ปลายฝนต้นหนาวอย่างนี้ มีแต่คนมุ่งขึ้นเหนือ เพื่อไปชมดอกไม้ และสัมผัสอากาศหนาว ผมขอสวนกระแส หอบกล้องเดินทางลงใต้รับลมเย็นที่ประจวบคีรีขันธ์แทน


ออกเดินทางจาก กทม. ก็เย็นมากแล้ว ระหว่างทางก็แวะซื้อของ และกินข้าวเย็นแถวโลตัสพระราม 2 ก่อนออกเดินทางต่อไปยังจังหวัดประจวบคีรีขันธ์รวดเดียว ระยะทางร่วมเกือบ 400 กว่าโล ก็ประมาณ 4 ชั่วโมง กว่าจะไปถึงก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืนแล้วครับ


และอีกเช่นเคยผมเลือกพักที่โรงแรมประจวบบีช เหมือนเดิม (ดูห้องพักได้จากรีวิวประจวบฯ-ชุมพร ได้ครับ) เป้าหมายการเดินทางของเราวันนี้ อยู่ที่ทับสะแก ผมจะไปพักผ่อนกันที่ ซันไชน์ พาราไดซ์ รีสอร์ท ทริปนี้เป็นทริปที่เน้นพักผ่อน และกินมากกว่าเที่ยวครับ อิ๊ อิ๊


โรงแรมประจวบบีช ที่พักเมื่อคืน


ใกล้ ๆ กันกับที่พักผมเดินมาฝากท้องมื้อเช้าที่นี่ครับ ร้านบ้านไม้ก๋วยเตี๋ยวปลา


ระหว่างรอก๋วยเตี๋ยว เดินเก็บภาพบ้านเรือนของที่นี่สักหน่อย


ขนมไส้ไก่ของร้านบ้านไม้ก๋วยเตี๋ยวปลา เป็นขนมกรุบกรอบเคี้ยวเพลิน ๆ แต่ผมไม่ได้ชิมครับเลยไม่รู้ว่ารสชาติเป็นยังไง


มาแล้วครับข้าวต้มทะเล


ซูมให้ดูใกล้ ๆ รสชาติดี กุ้ง ปลาหมึก สดมาก ๆ หวานครับบอกเลย


เย็นตาโฟ อร่อยเหมือนกันครับ


เติมพลังมื้อเช้ากันแล้วเราไม่รอช้าขับรถไปที่เขาช่องกระจก ก่อนเดินทางไปพักที่ทับสะแก ขอเดินขึ้นเขาช่องกระจกสักครั้ง เห็นบอกกันว่าวิวบนนี้สวยมาก ๆ

มองย้อนลงไปที่เส้นทางได้เดินขึ้นมา


วิวอ่าวประจวบฯ และเขาล้อมหมวก สวยสมคำร่ำรือจริง ๆ


มองเห็นวิว สะพานสราญวิธี หรือสะพานปลา ที่ชาวบ้านเรียกกัน เป็นสะพานที่อยู่กลางอ่าวประจวบฯ



กลัวเจ๊เดินขึ้นไม่ไหวจริง ๆ


เจดีย์บนยอดเขาช่องกระจก เป็นเจดีย์ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ได้ทรงโปรดให้สร้างขึ้น เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินมายังเขาช่องกระจก



ต้นพระศรีมหาโพธิ์ เป็นหน่อของต้นพระศรีมหาโพธิ์พฤกษ์ต้นเดิม จากพุทธคยาโดยแท้ เป็นของสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ สกลมหาสังฆปริณายก วัดบวรนิเวศวิหาร ในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ได้ทรงปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นนี้ ซึ่งนับว่าเป็นมหากรุณาธิคุณ แก่ชาวประจวบคีรีขันธ์ เป็นล้นเกล้าล้นกระหม่อมฯ


วิวมุมนี้มองเห็นเขาตาม่องลาย แต่ครั้งนี้เราไม่ได้ไปที่นั่นน่าเสียดาย แค่เห็นวิวก็สวยแล้ว


วิวมุมนี้มองเห็นวัดธรรมมิการามวรวิหาร หรือวัดเขาช่องกระจก ตรงที่เราจอดรถกัน


ลิงบนนี้เยอะจริง ๆ อย่าเอาขอกินติดตัวขึ้นมาเลยครับ เพราะลิงบนนี้มือไวเหมือนลิงมาก ระหว่างเดินลงเขาเห็นลิงโขมยน้ำดื่มนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย ได้ยินป้าแกร้องเสียงหลงเลย 5555



เจ๊ผมแกกลัวลิงเลยรีบเดินลงไปก่อน...เดินเหมือนโมโหลิงรึเปล่าไม่รู้...ฮ่า ฮ่า



เดินลงมาถึงข้างล่างซื้ออาหารให้เจ้าถิ่นสักหน่อย ยังไม่ทันแจกเลย โห กรูมาเป็นฝูง ใจเย็น ๆ ครับพี่ลิง ผมไม่ได้ถ่ายตอนที่กรูมารอของกิน


ออกจากเขาช่องกระจก มุ่งหน้าต่อยังคลองวาฬ ผ่านสะพานปลา เลยแวะถ่ายไว้นิดนึง


มาถึงคลองวาฬ แวะซื้อเสบียงอาหาร และเครื่องดื่ม พร้อมเดินชมวิถีชีวิตของคลองวาฬไปในตัวด้วยครับ ผู้คนที่นี่น่ารัก และอัธยาศัยดีมากผมไปถามทาง หรือถามหาสินค้า เค้าแนะนำพูดคุยอยากเป็นกันเอง รู้สึกถึงความเป็นเสน่ห์ของชุมชนคลองวาฬจริง ๆ ครับ ประทับใจ


ก่อนออกจากคลองวาฬ ผมแวะซื้ออาหารทะเลให้เจ๊แกสำหรับมือเย็น ที่ศศิกานต์ปูม้า ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าจะซื้อดีไหม เห็นเป็นร้านไม่น่าจะอร่อย ของทะเลสด และดีจริงไหม

แต่ไหน ๆ ก็มาถึงและ เลยลองครับ แต่สุดท้าย ดีเกินคลาด ประทับใจ สุดยอดมาก ๆ ครับ ผมขอแนะนำร้านนี้เลยครับ ของสด และดี ราคาไม่แพง แถมคุณลุงเจ้าของร้านใจดี มีอัธยาศัย พูดคุยเล่าเรื่องนู่นนี่นั่นให้ฟังอย่างสนุกสนาน เป็นกันเองมากครับ

แต่บอกไว้นิดนึงว่าวัตถุดิบที่เป็นตัวเลือกค่อนข้างน้อยไปนิด นี่คือข้อเสียของร้านอาหารทะเลแถว ๆ คลองวาฬ เพราะทั้งปูทะเล (ปูดำ ปูขาว) กุ้งม้าลาย กั้ง หรือแม้แต่หอยบางชนิดไม่ค่อยจะมีครับ ถ้าใครอยากจะกินระหว่างมาเที่ยวที่คลองวาฬ แนะนำเชคข้อมูลให้ดีด้วยนะครับ



ที่นี่มีปูม้าเป็น ๆ ให้เลือกหลายไซด์


หลังร้านมีซุ้มให้นั่งรับประทานอาหารด้วยครับ ชมวิวสวนมะพร้าวไปด้วย


น้องหมาจำเชื่อไม่ได้ แต่ขี้อ้อนมาก ๆ ครับ ผมฟัดกับมันระหว่างรออาหารที่สั่ง


มาถึงทับสะแกซะที ระหว่างทางเข้า ซันไชน์ พาราไดซ์ รีสอร์ท ถนนเป็นดินลูกรัง ขับช้า ๆ ไม่ต้องรีบนะครับ ทางเข้าไปไกลครับ


บรรยากาศระหว่างทางเข้ารีสอร์ทครับ


ถึงแล้ว ซันไชน์ พาราไดซ์ รีสอร์ท กว่าจะถึงก็ปาไปเย็นมากแล้ว


ห้องของเราเป็นแบบพูลวิลล่าครับ เข้ามาที่พัก จัดข้าวของเสร็จ ก็รีบถ่ายภายในห้องพักทันทีเลย

ประตูทางเข้า


บริเวรห้องโถง และโต๊ะรับประทานอาหารครับ ดูเหมือนมีครัว แต่ที่นี่ประกอบอาหารไม่ได้นะครับ


อีกมุมนึง ทางเข้ามาก็จะเจอโต๊ะทานอาหารพอดี


บริเวณด้านใน มีซิงค์ล้างจาน ลิ้นชักเก็บพวก จาน ช้อน ซ้อม ตู้เย็นก็เป็นแบบช่องแช่แข็งอยู่ด้านล่าง


บริเวณโถงนั่งเล่น มีโซฟา และทีวี ห้องพักในส่วนพูลวิลล่า มีเครื่องเล่น DVD ให้ด้วยนะครับ ผมเตรียมหนังมาดูหลายเรื่องเลย


ส่วนห้องนอนครับ มองเห็นสระว่ายน้ำของเรา และวิวทะเล แต่กลางคึนมองไม่เห็นทะเลแล้วครับผม


ประตูเปิดเข้าห้องสามารถหมุนกลับด้านได้ เผื่ออยากจะดูทีวิในห้อง


ห้องน้ำที่นี่กว้างมาก ๆ ครับ สามารถเตะตะกร้อได้เลย


ภายในห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำจากุชชี่ ส่วนอ่างล้างหน้ามีถึงสองอ่าง แม้แต่ฝักบัวยังมีสองอันเลยครับ


ของใช้สำหรับอาบน้ำ


ออกมาดูส่วนของสระว่ายน้ำกัน ตอนกลางคืนอากาศค่อยข้างเย็นอยู่ครับ เลยนั่งเล่น ฟังเสียงคลื่นเพลิน ๆ พรุ่งนี่้จะกระโดดสระให้เต็มที่เลย

ได้เวลามื้อเย็นแล้ว เมนูอาหารที่มาจาก ศศิกานต์ปูเป็น คลองวาฬ

ข้าวผัดปู เนื้อปูเยอะพอสมควรครับ


อันนี้ห่อหมกทะเล แต่ไม่ใช่จากร้านศศิกานต์ เป็นร้านคุณป้าที่ขายอยู่ในคลองวาฬ อันละ 15 บาทแต่ก็หอม และอร่อยอยู่ครับ



แต่ที่สุดยอด และไฮไลท์ของร้าน ศศิกานต์ปูเป็นเลย ส้มตำปูม้า แต่แอบงงนิดนึงคือ ปูม้าทำไมเยอะกว่าส้มตำ แต่ขอบอกเนื้อปูใส หวาน และสดมาก ๆ เพราะใช้ปูเป็นมาทำ อร่อยมาก ๆ ครับจานนี้เอาไปเลย 10 คะแนนเต็ม 10 คะแนนเต็ม 10 คะแนนเต็ม....!!!


อีกหนึ่งเมนูความสดที่อร่อยใช้ได้อีกจานครับ ลาบทะเล กุ้งตัวใหญ่สดเด้งมาก ปลากหมึกก็สดเช่นกัน


จานนี้สุดยอดครับ ปูม้าเนื้อแน่น ๆ ผัดผงกระหรี่ อร่อยมาก ๆ อีกจานนึง


แน่นอนต้องมีปูเผา และปลาหมึกเผา เสียดายไม่มีกุ้งเผา เพราะที่ร้านมีแต่กุ้งเกษตรครับ แต่แค่นี้ก็ทานไม่หมดแล้วครับ สดจริง ๆ อาหารของศศิกานต์ปูเป็น


ขนาดตัวปูใหญ่กำลังดี ไม่ใหญ่มากไป ประมาณ 4 ตัวโล

ให้สามคำ สด หวาน มาก ต้องร้านศศิกานต์ปูม้าเป็น


กู๊ดมอนิ่ง บรรยกาศยามเช้าของ ซันไชน์ พาราไดซ์ รีสอร์ท


เดินมาทานมื้อเช้ากันที่ตึกนี้ครับ


ห้องรับประทานอาหาร วันนี้คนน้อยครับทางรีสอร์ทเลยให้แขกที่มาพักสั่งจากเมนูที่มีให้ ไม่ใช่แบบบุฟเฟ่ต์ครับ แต่ก็มีบางอย่างเช่น กาแฟ นม น้ำ ขนมปัง ที่เราต้องไปตักเองครับ


ไลน์อาหารเช้าของที่นี่ก็ประมาณนี้






ไฮไลท์มื้อเช้าของที่นี่ก็ข้าวต้มกุ้งนี่แหละครับ อร่อยด้วยครับ


สาย ๆ ก็ออกไปไหว้พระซะหน่อย ขึ้นไปชมวิวหาดบ้านกรูดด้วยครับ วัดทางสายห่างจากที่พักประมาณ 5 นาทีเองครับ


พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ เป็นพระมหาธาตุเจดีย์ขนาดใหญ่ที่มีความสวยงามวิจิตรตระการตาตามแบบไทยแท้ เกิดจากพสกนิกรผู้จงรักภักดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เลยได้ประกาศความภักดีร่วมใจกันสร้างขึ้นเพื่อน้อมเกล้าถวาย เป็นพระราชกุศล เนื่องในวโรกาสที่พระองค์ทรงครองราชย์เป็นปีที่ห้าสิบ ปูชนียสถานแห่งนี้ถือเป็นความภาคภูมิใจของชาวบ้านกรูด และประชาชนคนไทยทั่วทั้งประเทศ ภายในมีทั้งหมด 5 ชั้น

ชั้นที่ 1 ชั้นใต้พื้นดินเป็นที่เก็บน้ำฝนขนาดใหญ่

ชั้นที่ 2 เป็นโถงอเนกประสงค์และสำนักงานมูลนิธิ เพื่อพระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ

ชั้นที่ 3 เป็นวิหาร บริเวณใจกลางเป็นแท่นประดิษฐาน พระพุทธรูปปางอิริยาบถสี่ จำนวน 4 องค์

ชั้นที่ 4 เป็นอุโบสถ ซึ่งประดิษฐานพระประธาน มีชื่อว่า"พระพุทธลีลากาญจนวบพิตร" พระประธานในอุโบสถ ตามช่องหน้าต่างเขียนพระราชนิพนธ์เรื่อง พระมหาชนกบนกระจกสีโปร่งแสงสเตน กล๊าส ส่วนบนเป็นพระปรมาภิไธย ย่อ "ภปร" และ ตราพระราชสัญจกรประจำพระองค์รัชกาลที่ 9 จำนวน 20 ภาพ บานประตูเขียนสีปิดทองเป็นรูปทวารบาล เทวดายืน แท่นมียักษ์แบก

ชั้นที่ 5 บุษบกประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐานอยู่ภายในบุษบกไม้สัก แกะสลักปิดทองตั้งอยู่บนฐานทรงสูง ทำด้วยหินอ่อนมีมุขยื่นทั้งสี่ด้าน ใจกลางประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำ ปางประจำพระชนมวาร ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยะเดชมหาราช



วิวหาดบ้านกรูด


ลงบรรดามา บริเวณลานจอดรถ จะเจอกับพระพุทธกิติสิริชัย เป็นพระพุทธรูปปูนปั้น ปิดทอง แบบศิลปะคันธาระ ปางสมาธิ หน้าตักกว้าง 10 เมตร สูง 13.82 เมตร ฐานสูง4.18 เมตร ซึ่งวัดทางสาย คณะสงฆ์ และประชาชนชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทุกหมู่เหล่า ต่างปลื้มปิติปราโมทย์สุดจะพรรณา ด้วยความจงรักภักดีสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ล้นเกล้าล้นกระหม่อมหาที่สุดมิได้ ได้มีจิตสมานฉันท์ร่วมใจกันสร้าง ขึ้นในวโรกาศมหามงคลสมัย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชมมพรรษา 60 พรรษา วันที่ 12 สิงหาคม พระพุทธศักราช 2535



ก่อนเข้าที่พักแวะทานมื้อเที่ยงที่่ร้านปลาทู ซีฟู้ด


บรรยากาศหาดบ้านกรูดวันธรรมดาค่อนข้างเงียบสงบ ปราศจากทัวร์ และนักท่องเที่ยว




มาแล้วกุ้งมาลายเผาที่อยากกินมานานแต่ตัวไม่ใหญ่มาก


ปลาสำลีทอดน้ำปลา เนื้อแน่น สดเหมือนกันครับ


ปูนิ่มทอดกระเทียมอันนี้รสชาติถือว่าไม่ค่อยอะไรมาก แต่ก็สด และรสชาติพอใช้ครับ


แก้ส้มกุ้งเข้มข้นอยู่ครับจานนี้


เจ๊แกชิมไปบ่นไป


กลับมาที่พักเตรียมตัวว่ายน้ำที่สระส่วนตัวกันเลย...เย่


ชายหาดหน้า ซันไชน์ พาราไดซ์ รีสอร์ท เงียบสงบ และส่วนตัวมาก ๆ ครับ


หัวค่ำขอออกสำรวจบริเวณ รีสอร์ทหน่อยครับ


ไหน ๆ ก็ไหน ๆ และขอชิมเบียร์แปลก ๆ บ้างครับ อันนี้เบียร์ไรไม่รู้ แต่ขอลองนิดนึง เผอิญแอบเจ๊ออกมาดื่มอะ


รสชาติแปลกดี


มื้อเย็นก็สั่งอาหารจากทางรีสอร์ทมาทานดูครับ

จานนี้ยำหัวปลี แต่รสชาติผมว่าไม่โอครับ ไม่แนะนำ



แต่จานนี้อร่อยมากครับ ใครคิดจะสั่งเมนูจากทางรีสอร์ท แนะนำเลยครับจานนี้ คอหมูย่างมะนาว


อีกจานนึงที่ชอบมาก ๆ อร่อยมากด้วย สปาเก็ตตี้ผัดขี้เมา อีกหนึ่งเมนูที่อยากแนะนำครับ


เช้าอีกวันนึง ตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้น สมชื่อของรีสอร์ท ซันไชน์ พาราไดซ์ จริง ๆ ครับ พระอาทิตย์ขึ้นที่นี่สวยมาก ๆ นั่งมองจากเตียงนอนได้เลยครับ


มาชมพระอาทิตย์ขึ้นตรงสระน้ำของห้องพักครับ


ออกจากรีสอร์ท ก่อนเข้าหัวหิน แวะเที่ยวอีกสักที่ มาชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำกันที่หว้ากอ


คนไม่มีเลยครับวันธรรมดาเงียบมาก


เห็นเจ้าหน้าที่ดำลงมาทำความสะอาดในตู้ด้วยครับ


บริเวณชายหาดหว้าก้อ


ออกจากหว้ากอ แวะด่านชายแดนสิงขรอีกสักที่



ร้านของเก่า เก่าจริง ๆ ครับ


ตลาดพลอยพม่า


มีพืชผักมาขายกันเป็นกอง ๆ เลยครับ


ออกจากด่านสิงขร ขับรถยาวมาที่หัวหิน คืนนี้พักที่บ้านนภา หัวหิน เจ๊ผมแกจองในอโกด้า คืนละ 550.- โอเคเลยนะครับที่นี่ สะอาดพอควร สมราคา และไปวันที่ทีมชาติไทยเตะซูซูกิคัพรอบรองชนะเลิศกับเมียร์ม่าพอดีเลยครับ นั่งดูบอลจนเจ๊แกบ่นหิวข้าวแล้ว ฮ่า ฮ่า


ออกมาเดินเล่นตลาดนัดหัวหิน และหาอะไรทานมื้อเย็น


เย็นนี้เราฝากท้องกันที่ โกทิ ครับ


วันนนี้ตื่นสายกว่าจะออกจากที่พักนี่ก็ปาไปเที่ยง ก่อนกลับบ้านขอแวะกิน และเที่ยวอีกสักที่นะครับ มื้อนี้ฝากท้องที่ร้านติ่มซำ เจริญรัตน์ ปัตตานี หัวหิน ขึ้นชื่อของที่นี่ครับ


บักกุ้ดเต๋จานนี้อร่อยครับ ซดร้อน ๆ หายแฮงค์เลยครับ


น้ำจิ่มของที่ร้านมีสามรสครับ


ข้าวยำปักษ์ใต้อร่อยใช้ได้เลยครับใครมาทานแนะนำครับจานนี้


เติมพลังกันแล้วแวะอีกสักที่ก่อนเดินทางกลับบ้าน

เขาหินเหล็กไฟ ชมวิวเมืองหัวหินแบบพาโนรามากันครับ ซึ่งบนนี้มีจุดชมวิวของหัวหินชัดเจนทุกทิศทาง และกระจายทั่วยอดเขาถึง 6 จุดให้นักท่องเที่ยวได้เดินถ่ายภาพวิวเมืองหัวหิน ได้ตามใจชอบ



วิวสวยอลังการมากครับมองเห็นเมืองหัวหินได้ทั่ว



ปิดจ๊อบสำหรับทริปเที่ยวประจวบคีรีขันธ์ของเราครั้งนี้ ทริปนี้ถือเป็นทริปที่เน้นกิน นอน ของเราซะส่วนใหญ่ครับ มีโอกาสกลับมาประจวบอีกครั้ง มีอีกหลายที่ ที่อยู่ในใจ และอยากไป และจะกลับมาเก็บให้หมด ทริปหน้าเจอกันใหม่ ขอบคุณครับ

Muaypun Trip

 วันจันทร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 02.41 น.

ความคิดเห็น