ออกมาแว๊ว กับทริปสั้นๆ ที่กว่าจะมีเวลามานั่งเขียนเรื่องราวรีวิว...
การท่องเที่ยวสั้นๆ ในแบบฉบับวันธรรมด๊า ธรรมดา

"กรุงเทพ เขาค้อ - ภูทับเบิก แถม ภูหินร่องกล้า"

กับงบประมาณที่ตั้งไว้ 2,000 บาท
มาดูกันว่าจะสามารถทำได้รึเปล่า???

ทริปนี้เป็นทริปที่เกิดจากรูปนี้

เพราะตอนนี้ใครๆ ก็แห่กันไปกอดหมอกกันหมด

ดังนั้นเราจะไม่ไปได้ยังไง

แต่ก่อนที่จะไปเราต้องมากำหนดแผนการเดินทางของทริปนี้กันก่อน

ว่าเราจะลองเที่ยวแบบจำกัดงบกันดูบ้าง

เพราะที่ผ่านมาทุกทริป หมดเยอะเหลือเกิน 555

ว่าแล้วงบประมาณที่เราตั้งไว้คือค่า เดินทางและที่พัก 2000 บาท

ส่วนเรื่องกินไปหาเอาดาบหน้าละกัน ว่าแต่มันจะพอมั้ยอะ

แต่เอาว่ะ ลองดู ไม่ลองแล้วจะรู้ได้ยังไง

เส้นทางการเดินทางของเราสำหรับทริปนี้ คือกรุงเทพ - เขาค้อ - และจบที่ภูทับเบิก

ว่าแล้วก็ลุยกันเลยคร๊าฟฟฟฟฟ

งบประมาณตามที่ตั้งไว้ "2000 บาทถ้วน" ไม่ขาดไม่เกิน เพราะมี 2 ใบ 555

การเดินทางไปครั้งนี้เราออกเดินทางวันที่ 5 ธันวาคม 59 ช่วงเวลาประมาณ 09.30 น.

ขับไปเรื่อยๆ เน้นขับช้า เพราะต้องประหยัดน้ำมัน แต่ได้ผลจริงๆ แฮะ

ขับ 80-100 กม/ ชม ประหยัดได้เยอะเลยทีเดียวแถมปลอดภัยอีกต่างหาก

ทริปนี้เราไปแบบไม่มีการจองห้องพักล่วงหน้า ไปหาเอาดาบหน้า เพราะเท่าที่โทรถาม พันกว่าๆ ทั้งนั้น

ซึ่งเกินงบที่ตั้งไว้ ที่กะว่าอยากได้ห้อง 500-800 บาท ก็เพียงพอ

เพราะต้องเป็นค่าน้ำมัน ในการเดินทางเที่ยวของเรานั่นเอง

จุดหมายแรกที่มาถึงของเราคือ Pino latte ร้านอาหารที่พูดถึงเข้าค้อก็ต้องคิดถึงที่นี่เป็นที่แรกๆ

เรามาถึงที่นี่ประมาณ 15.20 น. ใช้เวลาการเดินทางหนักมาก 5555

ว่าแล้วก็ขอแวะถ่ายรูปเก๋ๆ สัก 100 รูปเบาๆ

แต่ต้องขอออกตัวก่อนเลยว่าอุปกรณ์ในการถ่ายรูปครั้งนี้ของเรามีแค่มือถือคู่ใจ เลนส์ที่ซื้อมา 60 บาท และไม้เซลฟี่เท่านั้น

ถ้ารูปออกมาไม่สวยอย่าว่ากันน๊าา

กำหนดไว้ตั้งเป็นร้อยได้สวยๆ มาแค่เนี๊ยะ พูดเลยว่าเพลีย

แต่ไม่เป็นไร ไปเอารูปสวยๆ จากสถานีต่อไปก้ได้

มัวแต่แวะอยู่นี่ ดูนาฬิกาอีกที สี่โมงกว่าและ ยังไม่ถึงเขาค้อและได้ที่พักเลย

ว่าแล้วก็ขอตัวชิ่งไปหาที่พักภูทับเบิกก่อนนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราไปดูทะเลหมอกกันว่า

การมาเที่ยวครั้งนี้ จะเจอแบบในรูปกันรึเปล่าว

เราเดินทางมาถึงภูทับเบิกเวลาก็ห้าโมงกว่าๆ เกือบหกโมงแล้ว

เดี๋ยวขอเวลาหาที่พักก่อนนะครับ

การหาที่พักของเราก็คือ ดูจากป้ายหน้า รร แล้วโทรหาเพื่อเชคราคาอันไหนถูกก็เสียบกันเลยทีเดียว

ระหว่างที่พยายามหามาหลายต่อหลายที่ เราก็เจอที่ที่เราจะนอนกันแล้ว

ที่พักของเราคืนนี้ ชื่อว่า เมืองหนาวรีสร์อท ที่นี่มีบ้านพักประมาณ 7 หลัง และมีลานกางเต็น 10-30 หลัง

ถ้าบ้านเป็นหลัง รวมอาหารเช้าอยุ่ที่ 800 บาท หันหน้าหาหมอกกันเลยทีเดียว ถ้าเป็นเต็น 500 บาท

แต่บอกก่อนเลยว่าระหว่างทางที่มาวันนี้จาก Pino latte ถึง แทบจะไม่มีแสงแดดเลย

ดังนั้นสิ่งที่เราเลือกก็คือบ้านหลังละ 800 บาทรวมอาหารเช้าเพราะว่ามีที่ทำน้ำอุ่น

ถ้าแบบนั้นละก็ มันไม่โอเคร 5555

เดี๋ยวไปดูภายในบ้านกันว่าเป็นยังไงบ้าง

ในบ้านก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ น้ำอุ่น ทีวี กระติกน้ำร้อน กาแฟฟรี

และที่สำคัญ ผ้าห่มอุ่นมา 555

มีไร่กระหล่ำปลีอยู่ข้างบ้านด้วยเก๋ๆ

ด้านบนที่พักมีร้านอาหารตามสั่ง ขายเต็มไปหมด และมีบริการหมูกระทะมากินที่หน้าบ้านด้วยเซตละ 300 บาท

ใครอยากกินอะไรเลือกได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องของกินนะครับ ของกินเพียบ ราคาก็ปกติ ไม่ถือว่าแพงมากมาย รับได้ 50-80 บาทครับ

ลานกางเต็นหน้าบ้านของเรา

บรรยากาศยามมืด หน้าบ้าน พูดเลยว่าหนาวมาก

วันที่ไป วัดได้ 19 องศา ลมด้านหน้าระเบียงแรงมาก กะว่าจะซื้อเบียร์มาจิ๊บเบาๆ

พูดเลยว่าไม่ไหว เลยเปลี่ยนแผนเป็นซื้อมาม่ามากินร้อน กับการนั่งดูนาคี ตอนจบแทนละกัน

555 ทริปรับลมหนาวของเราเปลี่ยนไปกระทันหันเพราะลมหนาวนี่เอง

สำหรับค่ำคืนนี้ก็พักผ่อนกันตามอัธยาศัย....555

พรุ่งนี้ตื่นเช้ามาขอให้เจอทะเลหมอกนะคร๊าฟ ฝันดีครับ

ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตีห้าครึ่งเพราะอยากตื่นมาดูทะเลหมอก

เดี๋ยวไปดุกันว่าเมื่อเปิดประตูมาแล้วจะสวยขนาดไหน

แต้น แต๊น แต็น แต่น

เสียใจอะ หมอกไม่เยอะแบบที่คิดไว้ แต่แรก

พี่คนที่ดูแลบอกว่าว่า ถ้าเมื่อคืนมีฝนตกมาช่วงตีสี่ หรือตีห้าเบาๆ

เช้ามาหมอกจะเยอะมาก แต่เมื่อเช้าไม่มีเลย TT

พูดเลยว่า So Sad แต่ไม่เป็นรัย ถึงมีไม่เยอะ แต่ก็ยังมี

กะว่าจะเดินไปเอาข้าวต้มมากินหน้าบ้านถ่ายรูปเก๋ๆ กับสายหมอกซะหน่อย

แปบเดียวเอง หายไปหมดและ เสียใจรอบสอง TT

แต่ไม่เป็นไร ยังไงก็ได้เห็น 555

เปลี่ยนจากหมอก เป็นทุ่งกระหล่ำปลี ข้างๆ ก็ได้ 5555

ใครๆ มาภูทับเบิก ไม่ถ่ายหมอกก็กระหล่ำปลี ถ้างั้นก็ขอมีรุปนี้แทนละกัน อิอิ

หลังจากชื่นชม รับลมหนาวจนถึงสิบโมงกว่า เราก็พร้อมออกเดินทาง สู่จุดหมายที่สาม

จุดหมายที่เพิ่งเกิดมาเมื่อวาน ระหว่างทางที่ลงมาภูทับเบิก

นั่นคือ ภูหินร่องกล้า ลานหินปุ่มนั่นเอง

ว่าแล้วเราก็ลุย พิชิต ลานหินปุ่มกันต่อเลยดีกว่า

ขอสักรูปก่อนกลับ

รูปนี้จริงอยากให้ดูเหมือน ชิวๆ ภาพออกมาสวยๆ เหมือนอยู่เมืองนอก

แต่ความฝันกับความจริง รูปก็ออกมาตามที่เห็นกันเลยครับ

สัญญาว่าทริปหน้าต้องเอากล้องมาให้ได้ 555

ถ่ายไม่สะใจเลย จะถ่ายเยอะก็ไม่ได้ กลัวมือถือแบตหมด 5555

การเข้าอุทยาน มีค่าเข้าค่าบริการรถยนต์ส่วนบุคคล 40 บาท/คัน และคนในรถอีกคนละ 30 บาท

ในเมื่อเราเลือกไปภูหินร่องกล้าต่อ เส้นทางกลับกรุงเทพของเราจึงเป็น เส้น พิษณุโลก นครสวรรค์ อยุธยา แล้วเข้ากรุงเทพ

ระยะทางจากทางเข้ามายังลานหินปุ่ม ประมาณ 21 กิโล

และแล้วเราก็มาถึง ... เย้ๆ

แต่เอิ้ม ระยะทางจากด้สนล่างไปลานหินปุ่ม 5 กิโล แม่เจ้า

แต่เอาว่ะ ไหนๆ ก็มาละ ลุ๊ยยยยย

อันนี้เป็นแผนที่การเดินทางไปถึงจุดมุ่งหมายของเรา

เดี๋ยวไปดูบรรยากาศระหวานทางกันว่าก่อนจะไปถึง

มีธรรมชาติอะไรสวยๆ บ้าง

ทางเดินโอเคร ไม่ลำบาก เดินไปเรื่อยๆ ถ้าเหนื่อยก็พัก

แต่ตั้งแต่เดินมา พักมาตลอดทางกันเลยทีเดียว

ไม่ได้เหนื่อยนะ แต่หอบ 555

ชุดแน่นมากกก กลัวหนาววว

เดี๋ยวรู้กัน...5555

เค้าว่ากันว่า ถ้าปลายฝน ดอกนี้จะบานเต็มสองข้างทางเดินเต็มโขดหิน

เสียดายน่าจะมีเยอะ ๆ อดเห็นเลย...

ที่ยื่นถ่ายรูปนี่ไม่ใช่อะไร เหนื่อย... 5555

ว่าแล้วก็เดินต่อกันเร็ว อีกนิเดียววววว

ถึงแล้ววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว

โอ๊ยกว่ามาจะมาถึง หอบ เกือบตาย

เดี๋ยวขอนั่งชื่นชม กับสูดเอาอากาศที่แสนจะบริสุทธิ์ให้เต็มปอดสักครึ่งชั่วโมง

ก่อนที่เราจะลากลับกรุงเทพ เมืองที่แสนจะวุ่นวายอีกครั้ง

สำหรับทริปนี้ถือว่าเป็นทริปที่สุดแสนจะคุ้ม

เป็นทริปการเที่ยวที่เราได้อยู่กับธรรมชาติแบบที่ว่าใช้เงินน้อยที่สุด

แต่ได้สิ่งตอบแทนกลับมามากกว่าเงินที่เสียไป

ว่าแล้วเราก็มาสรุปค่าใช้จ่ายกัน ดูว่าจะเป็นไปตามแผนที่ตั้งไว้ หรือไม่

ค่าน้ำมัน ( E20 ) กรุงเทพ - เขาค้อ 600 บาท

ค่าที่พัก 800 บาท

ค่าน้ำมัน ( E20 ) ภูหินร่องกล้า - กรุงเทพ 700 บาท

รวมค่าเสียหายไม่รวมค่ากิน 2100 บาท

เกินงบมา 100 บาท

ไม่เป็นรัย ถือว่าคุ้มค่าการเดินทางในครั้งนี้

สำหรับทริปการเที่ยวแบบเก๋ๆ ครั้งนี้หากมีข้อมูลที่ผิดพลาดตรงไหน

ต้องขออภัยไว้ ณ ตรงนี้ด้วย แล้วเจอกันใหม่ ทริปหน้า นะคร๊าบบบบบบ

- ส วั ส ดี ค รั บ -