The Continent Hotel Bangkok เป็นโรงแรมแนวบูทีค ดีไซน์แบบโมเดิร์น ตั้งอยู่ในย่านอโศก-สุขุมวิท

บนพื้นที่ทำเลที่ดี มาก ๆ โรงแรมหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นของที่นี่เลย ผมมองว่าสิ่งที่ The Continent Hotel Bangkok

ทำได้ดีมาก ๆ คือการให้ความสำคัญกับเรื่องอาหารและการดีไซน์ จึงทำให้ The Continent Hotel Bangkok

เป็นโรงแรมที่สร้างความแตกต่าง เป็นที่รู้จักของทั้ง นักเดินทางและนักชิม มากขึ้นเรื่อย ๆ

SOtraveler ขอพาทุกคนมาสัมผัสกับดีไซน์ ของ The Continent Hotel Bangkok รวมถึงห้องอาหารและสกายบาร์

ทุกคนจะได้เห็น ศิลป์ของงานออกแบบ สัมผัสมิติ จับมุมมอง ของ The Continent Hotel Bangkok ได้จากรีวิวนี้

ตามกันมาเลยครับ …

SOtraveler|IG : sotraveler|FB : SOtraveler.COM|TWITTER : SOTravelerTH

แนวคิดของสถาปัตยกรรมการออกแบบ The Continent Hotel Bangkok คือ อยากให้เป็นสถานที่

ที่คนทั้งโลกจากเจ็ดทวีปจะเดินทางมาพบกันที่นี่ The Continent จึงเสมือนเป็นจุดพบปะของผู้คนที่

เดินทางมาจากหลากหลายที่ต่างภาษา ต่างวัฒนะธรรม

ชื่อของโรงแรม คอนทิเน้นท์ (Continent) มีความหมายว่า ทวีป อยู่ในตัว ดีไซน์คอนเซปต์ของ

โรงแรมคือ การดึงเอาสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นและเอกลักษณ์ของแต่ละทวีปและเมืองสำคัญในโลกมาใช้

ผสมสานกันภายใต้ 4 landscapes อันเป็นองค์ประกอบที่เป็นจุดกำหนดของทวีป นั่นคือ

Ocean(มหาสมุทร), Dessert(ทะเลทราย), Forest(ป่าไม้) และ Space(อวกาศ)โรงแรมตั้งอยู่ตรงแยกอโศก-สุขุมวิท เลยครับ ทำให้สามารถเดินทางมาโรงแรมด้วยรถไฟฟ้า

ทั้ง MRT และ BTS รถไฟฟ้าบีทีเอส(BTS) สถานีอโศก, รถไฟใต้ดิน(MRT) สถานีสุขุมวิท

หากใครขับรถมาจากเส้นอโศกมนตรี ในขณะที่เลี้ยวซ้าย ตรงแยกอโศก-สุขุมวิท ให้ชะลอความเร็วหน่อยนะครับ

เพราะทางเข้าโรงแรมอยู่ถัดจากตึก Interchange 21 ที่อยู่ตรงหัวมุมถนน หากขับมาด้วยความเร็ว

อาจจะทำให้เลยทางเข้าได้ ตอนที่ผมมาครั้งก่อน ผมก็เกือบขับรถเลยทางเข้าโรงแรม

เพราะไม่คิดว่าโรงแรมจะอยู่ในทำเลที่ติดแยกอโศกขนาดนี้

อย่างที่ผมได้เกริ่นไปตอนต้นว่า The Continent Hotel Bangkok เด่นทั้งเรื่องดีไซน์คอนเซปต์

และห้องอาหาร โดยมีห้องอาหารรวมทั้งสกายบาร์ทั้งหมด 5 ห้อง มีน้องใหม่ Bangkok Heightz (บางกอกไฮทส์)

ซึ่งเป็น Rooftop อาหารไทย เพิ่งเปิดตัวใหม่ล่าสุด อีกไม่นานคงได้ยินชื่อห้องอาหารบางกอกไฮทส์ กันมากขึ้น

Compass (Lobby Bar & Lounge)

คอมพาส ล็อบบี้ เลาจน์ ตั้งอยู่บริเวณล็อบบี้ ของโรงแรม เปิดให้บริการตั้งแต่ 7.00 – 22.00 น

Medinii (Italian with an Asian Twist)

เมดินี่ ตั้งอยู่บนชั้น 35 ของโรงแรม

อาหารเช้า 6.00 – 10.30 น.

อาหารกลางวัน 11.30 – 14.30 น.

ซันเดย์ บรั๊ช 12.00 – 16.00 น.

อาหารมื้อค่ำ 18.00 – 23.00 น.

H2O (Pool Bar)

เอชทูโอ ตั้งอยู่บนชั้น 37 ของโรงแรม กับสระว่ายน้ำ ขนาด 12 เมตร x 5 เมตร เปิดให้บริการตั้งแต่ 9.00 – 24.00 น

Axis & Spin (Sky Lounge and Bar)

เอ็กซิส แอนด์ สปิน ตั้งอยู่บริเวณชั้น 38 ของโรงแรม

ให้บริการตั้งแต่ 16.00 – 01.00 น.

Bangkok Heightz (Authentic Thai Cuisine)

บางกอกไฮทส์ ตั้งอยู่บริเวณชั้น 39 ของโรงแรม

ช่วงนี้เปนซอฟท์ โอเพนนิ่ง เปิดเฉพาะเวลา6โมงเย็น-เที่ยงคืน

เมื่อเดินเข้ามาภายในตัวโรงแรม ชั้นล่างฝั่งซ้ายมือจะเป็น Reception Front Desk

สำหรับ Check-In,Check-Out ส่วนด้านขวามือคือ Compass (Lobby Bar & Lounge)

สำหรับแขกที่เข้าพัก ห้องพักสิทธิพิเศษสกาย (Sky Benefits) พนักงานต้อนรับ

จะพาขึ้นไป Check in ที่ Axis & Spin (Sky Lounge and Bar) ชั้น 38 ของโรงแรม

Compass มีความหมายว่า "เข็มทิศ" จะสังเกตเห็นว่าโลโก้ของ Compass

จะมีเครื่องหมายสัญลักษณ์คล้าย ๆ เข็มทิศ มีแนวคิดว่าที่นี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางของแต่ละคน

เรายังจะพบทั้ง 4 landscapes Ocean(มหาสมุทร), Dessert(ทะเลทราย), Forest(ป่าไม้) และ Space(อวกาศ)

ในแต่ละส่วนของโรงแรม ทั้งห้องพักและห้องอาหาร อย่างห้องพักแต่ละชั้นก็จะมีธีมประจำชั้น

มหาสมุทรเน้นสีฟ้า ทะเลทรายเน้นสีส้ม ป่าไม้เน้นสีเขียว และอวกาศเน้นสีม่วง

ผมชอบแนวคิดของการออกแบบพื้นบริเวณล๊อบบี้ ให้ออกมาเสมือนว่า บนพื้นที่เรากำลังยืนอยู่

กำลังมีการเคลื่อนไหล เสมือนผิวน้ำที่กำลังกระเพื่อมเป็นระลอกคลื่นเล็ก ๆ และจุดนี้เป็นจุดที่

มีการเคลื่อนไหวเกือบจะตลอดเวลาจริง ๆ นะครับ ผมสังเกตว่า ไม่ว่าผมจะผ่านมาตรงนี้เวลาไหน

จะมีแขก Check in - Check out กันเรื่อย ๆ บ้างก็เพิ่งมาถึงเตรียมตัวเช็คอิน บ้างก็กำลังรอเดินทางไปสนามบิน

ผมขึ้นมา Check in ที่ Axis & Spin (Sky Lounge and Bar) ชั้น 38 ด้วยรวมอยู่ใน

สิทธิพิเศษ สกาย (Sky Benefits) ซึ่ง สิทธิพิเศษ สกาย (Sky Benefits) ผมอยากจะแนะนำต่อ

เป็นโปรแกรมของ The Continent ที่นำเสนอแพคเกจออกมาได้คุ้มมาก ๆ เป็นการจ่ายเพิ่มนิดหน่อย

แต่ได้ Benefit ที่เยอะมาก หลังจากที่ผมได้อ่านและใช้ สิทธิพิเศษ สกาย (Sky Benefits)

ทำให้ผมตัดสินใจง่ายมากเลยครับ ว่าการเข้าพักครั้งต่อไปของผมจะเลือกแพ็คเกจ ที่รวม Sky Benefits ไว้แน่นอน

สำหรับการเข้าพักครั้งนี้ ผมเข้าพักที่ชั้น 19 ซึ่งเป็นธีมทะเลทราย เมื่อเปิดลิฟท์มาชั้นนี้

จึงจะเห็นเป็นโทนสีส้ม พร้อมภาพประดับผนังก็เป็นโทนเดียวกัน

รายการที่อยู่ใน สิทธิพิเศษ สกาย (Sky Benefits) ครับ

ผมพัก ห้องคอนทิเน้นท์ สกาย ซึ่งจะเป็นห้องพักชั้นบนหน่อย กระจกใสแผ่นใหญ่

ตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ทำให้นั่งมองวิวพาโนราม่ามุมสูงจากห้องพักได้อย่างไม่รู้เบื่อ

ห้องนี้ยังฟรีมินิบาร์ อีกด้วย

หากใครจะเดินทางมาพักที่นี่ ทางโรงแรมได้เตรียมเตารีดและที่รองรีด ในห้องพักทุกห้อง

และเตรียมที่เป่าผมไว้ให้ในห้องน้ำ สำหรับห้องพักทุกห้อง เช่นกันครับ

ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำ และห้องอาบน้ำที่เป็นเรนชาวเวอร์ด้วยครับ

ทีวี กับลูกเล่นที่สามารถกางออกมาจากผนังได้ สะดวกกับการนอนบนเตียงและดูทีวี

Room Type ห้องสวีท จะมีห้องนอน มุมนั่งเล่นเพิ่มเข้ามา

Room Type ห้อง เอ็กเซ็กคิวทีฟ มีโซฟาเบดให้นอนเล่น ยาวเลยครับ

สิทธิพิเศษ สกาย (Sky Benefits)

ผมคัดมาแต่ตัวที่ผมได้ใช้บริการนะครับ หากอยากรายละเอียดทั้งหมด

จะหลังไมค์หาผมก็ได้ หรือเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ของโรงแรมก็ได้ครับ

วิวพาโนราม่ามุมสูงจากห้องพัก ***

อาหารเช้านานาชาติที่ห้องอาหารเมดินี่ หรือ ที่ เอ็กซิส แอนด์ สปิน สกายเล้าจน์ แอนด์ บาร์ ชั้น 38

ฟรีตระกร้าผลไม้

ฟรีมินิบาร์ (เฉพาะห้องคอนทิเน้นท์) ***

บริการเตรียมเตียงให้ผู้เข้าพักในช่วงหัวค่ำ

ฟรีบริการเครื่องดื่ม ตั้งแต่ 6.00 – 18.00 น. ทุกห้องอาหารและสกายบาร์ของโรงแรม ***

บริการเครื่องดื่มจากเมนูสุดหรู ตั้งแต่ 17.00 – 20.00 ณ เอ็กซิส แอนด์ สปิน สกายบาร์ แอนด์ เลาจน์ (ชั้น 38) ***

เช่น :

– พรีเมี่ยมเบียร์ (สิงห์, ช้าง)

– พรีเมี่ยมค็อกเทล

– พรีเมี่ยมไวน์

บริการขนมทานเล่นระดับพรีเมี่ยม ตั้งแต่ 17.00 – 19.00 น. ที่เอ็กซิส แอนด์ สปิน สกายบาร์ แอนด์ เลาจน์ ***

วีไอพี เช็คอิน และ เช็ค เอาท์ ที่ เอ็กซิส แอนด์ สปิน สกายเล้าจน์ แอนด์ บาร์

*** คือ ข้อเสนอที่ผมมองว่าน่าสนใจและคุ้มค่ากับการเข้าพัก

ด้วย สิทธิพิเศษ สกาย (Sky Benefits) ข้อนี้แหล่ะครับ

***ฟรีบริการเครื่องดื่ม ตั้งแต่ 6.00 – 18.00 น. ทุกห้องอาหารและสกายบาร์ของโรงแรม ***

ทำให้ผมลงมานั่งจิบกาแฟ จิบชาเล่นที่ Compass (Lobby Bar & Lounge) ตรงล็อบบี้ ของโรงแรม

“Cappuccino" ฟองนมนุ่ม กับ “ชาคาโมมายล์" ในช่วงบ่ายแก่ ๆ ของวัน

หลังจากนั้นผมก็มารีแล็กซ์ที่ H2O (Pool Bar) ชั้น 37 ของโรงแรม และด้วย สิทธิพิเศษ สกาย (Sky Benefits)

ข้อนี้เช่นเดียวกัน ***ฟรีบริการเครื่องดื่ม ตั้งแต่ 6.00 – 18.00 น. ทุกห้องอาหารและสกายบาร์ของโรงแรม ***

ผมจึงสั่ง Drink ซ่าส์ ๆ มาจิบเล่นข้างสระน้ำได้ชิล ๆ

การตั้งชื่อว่า H2O ก็มีนัยยะเกี่ยวข้องกับแนวคิดการออกแบบเหมือนกัน เพราะ "น้ำ"

คือหนึ่งในปัจจัยสี่ที่มนุษย์ในทวีปจะขาดไม่ได้ในการดำรงชีวิต H2O

Axis & Spin (Sky Lounge and Bar)

อยู่ชั้น 38 ของโรงแรม ที่เดียวกับที่มาเช็คอินนั่นล่ะครับ แต่ผมกลับมาที่นี่ เพราะ สิทธิพิเศษ สกาย (Sky Benefits)

*** บริการเครื่องดื่มจากเมนูสุดหรู ตั้งแต่ 17.00 – 20.00 ณ เอ็กซิส แอนด์ สปิน สกายบาร์ แอนด์ เลาจน์ (ชั้น 38) ***

เช่น :

– พรีเมี่ยมเบียร์ (สิงห์, ช้าง)

– พรีเมี่ยมค็อกเทล

– พรีเมี่ยมไวน์

*** บริการขนมทานเล่นระดับพรีเมี่ยม ตั้งแต่ 17.00 – 19.00 น. ที่เอ็กซิส แอนด์ สปิน สกายบาร์ แอนด์ เลาจน์ ***

ซึ่งในเวลาอื่น ๆ ที่นี่ ก็เป็นเลาจน์เล็ก ๆ ที่มีขนมหวานและเครื่องดื่มบริการ

สำหรับแขก Sky Benefits เป็นปกติอยู่แล้ว แต่ช่วงเวลาพิเศษในตอนเย็นนี้คือ

จะมีเครื่องดื่มมากขึ้นและมีอาหารทานเล่นมากขึ้น อาหารทานเล่น เดี๋ยวจะได้

เห็นกันว่าไม่ได้มาเล่น ๆ เลยครับ แค่ทานที่นี่ ก็อิ่มเกินมื้อเย็น

ผมชอบขนมหวาน ที่ทำเป็นช๊อตออกมา ทำให้ทานง่ายดี และแต่ละแก้วก็จะมีกลิ่นและรสชาติเด่น

ไม่เหมือนกันเลย เนื้อสัมผัสจะเป็นลักษณะของวุ้น มูสครีม และเยลลี่ คนรักขนมหวานอย่างผม

บอกเลยครับว่า ชิมมาครบทุกสี !!! ชอบช๊อต ที่เป็นอัญชัญมากที่สุด อาจจะเพราะแปลกกว่าแบบอื่น

ผมขอเริ่มเป็นเมนู เปรี้ยว ๆ ซ่าส์ๆ สักหน่อยครับ สำหรับช่วงเวลาเย็น ๆ

เห็นมั้ยครับ ที่บอกว่า อาหารทานเล่น แต่ไม่ได้เสิร์ฟเล่น ๆ กันเลย

แล้วผมก็ชิมให้ครบทุกอย่าง

และยังเพลินกับของหวาน อย่างต่อเนื่อง

นั่งเพลินที่ Axis & Spin สักพักผมก็กลับขึ้นมาพักบนห้องสักหน่อยครับ เพื่อเตรียมตัวไปแช่สระว่ายน้ำเล่น ผมเล็งเอาไว้ตั้งแต่ตอนไปนั่งชิลในตอนบ่ายแล้วล่ะ ว่าวิวตอนเย็นสวยแน่ ๆ สระว่ายน้ำที่นี่

อ่างอาบน้ำแสนอาย ไม่รู้ว่าจะตั้งชื่อยังงัยดี อาบตอนเย็นเปิดไฟในห้อง

ไม่ต้องออกไปยืนมองข้างนอกให้เห็นกับตา ผมก็เห็นภาพว่าหากเปิดม่านแบบนี้

จะกลายเป็น ตู้กระจกอาบน้ำโชว์แน่ๆ ตอนที่แช่ตัวในอ่างต้องเปิดม่านในระดับขอบอ่าง

ให้พอดีว่านอนแช่แล้วยังเห็นวิวอยู่ แต่ไม่ได้สูงโล่งโจ่งมากนัก : )

วิวพาโนราม่ากรุงเทพ ฯ จากห้องพัก นอนดูเพลินจริงๆ ครับ และเตียงนอนที่นี่

นุ่มนอนสบายมาก ไม่แข็ง ไม่ยวบมากไป หลังจาก Check Out จากโรงแรม

ผมยังเอ่ยเรื่องนี้กับทางโรงแรมเลยครับว่า เตียงนอนนอนหลับได้สบายมาก

ทางโรงแรมแจ้งว่ามีแขกหลายคนมาก ที่ให้ความเห็นเรื่องเตียงนอนของที่นี่ ว่านอนหลับสบาย

ก่อนจะไปทานดินเนอร์ที่ Medinii เห็นวิวสระว่ายน้ำ

วิวสวยแบบนี้ ต้องมาหย่อนตัวละครับ พลาดได้งัย

ห้องอาหาร Axis & SpinAxis ที่ผมแวะเวียนไปมาตลอดทั้งวัน ในเวลาค่ำ ๆ

เราจะมองเห็นดีไซน์ของ ห้องอาหารได้อย่างเด่นชัด จากธีมของ อวกาศ (Space)

โทนสีเน้นไปทางสีม่วง เราจะรู้สึกว่าเรากำลังอยู่ในวงจรกาแล็กซี่

ซึ่งเดี๋ยวก่อนนอนผมต้องแวะไปนั่ง ชิลสักหน่อย

จากการที่ไปว่ายน้ำเล่นที่ H2O มา ทำให้วันนี้ ผมมาดินเนอร์มืดสักหน่อยนะครับ

โดยดินเนอร์มื้อนี้ เป็นดินเนอร์ Sky Dining ที่ Medinii ที่ผมเคยรีวิวไว้เมื่อไม่นานมานี้

ผมกลับมาทานอีกรอบแขกยังจองโต๊ะเต็มอยู่เลยครับ ขายดีมาก เนื่องจากแขกจองโต๊ะเต็ม

ในช่วงเย็นด้วย ทำให้ผมขยับเวลามาทานมาดึกหน่อย และล่าสุดห้องอาหารยังได้รับรางวัล

World Luxury Restaurant Awards - Winner 2016 มาแล้วอีกด้วย

กินดื่มไม่ อั้น กับ Sky Dining ที่ Medinii

ยังจำกันได้มั้ยครับ กับ บุฟเฟ่ต์ Free Flow สุดคุ้ม ในบรรยากาศมุมสูง

บุฟเฟ่ต์ Free Flow พิซซ่า พาสตา แบบสั่งได้ไม่จำกัด พร้อม บุฟเฟ่ต์ Free Flow

ดื่มด่ำเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ไวน์ เบียร์ ค็อกเทล แบบเติมไม่อั้นตลอดทั้งคื

รวมทั้งยังได้ Main Cause 1 จานและของหวานอีก 1 อย่าง รวมอยู่ในคอร์ส ด้วยราคาเพียง 999++/ต่อคน

Aglio E Olio เป็น Pasta ที่ใช้เส้นสปาเก็ตตี้ผัดกับกระเทียม พริกแดง

และน้ำมันมะกอก ยังคงเป็นเมนูในดวงใจผมเหมือนเคยครับ

กรึ่ม ๆ จาก Buffet Free Flow ที่ Medinii ผมก็ยังไม่ลืมที่จะแวะมา

Axis & SpinAxis ซึ่งบรรยากาศตอนกลางคืนสวยจริง ๆ ดูมีมนต์เสน่ห์

สะกดให้เราเคลิ้มไปกับบรรยากาศ

และแล้วผมก็ต้องขอตัวไปนอนก่อนแล้วครับ Z z zz zz zz

หัวถึงหมอน หลับอย่างรวดเร็ว ถ้ามีเตียงแบบนี้ที่บ้าน ผมคงนอนทั้งวันแน่ ๆGood Morning !!!

ตื่นมาทานอาหารเช้ากันเถิดครับ แขกที่นี่มาทานอาหารเช้ากันไวมาก ผมมาเริ่มที่เมดินี่ ชั้น 35 ก่อน

โดยห้องอาหารเปิด ตั้งแต่ 6 โมงเช้า ทานได้ไปจนถึง 10.30 น. ไลน์อาหารเช้าอยู่ในขนาดกลาง ๆ ครับ

ไม่ได้อลังการมี Live Cooking มากมาย

ก็เข้าใจว่าด้วยขนาดของห้องอาหารคงจัดวาง Live Cooking ได้ไม่สะดวกนัก แต่หากพูดถึงปริมาณอาหาร

และความหลากหลาย ก็ถือว่ามีครบทุกอย่าง เครื่องดื่ม สลัด ข้าวต้ม อาหารนานาชาติ เมนูตระกูลไข่

ผลไม้ ชีท แฮม โยเกิร์ต ขนมปัง ชา กาแฟร้อน

สำหรับแขกที่เข้าพักตามสิทธิพิเศษ สกาย (Sky Benefits) สามารถขึ้นไปทานอาหารเช้านานาชาติได้ที่

ห้องอาหาร Medinii(เมดินี่) หรือจะมาทานที่ Axis & Spin (เอ็กซิส แอนด์ สปิน) ชั้น 38 ก็ได้ครับ

ผมขึ้นมาสำรวจไลน์อาหารที่ Axis & Spin สักหน่อย

บรรยากาศที่ Axis & Spin ก็จะดู Exclusive หน่อย มีพนักงานต้อนรับให้การดูแลใกล้ชิดดี

สิทธิพิเศษ สกาย (Sky Benefits) สามารถสั่งกาแฟที่ชงจากเครื่องได้ Espresso,Cappuccino , Latte ฯ

อาหารเช้าที่ Axis & Spin (เอ็กซิส แอนด์ สปิน) ที่เป็นไลน์ Buffet จะเหมือนกับที่ Medinii

แต่เลือกมาบางเมนู และที่แนะนำเลยคือ เมนูใน EGGS & OMELETS Breakfast เป็นหนึ่งใน

เมนูแนะนำของนักท่องเที่ยวที่มาพักที่นี่ครับ สั่งได้ท่านละ 1 ชุด

เมนู SCRAMBLEED EGG

เมนู POACHED EGGS

ใกล้จะจบรีวิวแล้วคงต้องขอแสดงความยินดีกับ The Continent Hotel Bangkok ด้วยครับ

ที่เพิ่งจะได้รับรางวัลชนะเลิศ The Winner of “Thailand's Leading Boutique Hotel 2016"

จาก World Travel Awards มาการันตีคุณภาพและงานบริการ ของ The Continent อีกหนึ่งรางวัล

สรุปส่งท้าย อ่านรีวิวกันมาถึงตรงนี้

ในความรู้สึกผม ผมว่า โรงแรมแห่งนี้มีพยายามที่จะสร้างความแตกต่าง

และนำเสนอบริการของโรงแรมให้ โดดเด่นออกมาได้ บนผืนดินราคาแพง

ตรงแยกอโศก-สุขุมวิท ซึ่งที่ตั้งของโรงแรม เป็นจุดดึงดูดลูกค้าได้ดีมากอยู่แล้ว

แต่ The Continent Hotel Bangkok ยังคิดและออกแบบงานบริการออกมา

ให้คุ้มค่ากับแขกที่เข้าไปใช้บริการทั้งที่พักและห้องอาหาร เพิ่มเข้าไปอีก

จึงไม่แปลกใจเลยครับว่า ทำไมทั้งห้องพักและห้องอาหารที่นี่

มีอัตราการจองห้องพักและห้องอาหารเกือบเต็มอยู่ตลอด

#sotraveler ขอ

^) ขอบคุณ The Continent Hotel Bangkok

^) ขอบคุณ Readme สำหรับพื้นที่แชร์เรื่องราวดีดี

^) ขอบคุณ ทุกท่านมาก ๆ ที่ติดตามอ่าน และ พูดคุยทักทายกันเสมอมา

ขอบคุณจากใจจริง แล้วเจอกันในกระทู้หน้าครับ

: )