วันนี้เราจะพาไปเที่ยวเกาะกูดกัน 3 วัน 2 คืน แบบไม่ง้อแพ็กเกจ ปกติ 3 วัน 2 คืน ค่าแพ็กเกจอย่างต่ำอยู่ประมาณคนละ 6,000 บาท แต่เราไม่อยากไปดำน้ำ หรือชมน้ำตก (จริงๆเช่ามอไซค์ไปเองได้) เลยเอาแค่ที่พักจ้า ที่พักมีหลายราคามาตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักหมื่น หลักร้อยส่วนใหญ่จะไม่ติดทะเล แต่ขับมอไซค์ได้ไม่ไกล แต่ที่ติดทะเลก็มี A-Na-Lay คืนละ 800 บาทก็มี แต่เราจะไปพัก 2 คืน 2 รีสอร์ท เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ ตามไปเที่ยวกันเลย


เริ่มออกเดินทางโดย นั่งแท็กซี่ไปที่ รถทัวร์ที่เอกมัย เพราะมีรอบตีห้า ควรไปรอบนี้เพื่อให้ทันเรือ ตื่นตีสาม ถามว่าง่วงไหม ไม่ง่วงครับ ตื่นเต้น ไม่ได้ตื่นเต้นเพราะจะได้ไปเที่ยว แต่ตื่นเต้นเพราะแท็กซี่หลับ หลับๆตื่นๆ เราก็พยายามคุยดังๆ แต่ก็ไม่ได้ช่วยไรมากมาย แต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้

มาถึงบขส เอกมัย เราได้จองผ่าน Thai Ticket มาก่อนแล้วกลัวหมด แต่ถ้าไม่กลัวก็มาจองที่นี่จะได้จองขากลับได้ด้วย ขากลับเป็นตั๋วเปิด กลับวันเวลาไหนก็ได้

รถมาถึงบขส ตราด ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง มาถึงก็มีรถจากเรือที่เราจองไว้มารับจาก บขสถึงเรือ และจาก เรือถึงที่พักกันเลยทีเดียว เราเลือกจองเรือของ เกาะกูด princess เพราะออกเร็วกว่า express ราคาน่าจะเท่ากัน ไปกลับ 600 บาท ส่งถึงที่พักเรียบร้อย มาถึง บขส พี่คนขับก็มารอรับละจ้าา รอ ผู้ร่วมเดินทางอีก 2 คน

พี่เขาพาไปส่งที่ตลาด ดีเลยจะได้มีของกินให้เลือกเยอะกว่าที่ บขส

หิวมาก ตอนตีห้าก็กินไรไปนิดหน่อยเอง ผมขอไปกินที่ด้านในตลาดก่อน พี่คนขับบอกได้เลย

พี่บัวลอยกินก๋วยจั๊บ

ส่วนไข่หวานกิน เกาเหลาจ้า

สองชามนี้ 70 บาทไทย กินเสร็จออกไปที่รถป้าบอก 2 คนนั้นไปก่อนแล้ว ให้เรารอไปก่อน ก็เลยรู้ว่ารถมาเป็นรอบๆ ต้องรอคนอื่น พี่เขาบอก ใช้เวลาเดินทาง ครึ่ง ชม. ถึง ท่าเรือแหลมศอก โหย ยังมีเวลาอีกเยอะ เพราะเรือออก เที่ยงครึ่ง ตอนนี้ 11 โมงรอได้

โอเคมีคนมาเยอะแล้วออกรถได้

ส่วนมากเป็นชาวต่างชาติ รถก็เป็นสองแถวตามภาพแหละครับ วนรถรับคนอยู่ประมาณ 10 นาที แล้วก็ยาวไปท่าเรือเลย

นี่ตั๋วขาไป ตั๋วขากลับอีกใบสีเหลืองต้องเก็บไว้ให้ดี เที่ยวเดียว 350 ไปกลับ 600 จองผ่านเน็ตจ้า

คนเยอะครับ เกือบเต็มเรือ (ไปวันเสาร์ด้วยแหละมั้ง วันธรรมดาอาจน้อยกว่านี้)

รองจนถึงเที่ยงครึ่งเรือก็ออก บ๊าย บาย แผ่นดินใหญ่ เราจิไปติดเกาะละน้าาา

นั่งเรือ ชั่วโมงครึ่ง ถึงเกาะละจ้าาาา หลับตลอด เพราะกินยาแก้เมาเรือ

อ้าวขึ้นฝั่งแล้ว ขึ้นไปที่รถสองแถว ทีแรกเข้าใจว่าเรือจะไปจอดตามหาดต่างๆ จริงๆรถรวมกันที่นี่แล้ว แยกรถตามหาด

คืนแรกเราจะไปพัก สยามบีช รีสอร์ท ห้องแอร์ มีโปรลดจาก 2,000 เหลือ 1,500 บาท เราจองไว้ก่อนแล้ว ส่วนคืนที่สองยังไม่จองกะจะมาดูๆก่อน

รถคันนี้คนเต็ม ต้องมานั่งด้านหน้า มีที่นั่งเดียวนั่งสองคน ก็พอเบียดๆกันได้ (รถรับส่งฟรี ห้ามบ่น 555+)

มาถึงที่พักแล้ว

ลักษณะก็เป็นบ้านแบบนี้

ด้านในมีแอร์ ตู้เครื่องแป้ง เตียงเดียวนอนได้สองคน ผ้าเช็ดตัว เครื่องทำน้ำอุ่น เอาเป็นว่ามีครบของที่ควรจะมี และเปิดแอร์ไดด้วย เคยอ่านรีวิวว่าบางที่เปิดได้เฉพาะหลัง 6 โมงเย็น ที่นี่เปิดได้ตลอด แต่ถ้าเราออกไปข้างนอกก็ช่วยๆกันปิดนะ

หน้าห้องมีเก้าอี้นั่งชิวด้วย


แต่เราไม่นั่งชิวจ้า มาถึงทะเลต้องออกไปแรด!! และนี่ อ่าวบางเบ้า หน้ารีอสร์เลยจ้า ฟ้าใส

น้ำก็ใส

หลังจากถ่ายเล่นๆกันซักพัก ก็หิวซิครับ กะว่าไปกินก่อนแล้วไปที่หาดคลองเจ้า ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ที่สวยที่สวยที่เกาะกูด

เราก็เช่ามอไซค์ 250 บาทต่อวัน (ถือว่าถูก เพราะบางรีสอร์ทที่นี่ 400 แหนะ)

ร้านที่เราจะไปกินมื้อแรกบนเกาะก็คือ The Fisherman Hut ขึ้นชื่อเรืองความอร่อยในราคาเอื้อมถึง

งบน้อยๆ อย่างเราก็จัดซิครับ มาดูเมนูกัน มีเมนูอาหาร ของหวาน ไวน์ cocktail

ดูราคาคร่าวๆกัน

ไวน์มีตั้งแต่ หลักร้อยถึงหลักพัน

ราคาอาหารทั่วไป

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์


น้ำดื่มทั่วไป น้ำผลไม้ ราคาอยู่ซ้ายมือ

พนักงานที่ร้านมีฝรั่งคนนึง ที่เหลือคนไทย แล้วฝรั่งก็มารับออเดอร์ เห็นเราเป็นคนต่างชาติหรือกระไร ก็เลยใช้ทักษะที่ร่ำเรียนมา นั่นคือ การชี้ เอานี่ๆๆ จบ ภาษาอังกฤษที่เรียนมาตั้งแต่ปฐมวัย ไม่ได้ช่วยอะไรเลย 555+

ระหว่างรอเขาทำอาหาร ไปถ่ายรูปบรรยกาศร้านพลางๆ

บรรยากาศร้านเป็นแบบ outdoor แนวธรรมชาติ ตกแต่งแบบ retro

ถ่ายแปปเดียวอาหารก็มาแล้ว รอไม่นานครับ

จากประสปการณ์ที่ไปเที่ยวมา พบว่า สองคน เรากินกับข้าวกันสองอย่าง จะอิ่มพอดีครับ

จะเป็นผักผงกะหรี่ทะเล และ ผัดฉ่าทะเล

กับข้าว 2 อย่าง ข้าวเปล่า น้ำเปล่า รวมแล้ว 400 กว่า บาท ราคาไม่แรง แถมอร่อยด้วย

กินอิ่มแล้ว แวะไปดูห้องน้ำซะหน่อย

ตามที่เห็นครับ สะอาด น่ากิน เย้ยย น่านั่ง

เอาล่ะ กินอิ่มแล้ว 5 โมงเย็นแล้ว ขับมอไซค์ไปหาดคลองเจ้า ชมพระอาทิตย์ตกกัน


ถีงแล้วหาดคลองเจ้า ขับมา ไม่ถึง 10 นาทีจ้า เป็นหาดที่คนเยอะดี

ถ่ายรูปกันไป

มีคนนั่งดูพระอาทิตย์ตกกันเยอะมาก แนะนำให้มาเป็นคู่ 555

จากนั้นกลับที่พัก ไปหาไรกินนิดหน่อยแล้วก็นอนครับ รีบนอนเพราะต้องตื่นเช้า ก่อนนอนก็เล็งหาที่ถ่ายรูปพรุ่งนี้

เล็งชายฝั่งตะวันออกไว้ เพราะอยากดูพระอาทิตย์ขึ้นแต่ไกลและดูจาก google map ไม่แน่ใจว่ามีถนนไปถึงหรือเปล่า (หาดส่วนมากอยู่ทางตะวันตก) มีเกาะกูด ไอร์แลนด์ (ฉายา มัลดีฟ เมืองไทย) อยู่ทางตะวันตก

ไม่เป็นไรเราไปที่เดิมดีกว่า ตื่นตีห้ากว่าไป หาดคลองเจ้า

คราวนี้เราจะเดินให้ทั่วหาดเลย

รีสอร์ทนี้สวยมาก ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ TinkerBell แต่ด้วยราคาเรามิอาจเอื้อมจ้าา

เดินต่อไป เจอต้นมะพร้าวคู่ ที่เอนยื่นไปหาทะเล เป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของหาดคลองเจ้า ห้ามขึ้นไปนะจ๊ะ

พวกเปล ต่างๆ ส่วนมากเป็นของที่พักนั้นๆ

น่าจะไม่ให้คนนอกเล่น แต่ก็มีคนแอบเล่น อิๆ

ถ่ายรูปพอประมาณ กลับไปถ่ายแถวที่พัก ต่อ

ที่นี่ให้เช็คเอาท์ก่อน 11.30 ที่พักต่อไป ลองโทรไปถาม Forest บูติค เป็นที่พักแนวป่าชายเลน ไม่ติดทะเล ราคาอยู่ที่ 1,500 บาท เราเลยหาที่ๆ ติดทะเลดีกว่า (พอดีทริปน้อยากเน้นทะเล อิๆ) เลยเล็งว่าจะไปดูอ่าวน้อย

แต่ก่อนอื่นหิวแล้วอ่ะ ไปกินกันเถอะ

มี american breakfast

ข้าวต้ม

สลัด ขนมปัง ผลไม้ ถือว่าครบเครื่องนะ น้ำก็มีน้ำเปล่า น้ำส้ม โอวัลติน กาแฟ


กินเสร็จ ถ่ายรูปกันซักพัก แล้ว ไปพายเรือแคนู (ปกติ อยู่ในแพ็กเกจ แต่เราขอพี่เขาพาย พี่เขาก็ใจดีให้พายครับ)

พายไปซัก 10 นาทีก็ลงเล่นน้ำครับ

10 โมงกว่าแล้ว เราก็คืนกุญแจห้อง แต่ยังไม่คืนกุญแจรถ ไปดูที่พักก่อน เราไปดูอ่าวน้อยครับ

ขับมอไซค์มาจอดหน้าร้านอาหาร แล้วไปสำรวจทำเล จุดเด่นของที่นี่คือ ท่าเรือที่สวย ด้านซ้ายจะเป็นโขดหิน

ด้านขวาจะเป็นชายหาดทรายขาว แต่หน้าหาดสั้นครับ ส่วนเรื่องน้ำไม่ต้องห่วง ใสเหมือนกันเกือบหมด เพียงแต่ความสะอาด อาจไม่เหมือนกัน ที่ บางเบ้า ไม่มีคนทำความสะอาด ใบไม้เลยลงไปในน้ำ ที่หาดคลองเจ้า มีคนทำความสะอาดบ่อย แทบไม่เห็นใบไม้ในน้ำทะเลเลย ส่วนที่อ่าวน้อยนี้ มีนิดหน่อย

เสร็จแล้วไปติดต่อเจ้าของในร้านอาหารเลย เขาก็พาไปดูที่พัก เราเลือกถูกสุด 1,800 ครับ แพงสุดน่าจะ 3,000 กว่า ห้องใหญ่อยู่ได้หลายคน

ห้องพักเป็นบ้านไม้อย่างนี้ เดินเข้าห้อง เพื่อไปวางกระเป๋า

ห้องแอร์แต่ก็มีพัดลม แอร์เปิดได้เลยจ้า ไม่ต้องรอ 6 โมงเย็น แต่ไม่ค่อยเย็นแหะ

ห้องน้ำ ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นน้าาา

เราเอามุ้งขึ้นครับ ร้อน เก็บมุ้งไม่เป็นหรอก สภาพตามที่เห็น 555

เอาของไว้เสร็จก็ เช่ามอไซค์ วันละ 250 เช่นกัน แล้วเอารถคันเก่าไปคืน แล้วแวะกินมื้อเที่ยงครับ

กินที่ Mangrove ใน google map เขียนว่า ริมคอลงซีฟู๊ด สไลต์ริมคลองจริงๆ

ลมเย็นมากๆ ให้บรรยากาศชิวๆ

ราคาก็ไม่แรงครับ

เราสั่ง ปูมา ครึ่งกิโล และต้มยำกุ้ง

อิ่มอร่อย บรรยากาศดี มื้อนี้หมดไป 500 กว่าบาทจ้า กินเสร็จก็กลับไปพัก บ่ายสามก็ออกมาถ่ายรูปเล่น ที่หน้าหาดอ่าวน้อยนี่แหละ

ร้อนๆ ก็หาไรกิน แก้วละ 60 บาท ที่ร้านอาหารอ่าวน้อยเลย

แปปๆ ก็เย็นแล้ว เกือบจะหมดเวลาสนุกแล้วซินะ

แล้วไปกินข้าวเย็นกันครับ ดึกแล้วทานที่ รีสอร์ทนี่แหละ ครัวปิด 2 ทุ่ม

ยำไข่ดาวและทอดมันกุ้งมื้อนี้ประมาณสองคน 300 บาท

กินเสร็จออกมาถ่ายดาวช้างเผือก โชคร้าย เมฆเยอะฝนจะตก เลยถ่ายเล่นๆนิดหน่อย แล้วกลับไป ถึงที่พักฝนตกพอดี 555

ตื่นเช้ามาก็เตรียมของ แล้วมาเช็คเอาท์ พร้อมทานอาหารเช้น รอรถ ของเรือ เกาะกูด princess ที่มารับตอน 9 โมงเช้าครับ

มาถึงตกใจเลย นึกว่าจะให้แค่ขนมปังกับ กาแฟ


อาหารเช้าที่นี่เป็นแบบเสิร์ฟครับเป็น american breakfast เสิร์ฟน้ำส้มมาก่อน รออาหารเช้า

มาแล้ว

กินเสร็จรอรถมารับครับ นั่งหน้าเช่นเคย ด้านหลังเต็มตลอด

มาถึงอ่าวสลัด ท่าเรือที่เราขึ้นฝั่งมานะแหละ มาถึง 9.30 เรือออก 9.59

ระหว่างเดินลงรถไปขึ้นเรือก็เห็นวิถีชีวิตของคนที่นี่

เรือไปถึงฝั่ง 11.30 มีรถมารับไปขนส่ง เลยจ้า บ๊ายบาย เจอกันใหม่นะเกาะกูด

สรุป

มาช่วงฟ้าใส น้ำใส บรรยากาศดี 2 ที่พัก มีข้อดีข้อเสียต่างกัน สยามบีช หน้าหาดกว้าง มีบุฟเฟ่ต์ มีเครื่องทำน้ำอุ่น ถูกกว่า ส่วนอ่าวน้อย หาดเล็ก แต่สวย ส่วนตัวกว่า พนักงาน มนุษยสัมพันธ์ ดีมากๆ ใจดี ให้คะแนนรวมเท่าๆกันครับ

ค่าใช้จ่าย 2 คน

ค่ารถไป บขส ตราด 2 คน ประมาณ 500 บาท (จองผ่าน Thai Ticket เพิ่มอีก 100)

ค่าเรือไปกลับ 1,200 บาท

สยามบีช รีสอร์ท(รวมอาหารเช้า) 1,500 บาท

อ่าวน้อยรีสอร์ท(รวมอาหารเช้า) 1,800 บาท

ค่าเช่ามอไซค์ 2 วัน 500 บาท

ค่าอาหาร ประมาณ 1,500 บาท

ค่าน้ำมันรถ 2 ขวด 80 บาท

ค่ารถจาก บขส ไปหมอชิต 2 คน ประมาณ 500 บาท

รวมแล้วประมาณ 7,500 บาทครับ เฉลี่ยนคนละ 3,750 บาท

เราจ่ายแบบกลางๆ ไม่ฟุ่มเฟือย แต่ก็ไม่ประหยัดไปครับ ถ้าใครอยากประหยัดกินร้านอาหารเล็กๆ และพักที่ไกลจากชายหาดไปหน่อยก็ได้ จะช่วยลดรายจ่ายได้ค่อนข้างเยอะครับ

เจอกันทริปหน้าจ้า ฝากติดตาม แพนด้าตะลอน กันด้วยน้า

ความคิดเห็น