เพิ่งไปมาเมื่อเช้านี้เองครับ (27 พ.ย. 2559)

ขึ้นอินทนนท์งวดนี้ ตอนแรกสุด กะว่าจะไปตามหาเหมยขาบ หรือน้ำค้างกลายเป็นน้ำแข็ง

เตรียมกล้อง เตรียมเลนส์ macro เตรียมแฟลช ครบชุด เตรียมจะไปถ่ายน้ำค้างแข็งเต็มที่เลย


ปรากฏว่า วันนี้ ไม่มีเหมยขาบ ทะเลหมอกมีอยู่นิดนึง และคนต่อคิวเข้ากิ่วแม่ปานกันเพียบเลย เพราะเป็นวันหยุด

ผมก็เลยใช้แผนสอง เปลี่ยนเป้าหมายมาเดินเล่นที่เส้นทางศึกษาธรรมชาติ น้ำตกผาดอกเสี้ยว ที่บ้านแม่กลางหลวงแทนครับ

น้ำตกผาดอกเสี้ยวแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่บ้านแม่กลางหลวง กลางดอยอินทนนท์


เข้าออกได้สองทาง เค้าเรียกว่าเดินขึ้น กับ เดินลง

ถ้าเดินขึ้น ก็จอดรถไว้ที่บ้านแม่กลางหลวง แล้วเดินขึ้นดอยไป

ถ้าเดินลง ก็จอดรถไว้ที่ลานจอด ริมๆถนนใหญ่ ก่อนถึงแยกขุนกลางราวๆกิโลนึงครับ



ทั้งสองทาง ใช้เวลาเดินราวๆหนึ่งชั่วโมง ถึงจะถึงตัวน้ำตกใหญ่ครับ รวมเวลาเดินทั้งหมด ก็ราวๆ 2 -3 ชั่วโมง

ระยะเดิน 2.5 กิโล (ทางดอย)

แน่นอน ผมเลือกเดินลง เพราะมันเหนื่อยน้อยกว่าหนะครับ



ทางเข้าลานจอด ถ้ามาจากบ้านขุนกลาง ก็มองหาป้ายนี้ แล้วเลี้ยวขวาเข้าไปจอดในลานจอดรถเล็กๆเลยครับ



ตามกฏแล้ว เส้นทางเส้นนี้ ต้องมีไกด์ท้องถิ่นเดินประกบ กับเราไปด้วยครับ


เพราะเป็นเขตอนุรักษ์ของหมู่บ้าน ป้องกันนักท่องเที่ยวไปทำอะไรไม่ดีไม่งาม



กฎกติกา มารยาทในการเดิน ก็ตามนี้เลยครับ



พอมาถึงแล้ว ก็โทรเรียกไกด์ตามเบอร์ต่างๆที่เค้าให้ไว้

สัก 15-20 นาที ไกด์ก็จะซ้อนรถเครื่องมาถึง พร้อมที่จะนำเราเดินเข้าไปหละครับ



ค่าไกด์นำทาง ก็ 300 บาท ต่อรอบครับเส้นทางเดิน ช่วงแรกๆ ก็เป็นป่าโปร่ง

ทางเดินเป็นดินมั่ง บันไดมั่ง กว้างประมาณรถมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านได้สบายๆ



ตอนเช้าๆวันนี้ อุณหภูมิประมาณ 15 องศาครับ เดินกันสบายๆยังกะอยู่ญี่ปุ่น



เดินกินลมชมวิวไปอีกสักหน่อย



ก็ถึงทางลาดครับ เป็นขั้นบันได เดินลงง่ายๆ แล้วก็ได้ยินเสียงน้ำตกไหลโครมๆครับ



ยังเอะใจ ว่าเอ๊ะ ทำไมถึงไวจัง เดินมาแป๊บเดียว


พี่ไกด์บอกว่า เส้นทางนี้ เป็นทางเดินเลียบลำธาร และน้ำตก



เดินไปๆ ก็จะเจอกับน้ำตกน้อย น้ำตกใหญ่ เยอะแยะไปหมด ยังไม่ถึงน้ำตกผาดอกเสี้ยวง่ายๆหรอก แฮ่ๆ



และก็เจอ น้ำตกไม่ทราบชื่อ แห่งแรกครับ


เดินลงไปอีกนิด จุดที่สอง เป็นน้ำตก กับลำธารอีกละครับ



หันไปทางไหน ก็สวย อากาศก็ 15 - 16 องศา ละอองน้ำปลิวมาโดนตัว เย็นสบายสุดๆ เฉียดๆหนาว



แต่ปักหลักถ่ายรูปอยู่นานพอสมควรเลยครับ

ถ่ายรูปเพลินจนหายหนาว



ยังนึกเสียดาย ที่เริ่มเดินเช้าไปนิดนึง ถ้าถึงตรงจุดนี้ประมาณก่อนเที่ยง



พระอาทิตย์อยู่บนหัว ส่องลอดทะลุใบไม้ลงมาเป็นหย่อมๆ มันจะสวยขนาดไหนน้อ



สักวันต้องไปซ้ำ



และก็ปีนลงมาเรื่อยๆ


ช่วงนี้ ทางเดินเป็นทางหิน ชันนิดหน่อย มีราวไม้ไผ่ให้เกาะครับ

ไปได้ไม่ยากมาก



ก็เจอกับน้ำตกไม่ทราบนามอีกละครับ เป็นชั้นก่อนที่จะลงไปเป็นน้ำตกผาดอกเสี้ยว



สวยเริ่ดอีกเช่นเคย



และปีนลงมาอีก ก็ถึงตัวน้ำตกใหญ่ ที่ชื่อน้ำตกผาดอกเสี้ยวละครับ



น้ำแรงมาก ละอองน้ำกระจุยกระจาย เข้าไปใกล้ๆนี่เปียกเลย



เดินพอเหนื่อยนิดหน่อย แต่คุ้มค่าเหนื่อยมากๆครับ



พอถ่ายรูปจนหนำใจแล้วก็เดินลง กลับไปทางหมู่บ้านแม่กลางหลวง



ทางช่วงแถวๆน้ำตกนี่ เป็นไม้ไผ่ลื่นสุดๆ ต้องเกาะดีๆ ไม่งั้นลงน้ำทั้งคนทั้งกล้องทั้งขาตั้งแน่ๆ แฮ่ๆ



แล้วก็เดิน ลัดเลาะ ทะลุป่าออกมาครับ



ทางเดินก็จะเป็นสันเขา มีประปาหมู่เฮา ที่ชาวบ้านเดินท่อ ทำรางน้ำเอาไว้ อยู่ตลอดข้างทาง

ได้ยินเสียงน้ำไปตลอดทางครับ เพลิดเพลินมาก



แล้วก็เจอ โอ้ว นาขั้นบันได แต่เขาเกี่ยวไปหมดแล้ว ตอนนี้ปลูกสตอเบอรี่แทน


หน้าฝนต้องมาใหม่อีกหลายๆรอบ



เด็กน้อยกลางไร่สตอเบอรี่



เดินตามเมีย


ดอกบัวตองนั้นบานอยู่บนยอดดอย


แล้วก็ข้ามดอยเล็กๆอีกสองสามดอย ห้วยสักสองสามห้วย





มอเตอร์ไซค์ชาวดอย



และสุดท้าย ก็มาโผล่ที่บ้านแม่กลางหลวงครับ



แถวๆบ้านแม่กลางหลวงนี้ เค้าก็ปลูกกาแฟ มีโรงคั่ว อะไรครบพร้อมครับ



รางวัลของการเดินวันนี้ เป็นกาแฟสดบ้านเฮา


นั่งจิบไป ลมเย็นๆก็พัดมา สิบเอ็ดโมงกว่าแล้วอุณหภูมิก็ยังยี่สิบองศาต้นๆเหมือนเปิดแอร์



แล้วรถหละ ไปจอดไว้อีกที่นึง แล้วทำไงหละทีนี้



เค้ามีมอเตอร์ไซค์ พาคนขับซ้อนไปเอารถกลับมารับครับ



หลังเอารถมาเสร็จสรรพ ก็ถึงเวลาอาหารเที่ยงพอดีครับ

เลยแวะไปกินข้าวเที่ยงที่อีกร้านนึง แถวๆนาขั้นบันได



ร้านนี้ผมก็มาทานสองสามรอบละ เนื่องจากอร่อย ผัดผักรวมสดหวาน เข้มข้นมากๆ ไข่เจียวก็กรอบๆ

อร่อยกว่าร้านตามดอยทั่วๆไปมากครับ เลยมาซ้ำบ่อยๆ



ถ้าเป็นตอนฤดูทำนานี่ ตรงร้านข้าวนี่จะวิวสวยมากๆ

แต่วันนี้เค้าเกี่ยวข้าวออกหมดแล้ว เลยเหลือแต่ทุ่งโล่งๆ เลยไม่ได้ถ่ายมา



ทานข้าวเที่ยงเสร็จ ก็กลับบ้านทำงานต่อ



เป็นอันจบการเดินออกกำลังประจำวันนี้ ขอบคุณทุกท่าน ที่แวะมาเยี่ยมชมกระทู้ครับ



ความคิดเห็น