ทริปนอกประเทศไทย ครั้งที่ 2 ของ Mobile Photographer วันนี้แก้วจะพาไปตะลุยกินแดนกิมจิ เมืองที่มีอาหารหลากหลายมากๆ ร้านเด็ดนี่แก้วจดมาเพียบ หิวแล้วล่ะสิ รออะไรล่ะครับไปดูกันเลย

ทริปนี้ แก้วจะพาเพื่อนๆ ไปตะลุย ชิมอาหารเด็ดๆ ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้กัน
ว่าทีนั่นจะมีเมนูอไรเด็ดๆ ให้ลองชิมบ้าง แล้วมันอยู่ตรงไหน ไปลุยกันเลยครับ

แก้วเดินทางไปเกาหลีใต้ เป็น Business Trip นะครับ ในช่วงต้นเดือนธันวาปีที่แล้ว เนื่องจากเป็น Business Trip เราไม่น่าจะมีเวลาเที่ยวมากนัก แก้วจึงตั้งใจว่า เวลาหลังเลิกงาน จะออกไปตระเวณหาของกินเด็ดๆ มารีวิวแทน

โดยเดินทางด้วยสายการบิน KOREA AIRLINE ( แอร์ น่าร๊ากกกมากก ) อันนี้จริงหรือเปล่าต้องไปลองสัมผัสครับ 55 ซึ่งจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4-5 ชม. ฟ้าปลอดโปร่งอากาศดี ไม่มีหลุมอากาศบ่อย

เอาล่ะครับ ตอนนี้ก็มาถึงสนามบิน อินชอนประเทศเกาหลีใต้แล้วครับ
อากาศที่นี่ -4 ในเวลาที่มาถึง เล่นเอาซะ ฟึดฟัดเลย

เลยขอเติมความอบอุ่นให้ร่างกายด้วยกาแฟร้อนสักแก้วหน่อย กาแฟนที่สนามบิน ราคาอยู่ที่ 6,200 วอน ครับ


การเดินทางเริ่มแล้ว เราก็ต้องกินครับ แก้วมาที่จุดพักรถใกล้ๆ กับสนามบิน เมนูแรกเลยครับ


เมนูที่ 1 : Korean Udon (อูด้ง เกาหลี)

นั่นก็คือ อูด้ง ในสไตล์เกาหลีนั่นเอง ประกอบไปด้วย ต๊อปปกกิ ปูอัด ไข่ และเส้นอุด้ง น้ำซุปรสชาติไม่เค็มมาก กำลัง อุ่นๆ เหมาะรับประทานในช่วงเวลาที่อากาศหนาวติดลบ แบบนี้ ด้วยราคาเบาๆ 3800 วอน ครับผม

ก่อนจะเริ่มทำงาน แก้วก็มาเอาฤกษ์เอาชัย สไตล์คนไทยก่อนครับ ด้วยการเข้าวัด ซึ่งวัดที่แก้วมานั้นอยู่ใจกลางกรุงโซลเลย นั่นก็คือ วัดพงอึนซา (ฺBongeunsa Temple) ซึ่งอยู่ตรงข้าม COEX MALL ที่ที่แก้วจะมาทำงานในทริปนี้เลย


วัดพงอึนซา (ฺBongeunsa Temple)

เป็นวัดที่คนไม่ค่อยเยอะมาก แต่ทุกคนที่มาท่องเที่ยวจะต้องมาแวะอย่างแน่นอน บรรยากาศเงียบสงบ เต็มไปด้วยเสียงสวดมนต์ของเหล่าพุทธศาสนิกชน ที่มากัน ส่วนใหญ่จะเป็นคนสูงอายุครับ เพราะวัยรุ่นเกาหลีส่วนใหญ่ ไม่มีศาสนา





ก้อนหินอธิษฐาน เป็นความเชื่อที่ว่า ใครที่มาขอพรให้ประสบความสำเร็จในชีวิตด้านต่างๆ
จะต้องเรียงก้อนหินขึ้น ถ้าไม่ล้มลงมาก็จะสมหวังตามสิ่งที่ขอกันครับ


ก่อนเวลาจะเริ่มงาน แก้วมีเวลานิดหน่อยในการเดินสำรวจย่าน Gangnum นี้ในเวลากลางวันครับ

เจอบอนชอนด้วยแฮะ ลองถามเพื่อนคนไทย เขาบอกว่า บอนชอนที่นี่อร่อยกว่าที่ไทย
แล้วเสิร์ฟพร้อมเบียร์เย็นๆ ด้วยนะ และตอนนี้แก้วเจอเมนูที่อยากลองอันต่อไปละครับ

เมนูที่ 2 : ไก่ตุ๋นโสมเกาหลี (Ginseng Chicken Soup)

เจ้าไก่ตุ๋นโสมนี้ เป็นอาหารขึ้นชื่อ และเหมาะกับเมืองหนาวอย่างเกาหลีจริงๆ เวลาเสิร์ฟ
หนึ่งท่าน จะต้องทานไก่ 1 ตัวเลยนะ ซึ่งในตัวไก่นั้น จะมีข้าวเหนียวอยู่ด้วย ถ้วยเดียวอิ่มเลย
รสชาติก็ใช้ได้ครับ มีกลิ่นโสม กินแล้วอบอุ่นขึ้น ออกไปเดินเที่ยวต่อได้ ค่าเสียหาย 12,000 วอน

ศูนย์การค้า และจัดแสดงนิทรรศการ COEX MALL ( COEX CONVENTION & SHOPPING MALL )

เอาล่ะอิ่มละ ตอนนี้แก้วขอตัวไปทำงานก่อน ตอนเย็นไว้ไปชิมกันต่อนะครับ

ฮะโหล เสร็จงานแล้วครับ เล่นซะมืดค่ำเลย มาพร้อมกับความหิวแล้ว
ตอนนี้แก้วพร้อมจะออกไปล่าของกินเพิ่มละครับ


โรงแรมริเวร่า ( RIVERA HOTEL GANGNUM )


เก็บของเสร็จเรียบร้อย ออกเดินกันดีกว่า การหาของกินแบบสไตล์แก้วคือเราต้อง Get Local ครับ เราต้องไปกินอะไรแบบที่คนที่นั่นเขากินกันจริงๆ กินกันเป็นชีวิตประจำวัน

เมนูที่ 3 : หมูบูลโกกิ


พอทำเสร็จตั้งไฟได้ที่แล้ว ก็จะหน้าตาแบบนี้ครับ ไม่เหมือนหมูกระทะบ้านเรานะที่แห้งๆ หมูบูลโกกิ จะมีน้ำอยู่ด้วยเล็กน้อย รสชาติจะเค็มขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวนหมูที่เราใส่ลงไป (เหมือน บาบีคิวพลาซ่าบ้านเรา) กินกับเครื่องเคียงต่างๆ กิมจิ ถั่วหมัก ฯลฯ ค่าเสียหาย หัวละ 15,400 วอน

ค่ำคืนนี้อีกยาวไกล แก้วและแก๊ง เดินกันต่อครับ เมื่ออิ่มท้องแล้ว เราก็อยากลอง โซจู ของดีเกาหลี สักหน่อย

จนมาเจอร้านนี้ครับ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ โรงแรม RIVERA ประมาณ 4 ช่วงตึก ชื่อร้าน Flowers อะไรสักอย่าง
ลืมครับ ขออภัยด้วย ทีนี้เราสั่ง โซจูมาดื่มแล้ว ต้องหากับแกล้มสิครับ

เมนูที่ 4 : หอยทากเผาเกลือ
เปิดๆ เมนูดูก็อ่านไม่ออก ถึงขนาดต้องลงทุนให้เจ้าของร้าน เปิดภาพเมนูของลูกค้าคนอื่นให้ดู
จนมาสะดุดเข้ากับอันนี้ เฮ้ยย หอยอะไรวะตัวใหญ่ม๊ากก ลองสิครับ รออะไร จนได้มารู้ทีหลังว่า
อ้าว หอยทากหรอ ? มันกินได้จริงๆ ใช่มั้ย กล้าๆ กลัวๆ ครับแต่พอได้ลอง เฮ้ยย เด็ดมาก !!
ค่าเสียหาย รวมโซจูด้วย : 24,200 วอน

จบช่วงของวันนี้ กลับโรงแรมพักผ่อน พักท้องไส้สักนิดนึง พรุ่งนี้ลุยกันต่อครับ

เอาล่ะครับ เช้าแล้ว ออกไปทำงานกันก่อน พอเที่ยงปุ๊บเดี๋ยวเจอกัน


กาแฟซะหน่อยเพิ่อความอบอุ่น Starbuck ที่นี่ราคาใกล้เคียงประเทศไทยครับ แต่ทำไมรสชาติดีกว่าไม่รู้แฮะ


ขอแชะรูปก่อนเข้าไปทำงานหน่อยนะครับ รูปปั้นนี้ตั้งอยู่ที่หน้า COEX MALL

เรามาในช่วงที่ COEX มีงานพอดี จะมีตัวการ์ตูนน่ารักๆ แบบนี้ตั้งอยู่เต็มห้างเลย เอาล่ะช่างมัน หาของกินดีกว่า ซึ่งโซนอาหารของที่นี่จะอยู่ ชั้นใต้ดิน ซึ่งมีของกินเพียบเลย แก้วเลยตระเวณกินหลายร้านเลย

เมนูที่ 5 : เกี๊ยวลวกไส้กิมจิ

เป็นเกี๊ยวที่รูปร่างหน้าตาเป็นกลมๆ ลวกมาพอนุ่มๆ ไม่สุกจนเละ รสชาติอร่อยใช้ได้เลย ชอบเป็นการส่วนตัว


เมนูที่ 6 : ข้าวผัดกิมจิ

เป็นข้าวผัดที่ รสชาติโดนใจมาก เผ็ดสะใจเลย กิมจิที่นี่ก็ไม่เปรี้ยวมาก (กิมจิที่เกาหลีรสชาติไม่เหมือนกันสักร้าน)

เมนูที่ 6 : บิบิมบับ

บิบิมบับ หรือข้าวยำเกาหลี เสิร์ฟในหม้อเดิน ที่ร้อนๆ ช่วยให้ข้าวคงความร้อนไว้ได้นาน ส่วนตัว ไม่ชอบเมนูนี้เท่าไหร่ แต่เพื่อนที่ไปด้วยบอกว่า รสชาติดีกว่าที่ไทยม๊ากกก เรียกได้ว่า ถ้ามาต้องมาโดน

รวมค่าเสียหายทั้งหมด 3 เมนูนี้ 22,700 วอนเท่านั้น

คืนนี้เรามากันที่ อิแทวอน ( I-taewon ) ย่านสุดคึกคัก ประมาณ ข้าวสาร + สยาม ของโซล

โดยเป้าหมายของเราคืนนี้คือ ซันนักจี เจ้าหมึกดุ๊กดิ๊ก สดๆ มาเกาหลีทั้งที ต้องลองครับ

เดินตามหาอยู่นานจนมาเจอร้านนี้ครับ พอมาถึงร้านจะร้องไห้เลยครับ (อ่านไม่ออก) 55 5


เมนูที่ 7 : หมึกผัดกิมจิ

ปลาหมึกลวกไม่สุกมากนัก ผัดกับกิมจิเผ็ดๆ หอมๆ เสิร์ฟบนจานร้อนที่จุดไฟร้อนแรงมาแบบนี้เลย อร่อยมากครับจานนี้

เมนูที่ 8 : ซันนักจี (หมึกสดดุ๊กดิ๊ก)
ขึ้นชื่อว่าเป็น เมนูสุดอันตราย แต่เราอยากลองครับ หนวดหมึกถูกหั่นมาแต่ยังดิ้น ยังดูดอยู่เลย
จิ้มกับน้ำมันงา และซอสพริกเกาหลีเผ็ดๆ รสชาติดีมาก ละแก้วว่ามันก็ไม่ได้ดูดมากอย่างที่คิดนะ
กินได้อร่อยดีครับ

อยากดูว่าจะกระดึ๊บกันขนาดไหน คลิกเลยครับ


รวมค่าเสียหายของมื้อนี้ ทานกัน 6 คน 120,000 วอนครับ ไม่แพงเลย

วันสุดท้ายของการชิม คืนนี้ จะพาไปชิมอาหารที่เมียงดงกันครับ

เมียงดงนี่ แก้วคิดว่าหลายคนน่าจะเคยได้ยินชื่อกันอยู่แล้วเนอะ เป็นทั้ง
ย่านช้อปปิ้ง และ Street Food เด็ดๆ อันดับ ต้นๆ ของ โซลเลยก็ว่าได้

เดินไปเรื่อยๆ ซื้อของฝากให้คนนู้นคนนี้ครบปุ๊บ ก็มาพบกับ ร้านไก่ทอด ข้างทางร้านนึง กลิ่มหอมมาก

เมนูที่ 9 : ไก่ทอดราดซอส + ต๊อกปกกิ

ไม่รู้ว่าเมนูจริงๆ เรียกว่าอะไร แต่อร่อยดีครับ น้ำซอสหวานๆ เผ็ดๆ กับต๊อกปกกิ กรอบๆ ลงตัวดีครับ
ค่าเสียหาย 2,500 วอนครับ

เมนูที่ 10 : ซี่โครงหมูพันชิส ( James Cheese )

มาถึงเมนูสุดท้ายประจำทริปนี้ครับ ร้านดังที่ทุกคนต้องมาโดนกัน กับ James Cheese เป็น ซี่โครงหมู 2 ชิ้นใหญ่ วางบนกระทะร้อนๆ ที่เต็มไปด้วยชีส เมื่อชีสเริ่มละลาย วิธีการกินก็คือ นำ ชิสที่ละลายแล้ว มาพันกับซี่โครง แล้วกินพร้อมๆ กันครับ

ค่าเสียหาย 74,000 วอน พร้อมโซจู 2 ขวด ทานได้ 3 คนครับ

เดินกินกันจนเหนื่อยเลย 55 5 แต่สนุกดีครับ หวังว่า หลายคนที่จะไปเกาหลี คงได้เตรียมตัว เตรียมกระเพาะไปลองกัน ไปเที่ยวต่างประเทศ แก้วจะใช้ Tricks ง่ายๆ ในการหาของอร่อยคือ ไปร้านที่ คนเยอะ แต่ร้านเล็ก มักจะได้เจอแต่ของอร่อย ไว้พบกันทริปหน้า สวัสดีคร๊าบบบ คัมซามิดาาาาา

ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะครับ
[ เกี่ยวกับผู้เขียน ]

ชื่อ "แก้ว" ครับ ชอบ เดินทาง ท่องเที่ยว และชอบถ่ายรูปมาก ตั้งแต่จำความได้เลย

ที่มาเขียนรีวิว และทำ Fanpage ก็เพราะว่า
อย่างแชร์สิ่งที่ตัวเองรัก ให้คนอื่นได้รักบ้าง

ชอบผลงานของแก้ว กด Follow Like

เป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ IG : https://instagram.com/kaew.mobilefoto/
Fanpage : https://www.facebook.com/mobile.fotographer

#เกาหลีใต้
ความคิดเห็น