สวัสดีครับ เพื่อน ๆ ชาว Readme ย่างเข้าสู่เดือนสุดท้ายของปีกันอีกครั้งหลาย ๆ โมเมนต์ดีดี มักจะเกิดขึ้นในช่วงนี้

ผมรู้สึกชอบนะ…ยิ่งได้สัมผัสกับบรรยากาศอ่อนๆ ของต้นฤดูหนาวท้องฟ้ามืดเร็วกว่าปกติ มีอุณภูมิเย็นเล็กๆ ในช่วงเช้าก็ยิ่งมีรอยยิ้มให้กับเดือนนี้

ช่วงปลาย ๆ ปี แบบนี้สำหรับผม มักจะเป็นช่วงที่ผมจะปล่อยวางความเร่งรีบ ความหนักหน่วงจากทุก ๆ สิ่งอย่างลงแล้วโฟกัสกับเวลา กำลังใจ และให้รางวัลกับตัวเองที่ก้าวข้ามผ่านประสบการณ์ต่าง ๆ จนมาถึงเดือนสุดท้ายของปีอีกครั้ง

เรื่องราวในกระทู้ ที่ผมกำลังจะเล่าให้ทุกคนได้อ่าน ได้รับชมภาพกันเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีดี กับการดูแลตัวเองครับผมจะพาทุก ๆ คนมาซึมซับกับสเน่ห์ ของความเป็น “ออร์แกนิค"ผ่าน “ปัญญ์ปุริ ออร์แกนิค สปา" ซึ่งสปาออร์แกนิคแห่งแรกในประเทศไทย

นับว่า..ครั้งแรก สำหรับ SOtraveler เช่นกันในการเขียนเล่ารีวิวสปาทรีตเมนต์จากที่เคยใช้บริการสปาเวลาเข้าพักโรงแรมมาบ้าง แต่ก็ยังไม่เคยเก็บรายละเอียดมาเล่าสู่กันฟังจริงจังสักที เป็นโอกาสดีเลยครับ ที่ครั้งนี้ ปัญญ์ปุริ ออร์แกนิค สปาจะเป็นสปาแรก ที่ SOtraveler จะได้หยิบยกมาเล่าให้ฟังกัน

SOtraveler|IG : sotraveler|FB : SOtraveler.COM|TWITTER : SOTravelerTH

คำว่า “ออร์แกนิค" เราเริ่มจะได้ยินกันมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มของอาหาร

ในปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่า แต่ละคนเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้นถึงได้เกิดกระแสเต้น T25 กินคลีน เกิด Runner's รุ่นใหม่ ๆ ขึ้นมาเรื่อย ๆซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากๆ เลยนะครับ ควรได้รับการสนับและส่งเสริมกันอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้นไม่ต้องแปลความกันให้ เข้าใจยากเลยครับ“ออร์แกนิค"ก็คือธรรมชาติ ส่วนประกอบมาจากธรรมชาติล้วนๆ ไม่มีการปนเปื้อนของสารสังเคราะห์ใดๆในกระบวนการผลิตและไม่ก่อให้เกิดมลพิษกับธรรมชาติ

จึงมีคำพูดที่ว่า “ออร์แกนิค" เป็นสิ่งที่ดีต่อตัวเราเอง และดีต่อสิ่งแวดล้อม

ความเป็น “ปัญญ์ปุริ" ที่ไม่ได้สร้างกันมาง่าย ๆ ภายในปีสองปี

กระบวนการสร้างผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคล้วน ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย และมีต้นทุนสูงระยะเวลา 10 กว่าปีที่ปัญญ์ปุริได้ขยายตัวอย่างต่อเนื่องช่วยการันตีคุณภาพและมาตรฐานของปัญญ์ปุริทั้งยังสะท้อนความเป็นลักชัวรี่ ความละเมียดละไม ให้เห็นได้อย่างเด่นชัดในผลิตภัณฑ์ของปัญญ์ปุริตั้งแต่วัตถุดิบ ส่วนผสม และแพคเกจจิ้งภายนอก

เดิมทีผมรู้จักปัญญ์ปุริ จากผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในโรงแรมมาก่อนซึ่งในความรู้สึกของผม ที่มีต่อ Amenities ชื่อนี้คือ"กลิ่นเค้าจะละมุน เลมอนกราส (ตะไคร้) จะไม่ฉุนเหมือนมีการ ผสานหลาย ๆ วัตถุดิบจนเกิดกลิ่น ที่มีความนวล ๆ ที่ผมยากจะอธิบายออกมาเช่นกันว่ากลิ่น นวล ๆ คือยังงัย"

สำหรับ ปัญญ์ปุริ ออร์แกนิค สปา อยู่ในทำเลที่สะดวกต่อการเดินทางโดยตั้งอยู่ ณ ชั้นล็อบบี้ ศูนย์การค้าเกษรพลาซ่าแรกเริ่มเดิมดี มีห้องทรีตเมนต์ 2 ห้อง กระทั่งมีเสียงตอบรับดีมากพร้อมกระแสบอกต่อ และมีสื่อหลาย ๆ ที่เลือก ปัญญ์ปุริ ออร์แกนิค สปาเข้าร่วมจัดอันดับทรีตเมนต์แนะนำ จนมีลูกค้าประจำเพิ่มมากขึ้นปัจจุบัน มีอยู่ทั้งหมด 7 ห้อง

ผมเลือกเดินทางมาที่นี่ด้วยรถไฟฟ้า BTS เพราะสะดวกกับการเดินเข้าห้างเกษรพลาซ่าจากทางเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสถานีชิดลม

A SENSE OF LUXURY AND ELEGANCE

คอนเซ็ปต์ของการดีไซน์ ปัญญ์ปุริ ออร์แกนิค สปา เน้นการให้ความรู้สึกของความหรูหราและสง่างามใช้สีดำและสีทอง เป็นสีหลัก สะท้อนตัวตนของปัญญ์ปุริออกมาวัสดุหลักเป็นไม้และหินอ่อน ภายในห้องทรีตเมนต์ ใช้กระเบื้องโมเสคสีดำ แซมด้วยโมเสคสีทองเครื่องใช้ทำมาจากทองเหลือง ที่จะได้เห็นกันในรูปถัด ๆ ไป

EVERYTHING YOU FEEL AND TOUCH IS PURE

ก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการทรีทเมนต์ ผมได้นั่งสนทนากับคุณปุยฝ้าย MarCom และ คุณตงตง Spa Operations Manager แห่ง ปัญญ์ปุริมีประโยค…จากการสนทนา ที่ยังจำติดอยู่ในใจ คือ

“ของทุก ๆ อย่างที่จะแตะต้องกับตัวของลูกค้า จะต้องเป็นออร์แกนิคทั้งหมด"ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์ของ “ปัญญ์ปุริ ออร์แกนิค สปา" เลยดังนั้นตั้งแต่ เสื้อคลุมอาบน้ำ รองเท้า ผ้าขนหนูที่ใช้อาบน้ำ ผ้าปูที่นอน ล้วนมามีวิธีการผลิตและใช้วัตถุดิบที่เป็นออร์แกนิคทั้งสิ้น

ผ้าฝ้ายออร์แกนิคต้องสั่งเส้นด้ายที่ปลูกอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมรวบรวมจากหลายที่แล้วปั่นเป็นเส้นด้ายแล้วทอเป็นผืนผ้า เพื่อตัดเป็นผ้าขนหนูที่ใช้ในสปา

ในระหว่างที่กำลังคุยกันเพลินๆ ผมยกชาขึ้นมาจิบ…พอดีกับจังหวะที่กำลังพูดเรื่องนี้คุณปุยฝ้าย ก็ทักขึ้นมาเลยว่า “นี่ก็เช่นเดียวกันค่ะ…ชาที่คุณ กำลังจิบ ก็เป็นชาออร์แกนิค เช่นกัน…"

ยิ่งย้ำชัดคอนเซ็ปต์ของ “ปัญญ์ปุริ ออร์แกนิค สปา" อย่างสัมผัสได้จริงซึ่งผมไม่ได้เพียงแต่ ฟังเรื่องราวที่เล่ามาเท่านั้น…ผมยังได้ใช้บริการทรีทเมนต์นวดตัวในแบบฉบับของปัญญ์ปุริด้วยใน

คอร์ส Prana Stress-Relieving Massage (ปราณ สเตรส รีลิฟวิ่ง มาสซาจ)

THE UNIQUE TREATMENTS

"ต้อนรับด้วยชาออร์แกนิค"ต้องเอ่ยว่า…นับตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าสู่ ปัญญ์ปุริ ออร์แกนิค สปา ผมสัมผัสได้ถึงหรูหราและพลังความบริสุทธิ์จากธรรมชาติของพื้นที่Prana Stress-Relieving Massage (ปราณ สเตรส รีลิฟวิ่ง มาสซาจ) ใช้เวลาทั้งสิ้น 90 นาทีพนักงานนำเครื่องดื่มที่เป็นชาออร์แกนิค มาเสิร์ฟพร้อมผ้าเย็นกลิ่นหอมตะไคร้คอร์สที่ผมเลือกจะเหมาะกับ ผู้ที่เมื่อยล้าจากการทำงาน ปวดบ่าและบริเวณหลังจากการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ เป็นเวลานานๆ หรือ โรคออฟฟิทซินโดรม

และบนโต๊ะก็จะมี Tester ของ Organic Massage Oil ทั้งหมด 5 กลิ่น

- Jasmine (มะลิ)

- Lemongrass (ตะไคร้หอม)

- Vetiver (หญ้าแฝก)

- Rose (กุหลาบ)

- Geranium (เจอเรเนียม)

เลือก กลิ่น Organic Massage Oil เทสกับมือขยับขึ้นไปเรื่อย ๆ ครบทุกกลิ่นเกือบถึงศอกพอดี

: ) หลังจากลองครบทุกกลิ่น ผมไปตกหลุมรักเข้ากับกลิ่นหญ้าอ่อน

เอ้ย หญ้าแฝกครับ Vetiver ที่เลือกกลิ่นนี้ เพราะมันให้ฟิลลิ่ง

ความดิบของธรรมชาติ รู้สึกอบอุ่นกับกลิ่นนี้ครับ

ทำแบบสอบถามประวัติส่วนตัว และประวัติสุขภาพเบื้องต้น ซึ่งเป็นมาตราฐานสปาระดับสากลเพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับ เทอราปิส และป้องกันไม่ให้เกิดการบาดเจ็บจากการนวดผมเลือกนวดเพื่อความผ่อนคลาย ในระดับปานกลางและเพิ่มเติม เน้นนวดบริเวณฝ่ามือ

เทอราปิสแนะนำตัวและทักทายด้วยรอยยิ้มนอบน้อมจากนั้นก็นำไปยังห้องทรีตเม้นต์ ซึ่งการจะเป็นเทอราปิส ประจำ ปัญญ์ปุริ ออร์แกนิค สปา จะต้องผ่านการอบรมมาอย่างดีหลายเดือน จนมีความเชี่ยวชาญจริง ๆ ถึงจะมาดูแลลูกค้าได้ด้วยคอร์สการนวดที่มีเอกลักษณ์ ก็เป็นปัจจัยหนึ่ง

DELIVER A TRULY EXOTIC AND MEMORABLE EXPERIENCE

ตำราการนวดของปัญญ์ปุรินั้น เป็นการผสมผสานคัดเลือกทรีตเมนต์ต่างๆ ที่โดดเด่นทั่วทวีปเอเชีย มาออกแบบเป็นสูตรนวดผ่อนคลาย ของปัญญ์ปุริทั้งนวดแผนไทยโบราณ, ศาสตร์แห่งอายุรเวทจากอินเดีย,การนวดแบบบาหลีของประเทศอินโดนีเชีย,การนวดแผนจีน,การนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อของฟิลิปปินส์

สำหรับ Prana Stress-Relieving Massage (ปราณ สเตรส รีลิฟวิ่ง มาสซาจ) ที่ผมเลือกเป็นการประยุกต์การนวดแผนไทยเข้ากับการนวดแบบบาหลีพร้อม เพื่อปลุกสัมผัสให้ร่างกายได้ผ่อนคลายไปกับท่วงท่าการนวดที่เปี่ยมพลังกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ สลายความตึงเครียดในทุกส่วนของร่างกาย

เริ่มต้นเข้าสู่กระบวนการทรีตเมนต์ เทอราปิสให้อาบน้ำและใส่เสื้อคลุมนั่งรอภายในห้องอาบน้ำ ก็เป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคทั้ง เจลอาบน้ำ ยาสระผม และครีมนวด

อาบน้ำเรียบร้อย พร้อมแล้ว!!! สวมเสื้อคลุมออร์แกนิค

รองเท้าสวมใส่สบายดี ชอบที่น้ำหนักเบาและโปร่ง

จากนั้นก็เข้าสู่ขั้นตอนการล้างเท้า แช่เท้าด้วยสารสกัดจากต้นชาออร์แกนิคที่มีส่วนผสมอย่าง เกลือสปา ลูกมะกรูด ใบมะกรูด ฟุ๊ตสครับออร์แกนิคเทอราปิสแจ้งว่า จะช่วยให้เลือดบริเวณฝ่าเท้าหมุนเวียนได้ดีนวดและสครับเท้าประมาณ 10 นาทีและในระหว่างนี้จะมีหมอนสมุนไพรประคบร้อนวางไว้ที่คอ อุ่นๆ ได้กลิ่นหอมกรุ่น ๆ

นวด “ปราณ"

เริ่มต้นนอนคว่ำบนเตียงที่ปรับอุณภูมิได้ ใช้ผ้าปูเตียงที่ทำมาจากฝ้ายออร์แกนิคส่วนตัวผมเองนะ ผมรู้สึกปลอดภัยและสบายใจอย่างบอกไม่ถูก เหมือนกำลังถูกโอบกอดด้วยอ้อมกอดอุ่น ๆ ของธรรมชาติ ผมปล่อยทิ้งน้ำหนักตัว นอนแนบกับเตียงอย่างสนิทใจ

เทอราปิส เริ่มต้นด้วยการนำน้ำมันหอมระเหยมาให้ดม ความรู้สึกแรกคือสดชื่น ผ่อนคลายมากจากนั้นก็ค่อย ๆ ยืดเส้น นวดตั้งแต่ส่วนหลัง บ่า เรื่อยไปจนสู่ขาและเท้า ช่วยให้คลายจากความเมื่อยล้า คลายความตึงเครียดจากการทำงานได้เป็นอย่างดีผมนี่หลับไปนอนไหนไม่รู้ ปลุกอีกทีตอนพลิกตัว

น้ำหนัก ไลน์เส้นและแรงกดของเทอราปิส สัมผัสได้ถึงความเชี่ยวชาญ สมกับที่ได้รับการฝึกฝนเป็นพิเศษผมได้ระบุลงไปในแบบฟอร์มตอนสัมภาษณ์ด้วยว่า ขอเน้นที่บริเวณมือ เนื่องจากโดยอาชีพแล้ว ใช้คอมพิวเตอร์อยู่ตลอดเวลา ทำให้รู้สึกเมื่อยและล้า ฝ่าและนิ้วมือ

เทอราปิส ช่วยนวดจนรู้สึกโล่งฝ่ามือเลย(ตะโกนในใจว่า ถูกใจมาก !!!!)

และตามธรรมเนียม ...

ในจังหวะเวลานี้ ขอหันกล้อง เฟดออกไปทางโคมไฟหัวเตียง : )

รับเครื่องดื่มออร์แกนิคร้อนและผลไม้ออร์แกนิคหลังจากจบคอร์ส เปลี่ยนชุดออกมา ก็จะได้รับเสิร์ฟชาออร์แกนิค พร้อมผลไม้ออร์แกนิคแต่ละวันอาจจะไม่เหมือนกันนะครับ สำหรับผมได้รับเสิร์ฟเป็น แก้วมังกร

บริเวณที่นั่งพัก จะเป็นบริเวณช๊อปขายผลิตภัณฑ์เราจะได้เห็นไลน์ผลิตภัณฑ์ปัญญ์ปุริ อีกหลาย ๆ แบบแรงดึงดูดสูงมาก นั่นก็ดี นี่ก็โดน อยากเอาไปฝากคนโน้น คนนี้

และแล้วผมก็ซื้อ ผลิตภัณฑ์ปัญญ์ปุริ ติดไม้ติดมือมาฝากคนที่บ้านด้วยจนได้

PAÑPURI ORGANIC SPA (ปัญญ์ปุริ ออร์แกนิค สปา)

-เปิดให้บริการตั้งแต่ 10:00 – 21:00 น.

-โทรจองคิวหมายเลขโทรศัพท์ +66 (0) 2656 1199

อ่านมาถึงตรงนี้ เริ่มผ่อนคลายกับความเป็นออร์แกนิค

มากขึ้นรึยังครับ สำหรับผมแล้ว

PAÑPURI ORGANIC SPA (ปัญญ์ปุริ ออร์แกนิค สปา)

เป็นการเติมพลังให้กับร่างกายได้ดี และขอกล่าวซ้ำอีกครั้งว่า

“ดีต่อตัวเราเอง และดีต่อสิ่งแวดล้อม…"


พาตัวเองและคนที่คุณรักไปสัมผัสกับการพักผ่อนแบบนี้สักครั้ง

เพื่อตัวเอง และ เพื่อคนที่คุณรักครับ

SOtraveler.COM

 วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 23.43 น.

ความคิดเห็น