถนนเส้นนี้มีร้านอาหารให้เลือกมากมายตลอดเส้นทาง



เดินย้อนกลับมาเรื่อยๆ จนถึง People's Square


เราจึงแวะถ่ายรูปเล่นที่สวนสาธารณะใกล้ๆสถานี



แม้ว่าเซี่ยงไฮ้จะเป็นเมืองใหญ่ มีตึกสูงระฟ้ามากมาย แต่เซี่ยงไฮ้ก็มีพื้นที่สีเขียวน้อยใหญ่กระจายอยู่ทั่วเมือง



แพลนของตอนค่ำวันนี้ คือไปเดินเล่นแถว The Bund


จาก สถานี People's Square สามารถนั่ง Line 2 ไปลง Nanjing East Road ได้เลย



เมื่อเดินออกจากสถานี Nanjing East Road ก็จะพบกับความคึกครื้นของ ถนนสายช๊อปปิ้งที่มากด้วยผู้คนในวันฝนพรำ



เราเดินตรงไปเรื่อยๆ เพื่อไปหาเป้าหมายของเราในวันนี้ ซึ่งก็คือ The bund นั่นเองค่ะ


ระหว่างทางก็ผ่านร้านค้ามากมาย มีแวะ Shopping บ้างตามประสาผู้หญิง



อุณหภูมิวันนี้ ราวๆ 18 องศา แต่ก็อดใจจะลองไอศรีมแท่งนี้ไม่ได้ เพราะเห็นคนซื้อกันเยอะ 555++



ส่วนขวดขาวๆ ด้านล่าง ตอนแรกเราคิดว่ามันคือนม


แต่สรุปแล้วมันคือโยเกิร์ตค่ะ

รสชาติก็เหมือนโยเกิร์ตปกตินี่แหละ แต่เพิ่มเติมคือความหนืด เหนียวและข้นมาก ดูดขึ้นมาเป็นก้อนๆงะ

ราคา ขวดละ 15 หยวน



เย้ๆ มาถึงแล้ว The Bund อากาศเย็นๆ ตึกสวยๆ ให้อารมณ์เหมือนเดินเล่นอยู่ในยุโรปยังไงอย่างนั้น



วันที่เราไปฝนตกและหมอกลงเยอะ ทำให้ไม่เห็นหอไข่มุก แอบเศร้านิดนุง



ระหว่างทางกลับจาก The Bund ไปสถานี Metro เราดันตาดีไปเห็น Café น่านั่งแก้กระหาย เลยตะโกนเรียกเพื่อนที่เดินนำหน้าไปก่อนให้หยุด แล้วมานั่งร้านนี้กันเถอะ!!!! เพื่อนเราได้แต่ส่ายหน้าแล้วบอกว่า


เพื่อน: จะบ้าหรอ กินกาแฟป่านนี้ แล้วแกจะนอนหลับเรอะ

เรา: ป่าว ชั้นว่ามันขาย Flying Dog นะ ไม่เชื่อแกไปชะเง้อดูสิ (Flying Dog คือ Craft Beer )

ได้ยินดังนั้นเพื่อนเราไม่รอช้า จูงมือเราเข้าร้านไปโดยละม่อม

มองผ่านๆ ใครจะไปคิดว่า Café ที่เปิดขายกาแฟ จะมี Craft Beer วางขายอยู่ด้วย



ร้านนี้ชื่อว่า One More Cup ตั้งอยู่ที่ 346 Fuzhou Lu, near Shanxi Zhong Lu


บรรยากาศภายในร้านตกแต่งด้วยขวดเบียร์ ส่วนตรงเคาน์เตอร์จะตกแต่งเหมือนร้านกาแฟทั่วไป



เรากะเพื่อนสั่งมาดื่มคนละขวด ราคาขวดละ ราวๆ 40-45 หยวน


ขวดนี้ Flying Dog Gonzo เป็นเบียร์ดำ 9.2% Acl



ส่วนขวดนี้ Flying Dog Double dog 11.5% Acl


ถ่ายรูปเสร็จ นั่งดื่มได้ 3 อึก ดั่งมีสายฟ้าฟาดมาตรงกลางหน้าผาก พนักงานเดินมาบอกว่า ร้านเรากำลังจะปิดอีกใน 10 นาที

Sh..t ทำไมยูไม่บอกตั้งแต่ไอเดินเข้าร้าน (นี่ คิดในใจนะ 55+)

ซึ่งนั่นหมายความว่า พวกเราต้องกระเดือกเบียร์ที่มีอยู่เกือบเต็มขวดให้หมด ภายใน 10 นาที

จาก Flying Dog กลายเป็น Crawling Dog กันเลยทีเดียว



เริ่มต้นวันที่สองด้วย Yu Yuan Garden


จริงๆแล้ว สถานีใต้ดินที่ใกล้ Hostel สุดคือ สถานี Da Shijie วันนี้เราจึงนั่ง Line 8 จากDa Shijie ไปลง สถานี Laoximen จากนั้นต่อ Line 10 ลงสถานี YuYuan Garden Exit 1



ขึ้นจากรถใต้ดินแล้ว ก็เดินมาเรื่อยๆ จะเห็นตึกทรงจีนสวยๆ เต็มไปหมด


พร้อมมีป้ายบอกทางไป Yu Yuan Garden เป็นระยะ ๆ



เราก็แวะซื้อไอติมตุรกี ราคา 20 หยวน รสชาติอร่อยดี


แต่กว่าจะได้กิน พ่อค้าออกลีลาเยอะ เล่นเอาผมเราเลอะเทอะเชียว



ก่อนเข้าไปชมสวน เราเลือกไปไหว้พระที City of god temple เพื่อความสิริมงคล



ค่าเข้าชมวัด ราคา 10 หยวน



จากนั้นก็เดินไปซื้อบัตรเข้าชมสวน



ค่าเข้าขมสวน ราคา 40 หยวน



ทางเข้าสวน หินก้อนใหญ่ เขียนด้วยตัวหนังสือสีทอง



ภายในสวน สวยงามมาก แต่พอเราเข้าไปสักพัก ฝนเจ้ากรรมก็กระหน่ำเทลงมา ทำให้ไม่ค่อยได้เก็บภาพมากนัก



เดินออกจากสวนมา ทั้งหนาว ทั้งหิว เหลือบตาไปมองเห็นร้านอาหารร้านนึงคนตนต่อแถวเยอะมว๊ากกก


สรุปคือเค้าขาย เสี่ยวหลงเปายักษ์ ลองซื้อมา 1 ลูก ในราคา 15 หยวน



แป้งอร่อย น้ำซุปกลมกล่อมดี เวลากิน ต้องใช้หลอดดูดน้ำซุปก่อนนะคะ ถึงจะกินได้


เพราะถ้ากัดกับปากโดยตรงมันจะลวกปากเอานา



ออกจาก Yuyuan ก็เริ่มมืดแล้ว


เรามาเดินเล่นต่อที่ Tianzifang ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ ที่เราชอบมาก

ให้อารมณ์แนวๆสยามบ้านเรา แต่สวยกว่า แนวกว่าและสะอาดกว่า (ยกเว้นห้องน้ำ)


การเดินทางมาที่นี่ คือลง Metro : Dapuqiao



เรามาตอนกลางคืนแล้ว ที่นี่เปิดไฟสวยงาม มีร้านอาหาร ร้านนั่งดื่มเพียบเลย



ร้านค้าที่นี่ส่วนใหญ่ ตกแต่งด้วยต้นไม้และต้นพลูด่าง


สีเขียวจากใบไม้ช่างเข้ากับแสงไฟสีส้มอ่อนซะเหลือเกิน



ประดับประดาด้วยธงชาติจีนอย่างสวยงาม



เห็นมีหลายคนเดินถือปลาหมึกไปมา เราเลยสงสัยเค้าซื้อจากร้านไหนกันน่ะ


ในที่สุด เราก็เดินมาเจอจนได้



พอเจอร้านปุ๊บเรากลับซื้อไก่แทนปลาหมึก555++


เราจัดไก่ มา 2 ชิ้น ชิ้นละ 10 หยวน รสชาติเผ็ดๆอร่อย ถูกปากคนไทยอย่างแน่นอน

ใครมาเซี่ยงไฮ้ แนะนำว่าให้ลอง #จัดว่าเด็ด



เห็นเพื่อนแวะร้าน Bakery ในสถานี Metro


เราเลยจัดน้ำ Grapefruit มา 1 ขวด

รสชาติอร่อยดี แต่มีรสขมของเปลือก Grapefruit นิดๆ

ส่วนราคาแอบลืมงะ ไม่รู้ว่า 12 หรือ 19 หยวน นี่แหละ



ก่อนจะกลับไปนอน เราสองคนก็ไม่ลืมที่จะแวะร้านอาหารใกล้ๆ Hostel


สั่งเบียร์ Tsing Tao เบียร์ชื่อดังของจีนมาลองดื่มกันคนละขวด

พวกเราสั่งเป็น Draft Beer ซึ่งรสชาติจะละมุนและนุ่มกว่าแบบปกติ



วันที่ 3 ของการเดินทาง



กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เราเลยฝากท้องไว้กับร้านอาหารใกล้ๆHostel ก่อนจะออกไปลั๊ลลา



เราใช้วิชานิ้วดัชนี้ (จิ้มตามภาพ) สั่งบะหมี่มาหนึ่งชาม



กับเกี๊ยวอะไรสักอย่างไม่รู้ คาดว่าจะเป็นเกี๊ยวหมู 555+


รู้อย่างเดียวว่าอร่อยมาก จนอยากกลับไปกินอีก



กินเสร็จเห็นตรอก ซอยๆ สวยๆ เลยถ่ายดูเล่นๆ



ท้องอิ่มกันแล้ว ก็เดินทางกันต่อ



วันนี้เราไป Xintiandi สถานที่ยอดฮิตของเหล่าบรรดาวัยรุ่นในเมืองเซี่ยงไฮ้ มีทั้ง Shopping mall, ร้านค้าและร้านอาหาร



การเดินทาง Metro Line 10 : Xintiandi



ออกจากสถานีมาสักพัก เราเจอกับ Café ที่น่าสะดุดตาร้านนึง ชื่อว่า Spread the bagel

เป็น Café ที่มีดีเจมาเปิดเพลงในร้านด้วย Cool ไปอี๊กก

โดนใจสายย่อแบบเราเชียวล่ะ



ส่วนลานด้านนอกของร้านก็จะมีซุ้มขายเบียร์เก๋ๆ



เราสั่งกาแฟดำมา 1 แก้ว ราคาแพงกว่า Starbuck อีก #น้ำตาจิไหล


แต่ไม่เป็นไรดื่มกาแฟไป เหล่หนุ่ม College ไป ถึงจ่ายแพงกว่าป้าก็ยอม 5555+



ออกจาก Café มา จะเป็นถนนยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายรูปกัน



ส่วนป้ายนี้ ไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร ใครรู้ช่วยแปลหน่อย


เราเห็นนักเรียนเกาหลีกลุ่มใหญ่ ต่อแถวถ่ายรูปกับป้ายนี้ เราเลยเนียนๆ ถ่ายกะเค้าด้วยจ้า



เราเดินเล่นถ่ายรูปเก็บบรรยากาศมาเรื่อยๆ



เจอ Cafe บรรยากาศดีเลยแชะภาพสักหน่อย



อาคารต่างๆทำด้วยอิฐบล็อก ทำให้เรารู้สึกเหมือนเดินอยู่ที่ Champ Elysee ยังไงอย่างนั้น



เดินชมความงามกันจุใจแล้ว


เราก็ไม่ลืมที่จะส่ง Post Card ให้ตัวเอง

ร้านที่เราส่ง Post Card อยู่ใน Xintiandi Style Mall



ชื่อร้านว่า Momi Cafe



ร้านนี้เค้ามีบริการเก็บรักษา Post card ของเราไว้ด้วยนะ


1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี แล้วค่อยส่งมาให้เราเมื่อครบกำหนด



เรามองว่าเป็นอะไรที่เก๋ไก๋มากเลยนะ 10 ปีต่อมา เพิ่งได้รับ Postcard ความรู้สึกตอนรับมันคงดีไม่น้อย



แต่สำหรับบางคนอาจจะนานจนลืม แบบ เอ๊ะ!!! ชั้นไปมาด้วยหรอ ชั้นไปมาด้วยหรอเนี่ย แหมมาแค่เนี่ย พกเมียมาด้วยยยย >M<



ส่วนของเราเลือกแบบส่งเลย เค้าบอกว่า ประมาณ 4 สัปดาห์จะถึง นี่ก็ผ่านไป 2 แล้ว ยังรอกันต่อไป



XINYANG MARKET เป็นตลาดขายพวกเสื้อผ้า ของฝากและของก๊อปปี้มากมาย


ข้อควรรู้ คือ ต้องต่อราคาให้มากที่สุดเท่าที่จะต่อได้ เพราะแต่ละร้านบอกราคาเกินจริงมากกว่า 100% อีก



การเดินทาง Metro: Science and Technology Museum metro station



ออกจากตลาดไปเดินเล่นรอบๆ เจอกับ ปติมากรรมชิ้นนี้โดดเด่นดี เลยเก็บภาพมาฝากค่ะ



ขณะนี้เวลาจะสองทุ่มแล้ว ต้องรีบกลับห้องไปแต่งตัว Party รออยู่



คืนนี้เราจะไป Halloween Party ที่ Bar rough ชั้น 7 ตั้งอยู่ที่ ตึก Bund 18



Bar rough เป็น Roop Top Bar ซึ่งสามารถมองเห็นวิวฝั่งหอไข่มุกได้อย่างชัดเจน



มาถึงต้องต่อแถวพร้อมจ่ายค่าเข้า 100 หยวน



เราสั่ง Cocktail ดื่มอีก 100 หยวน สรุป คืนนี้หมดไป 200 หยวน



ภาพบรรยากาศภายในงาน คือจริงๆแล้ว เราถ่ายไว้เยอะกว่านี้ค่ะ


แต่พอดีเราได้ Memory Card ปลอมมาจากตลาด Xinyang รูปเลยหายหมด คิดแล้วเจ็บปวด มิน่าเห็นแก่ของถูกเลย



ภาพวิวสองฝั่ง ซ้าย-ขวา



Party เสร็จแล้ว ก็เดินกลับ Hostel สิคะจะรออะไร


ใช้เวลาเดินประมาณ 20 นาที ประหยัดค่าแท็กซี่ไปอีก ก็เงินเอาไปลงขวดหมดแล้วนิ สนน มองบนแรง



วันที่ 4 วันสุดท้ายของการมาเที่ยว Shanghai



ในวันนี้เราจะไป Zhujiajiao Water Town เป็นชุมชนโบราณริมน้ำ มีอายุกว่า 1,700 ปี ลักษณะก็คล้ายๆกับอัมพวาของไทยนั่นแหละค่ะ


ก่อนออกเดินทาง ก็ไม่ลืมที่จะซื้อกาแฟมาดื่มเพื่อเพิ่มความสดชื่นให้ร่างกาย

หลังจากเมื่อคืนปาร์ตี้หนักหน่วง เต้นกระจาย 3 ชม. เต็ม (เมาดิบ Drink แพงเกิ๊น)



นี่เป็นแผนที่ ที่เพื่อนคนจีนส่งมาให้ เราก็แอบงงๆ แต่ก็ไปตามจนถูกอ่าแหละ



หลังจากซื้อกาแฟเสร็จสรรพ ก็มุ่งหน้าเดินตรงไปที่ ถนน Pu 'an Road


เมื่อเจอป้ายนี้ รถเมล์ที่เราจะขึ้นไป Zhujiajiao อยู่อีกฟากถนนนะคะ



เห็นป้ายตัวอักษรแดงๆ มั้ยคะ ? รถเมล์คันที่เราจะขึ้น อยู่ทางขวามือของป้ายนี้ค่ะ



เจอแล้ว รถเมล์ อย่าขึ้นผิดคันเชียวนะคะ ขึ้นผิดชีวิตเปลี่ยนทันทีเลยนา



ค่ารถเมล์ 12 หยวน มีกระเป๋ารถเมล์มาเก็บถึงที่ค่ะ ไม่ต้องจ่ายก่อนข้างหน้า


ตอนแรกเราทำท่าจะเอาตังค์หย่อนกล่องละ ดีนะคนที่นั่งอยู่ด้านหน้าเค้าห้ามทัน 55



นั่งรถเมล์จากเซี่ยงไฮ้ไปประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงที่หมาย



จาก Bus stop ต้องเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 15 นาที จึงจะถึง Zhujiajiao



ภาพด้านล่างนี่คือ มี 3 ล้อให้บริการพาไปส่ง และขับชมเมืองด้วย

ส่วนเรื่องราคาเราไม่ได้ถามว่ากี่บาท



ระหว่างทางเดินไป Zhujiajiao เห็นร้านซาลาเปาน่ากิน เลยจัดเปาลาวามา 1 ลูก


ราคาถูกมากลูกละ 3 หยวน แถมรสชาตินี่อร่อยสุดๆ



เมื่อไปถึง ก็เจอป้ายบอกทาง เราเลือกไปทางขวา ไปหาสะพานที่คนแย่งกันถ่ายรูปนับ 10



นี่คือ Zhujiajiao New town แต่ถ้าข้ามสะพานไปอีกฝั่งก็จะเป็น Old Town ทันที



ถ้าให้เดานี่คงเป็นป้าย บอกประวัติความเป็นมาของสถานที่ในภาพ



สะพานที่เรายืนถ่ายภาพนี้ เป็นสะพานที่มากไปด้วยผู้คน เบียดเสียดกันถ่ายภาพ


จนต้องมีเจ้าหน้าที่ดูแล คอยห้ามไม่ให้ยืนชืดขอบสะพานจนเกินไป



กว่าจะได้ภาพนี้มา ยากแค่ไหนถามใจเธอดู 555++



พอข้ามสะพานมา ก็จะเจอกับเมืองเล็กๆ ที่เหมือนคนละโลกกับฝั่งตรงข้าม


สองข้างทางเดินแคบๆ เต็มไปด้วยร้านรวงต่างๆ

ทำให้อดคิดถึง อัมพวา ที่ ประเทศไทยไม่ได้เลย



ไม่น่าใจว่าอันนี้ขาหมูหรือหมู 3 ชิ้นอบ ซื้อมาแบ่งกับเพื่อนสองคน


แต่เรากัดแค่คำเดียว เพราะกลัวอ้วน 555++

รสชาติของมันน่ะหรอ ก็หอมๆ หวานๆนะ แต่มัน เยอะมาก



เดินผ่านร้านขาย CD ตกแต่งซะสวยงามเลย



ร้านค้าต่างๆที่นี่ ก็ตกแต่งได้น่ารัก แนวเดียวกันกับ Tianzifang เลย



เต็มไปด้วยไม้เลื้อยในกระถาง เราไม่แน่ใจว่าเรียกว่าต้นอะไร



ร้านขนมร้านนี้ คนต่อแถวเยอะดี เลยซื้อมาลอง 1 อัน



ราคา 5 หยวน รสชาติหวานๆ หอม อร่อยดี



ถ้าใครอยากนั่งเรือเล่น ก็สามารถซื้อตั๋วได้ตรงนี้นะคะ



ส่วนเราไม่ได้นั่ง แค่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้ ก็มีความสุขแล้ว



เดินมาสุดทาง เจอเหล่าอาม่า มานั่งขายของ



วิวสวย และอากาศสดชื่นมาก



ส่วนฝั่งนี้เป็นฝั่งที่ ชาวบ้านอยู่จริงๆ ไม่ได้เปิดเป็นร้านขายของแต่อย่างใด



หน้าต่างก็เก่า เหมือนหลุดมาจากหนังจีนโบราณ ชอบจัง



ก่อนกลับ เราแวะมาเดินฝั่ง Zhujiajiao New town


ลองกินกาแฟตุรกี



มีความรู้สึกว่า รสชาติช่างไม่ถูกกับจริตเราเลยจริงๆ



ตอนขากลับไปเซี่ยงไฮ้ เราเดินทางออกจาก Zhujiajiao ประมาณ ตอน 5 โมงกว่าๆ


อยากจะบอกว่า รถติดหนักมากค่ะ ใช้เวลาเดินทาง ราวๆ 2 ชั่วโมงกว่า นั่งกันหลังขดหลังแข็ง

เพราะเก้าอี้ ช่วงขาแคบมาก ขนาดเราสูง 157 ยังรู้สึกเมื่อยเลย



กลับมาถึงเซี่ยงไฮ้ หาอะไรกินแถว Hostel



สั่งเสี่ยวหลงเปามา ราคาถูกมาก หมูเข่งละ 8 หยวน หมู-กุ้ง เข่งละ 15 หยวน ราคาต่างกับร้านแรกที่เราไปกินลิบลับ


น้ำซุปกลมกล่อมอีกต่างหาก



เฮ้อ ได้เวลากลับเมืองไทยแล้วสิ


ไฟลท์เรา ออกจากท่าอากาศยานผู่ตง 6:55 AM ถึงท่าอากาศยานดอนเมืองเวลา 10:15 AM



เราเช็คเอาท์ออกจาก Hostel ตอนตี 4 แล้วให้พนักงานเรียก Taxi ไปสนามบินให้ ในราคา 200 หยวน



เคาน์เตอร์เช็คอินของ Thai Air asia x อยู่ที่ Terminal 2 แถว F



Check - in เรียบร้อย



เดินทางกลับถึงเมืองไทยโดยสวัสดิภาพ



จบไป อีกหนึ่งทริป สำหรับเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน



ก่อนไป มองเซี่ยงไฮ้ในด้านลบเยอะมาก



มองว่าคนจีนเห็นแก่ตัว

คนจีนแล้งน้ำใจ

คนจีนสกปรก

คนจีนชอบเซงคิว

แต่พอได้ไปสัมผัสจริงๆ

คนส่วนน้อยมากที่จะแซงคิว ส่วนใหญ่ก็จะต่อแถวปกติ

เราสังเกตุเห็นคนที่เซงคิวคืออายุจะ 50+



เราหลงทางถามทาง คนส่วนใหญ่ก็พยายามช่วยบอกทางเต็มที่ ทั้งๆที่บางคนพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย

บางคนนะเสริจ Internet เพื่อที่จะบอกทางให้เราด้วย

บางคนรอรถเมล์อยู่ ก็ยอมพลาดรถเมล์ไป เพื่อที่จะบอกทางให้เราเข้าใจ ซึ้งใจมากๆเลยจริงๆ



ไปเซี่ยงไฮ้ครั้งนี้ มันทำให้เรารุ้ว่า อย่ามองอะไรแค่ด้านเดียว

อย่าตัดสินอะไรเพียงเพราะคุณไปฟังคนอื่นมา



ออกไปเห็นด้วยตา สัมผัสด้วยใจ แล้วคุณจะรู้ว่า บางครั้งสิ่งที่คุณคิดอาจจะไม่ถูกต้องเสมอไป



#ทริปนี้มันดีต่อใจเราจริงๆนะ



Girl in a big world.

Girl in a big world.

 วันพฤหัสที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 เวลา 18.12 น.

ความคิดเห็น