ใครที่ชอบเที่ยว จนเงินหมด
เรามีวิธีช่วยให้รู้สึกดีขึ้น😉
ให้คิดซะว่า เงินทองก็คือสสารชนิดหนึ่ง
"สสารไม่หายไปจากโลก แค่เปลี่ยนรูป ไปเป็นความสุข"
โอเคขึ้นไหมแบบนี้😅


คุณเคยมั้ย อยากไปไหนสักที่..แต่ก็ไม่รู้จะไปไหน555 เอาเป็นว่า เราเริ่มต้นออกเดินทางในจังหวัด จังหวัดหนึ่งที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม และถือได้ว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก อันดับต้นๆของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ นั้นก็คือ กาญนะจ๊ะบุรี เอ้ยไม่ใช่ กาญจนบุรี (ยังจะกล้าเล่น) ช้าอยู่ใย Let's Go!!


ติดตามเรื่องเที่ยวของเราได้ที่ Facebook Fan Page : https://www.facebook.com/baagfan/
เพจ : แบกแฟนเที่ยว ไปกดไลค์กดแชร์เป็นกำลังใจให้เรากันนะ


(แผนที่การเดินทางของเรา)


เราเริ่มต้นจุดมุ่งหมายแรกนั้นก็คือ วัดถ้ำเสือ

แวะทำบุญ เอาฤกษ์เอาชัยกันก่อนละกันเน๊าะ ซึ่งวัดถ้ำเสือยังถือว่าเป็นวัดที่มีพระองค์ใหญ่ที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี พระเจดีย์ที่มีความสวยงามโดดเด่น สามารถมองเห็นได้จากในระยะไกล เพราะตั้งอยู่บนเนินเขา เป็นวัดที่สวยงามอีกวัดหนึ่ง


จะ รถรางขึ้น


หรือเดินขึ้นก็ได้


เอาฤกษ์เอาชัยกันหน่อย ไปกันต่อ


เป้าหมายต่อไปของเราคือ “อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ" จุดมุ่งหมายนี้ คือ อยากไปโอบกอดหมอก อากาศเย็นๆ ท่ามกลางหุบเขา ก่อนอื่นต้องเตรียมเสบียงไว้ให้พร้อม เนื่องจากอุทยานแห่งชาติอยู่ห่างจากตัวอำเภอทองผาภูมิ จะมีร้ านค้าสวัสดิการ ( เปิดบริการเวลา 08.00 - 20.30 น.)

จะมี อาหารตามสั่ง + เครื่องดื่ม + ขนมขบเคี้ยว

แนะนำให้ซื้อเสบียงอาหารจากตัวอำเภอทองผาภูมิ(ทางอุทยานให้ประกอบอาหารแต่เราต้องรักษาความสะอาดด้วย)

การเดินทางไปอุทยาน ถนนจะเป็นเส้นทางลาดยาง ไหล่ทางอาจจะชำรุด บ้างและเป็นทางขึ้นเขา มีโค้งหักศอกอยู่เยอะพอสมควร จึงต้องขับอย่างระมัดระวัง


ถึงที่หมายแล้ว ติดต่อทางอุทยานฯ และจ่ายค่าธรรมเนียมฯการเข้าอุทยาน


ที่อุทยานมีบริการบ้านพักและสถานที่กางเต็นท์ เราเลือกที่จะเช่าเต็นท์ ถุงนอน


เรามาถึงก็เย็นแล้ว ช้าอยู่ใย ทำการกางเต็นท์แปป


เราเลือกที่จะกางเต็นท์ที่จุดกางเต็นท์เนินช้างเผือก อากาศยิ่งดึกยิ่งหนาว ฟินกับบรรยากาศ ไม่ผิดหวัง ที่ขึ้นเขากันมา


หลักจากจัดแจงที่พักเสร็จ


ย่างๆๆหมูกินต้อนอากาศเย็นๆๆมันฟินฟุดๆๆ

นั่งกินไปดะวันตกดินไป มันฟินโคตรๆๆๆ


บรรยากาศตอนเช้าปกคลุมไปด้วยหมอก ท่ามกลางหุบเขา ฟินกับบรรยากาศพอสมควรแล้ว เดินเล่นที่อุทยานซักแปป


หลังจากเดินซักพัก


กลับไปเก็บเต็นท์เก็บของกัน เอาเต้นท์ไปคืนอุทยานกัน


จุดมุ่งหมายต่อไป น้ำตกจ๊อกกระดิ่น อยู่ไม่ไกลจากอุยาน


เป็นน้ำตกที่มีเพียงชั้นเดียวผ่านหน้าผาอันสูงชั้นกว่า 30 เมตร ความพิเศษของน้ำตก คือ มีแอ่งน้ำ ขนาดใหญ่ที่เป็นสีครามปนเขียว ที่สำคัญน้ำเย็นมากๆ


เดินไปสักพัก


ถึงแล้ว


ชมความสวยงามได้สักพักเราก็ออกเดินทางกันต่อ


เป้าหมายต่อไป หมู่บ้านอิต่อง เหมืองปิล๊อก อยู่ห่างจากอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิมาประมาณ 13 กิโลเมตร กว่าจะถึงที่หมาย โค้งเยอะมากๆ ปิล๊อกจึงได้ชื่อว่า หมู่บ้าน 399 โค้ง

สองข้างทาง ล้อมรอบด้วยป่าไม้ หุบเขา ได้สูดอากาศบริสุทธิ์เต็มปอด


ปิล็อก ที่นี่เคยมีการทำเหมืองแร่ดีบุก กันมากบนเทือกเขาตะนาวศรี ซึ่งเป็นพรมแดนระหว่างไทยกับพม่า ถึงแม้ไม่มีเหมืองแร่ในหมู่บ้านอีกแล้ว แต่ปัจจุบันที่นี่กลายเป็นหมู่บ้านแห่งความสุขที่มีรอยยิ้มแห่งมิตรภาพ ระหว่างไทยและพม่า


เดินมาชมเหมืองปิล็อกกันต่อ


สูดอากาศกันให้เต็มปอด แล้วเดินทางกันต่อ


แวะเก็บบรรยากาศที่ จุดชมวิว เนินช้างศึก เป็นจุดชมวิวเห็นทัศนียภาพของหุบเขา ที่สวยงามมาก และยังมี"อนุสรณ์สถาน พลเอกตะวัน เรืองศรี" เพื่อเป็นอนุสรณ์ และรำลึกถึงวีรกรรมของ พล.อ ตะวัน เรืองศรี ซึ่งได้เสียชีวิตจากเฮลิคอปเตอร์ตก ในผืนป่าแก่งกระจาน พ.ศ. 2554 ซึ่งเป็นอุบัติเหตุครั้งสำคัญของประเทศไทย


จุดหมายต่อไปของเรา คืออออออ “สังขละบุรี" เดินทางกันต่อ ระหว่างทางเราได้ผ่านเขื่อนวชิราลงกรณ์


เป็นเขื่อนขนาดใหญ่ เป็นอันดับ 4 ของไทย สามารถแวะเข้าชมความงดงามของวิวทะเลสาบจากบนสันเขื่อน


เดินทางกันต่อ และก็แวะชมความสวยงามระหว่างทางกันต่อ เข้าสู่เขตอุทยานแห่งชาติ จุดชมวิวป้อมปี่ เป็นสถานที่ชมวิวในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมที่หลายๆ คนพูดถึง ว่าเป็นจุดที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม โรแมนติก และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งทางภาคตะวันตก เหมาะแก่การพักผ่อนแบบไม่ลำบากมาก มีบรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ มองเห็นท้องน้ำของอ่างเก็บน้ำในเขื่อนวชิราลงกรณ์ ทิวทัศน์ภูเขาอยู่ไกลสายตาออกไป


เดินทางกันต่อ
ก่อนถึงที่พัก แวะหาของกินแปปจะมีตลาดอยู่ ๆแถวๆสะพานเป็นตลาดชาวบ้าน

กินก่อนเดียวไปต่อ


ซัดเรียบ


กินชาซักแปปแล้วไปกันต่อ


จากนั้นก็เช็คอินเข้าที่พัก รอไปเดินชมความสวยงานของสะพานพรุ้งนี้


พอเช้าๆๆ เราก็เดินออกมาที่สะพาน


สังขละบุรี ซึ่งจะมีสะพานมอญ เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศ มีความยาวประมาณ ๑ กม. หลวงพ่ออุตตมะเป็นผู้ดำเนินการสร้าง โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้คนไทย กะเหรี่ยงและมอญได้สัญจรไปมาหาสู่กันเพื่อเป็นการสร้าง ความสัมพันธ์ของคนทั้งสามกลุ่ม


วันนี้ฝนตกอากาศกำลังดี


ประวัติสะพานมอญ เล่าโดยมัคคุเทศก์น้อยลองหยุดฟังซักแปปน้องเค้าเก่งมากๆๆ


ทำบุญกันหน่อย


แวะกินชาร้อนๆๆแล้วเดียวค่อยไปเดินกันต่อ


ปะแป้งไหมครับ


มาๆๆเดียวผมเล่าให้ฟัง


กระโดดน้ำกันไหมครับ


น้องลงไปแล้วขึ้นทางไหน พอเห็นทางขึ้นยิ่งกว่าทางกระโดดลงอีก


ชมวิวกันพอสมควร จากนั้นไปกันต่อ


เป้าหมายสุดท้ายของทริปคือ

น้ำตกเอราวัณเป็นน้ำตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง แบ่งออกเป็นชั้นใหญ่ๆได้ 7 ชั้น แต่ละชั้นมีความสวยงามร่มรื่น สีของน้ำตกใสมาก สะท้อนสีเขียวมรกต เราตั้งใจกัน จะไปพิชิต ชั้นที่ 7 ของน้ำตกเอราวัณให้ได้ เดินมางซักพักก็ถึง

ที่อุยานจะมีเต็นท์ ถุงนอน ผ้าห่ม แผ่นรองนอนไว้ให้บริการด้วย สำหรับคนที่อยากค้างคืน


ไปๆไปลุยกันเราจะไปพิชิตชั้น7กัน

แผนที่แต่ละชั้น


เดินไปชมไปแต่ละชั้นสวยๆๆทั้งนั้นเราไปวันฝนตกพอดีเลยเก็บรูปมาไม่ได้ทุกชั้น จะได้แค่ชั้น5,6,7


ระยะทางวันนั้นฝนตกด้วย กว่าจะเดินขึ้นไปได้ เล่นเอาเหนื่อย แต่พอได้เห็นน้ำตก ในแต่ละชั้น ที่มีความสวยงามที่แตกต่างกัน ก็ทำให้เรามีแรงที่จะเดินต่อ จนถึงชั้นที่ 7 ความเหนื่อยล้าเหมือนปริดทิ้ง เมื่อได้เห็นชั้นที่ 7 ซึ่งน้ำใสมากเห็นตัวปลา ถือว่า คุ้มมากที่มาเอราวัณทั้งที ได้ขึ้นไปพิชิตน้ำตกถึงชั้นที่ 7


ถึงเวลากลับกรุงเทพกันแล้ว หมดเวลาสนุกแล้วซิ๊


ถึงกระทู้นี้ไม่ค่อยมีสาระเท่าไหร่ 5555 แต่เราอยากให้กระทู้นี้ เป็นเหมือนแรงบันดาลใจของทุกคน ในการออกเดินทางเพื่อจะได้เจอสิ่งที่สวยงาม อยากให้ทุกคนได้รู้ว่า ปลายทางอาจจะไม่ใช่สิ่งที่สวยงามที่สุด แต่ระหว่างทางคุณอาจจะเจอสิ่งที่สวยงามกว่าที่คิด :_)

ออกไปเถอะ ออกไปไหนก็ได้ ขอให้ได้ไป พักบ้างนะทำงานอย่างเดียวมันเหนื่อยนะ ออกไปหาแรงบันดาลใหม่ๆๆ สิ่งใหม่ให้ตัวเองบ้าง

ใครที่ชอบเที่ยว จนเงินหมด

เรามีวิธีช่วยให้รู้สึกดีขึ้น😉

ให้คิดซะว่า เงินทองก็คือสสารชนิดหนึ่ง

"สสารไม่หายไปจากโลก แค่เปลี่ยนรูป ไปเป็นความสุข"

โอเคขึ้นไหมแบบนี้😅

แบกแฟนเที่ยว

 วันพุธที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 11.21 น.

ความคิดเห็น