ถ้าพูดถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สิ่งแรกที่นึกถึงก็คือ ไหว้พระ 9 วัด,กินโรตี,เที่ยวตลาดน้ำ

แต่...เดี๋ยวก่อน วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวอีกมุมหนึ่งของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ทริปนี้อาจจะเรียกว่าเป็นทริปตัวแตก แดร๊กกก..กระจาย เอาใจสายกินเลยก็ว่าได้... ว่าแล้วก็มาชมกันเลยดีกว่า

โดยทริปนี้เราไปพักผ่อนกัน 2 วัน 1 คืน เมื่อถึงอยุธยาเราก็มุ่งหน้าตรงไปที่ตลาดกลางเกษตรอยุธยา

ขอบอกว่าที่นี่อาหารทะเลสดมากๆ ว่าแล้วก็ไม่รีรอสั่งกุ้งเผามาจัด 1 กิโล. จัดหนักกับมันกุ้งสุดฟิน

ตามด้วยปลาหมึกนึ่งมะนาว และต้มยำทะเลรสชาติจัดจ้าน ราคาไม่แพง ที่นี่จัดว่าเด็ด ใครชอบ Seafood แนะนำให้มา

เมื่ออื่มจากของคาวแล้ว ก็ไปจัดของหวานกันอย่าให้ขาด มุ่งหน้าไปหาของอร่อยจัดกันต่อเลยดีกว่า

ที่นี่ก็มีร้าน Cafe อร่อยๆ ไม่แพ้เมืองกรุงเลยนะ วันนี้เรามาทานกันที่ Cafe Kantary

โดยร้านจะตั้งอยู่ริมถนนด้านหน้าของ โรงแรมแคนทารี อยุธยา (Kantary Hotel Ayutthaya)

ภายในร้านตกแต่งได้น่ารัก บรรยากาศชิลๆ และขอบอกว่ารสชาติดีมาก

ไม่ว่าจะเป็น กาแฟ หรือ เบเกอรี่ ขนมต่างๆ จัดว่าดีต่อใจ สายของหวานไม่ควรพลาดเช่นกัน และราคาก็เป็นมิตรอีกด้วย

หลังจากเดินสายหาของกินกันจนอิ่มท้องกันแล้ว เราก็แวะเข้าไปเช็คอินเข้าที่พัก

โดยเราเข้าพักกันที่ โรงแรมแคนทารี อยุธยา (Kantary Hotel Ayutthaya)

โดยโรงแรมจะตั้งอยู่บนถนนโรจนะ ซึ่งเป็นถนนหลักในการเข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ระยะทางเพียง 500 เมตรจากถนนเอเชียสาย 32 ที่นี่ยังตั้งอยู่ใกล้คอมมูนิตี้มอลล์ และใกล้โบราณสถานที่สำคัญอีกด้วย

ห้องพักในโรงแรมนี้จะมีทั้งหมด 3 รูปแบบ ด้วยกัน คือ

  • Studio Suite
  • One Bedroom Suite
  • Two Bedroom Suite

ห้อง Studio Suite

เป็นห้องขนาดเล็กที่สุดของโรงแรม (แต่เราว่าก็ไม่เล็กนะ) ห้องนี้จะเป็นแบบกะทัดรัด แบ่งเป็นสัดส่วน

ไม่ว่าจะเป็นมุมทำอาหาร ห้องน้ำ โต๊ะนั่งเล่น และเตียงนอน ด้วยพื้นที่ขนาด 46 ตารางเมตร

(หรือเท่ากับคอนโด 2 ห้องนอนในกรุงเทพฯ กันเลยทีเดียว)

ห้อง One Bedroom Suite

จะเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ แยกเป็นสัดส่วนระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่น

และยังมีห้องครัวไว้สำหรับทำอาหาร รวมไปถึงเครื่องซักผ้าสำหรับใครที่มีความจำเป็นต้องใช้ และตู้เก็บรองเท้า

ส่วนน้อยนะจะพบเจอตู้เก็บรองเท้าในโรงแรม และยังมีพื้นที่ให้เหลือใช้สอยอีกด้วย

ข้าวของเครื่องใช้และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมถึง Internet ฟรี wifi ถึงห้องพัก

ห้อง Two Bedroom Suite

ห้องนี้จะเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโรงแรมด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่มากถึง 105 ตารางเมตร

โดยภาพรวมของห้องจะใกล้เคียงกับห้อง One Bedroom Suite แต่จะมีขนาดที่ใหญ่กว่า

และมีห้องนอนเพิ่มเป็น 2 ห้อง โดยจะมีเตียงใหญ่ 1 ห้อง และเตียงแฝดอีก 1 ห้อง

ห้องน้ำแยกใช้สอย 2 ห้อง โต๊ะทานข้าวขนาดใหญ่ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มากันเป็นครอบครัว

ภายในโรงแรมจะมีส่วนกลางสำหรับอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า สำหรับทำกิจกรรมต่างๆ

ไม่ว่าเป็นสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ซาวน่า รวมไปถึงห้อง Executive Lounge

ให้แขกของโรงแรมสามารถใช้บริการได้ด้วย ซึ่งในห้องเล้าจน์มีทั้งหนังสือพิมพ์ แมกกาซีน

รวมไปถึงมีเบเกอรี่ คุกกี้ ชา กาแฟ ให้ทานได้ทั้งวันด้วย เวลาเปิดทำการ 10.00 น. – 22.00 น.

สำหรับส่วนกลางของที่นี่ จะรวมอยู่ที่ชั้น 16 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของอาคาร และสามารถชมวิวได้โดยรอบ

หลังจากสำรวจพื้นที่โดยรอบของที่พักกันแล้ว ก็มาถึงมื้อ Dinner (ได้เวลากินกันอีกแล้ว) 555+

โดยห้องอาหารหลักอยู่ที่ชั้นล่างของโรงแรม คือห้องอาหาร California Steak

ซึ่งเป็นห้องเดียวกับทานอาหารเช้า ที่นี่จะมีทั้งอาหารไทย และอาหารนานาชาติให้เลือกรับประทาน

รสชาติอาหารผมให้ผ่านครับ แต่ละเมนูไม่ผิดหวังเลย

...

ตัดกันมาที่เช้าวันต่อมา เมื่อคืนนอนกลับสบายมาก เตียงนุ่ม นอนสบาย

ตื่นเช้ามาก็เตรียมมาทานอาหารเช้ากันต่อ อาหารเช้าที่นี่ถือว่าจัดเต็มมาก มีอาหารให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย

ที่ชอบมาพักและถูกใจอีกอย่างก็เป็นเรื่องอาหารนี่แหล่ะ โดนใจเราจริงๆ ฮาๆ

ทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็ Check Out ออกจากที่พัก

อิ่มท้องกันแล้ว เราก็ไปทำบุญเพื่อความอิ่มอกอิ่มใจก่อนกลับกันครับ

ซึ่งโรงแรมที่เราไปพักนั้น จะใกล้สถานที่สำคัญๆ หลายแห่ง

โดยเราเลือกที่จะไปไหว้พระที่วัดใกล้ๆ กับโรงแรม


วัดใหญ่ชัยมงคล

ถือว่าเป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาตร์มากที่สุด และเป็นวัดที่มีนักท่องเที่ยวนิยมมามากที่สุดวัดหนึ่ง

จุดน่าสนใจของวัดใหญ่ชัยมงคลนี้ คือเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ในสมัยกรุงศรีอยุธยา รวมไปถึงสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น

ชมเจดีย์ที่สูงที่สุดในอยุธยา ซึ่งเราสามารถมองเห็นได้จากห้องพักของเราด้วย

วัดพนัญเชิงวรวิหาร

เป็นวัดเก่าแก่และสำคัญวัดหนึ่งของอยุธยา มีชื่อเสียงไปทั่วประเทศโดยเฉพาะหลวงพ่อโตหรือเจ้าพ่อซำปอกง

ที่พุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและชาวจีนต่างให้ความเคารพนับถือมาช้านาน

เมื่อเรามาถึงวัดก็ไม่ต้องแปลกใจกับคนจำนวนมากเลย ผู้คนแห่กันมากราบนมัสการหลวงพ่อโตกันอย่างเนืองแน่น

และแล้วก็มาถึงช่วงสุดท้ายของรีวิวกันแล้วครับ ทริปนี้เราอิ่มท้อง อิ่มอก อิ่มใจกันถ้วนหน้า

เป็นทริปท่องเที่ยวสบายๆ ในวันหยุดสุดสัปดาห์ สำหรับสายกินที่ชอบอาหารซีฟู้ดและขนมหวาน

แนะนำว่าไม่ควรพลาดที่จะมาเยือนและแวะมาพักผ่อน เพื่อไม่ต้องรีบเที่ยวกันแบบ One Day Trip อีกต่อไป


สำหรับที่พัก เราถือว่าเป็นที่พักที่คุ้มค่าและสมราคา ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 2,500 บาท

แต่ได้สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และห้องที่มีขนาดใหญ่ มีพื้นที่ใช้สอยอย่างกว้างขวาง

และที่ชอบอีกอย่างของที่ Kantary Ayutthaya (แคนทารี อยุธยา) ก็เป็นเรื่องของอาหารที่จัดว่าเด็ด


วันนี้เราขอลากันไปเพียงเท่านี้ก่อนครับ แล้วพบกับเราในทริปต่อไปในเร็วๆ นี้

ติดตามเราได้อีก 1 ช่องทางที่ www.facebook.com/9aooddy.travel


ขอบคุณและสวัสดีครับ
กินเพลิน เดินเที่ยว

กินเพลิน เดินเที่ยว

 วันพฤหัสที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 17.44 น.

ความคิดเห็น